Born to be Model ss2
" ทางทีมงานต้องขอนุญาตให้ผู้ร่วมการแข่งขันทุกคนปิดโทรศัพท์มือถือ และจะไม่มีการติดต่อกับคนนอก จนกว่าการแข่งขันจะจบลงนะคะ เพื่อไม่ให้ข้อมูลความลับภายใน รั่วไหลออกไปก่อนวันตัดสินที่จะออกอากาศทางทีวี " เสียงของสตาฟคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่ผู้ประกวดทั้งหมด ที่ถูกคัดเลือกต่างมานั่งต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วฉันก็พอจะเห็นหน้าตาอยู่แล้ว
เพราะอยู่ในแวดวงเดียวกัน เพียงแต่ฉันไม่ต้องผ่านด่านคัดเลือกอะไรเลย เนื่องจาก....นามสกุล
" คุณเอวาลีน ทานน้ำค่ะ " เสียงของสตาฟคนหนึ่งเดินมาเสิร์ฟน้ำให้กับฉันอย่างอ่อนน้อม
" ขอบคุณ " ฉันรับไว้ตามมารยาท ก่อนจะนั่งอย่างไม่พูดหรือสนทนากับใคร
" ขอนั่งด้วยนะ " เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ข้างๆฉัน
" ทำไมรู้สึกเหมือนเรามาแข่งแค่สองคนเองละ " ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง
ฉันจึงต้องเหล่สายตาไปมองทางเธอแบบนิ่งๆ
" เอาอะไรมาวัดเหรอ?"ฉันถามกลับไปด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง
" อย่าทำเป็นไม่รู้ไปหน่อยเลยค่ะ เอวา เธอเองก็มีBACK ที่support อยู่ไม่ใช่หรอ" ยัยนั่นตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่ฉันไม่ได้เป็นแบบที่แม่นี้พูด
" แข่งเดินแบบนะ เขาใช้เท้าเดินนะ ไม่ใช้ปาก " ฉันพูดตอบไปอย่างรำคาญ
ยัยนั้นนั่งยิ้มแบบอ่อนๆ และลูบต้นคอที่มีรอยแดงอย่างเด่นชัด เหมือนพยายามจะโชว์ให้ฉันได้เห็น
" นี่เธอ สลับที่กับฉันทีสิ " ฉันหันไปสกิดเรียกหนึ่งในคนที่แข่งขัน
" พอดีฉันเหม็นเน่ากลิ่นคล้ายๆปลาเค็มอะ ทนนั่งไม่ไหวแล้วจะอ้วก!" ฉันพูดก่อนจะลุกย้ายที่ทันที
ตรงนี้ค่อยดีหน่อย เพราะคนข้างๆไม่พูดมากไม่หนวกหูดี
ฉันหันไปมองผู้หญิงข้างๆที่หน้าตาสละสลวยคนหนึ่ง
ป้ายชื่อที่ติดหน้าอกของเธอคือ..แซมมี่
" หวัดดี " ยัยนั้นยิ้มให้ฉันเมื่อเห็นว่าฉันจ้องมองชื่อของเธออยู่นาน
ฉันไม่ตอบอะไร แต่ละสายตาไปทางอื่นแทน
การแข่งขันก็สนุกดีนะ เพราะเป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมา ซึ่งฉันก็เคยๆดูเวอร์ชั่น อังกฤษมาแล้ว พอมาแข่งเองก็สนุกไปอีกแบบ
ฉันว่ามันก็ช่วยให้ฉันคลายเครียดได้นะ เพราะเป็นอะไรที่ฉันชอบจริงๆ อย่างเรื่องแฟชั่น เรื่องเดินแบบ หรือจัดการทวงท่าโพสต์ต่างๆ
และทำให้ฉันไม่ต้องมานั่งคิดเรื่องที่ไอ้เพื่อนเวรอย่างแอลตัลพูดเอาไว้ !
