ตอนที่ 5
บ่าวที่ยืนหน้าจวน เป็นเวรยามนั้น เมื่อเห็นว่าคุณชายใหญ่ เมามาอีกเช่นเคย พวกเขาทั้งสองก็เข้าไปหิ้วปีกเจ้านายเข้ามาในจวน
ยามเมื่อ ท่านกุนซือ นั้นอาสานำเขามาส่งที่จวน ในคืนนี้ ท่านกุนซือถือโอกาส เดินเข้ามาด้านใน เกรงว่าสหายของเขาจะฟุบลงที่สนามเสียก่อน
กลัวว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีใครมาร่วมวงสุราอีก เมื่อท่านกุนซือ เดินเข้ามาส่งสหายก็ได้พบกับคนงาม ที่สหายเคยเอ่ยให้ฟังว่านางเป็นญาติห่าง ๆ
“พี่ชาย ท่านเมาอีกแล้วหรือเจ้าคะ” ฟางหลิน เดินเข้าไปยัง กลุ่มชายทั้งสี่คนนั้น มองพี่ชายที่ดูเหมือนจะไม่สติหนักกว่าทุกวัน
กลิ่นสุราฉุนจนนางย่นจมูก แต่ก็กลั้นใจเอาไว้ เข้าไปหาพี่ชาย ดูแล้วเหมือนวันนี้ เมาหนักกว่าทุกวันเสียอีก เดินก็ไม่ได้ กระทั่งประคองตนเองให้ทรงตัวก็ยังไม่ได้
ฟางหลินจึงได้เอ่ยกับผู้มาใหม่ ที่นางมาอยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยเห็นสหายของพี่ชายเสียที
“ขอบคุณ คุณชายมากเจ้าค่ะ ที่มาส่ง เดี๋ยวข้าน้อยจัดการเอง” ฟางหลินไม่ลืมจะเอ่ยขอบคุณ ชายหนุ่มที่เข้ามา นางมิเคยเห็นหน้า หรือรู้จักเขามาก่อน
“ข้าไม่เมา ใครว่าข้าเมากัน เสี่ยวอวี้”
ท่านรองแม่ทัพ เมามายจนไม่ได้สติ พร่ำเพ้อถึงสตรีที่เขารัก รักหนา ตอนนี้นางคงกำลังจะมีความสุขไม่น้อยอยู่กับชายคนรักของนาง
นางทอดทิ้งให้เขาอกหักชอกช้ำใจอยู่เช่นนี้มานานร่วมจะสองเดือน กับการที่นางได้จากไป โดยที่ไม่เอ่ยคำล่ำลาสักคำ ขอเพียงแค่ได้พูดคุยก่อนจากกันไปก็ยังดี
เมื่อก่อนหวังอ้ายเทียนมีแต่สตรีวิ่งเข้าหาเขา แต่ตอนนี้เขาวิ่งหาสตรีเพียงคนเดียว นั่นคือนาง แต่นางกลับ มองเขาเป็นแค่....ผู้มีพระคุณ เท่านั้น
เขาไม่ต้องการเป็นแค่ผู้มีพระคุณ หากแต่อยากเป็นคนรักและชายในดวงใจของนาง
“เสี่ยวอวี้ ข้ารักเจ้า เสี่ยวอวี้ เจ้ากลับมาข้ารักเจ้า” คนเมายังพร่ำเพ้ออยู่เช่นนั้น ฟางหลินกำหมัดแน่ ข่มความไม่พอใจเอาไว้
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเสียใจ มองคนที่ถูกหิ้วกลับมาใสภาพดูไม่ได้ แถมยังมีกลิ่นสุราเหม็นจนทำให้นางแทบจะมึนหัว และวันนี้คงจะหนักกว่าทุกวันเป็นแน่ ยิ่งเห็นนางก็ยิ่งปวดใจ
อีกอย่างนางไม่มีสิทธิ์จะไปต่อว่าคนเมา เขาเมามายไม่ได้สติก็ต้องพร่ำเพ้อถึงคนรักเป็นเรื่องธรรมดา รักมาก็เจ็บมาก นางเข้าใจดี เพราะตัวของนางเองก็เจ็บไปไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเขาในยามนี้
“เช่นนั้นก็ฝากเจ้าดูแลด้วยเล่า คนอกหักก็เป็นเช่นนี้ หวังว่าเจ้าคงจะไม่ถือสา” กุนซือเอ่ยขึ้น มองใบหน้างามปราศจากการแต่งทาชาดใด ๆ ดูงดงามไม่น้อย
เหตุใดสหายของเขาจึงมองไม่เห็นว่าน้องสาวคนนี้ คิดไม่ซื่อนะ หากเป็นเขาละก็ จะมองคนที่รักเราให้มา เห็นใจนางให้มาก
ยังดีเสียกว่ามอบใจให้คนที่ไม่เห็นค่า ไม่ว่าใครก็คัดค้านเสี่ยวอวี้ แต่นางมิฟังคำใครเลยทั้งนั้น หลิวชิงก็เอ่ยห้ามเช่นกัน
“เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะดูแลพี่ชายอย่างดี” ฟางหลินยอบกายลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในเรือนใหญ่ สิ่งที่คุณชายท่านนี้ได้เอ่ยนั้น นางมิได้ถือสาหาความ แต่ทว่านางเจ็บปวดใจเหลือเกิน
