ตอนที่ 3 ศิริวัฒน์กรุ๊ป

1918 Words
ศิริวัฒน์กรุ๊ป ♡♡♡♡♡☆☆☆☆♡♡♡♡♡ ในเช้าวันทำงานของใครหลาย ๆ คน กัสเองเขาก็ต้องตื่นแต่เช้าแต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเตรียมออกไปสัมภาษณ์งานตามที่ฝ่ายบุคคลของบริษัท ศิริวัฒน์กรุ๊ป โทรมาแจ้งวันและเวลาไว้เหมือนกัน “กัสออกไปสัมภาษณ์งานก่อนนะครับแม่”เมื่อทานอาหารเช้าฝีมือแม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว กัสบอกแม่พร้อมเดินไปกอดแม่เพื่อขอกำลังใจจากคนเป็นแม่ กัสสามารถทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงคนนี้ทำงานน้อยลง เหนื่อยน้อยลง และได้พักมากขึ้น “ขอให้ลูกของแม่โชคดีนะ ลูกแม่เก่งอยู่แล้ว”นั่นคือคำอวยพรศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาจากปากคนเป็นแม่ แค่นี้ก็ทำให้กัสมีกำลังใจมากขึ้นอีกหลายเท่านัก “ขอบคุณนะครับ กัสจะเอาข่าวดีมาฝากแม่นะครับ” ฟอด กัสหอมลงที่แก้มของแม่ก่อนจะออกไปจากบ้าน ซึ่งกัสจะทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วก่อนที่เขาจะออกไปเรียนหรือไปทำงาน “พี่กัสสู้ ๆ นะครับ ”ก็อตน้องชายของกัสที่นั่งทานข้าวอยู่ก็ให้กำลังใจพี่ชายตัวเองเหมือนกันตอนนี้น้องปิดเทอมกำลังจะขึ้นเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 5 ในปีการศึกษาหน้านี้ วันนี้กัสถูกทางฝ่ายบุคคลโทรมานัดเวลาแปดโมงครึ่ง กัสต้องรีบออกไปแต่เช้าเพราะบ้านของเขาอยู่ไกลและต้องมาให้ถึงก่อนเวลา งานที่ บริษัท ศิริวัฒน์กรุ๊ป กัสอยากได้กว่าที่อื่นเพราะมีเงินเดือนและสวัสดิการให้กับ นักศึกษาฝึกงาน ซึ่งมันมากพอที่จะช่วยให้เขากับแม่อยู่ได้ตลอดระยะเวลาที่เขาฝึกงานอย่างไม่ลำบาก เพราะช่วงฝึกงานกัสจะขาดรายได้ไม่ได้เลย “มึงมัวแต่อ้อยอิ่งอยู่นั่นเดี๋ยวก็สายหรอกเว้ย”เสียงสุวัฒน์ พ่อเลี้ยงของกัสตอนแรกก็เป็นคนทำมาหากินดีไม่สร้างความเดือดร้อนหรือรำคาญใจให้กับแม่ของกัสเลย แต่พอผ่านไป ไม่นานสุวัฒน์ก็เริ่มออกลาย ติดเหล้าและคบเพื่อนที่พากันไปเล่นการพนันที่บ่อน บางครั้งก็เมามาจนทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ส่วนใหญ่กัสจะเป็นคนรองรับอารมณ์ของพ่อเลี้ยงมากกว่า เพราะกัสไม่ใช่ลูกของเขา และสุวัฒ์เวลาเมามักจะอาละวาดขอเงินจากเอมอรถ้าไม่ได้ก็จะทุบตีทำร้ายอิงอร กัสต้องวิ่งเข้าไปช่วยแม่ แต่แม่ก็ต้องทนเพราะเขาคือพ่อของน้องชาย 》》》》》♡☆♡《《《《《 >>>>> บริษัท ศิริวัฒน์ กรุ๊ป ธีรากรที่มาทำงานเช้าเป็นปกติของเขาอยู่แล้ว เขาเดินเข้ามาในบริษัท พนักงานทุกคนก็ยกมือไหว้ทักทายผู้เป็นรองประธานบริษัทในเครือ ศิริวัฒน์ กรุ๊ป