จะว่าไป ฝีมือยัยผิงผิงอะไรนั้นก็สูสีกับฉันอยู่เหมือนกันนะ
แต่คนที่ฉันเห็นว่าตั้งใจและไม่มีหลุดคอนเซ็ปต์เลยก็คือ ยัยแซมมี่คนที่นั่งข้างๆ และฉันเลือกให้เป็นคู่หู แข่งทีมเดียวกัน
ยัยแซมมี่เป็นนางแบบโนเนม อายุเท่าฉัน นามสกุลก็ไม่ได้ดังอะไร แต่กรรมการคนอื่นๆก็ยังมองเห็นศักยภาพของยัยนั่นเหมือนที่ฉันเห็น เพราะความตั้งใจและความสวยที่สะดุดตาจริงๆ เวลาเดินบนเวที ยัยนี่เด่นสง่ากว่าคนอื่นจริงๆ อันนี้ฉันยอมเลย...
เราแข่งกันมาหลายวันหลายคืน จนดำเนินมาถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน!!!
และผลงานชิ้นสุดท้ายสปอนเซอร์หลัก คือรถยนต์นำเข้าชื่อดัง อย่างลัมโบร์กีนี
รถที่ฉันได้ถ่ายเข้าคู่ คือ ลัมโบร์กีนี อเวนทาดอร์
ซึ่งบอกตามตรงว่า ฉันรู้การใช้รถและวิธีเปิด และท่าโพสต์ต่างๆดี เพราะมันเป็นรถรุ่นเดียวกับที่ไอ้แอลตัลใช้ หลังการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง..
ภาพของสามผู้เข้าแข่งขัน โชว์ขึ้นหน้าจอใหญ่
เพราะสปอร์นเซอร์รายนี้ เป็นรายใหญ่ และเป็นการแข่งขันในครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินไฟนอลวอคในรอบตัดสิน
" ขอให้ แซมมี่ ผิงผิง และเอวาลีนก้าวมายืนตรงหน้าด้วยคะ "
"ภาพถ่ายของคุณทั้งสามเป็นภาพถ่ายที่ดีที่สุดจาก20คน " เสียงของพิธีกรพูดขึ้นและผายมือเชิญเรา
" งั้นเชิญฟัง..//" ยังไม่ทันที่พิธีกรจะพูดจบ
ก็มีใครคนหนึ่งยกปากกาขึ้นและ กล้องจึงหันไปจับทางเขา
" แคมเปญนี้ผมขอตัดสินให้คุณเอวาลีน เป็นผู้ชนะเพียงคนเดียวเลยครับ และผมให้100เต็ม100ครับ" จู่ๆเสียงของชายคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นอย่างมั่นหน้าสุดๆ
ทำเอาทุกคนหันขวับไปทางเขา
" เออ...ดิฉันก็เห็นด้วยค่ะๆ " ฉันของเลขาที่ติดตามมาด้วยก็รีบเอ่ยขึ้นตามเจ้านายของนางทันที
" เดี๊ยนก็ด้วยค่ะ " คุณป้าสาวสองอีกรายก็รีบเห็นด้วยกันยกใหญ่
ซึ่งฉันก็ยังคงมองผลการตัดสินแบบหน้านิ่งๆ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามออกไปตามตรง
" ขอให้กรรมการอธิบายเหตุผลด้วยสิค่ะ คนอื่นๆจะได้ไม่คล้องใจ " ฉันเอ่ยไปยังเจ้าของบริษัทที่ยังดูยังหนุ่ม น่าจะเป็นรุ่นพี่ฉันไม่กี่ปี แบบเจาะจง
เพราะการตัดสินให้ฉันชนะ ก็ควรจะให้เหตุผล
ฉันไม่ชอบเป็นขี้ปากของใคร
" ผมรู้สึกว่า รูปนี้ใช้งานได้จริง และดึงดูดกลุ่มลูกค้าระดับเราๆได้ " เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์
" คือผมชอบตรงที่ นางแบบดูแพง แพงกว่าราคาของรถซะอีก"