ด้านหลังร่างบอบบาง มีบ่าวรับใช้สองคนกำลังหิ้วปีกเจ้านายมาวางลงที่เตียงนอน มองเห็นคุณหนู ลู่ฟางหลิน ยกอ่างน้ำเข้ามา
“ให้ข้าน้อยจัดการให้ดีหรือไม่ขอรับ” บ่าวรับใช้คนหนึ่งเอ่ยขึ้น เกรงว่า ท่านแม่ทัพจะไม่พอใจเอาได้ หากตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่า ใครเป็นคนดูแล
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าไปทำหน้าที่ต่อเถิด ข้าทำได้” ฟางหลินเอ่ยขึ้น นางก็เช็ดตัวให้เขาแบบนี้เกือบจะทุกวันอยู่แล้ว
“ข้าทำเกือบจะทุกวัน พี่ชายก็ไม่เห็นจะเอ่ยต่อว่า” นางเอ่ยขึ้น พลางไม่พอใจ พวกเขามือก็หนาทำอะไรก็ไม่สะอาด เดี๋ยวพี่ชายจะนอนไม่สบายตัว ด้วยความหวังดีของนาง
บ่าวสองคนได้ออกไปตามคำสั่งของคุณหนูลู่ ที่ใคร ๆ ในจวนนี้ก็ทราบดีถึงความสำคัญของนาง นางเป็นหลานสาวญาติห่าง ๆ แต่ทว่านางสำคัญมาก
ฟางหลินมองดูคนเมา หน้าแดงก่ำ นางไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร มือเรียวของนางขาวราวกับหิมะ ดวงหน้าเรียวเล็ก คิ้วโก่งรับดวงตากลมโตดูงดงามนัก
จมูกโด่งรั้น รับกับริมฝีปากเล็กน่ารักเหลือเกิน เหตุใดนางจึงไม่อาจจะ ถอนตัว ถอนใจไปจากเขาได้ นางก็งดงามไม่น้อย บุรุษก็มาตามเกี้ยวพอสมควร
“เสี่ยวอวี้ ข้ารักเจ้า” คนเมาเพ้อขึ้นอีกครา เปลือกตาของเขายังคงปิดสนิทอยู่ มือไม้อยู่ไม่สุข ไขว่คว้าหานางในดวงใจ
ฟางหลิน ดวงตาแดงก่ำ เพราะนางกำลังเสียใจ เช็ดตัวให้เขาไปด้วย พลางได้ยินเขาเอ่ยชื่อคนรัก แม้จะเจ็บปวดอย่างไร ก็ต้องดูแลพี่ชายให้ดี
ท่านป้าก็ไม่กลับมาเสียที ใครเล่าจะดูแลได้ดีไปกว่านาง จะให้สาวใช้มาดูแลรับใช้ เกรงว่าหากพวกนางคิดไม่ซื่อ ปีนเตียงพี่ชายขึ้นมาจะทำอย่างไร ทั้งหวงทั้งห่วงบุรุษผู้ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงเช่นนี้
ท่านป้าคงจะไม่พอใจเป็นแน่ สาวใช้พวกนั้นก็อาจจะถูกขายออกไป มีเพียงแค่นางที่เป็นญาติเพียงคนเดียวในจวนนี้
“เสี่ยวอวี้ อย่าจากข้าไปนะ ข้าขอร้องเจ้า” คนเมาร้องขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาลืมตาขึ้นมาก็พบกับเสี่ยวอวี้ ยอดดวงใจของเขา มองเห็นสตรีในดวงใจที่กำลังดูแลเขา
มือหนาหยาบกร้าน เพราะจับกระบี่มานาน กุมที่แก้มแดงระเรื่อของนางเอาไว้ ฟางหลินมองลึกเข้าไปในดวงตาของนาง ที่เห็นเงาของตนเองสะท้อนออกมา
พยายามจะดึงมือของเขาออกแต่กลับรู้สึกอยากอยู่แบบนี้อีกสักครู่ นางอยากจะจ้องตาของเขาให้นาน แต่ในดวงตาคมของเขาไม่มีนางอยู่ข้างในนั้น มีแต่เสี่ยวอวี้ ดวงใจของเขา
“เสี่ยวอวี้ ข้ารักเจ้า” ในที่สุดความคิดถึงก็ไม่อาจจะทำให้เขามีสำนึกผิดชอบชั่วดี คืนนี้เขาจัดการสตรียอดดวงใจของเขาด้วยความมึนเมา
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยบอกว่าไม่ใช่ คนเมาก็ไม่รับฟัง กลับจัดการลอกคราบของนางออกจนหมดเกลี้ยง เหลือเพียงร่างงดงามที่เปลือยเปล่า
ถูกชายหูตาฝ้าฟางดวงตามืดบอดในรัก จัดการจับกดนางแนบเตียงนอน และค่ำคืนที่แสนหวานของท่านรองหวังอ้ายเทียนก็ดูเหมือนจะมีความสุขไม่น้อย