ส่วนธารากรพี่ชายของเขาก็มีตำแหน่งประธานบริษัทในเครือ ศิริวัฒน์ กรุ๊ปไปครองเพราะเป็นพี่ชายคนโต แต่จะทำงานคนละส่วนกัน พี่ชายจะอยู่ที่สาขาประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนน้องชายจะอยู่สาขาใหญ่ในเมืองหลวงของประเทศไทย ธีรากรเป็นคนอารมณ์ดี ใจดีกับลูกน้อง ถ้าอยู่ในกฏในระเบียบ เขาพยักหน้าเป็นการทักทายลูกน้องของเขา และเดินตรงไปที่ลิฟท์ที่ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าเป็นลิฟท์ที่ใช้สำหรับผู้บริหารและแขกคนสำคัญเท่านั้น “รอด้วยครับรอผมด้วย”ธีรากรที่กำลังจะเข้าไปในลิฟท์อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคนวิ่งพร้อมตะโกนค่อนข้างจะเสียงดังออกมาด้านหลัง จนพนักงานที่ทำงานและเดินกันกันอยู่ด้านล่าง ต่างหันมามองที่ต้นเสียงด้วยความตกใจ และสงสัยว่าเด็กนักศึกษาหนุ่มคนนี้เป็นใครทำไมวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา กลัวเหลือเกินว่าว่าเด็กคนนี้จะถูกตำหนิจากท่านรองประธานของพวกเขา “ฟรู่!!!! ฟรู่!!!! ขอไปด้วยคนะครับ สายจนได้ซินะกัส”เสียงพ่นลมหายใจหอบเหนื่อยออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ จากการที่รีบวิ่งมาด้วยความเร็ว กัสพูดออกมาทันทีที่มาถึงหน้าลิฟท์พร้อมกับคนที่เดินมากดลิฟท์ก่อนแล้ว พร้อมกับบ่นให้ตัวเองเบา ๆ ที่อยากจะมาเช้าแต่ก็สายจนได้ ทันที่ที่พนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็วิ่งเข้ามาหวังจะกันเด็กหนุ่มนั้นออกไปจากพื้นที่ต้องห้ามตรงนั้น กลัวว่าตัวเองจะถูกตำหนิจากท่านรองประธานเหมือนกัน “คุณครับ คุณ เข้าไม่ดะ.....า......ย” พนักงานรักษาความปลอดภัยยังไม่ทันจะได้พูดจบ ทุกอย่างก็หยุดลงเพราะธีรากร ยกมือห้ามไว้ และส่ายหน้าเบา ๆ ว่าไม่เป็นอะไร พนักงานรักษาความปลอดภัย ก็ได้คำนับให้กับท่านรองประธานก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนั้น เด็กคนนี้คงจะเป็นแขกของท่านประธานก็เป็นได้ กัสก้าวเข้ามาในลิฟท์ยังไม่ทันได้มองเลยว่าคนที่ใส่สูทดูดีมาดนิ่ง ๆ ดูภูมิฐาน ลักษณะดี ที่ยืนอยู่ในลิฟท์คนนี้เป็นใครกันแน่ ด้วยความรีบร้อนขนาดออกมาจากบ้านเร็วแล้วยังมาถึงสายจนได้ รถประเทศไทยจะติดเยอะไปไหนเนี๊ยะ ไม่เคยซื้อกันรึไงรถ เฮ้อ!!!! วิ่งกันเกลื่อนถนนเลย อย่าให้กัสมีบ้างนะ ชิส์ “ไปชั้นไหนล่ะเรา”เสียงท่านรองประทานเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่ยืนหอบเหนื่อยอยู่ในลิฟท์ ที่กำลังยืนพิงผนังลิฟท์เพื่อพยุงตัวเองและดูนาฬิกาที่ข้อมือด้วยท่าทางร้อนรน ธีรากรรู้แล้วว่าเด็กคนที่วิ่งเข้ามาในลิฟท์พร้อมกับตนคือคนที่เขาขับรถเฉี่ยวเมื่อวานนี่เอง