" เอาง่ายๆก็คือ.." เขามองตรงมาทางฉัน ซึ่งฉันเองก็สู้สายตานั้นทันที
" สวย หรู ดูแพง ตรงคอนเซปต์มากๆ " เขาพูดออกมาอย่างจงใจ ยอใส่ฉันอย่างสัมผัสได้
" ผมไม่เห็นใครเหมาะสมเท่าคุณเลย" ประโยคนั้นทำเอาเหล่านางแบบที่เหลือ โห่แซว รวมไปถึงทีมงาน
บางคนก็แซวแบบขำๆ แต่บางคนก็แซวแบบหมั่นไส้นั่นแหละ
" ขอบคุณค่ะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณไปสำหรับเหตุผลที่เขาให้ และไม่ได้ว่าอะไรต่อ
"เขาคงอยากจะเคลม เลยสร้างคำพูดให้ฟังซะสวยหรู ยินดีด้วยนะ คะแนนอ่อยผู้ชายได้เต็ม100เลย " ยัยผิงผิงพูดจิกกัด แต่ยังคงยิ้มๆ
" คุณพอเขาตาดีนะ เลือกแต่ของดี ไม่ได้เอาไม่เลือกแบบไอ้แอลตัล" ฉันจิกกลับไป และไม่ลืมที่จะลากไอ้แอลมาด่ารวมไปด้วย
" แต่บางคน อยู่ใกล้แทบตาย แอลตัลก็ไม่ยอมเอานะ " ยัยนั้นยังคงพูดขึ้นเบาๆและหัวเราะชอบใจ
ฉันเหลือบไปมองหน้ามันอย่างกำหมัดแน่น
" โทษนะ เธอกับฉันมันอยู่คนละระดับเลยอะ ของฟรีๆ กับของมีราคา คุณค่ามันต่างกันนะ " ฉันตอบไปอย่างพยายามเถียงมันให้ชนะ ให้ได้
" แค่ฉันบอกว่า ฉันไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แอลตัลก็เซย์กูดบายแล้วทุกราย "
ฟุ๊บ... ฉันจับเข้าที่แขนบางของยัยนั่นและดึงมาประชิดตัว
" อย่ามาเก่งกับฉัน เพราะเธอยังไม่รู้จักฉันดี อีผิงผิง!" ฉันพูดข่มเสียงไปก่อนจะยิ้มอย่างเสแสร้ง ก่อนจะผลักให้ยัยผิงผิงนั่นเดินกลับเข้าไปในวงรวมกับนางแบบที่เหลือ
" ใจเย็นๆนะ กล้องยังถ่ายเราอยู่" เสียงของผู้หญิงอีกคนข้างๆ พูดกับฉันด้วยแววตาที่นิ่งๆและเตือนฉันอย่างจริงใจ
" ฉันไม่แคร์หรอก " ฉันส่ายหน้า
แซมมี่พยักหน้ารับเล็กน้อย อย่างไม่กล้าว่าอะไรต่อ
" แต่ก็ขอบคุณยูมากนะที่เตือน "ฉันพูดขึ้นลอยๆ
ในรายการนี้คงมีแต่ยัยนี่ที่ดูจริงใจกับฉันมากที่สุด เท่าที่สัมผัสได้
ก่อนจะพักเบรก เราทุกคนได้นอนโรงแรมหรู เพื่อเก็บตัวเหมือนเป็นนางงามเลย แต่ไม่ได้เก็บเนื้อเก็บตัวขนาดนั้น แค่ไม่ให้คนในออก คนนอก ที่ไม่ใช่สปอนเซอร์เข้าเท่านั้นเอง
(Dinner time )
ในงานดินเนอร์คืนนี้จะประกาศผลคะแนน และให้คนที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งเตรียมตัว ลองชุด ลองเสื้อ ซ้อมคิวเดินก่อน งานวันพรุ่งนี้
-ห้องน้ำ-
" เมื่อคืนเรตติ้งรายการ พุ่งสูงสุดตอนที่คุณพอช เอ่ยชม เอวาลีน "
" จากรายการแข่งเดินแบบ กลายเป็นรายการ หาคู่ทันทีเลยคะ " พี่กระเทยคนหนึ่งเดินถือโทรศัพท์วี้ดว้ายอย่างตื่นเต้น
" มองจากดาวอังคารก็รู้ คุณพอช เล็งเอวาลีน " เสียงของอีกคนพูดเสริม
" คนรวยก็ต้องเอาคนรวยสิจ้ะ"
" ไฮโซที่ไหนจะมาเอา สาวออการ์ไนซ์แบบเราๆ " พวกนางยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่อไป
" จริงๆไม่ต้องประกาศอะไร ก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วปะ ว่าใครจะได้ที่หนึ่ง " แต่ประโยคนั้นทำเอาฉันชะงักที่จะเปิดประตูออกไปจากห้องน้ำทันที
" แน่นอนดิผลการแข่งขันรอบไฟนอลอะ ล๊อคตัวมาขนาดนั้นแล้วแม่!! " เสียงของอีกคนแทรกขึ้นมา
แก๊งกระเทยและก็ชะนีกลุ่มนี้ ก็คือพวกสตาฟและหนึ่งกรรมการหลักเลยนะ
ฉันหยุดยืนนิ่งฟังในห้องน้ำ อย่างพยายามเก็บอารมณ์ให้ได้มากที่สุด
" ดูนามสกุล ซะก่อนสิค่ะ จริงๆฉันก็เชียร์นางนะ สวย เลิศ เชิ่ด เหวี่ยงดี " หนึ่งในสตาฟผู้หญิงพูดขึ้น
" แต่ฉันเชียร์ ผิงผิง ทำไมสปอนเซอร์ไม่เลือกนางบ้าง " พวกนั้นเริ่มเม้าส์มอยหันอย่างสนุกปาก
" ไฮโซหน้าใหม่ ที่รวยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุย หรือจะสู้ตระกูลผู้ดีเก่าแบบเอวาลีนได้? " อีกคนก็เริ่มทับถมกันเรื่องนามสกุลของฉันกับยัยผิงผิงนั่น
ซึ่งเอาจริงๆ ฉันก็ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่ายัยนั้น ก็เป็นไฮโซเหมือนกัน
" แต่ยังไง ผลก็ล๊อคไว้แล้วยังไงก็ต้องเป็นยัยคุณหนูเอวาลีนได้ไปอยู่ดี"
แกร๊ก ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกไป
ทำเอาพวกนางที่เม้าส์มอยกันสนุกปากเงียบกริบ และมองฉันอย่างตกใจ
ฉันเดินตรงไปที่อ่างล้างมือทันที
" เอวาลีน " กรรมการที่ดุอายุที่สุดในวงนินทาเรียกฉันแบบกล้าๆกลัวๆ
" ถ้าการได้ที่หนึ่ง มันไม่ได้จากความสามารถของฉัน "
" ฉันไม่รับมันเอาไว้ให้เสียเกียรติหรอกนะ " ฉันล้างมือ ก่อนจะหันไปจิกตาใส่พวกนั้นอย่างไม่พอใจ
" ช่วยเปลี่ยนผลการตัดสินให้เป็นตามจริงด้วย " ฉันเดินไปหยุดตรงหน้ากรรมการท่านหนึ่ง
" นี่รายการแข่งเดินแบบไม่ใช่หรอ หรือว่าควรเปลี่ยนชื่อเป็นรายการ แข่งขันชนชั้นของนามสกุลดีละ?"ฉันหยิบกระดาษมาซับมือ ก่อนจะโยนทิ้งไป
" แต่คุณเอวาลีนเหมาะสมกับตำแหน่งจริงๆนะคะ " สตาฟคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างพยายามให้ฉันใจเย็นลง
" ขอบคุณนะ แต่ในความคิดฉัน ฉันว่าแซมมี่เหมาะสม"ฉันพูดออกไปตามที่คิด
เพราะยัยนั่นดูตั้งใจ และเป็นมืออาชีพ มากกว่าฉันและยัยผิงผิงนั้นอีก
" ถ้าไม่ได้ตัดสินกันด้วยฝีมือ พรุ่งนี้เตรียมตัวตอบคำถามนักข่าวไว้ดีๆแล้วกันนะคะ " ฉันยืนท้าชนกับกรรมการคนนั้นอย่างเอาจริง
" เพราะฉันเป็นคนตรงๆ เห็นอะไร ได้ยินอะไรก็พูดไปตามนั้น " ฉันตอบก่อนจะเปิดประตูออกมาทันที
สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด คือความไม่ยุติธรรม
ความไม่เท่าเทียม และการเอาเปรียบคนอื่น
-งานวันตัดสิน -
ฉันแต่งตัวตามปกติที่ได้รับบรีฟ หลังจากเกิดเรื่องนั้น
ฉันก็ไม่ไปทานอาหารเย็นร่วมกันใคร
เพราะถ้าไปเจอหน้ายัยพวกนั้นอีก มีหวังคงเก็บอาการความไม่พอใจเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ
" เห็นมีคนบอกว่าเธอสละตำแหน่งที่หนึ่ง " เสียงน่ารำคาญของยัยผิงผิงนั้นลอยมาเข้าหูฉันอีกรอบ
เพราะผลการแข่งขันออกมาแบบเป็นทางการว่า แซมมี่ได้ที่หนึ่ง ยัยผิงผิงได้ที่สอง และยัยปีใหม่อะไรสักอย่างได้ที่สาม ส่วนฉันทางกรรมการปล่อยข่าวว่า ฉันตั้งใจสละสิทธิ์
ซึ่งตอนแรกก็อยากจะแย้งนะ แต่พอคิดไปคิดมา ฉันว่าปล่อยผ่านๆไปบ้างก็ดี
ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด
" ช่วยหุบปากทีได้ปะ ฉันรำคาญ " ฉันกระแทกเสียงกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ
" ฉันแค่จะบอกว่า เธอก็ไม่เหมาะกับการเป็นที่หนึ่งอยู่แล้วละ " ยัยนั่นตอบมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะทำทีเดินออกไปแต่
ฟุ๊บ.... ฉันกระชากเข้าที่ผมของหล่อนและกระชากเข้ามาหาตัวอีกครั้ง
" อย่าปากดี ระวังจะไม่ได้ขึ้นเดิน final walk " ฉันบอกนิ่งๆ ก่อนจะดึงเส้นผมแรงขึ้น
" ปล่อยนะ " ยัยนั่นพยายามจะดิ้นๆ
" เออ..ได้เวลาเตรียมตัวแล้วนะคะ " เสียงของสตาฟคนหนึ่งเดินมาเจอฉากนี้เข้าพอดี แต่ยัยนั่นก็ทำได้แค่ก้มหน้าอย่างไม่กล้าห้ามปามอะไรฉัน
ฟุ๊บ..... ฉันปล่อยมือ ก่อนจะแสยะยิ้มเล็กน้อย
" อย่ามาปากดีกับฉัน ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ " ฉันกระซิบเข้าที่ข้างหูของมัน ก่อนจะเดินชนไหล่อย่างแรง
ฉันเดินมาด้านหลังเวทีเพื่อเตรียมตัว
" แซมมี่... " ฉันหันไปเจอยัยแซมมี่ ที่มีท่าทีแปลก กำชายกระโปรงไว้แน่น แถมยังหายใจหอบถี่ๆ
"..ไม่สบายเหรอ? " ฉันถามก่อนจะหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางค์ขึ้นมาวางบนโต๊ะ
" เปล่า..คงตื่นงานไปหน่อย" ยัยนั่นตอบเสียงสั่นๆ และเหงื่อแตกไปหมด
ที่มือกำยาบางอย่างเอาไว้แน่น
" ยาลดความอ้วนนะ " เธอบอกก่อนจะรีบซ่อนมันเอาไว้
" เฮ้ย..ยูไม่อ้วนเลยนะแซม " ฉันเดินไปเทียบขนาดตัวของฉันกับแซมมี่
" อย่ากินเลย..กินเยอะใจสั่นเอานะ มันอันตรายมากๆด้วย " ฉันพูดออกไปอย่างไม่เห็นด้วย
เพราะยัยนี่หุ่นดีจะตาย หุ่นดีมากๆเลยละ ดูก็รู้ว่าออกกำลังกายหนัก และกินคลีนเคร่งครัดแน่ๆ
" อื้ม "
" เราเข้าไปแต่งตัวกันเถอะ" ฉันพูดก่อนจะเดินไปหยิบชุดที่มีป้ายชื่อตัวเอง และเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่เตรียมเอาไว้
ในระหว่างที่แต่งหน้า ด้วยช่างแต่งหน้ามืออาชีพ
" ช่วยใช้เครื่องสำอางค์ส่วนตัวนะ พอดีไม่ชอบใช้ร่วมกับคนอื่น "ฉันบอกช่างแต่งหน้าไปตามตรง
ซึ่งช่างก็คุ้นเคยกับฉันดีอยู่แล้ว
" ได้สิจ้ะ คุณเอวา " ช่างแต่งหน้าสาวสองรีบหยิบกระเป๋าของฉันขึ้นมาวางทันที
" ของผิงผิง ใช้เครื่องสำอางค์ของพี่ป้อมได้เลยนะคะ ผิงเป็นคนง่ายๆสบายๆเลยคะ " ยัยนั่นพูดขึ้นเหมือนจงใจว่าดะ มาทางฉัน
" ไม่เลือกดีเนอะ " ฉันพูดขึ้นลอยๆ
" มีดอกไม้มาส่งนะคะ " เสียงของสตาฟคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้ กุหลาบสีแดง
ทุกคนในห้องมาตามดอกไม้กันเป็นทางเดียว
" จากคุณพอช ให้คุณเอวาค่ะ " สตาฟวางดอกไม้ช่อนั้นลงตรงหน้าของฉัน
" ขอบใจ " ฉันพยักหน้าตอบไปก็แสยะยิ้มเหยียดยัยผิงผิงไปที
คุณพอชอะไรเนี้ย ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่จีบฉัน
แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันไม่เคยมีใครทนนิสัยจริงๆของฉันได้เลยสักคนต่างหาก
" วางไว้ตรงนี้แหละ " ฉันบอกไปอย่างไม่ใส่ใจอะไร
" และก็มีของคุณแอลตัลนะคะ "ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นอีกครั้งข้างๆฉัน
" ของฉันใช่ไหมจ้ะ? " ผิงผิงรีบออกตัวแรงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อแอลตัล สงสัยยัยนี่คงคลั่งมันเข้าแล้วจริงๆ
" ไม่ใช่ค่ะ เป็นของคุณเอวาลีน " สตาฟหันมาทางฉัน
" ไปบอกคนมาทำความสะอาดพื้นด้วยนะ พอดีเศษหน้าใครก็ไม่รู้ แตกละเอียดเลอะเทอะเต็มพื้นไปหมด " ฉันชี้นิ้วลงไปที่พื้นอย่างสะใจ
" เอวา" เสียงยัยแซมมี่พูดขึ้นเบาๆ
" พี่ป้อม ผิงขอไปเข้าห้องน้ำนะคะ " ยัยนั่นหน้าเสีย ก่อนจะลุกขอตัวออกไปทันทีเพื่อไม่ให้หน้าแตกแหกไปมากกว่านี้
" ถ้าเป็นดอกไม้ เอาไปทิ้งเลยนะ "
" พอดีฉันได้ช่อเดียวจากพอชก็พอแล้ว " ฉันพูดอย่างเจ็บใจไม่หาย และยังงอลมันอยู่
ฉันไม่รับการติดต่อของแอลตัล ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม เพราะวันนั้นมันหักหน้าฉันต่อหน้ายัยผิงผิงจอมแอ๊บนี้ ซึ่งมันน่าจะรู้ว่าฉันโกรธมากแค่ไหน
" เออ เป็นแซนวิชค่ะ " เธอตอบก่อนจะยื่นแซนวิชให้ฉัน
" คุณแอลตัลบอกว่า คุณเอวาต้องหิวมากแน่ๆ เลยฝากทีมงานเอามาให้ " สตาฟคนนั้นยื่นแซนวิชให้ฉัน
ซึ่งฉันก็รับไว้ก่อนจะ โบกมือให้ทีมงานออกไปทำงานของเธอได้
" (ง้อแล้วนะ เลิกงอลกูได้ละ)" มีแผ่นโน้ตบางๆติดมาด้วย
ฉันหันไปเห็นแซมมี่ที่หน้าน่าเคร่งเครียดอยู่พอดี
"แซมกินไหม เดี๋ยวแบ่งครึ่งให้?" ฉันถามและพยายามจะแบ่งครึ่งแซนวิชในมือ
" ไม่ละ "ยัยนั้นส่ายหน้า ทั้งที่มองแซนวิชฉันอย่างกลื่นน้ำลาย
ไอ้แอลตัลทำมาน่ากินขนาดนี้ ถ้าไม่ลองกินบอกเลยว่าเสียดายแน่
" ฉันกลัวว่าจะใส่ชุดเดินแบบไม่ได้ "ยัยแซมมี่ลูบท้องอันแบนราบของตัวเองอย่างพยายามอดกลั้นต่อความหิว
" แซมมี่ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้นะ เธอหุ่นดีและมีวินัยออกกำลังขนาดนี้ รูปร่างก็โคตรจะเพอร์เฟค แทบไม่มีไขมันเลย"ฉันส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย ก่อนจะกินต่อหน้าต่อตาแซมมี่
" ดูพุงกับเหนียงฉันสิ เป็นชั้นๆฉันยังกินไม่หยุดปากเลย " ฉันพูดอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ
จริงๆนะ ไอ้แอลตัลมันรู้จักฉันดีกว่าใคร
แค่ง้อด้วยของกิน ฉันก็หายงอลมันแล้วทุกครั้งไป
แต่พอเดินออกมาด้านนอกงาน ฉันก็ถูกเรียกขึ้นอีก
" คุณเอวาลีน ดอกไม้ค่ะ " ออการ์ไนซ์ เดินถือช่อดอกไม้ใหญ่สะดุดตาจนคนทั้งงานแอบหันไปมองทางเธอ
"จากใครอีก ? " ฉันขมวดคิ้วและหยิบการ์ดขึ้นมาอ่านทันที
" จากคุณแอลตัลนะคะ พอดีทางรายการไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาในงาน คุณแอลเลยฝากมาให้แทน " ทีมงานกระซิบเข้าที่ข้างหูของฉัน
" แซมมี่ ช่วยถือที " ฉันยื่นช่อดอกไม้ของพอชอะไรนั้นให้แซมมี่ที่ยืนข้างๆ ช่วยถือ
"คืนนี้มีวันเกิดฉันนะไม่ลืมใช่ไหม?...แอลตัล" ฉันอ่านโน้ตนั้น
" แน่นอนสิ วันเกิดมึงใครจะลืม " ฉันพูดภายในใจ และแบะปากเล็กน้อย
" ห้ามโยนทิ้งเด็ดขาด!! เพราะมึงเป็นคนแรกที่ได้ดอกไม้จากกู"มันพูดทิ้งท้ายเหมือนรู้ทัน
ถ้ามันส่งดอกไม้มาก่อนแซนด์วิชฉันโยนลงถังขยะหรือไม่ก็เผาทิ้งไปแล้ว
ก่อนจะรับช่อดอกไม้ช่อใหม่นี้แทน และเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย
" คนแรกงั้นเหรอ? "ฉันแบะปากเล็กน้อยกับการลงทุนงอลของมัน
" แฟนส่งมาเหรอ? "แซมมี่เห็นท่าทีของฉันก็เอ่ยแซวๆ
"เพื่อนน่ะ ....ถ้าใครได้มันเป็นแฟนนะอกแตกตาย"
ฉันพูดออกไปตามความรู้สึกจริงๆ และมองช่อดอกไม้ในมือนั้นของแอลตัล ก่อนจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก และอัพลงไอจี เพื่อให้มันบันทึกวัน เดือน ปี นี้เอาไว้ :)))
Evalyn_XL
born to be model ss2
23
699 likes300