ก็แอบยิ้มกับท่าทางของเด็กหนุ่มอย่างพอใจ นี่ไม่ได้สังเกตอะไรเลยใช่ไหมนี่ ‘เด็กอะไรน่ารักจังวะ’ “ฝ่ายบุคคลอยู่ชั้นไหนครับ รบกวนกดชั้นนั้นให้กัส เอ้ย!! ให้ผมด้วย เอ๊ะ !! คุณเจ้าของรถเมื่อวานนี่ครับ พี่มาทำอะไรที่นี่ครับ พี่ทำงานที่นี่เหรอครับ”กัสเผลอพูดถามคนตรงหน้าออกไปอย่างดีใจ ไม่คิดว่าจะเจอผู้ชายคนนี้อีก กัสเอามือปิดปากตัวเองทันทีที่รู้ว่าเสียมารยาทพูดมากเกินความจำเป็น ทำไมต้องตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วยนะ บ้าจริง ‘อย่ามองหน้ากัสแบบนี้นะ ทำไมเราเขินวะ’ “ขอโทษนะครับ ที่เสียมารยาท ขอโทษจริงๆครับ”กัสก้มหน้าลงกล่าวคำขอโทษออกมา “ใช่ครับ พี่ทำงานที่นี่ แล้วเรามาทำอะไรล่ะแผลเป็นไงบ้าง ได้ไปหาหมอไหม ”ธีรากรยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดูเด็กน้อย ตอบออกไปพร้อมถามถึงอาการที่รถเขาเฉี่ยวเมื่อวาน “ไม่เป็นไรแล้วครับ ซื้อยาที่ร้านขายยามากินแล้ว วันนี้ผมมาสัมภาษณ์งานที่นี่ครับ”เสียงใสใสของกัสตอบออกไปทำให้คนฟัง ยกยิ้มด้วยความพอใจ “ครับ” ธีรากรถึงกับอ๋อ วันนี้เลขาเขาแจ้งว่ามีนักศึกษามาสัมภาษณ์ก่อนฝึกงาน เด็กคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นสินะ “ทำไมอยากมาฝึกงานที่นี่ละครับ”ธีรากรถามเด็กฝึกงาน อยากรู้คำตอบว่าจะเฟคหรือจริงใจ “ถ้าผมได้ฝึกงานที่นี่ อยากหาประสบการณ์ที่ดีจากบริษัทใหญ่ ๆ อนาคตผมต้องได้งานดี ๆ ทำแน่ๆ ครับถ้าได้ใบฝ่านประสบการณ์ฝึกจากศิริวัฒน์ กรุ๊ป จะเป็นใบเบิกทางกับชีวิตหลังรั้วมหาวิทยาลัยของผมเลยนะครับ”กัสตอบออกไปตามที่เขารู้สึกจริง ๆ เพราะอยากได้งานที่นี่มาก ๆ เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวกัสต้องทำให้ได้ “พี่ทำงานที่นี่มานานรึยังครับ แนะนำผมหน่อยได้ไหม”กัสตอบคำถามของธีรากร พร้อมขอคำแนะนำดี ๆ จากรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ในศิริวัฒน์ กรุ๊ป เผื่อจะง่ายต่อการพิจารณา “ตอบได้ไหมว่าเรามีอะไรที่ทางศิริวัฒน์ กรุ๊ป ต้องรับเราเข้าฝึกงาน”ธีรากรเริ่มการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว “ที่จริงประสบการณ์ทำงานผมก็มีบ้างนะครับแต่เป็นงานรับจ้างทั่วไป มันคงไม่มีประโยชน์กับศิริวัฒน์ กรุ๊ป แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมีก็คือ ความขยันและความอดทน ผมมีความตั้งใจจริงที่จะทำงานที่นี่ครับ และเกรดเฉลี่ยของผม 3 ปี มันพอจะการันตีอะไรได้บ้างไหมครับ”กัสตอบออกไป ไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไหร่ เพราะเขาด้อยประสบการณ์ด้านนี้จริง ๆ เขาเพิ่งเรียนอยู่จะเอาประสบการณ์ที่ไหนกันล่ะ “แค่เรามีความตั้งใจ แสดงความตั้งใจที่จะทำงานที่นี่เขาก็น่าจะพิจารณา ตอบคำถามให้ตรงกับสิ่งที่เขาถามในขอบข่ายงานของเรา”ธีรากรแนะนำในฐานะคนที่ทำงานที่นี่มาก่อน “และผมมีความลับอีกอย่างหนึ่งพี่อย่าบอกใครนะ ผมต้องการทำงานที่นี่เพราะที่นี่จ่ายเงินเดือนนักศึกษาฝึกงานเยอะกว่าที่อื่นครับ” นี่คงเป็นเหตุผลหลัก ๆ ของเขาสินะ “เราต้องการเงิน ??”ธีรากรถามด้วยความสงสัยอยากได้เงินหรืออยากได้ประสบการณ์กันแน่ทำไมมันดูย้อนแย้งจังวะ “ช่วงฝึกงานผมต้องขาดรายได้ แม่ผมต้องลำบาก ผมเลยอยากได้งานที่พอมีรายได้ช่วยแม่ของผมด้วยครับ เอ่อ....”กัสไม่มีความจำเป็นที่จะเล่าเรื่องปัญหาภายในครอบครัวของเขาให้ใครได้ฟัง เมื่อคิดได้ดังนั้นเลยหยุดทุกอย่างลงทันที “เล่าต่อ พี่อยากฟัง พี่ไม่บอกใครหรอก”ธีรากรอยากรูเรืรองของกัสทันที เลยถามย้ำออกไป เพราะอยู่ดี ๆคนตัวเล็กก็หยุดพูดไปเสียดื้อ ๆ กำลังฟังเพลิน ๆ อยู่พอดี ติ๊ง ! เสียงลิฟท์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นที่กัสต้องมาสัมภาษณ์งาน “เอ่อ คือ มันไม่น่าฟังหรอกครับขอบคุณที่ช่วยแนะนำนะครับ ถ้าผมได้ทำงานที่นี่ผมจะเล่าให้พี่ฟังแล้วกันนะ”ขอบคุณเสียงลิฟท์ที่ดังทันเวลา กัสกลัวถูกหาว่าเป็นเด็กพูดมาก ทันทีที่กัสพูดขอบคุณเสร็จก็เดินออกมาจากลิฟท์และพบว่าเขามาสายพอสมควรเพราะมีคนมานั่งรอลงทะเบียนหน้าห้องกันหลายคนแล้ว มีคนสมัครเยอะแต่เขารับได้แค่ 12 คน ‘หวังว่าเราจะเป็นหนึ่งใน 12 คนนะกัส งานนี้สำคัญกับนายจริง ๆ นะ’ “โชคดีนะครับ พี่ต้องได้ฟังแน่ ๆ ”ธีรากรอวยพรเด็กหนุ่มที่กำลังเดินออกจากลิฟท์ไป นี่เขาต้องรับเด็กคนนี้เข้าทำงานใช่ไหมเพราะเขาอยากจะฟังเรื่องราวของเด็กคนนี่ที่บอกจะเล่าให้ฟังถ้าเกิดได้เข้าทำงานที่นี่ “หึ !!” เพียงแค่นั้นก็ทำให้ธีรากรยิ้มไม่หยุดเมื่อนึกถึงความคิดตัวเองก็นึกขำ “วันนี้ท่านรองอารมณ์ดีจังเลยนะคะ”กานดาเลขาหน้าห้องถามขึ้นเมื่อเห็นท่านรองประธานเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้ามา “งานสัมภาษณ์เริ่มกี่โมงนะกานดา”ธีรากรถาม “9 โมงค่ะท่านรอง”กานดารายงานทันที ‘ไว้เจอกัน เด็กน้อย ฉันไม่ให้เธอไปไหนแน่ ๆ หึ’ "นี่เราคิดจะทำอะไรกันแน่นะ ไปกันใหญ่แล้วธีรา"ธีรากรเดินเข้าห้องและจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทำไมเขาเด็กผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งถึงทำให้เขาสนใจได้มากขนาดนี้นะ ♧♧♧♧♧♧♧♧♧♧
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD