EP.8 อย่าหลอกตัวเอง

3385 Words
Born to be Model ss2 " ทางทีมงานต้องขอนุญาตให้ผู้ร่วมการแข่งขันทุกคนปิดโทรศัพท์มือถือ และจะไม่มีการติดต่อกับคนนอก จนกว่าการแข่งขันจะจบลงนะคะ เพื่อไม่ให้ข้อมูลความลับภายใน รั่วไหลออกไปก่อนวันตัดสินที่จะออกอากาศทางทีวี " เสียงของสตาฟคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่ผู้ประกวดทั้งหมด ที่ถูกคัดเลือกต่างมานั่งต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วฉันก็พอจะเห็นหน้าตาอยู่แล้ว เพราะอยู่ในแวดวงเดียวกัน เพียงแต่ฉันไม่ต้องผ่านด่านคัดเลือกอะไรเลย เนื่องจาก....นามสกุล " คุณเอวาลีน ทานน้ำค่ะ " เสียงของสตาฟคนหนึ่งเดินมาเสิร์ฟน้ำให้กับฉันอย่างอ่อนน้อม " ขอบคุณ " ฉันรับไว้ตามมารยาท ก่อนจะนั่งอย่างไม่พูดหรือสนทนากับใคร " ขอนั่งด้วยนะ " เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ข้างๆฉัน " ทำไมรู้สึกเหมือนเรามาแข่งแค่สองคนเองละ " ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง ฉันจึงต้องเหล่สายตาไปมองทางเธอแบบนิ่งๆ " เอาอะไรมาวัดเหรอ?"​ฉันถามกลับไปด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง " อย่าทำเป็นไม่รู้ไปหน่อยเลยค่ะ เอวา เธอเองก็มีBACK ที่support อยู่ไม่ใช่หรอ" ยัยนั่นตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่ฉันไม่ได้เป็นแบบที่แม่นี้พูด " แข่งเดินแบบนะ เขาใช้เท้าเดินนะ ไม่ใช้ปาก " ฉันพูดตอบไปอย่างรำคาญ ยัยนั้นนั่งยิ้มแบบอ่อนๆ และลูบต้นคอที่มีรอยแดงอย่างเด่นชัด เหมือนพยายามจะโชว์ให้ฉันได้เห็น " นี่เธอ สลับที่กับฉันทีสิ " ฉันหันไปสกิดเรียกหนึ่งในคนที่แข่งขัน " พอดีฉันเหม็นเน่ากลิ่นคล้ายๆปลาเค็มอะ ทนนั่งไม่ไหวแล้วจะอ้วก!" ฉันพูดก่อนจะลุกย้ายที่ทันที ตรงนี้ค่อยดีหน่อย เพราะคนข้างๆไม่พูดมากไม่หนวกหูดี ฉันหันไปมองผู้หญิงข้างๆที่หน้าตาสละสลวยคนหนึ่ง ป้ายชื่อที่ติดหน้าอกของเธอคือ..แซมมี่ " หวัดดี " ยัยนั้นยิ้มให้ฉันเมื่อเห็นว่าฉันจ้องมองชื่อของเธออยู่นาน ฉันไม่ตอบอะไร แต่ละสายตาไปทางอื่นแทน การแข่งขันก็สนุกดีนะ เพราะเป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมา ซึ่งฉันก็เคยๆดูเวอร์ชั่น อังกฤษมาแล้ว พอมาแข่งเองก็สนุกไปอีกแบบ ฉันว่ามันก็ช่วยให้ฉันคลายเครียดได้นะ เพราะเป็นอะไรที่ฉันชอบจริงๆ อย่างเรื่องแฟชั่น เรื่องเดินแบบ หรือจัดการทวงท่าโพสต์ต่างๆ และทำให้ฉันไม่ต้องมานั่งคิดเรื่องที่ไอ้เพื่อนเวรอย่างแอลตัลพูดเอาไว้ ! จะว่าไป ฝีมือยัยผิงผิงอะไรนั้นก็สูสีกับฉันอยู่เหมือนกันนะ แต่คนที่ฉันเห็นว่าตั้งใจและไม่มีหลุดคอนเซ็ปต์เลยก็คือ ยัยแซมมี่คนที่นั่งข้างๆ และฉันเลือกให้เป็นคู่หู แข่งทีมเดียวกัน ยัยแซมมี่เป็นนางแบบโนเนม อายุเท่าฉัน นามสกุลก็ไม่ได้ดังอะไร แต่กรรมการคนอื่นๆก็ยังมองเห็นศักยภาพของยัยนั่นเหมือนที่ฉันเห็น เพราะความตั้งใจและความสวยที่สะดุดตาจริงๆ เวลาเดินบนเวที ยัยนี่เด่นสง่ากว่าคนอื่นจริงๆ อันนี้ฉันยอมเลย... เราแข่งกันมาหลายวันหลายคืน จนดำเนินมาถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน!!! และผลงานชิ้นสุดท้ายสปอนเซอร์หลัก คือรถยนต์นำเข้าชื่อดัง อย่างลัมโบร์กีนี รถที่ฉันได้ถ่ายเข้าคู่ คือ ลัมโบร์กีนี อเวนทาดอร์ ซึ่งบอกตามตรงว่า ฉันรู้การใช้รถและวิธีเปิด และท่าโพสต์ต่างๆดี เพราะมันเป็นรถรุ่นเดียวกับที่ไอ้แอลตัลใช้ หลังการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง.. ภาพของสามผู้เข้าแข่งขัน โชว์ขึ้นหน้าจอใหญ่ เพราะสปอร์นเซอร์รายนี้ เป็นรายใหญ่ และเป็นการแข่งขันในครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินไฟนอลวอคในรอบตัดสิน " ขอให้ แซมมี่ ผิงผิง และเอวาลีนก้าวมายืนตรงหน้าด้วยคะ " "ภาพถ่ายของคุณทั้งสามเป็นภาพถ่ายที่ดีที่สุดจาก20คน " เสียงของพิธีกรพูดขึ้นและผายมือเชิญเรา " งั้นเชิญฟัง..//" ยังไม่ทันที่พิธีกรจะพูดจบ ก็มีใครคนหนึ่งยกปากกาขึ้นและ กล้องจึงหันไปจับทางเขา " แคมเปญนี้ผมขอตัดสินให้คุณเอวาลีน เป็นผู้ชนะเพียงคนเดียวเลยครับ และผมให้100เต็ม100ครับ" จู่ๆเสียงของชายคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นอย่างมั่นหน้าสุดๆ ทำเอาทุกคนหันขวับไปทางเขา " เออ...ดิฉันก็เห็นด้วยค่ะๆ " ฉันของเลขาที่ติดตามมาด้วยก็รีบเอ่ยขึ้นตามเจ้านายของนางทันที " เดี๊ยนก็ด้วยค่ะ " คุณป้าสาวสองอีกรายก็รีบเห็นด้วยกันยกใหญ่ ซึ่งฉันก็ยังคงมองผลการตัดสินแบบหน้านิ่งๆ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามออกไปตามตรง " ขอให้กรรมการอธิบายเหตุผลด้วยสิค่ะ คนอื่นๆจะได้ไม่คล้องใจ " ฉันเอ่ยไปยังเจ้าของบริษัทที่ยังดูยังหนุ่ม น่าจะเป็นรุ่นพี่ฉันไม่กี่ปี แบบเจาะจง เพราะการตัดสินให้ฉันชนะ ก็ควรจะให้เหตุผล ฉันไม่ชอบเป็นขี้ปากของใคร " ผมรู้สึกว่า รูปนี้ใช้งานได้จริง และดึงดูดกลุ่มลูกค้าระดับเราๆได้ " เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ " คือผมชอบตรงที่ นางแบบดูแพง แพงกว่าราคาของรถซะอีก" " เอาง่ายๆก็คือ.." เขามองตรงมาทางฉัน ซึ่งฉันเองก็สู้สายตานั้นทันที " สวย หรู ดูแพง ตรงคอนเซปต์มากๆ " เขาพูดออกมาอย่างจงใจ ยอใส่ฉันอย่างสัมผัสได้ " ผมไม่เห็นใครเหมาะสมเท่าคุณเลย​" ประโยคนั้นทำเอาเหล่านางแบบที่เหลือ โห่แซว รวมไปถึงทีมงาน บางคนก็แซวแบบขำๆ แต่บางคนก็แซวแบบหมั่นไส้นั่นแหละ " ขอบคุณค่ะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณไปสำหรับเหตุผลที่เขาให้ และไม่ได้ว่าอะไรต่อ "เขาคงอยากจะเคลม เลยสร้างคำพูดให้ฟังซะสวยหรู ยินดีด้วยนะ คะแนนอ่อยผู้ชายได้เต็ม100เลย " ยัยผิงผิงพูดจิกกัด แต่ยังคงยิ้มๆ " คุณพอเขาตาดีนะ เลือกแต่ของดี ไม่ได้เอาไม่เลือกแบบไอ้แอลตัล" ฉันจิกกลับไป และไม่ลืมที่จะลากไอ้แอลมาด่ารวมไปด้วย " แต่บางคน อยู่ใกล้แทบตาย แอลตัลก็ไม่ยอมเอานะ " ยัยนั้นยังคงพูดขึ้นเบาๆและหัวเราะชอบใจ ฉันเหลือบไปมองหน้ามันอย่างกำหมัดแน่น " โทษนะ เธอกับฉันมันอยู่คนละระดับเลยอะ ของฟรีๆ กับของมีราคา คุณค่ามันต่างกันนะ " ฉันตอบไปอย่างพยายามเถียงมันให้ชนะ ให้ได้ " แค่ฉันบอกว่า ฉันไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แอลตัลก็เซย์กูดบายแล้วทุกราย " ฟุ๊บ... ฉันจับเข้าที่แขนบางของยัยนั่นและดึงมาประชิดตัว " อย่ามาเก่งกับฉัน เพราะเธอยังไม่รู้จักฉันดี อีผิงผิง!" ฉันพูดข่มเสียงไปก่อนจะยิ้มอย่างเสแสร้ง ก่อนจะผลักให้ยัยผิงผิงนั่นเดินกลับเข้าไปในวงรวมกับนางแบบที่เหลือ " ใจเย็นๆนะ กล้องยังถ่ายเราอยู่" เสียงของผู้หญิงอีกคนข้างๆ พูดกับฉันด้วยแววตาที่นิ่งๆและเตือนฉันอย่างจริงใจ " ฉันไม่แคร์หรอก " ฉันส่ายหน้า แซมมี่พยักหน้ารับเล็กน้อย อย่างไม่กล้าว่าอะไรต่อ " แต่ก็ขอบคุณยูมากนะที่เตือน "ฉันพูดขึ้นลอยๆ ในรายการนี้คงมีแต่ยัยนี่ที่ดูจริงใจกับฉันมากที่สุด เท่าที่สัมผัสได้ ก่อนจะพักเบรก เราทุกคนได้นอนโรงแรมหรู เพื่อเก็บตัวเหมือนเป็นนางงามเลย แต่ไม่ได้เก็บเนื้อเก็บตัวขนาดนั้น แค่ไม่ให้คนในออก คนนอก ที่ไม่ใช่สปอนเซอร์เข้าเท่านั้นเอง (Dinner time ) ในงานดินเนอร์คืนนี้จะประกาศผลคะแนน และให้คนที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งเตรียมตัว ลองชุด ลองเสื้อ ซ้อมคิวเดินก่อน งานวันพรุ่งนี้ -ห้องน้ำ- " เมื่อคืนเรตติ้งรายการ พุ่งสูงสุดตอนที่คุณพอช เอ่ยชม เอวาลีน " " จากรายการแข่งเดินแบบ กลายเป็นรายการ หาคู่ทันทีเลยคะ " พี่กระเทยคนหนึ่งเดินถือโทรศัพท์วี้ดว้ายอย่างตื่นเต้น " มองจากดาวอังคารก็รู้ คุณพอช เล็งเอวาลีน " เสียงของอีกคนพูดเสริม " คนรวยก็ต้องเอาคนรวยสิจ้ะ" " ไฮโซที่ไหนจะมาเอา สาวออการ์ไนซ์แบบเราๆ " พวกนางยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่อไป " จริงๆไม่ต้องประกาศอะไร ก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วปะ ว่าใครจะได้ที่หนึ่ง " แต่ประโยคนั้นทำเอาฉันชะงักที่จะเปิดประตูออกไปจากห้องน้ำทันที " แน่นอนดิผลการแข่งขันรอบไฟนอลอะ ล๊อคตัวมาขนาดนั้นแล้วแม่!! " เสียงของอีกคนแทรกขึ้นมา แก๊งกระเทยและก็ชะนีกลุ่มนี้ ก็คือพวกสตาฟและหนึ่งกรรมการหลักเลยนะ ฉันหยุดยืนนิ่งฟังในห้องน้ำ อย่างพยายามเก็บอารมณ์ให้ได้มากที่สุด " ดูนามสกุล ซะก่อนสิค่ะ จริงๆฉันก็เชียร์นางนะ สวย เลิศ เชิ่ด เหวี่ยงดี " หนึ่งในสตาฟผู้หญิงพูดขึ้น " แต่ฉันเชียร์ ผิงผิง ทำไมสปอนเซอร์ไม่เลือกนางบ้าง " พวกนั้นเริ่มเม้าส์มอยหันอย่างสนุกปาก " ไฮโซหน้าใหม่ ที่รวยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุย หรือจะสู้ตระกูลผู้ดีเก่าแบบเอวาลีนได้? " อีกคนก็เริ่มทับถมกันเรื่องนามสกุลของฉันกับยัยผิงผิงนั่น ซึ่งเอาจริงๆ ฉันก็ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่ายัยนั้น ก็เป็นไฮโซเหมือนกัน " แต่ยังไง ผลก็ล๊อคไว้แล้วยังไงก็ต้องเป็นยัยคุณหนูเอวาลีนได้ไปอยู่ดี" แกร๊ก ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกไป ทำเอาพวกนางที่เม้าส์มอยกันสนุกปากเงียบกริบ และมองฉันอย่างตกใจ ฉันเดินตรงไปที่อ่างล้างมือทันที " เอวาลีน " กรรมการที่ดุอายุที่สุดในวงนินทาเรียกฉันแบบกล้าๆกลัวๆ " ถ้าการได้ที่หนึ่ง มันไม่ได้จากความสามารถของฉัน " " ฉันไม่รับมันเอาไว้ให้เสียเกียรติหรอกนะ " ฉันล้างมือ ก่อนจะหันไปจิกตาใส่พวกนั้นอย่างไม่พอใจ " ช่วยเปลี่ยนผลการตัดสินให้เป็นตามจริงด้วย " ฉันเดินไปหยุดตรงหน้ากรรมการท่านหนึ่ง " นี่รายการแข่งเดินแบบไม่ใช่หรอ หรือว่าควรเปลี่ยนชื่อเป็นรายการ แข่งขันชนชั้นของนามสกุลดีละ?​"ฉันหยิบกระดาษมาซับมือ ก่อนจะโยนทิ้งไป " แต่คุณเอวาลีนเหมาะสมกับตำแหน่งจริงๆนะคะ " สตาฟคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างพยายามให้ฉันใจเย็นลง " ขอบคุณนะ แต่ในความคิดฉัน ฉันว่าแซมมี่เหมาะสม"ฉันพูดออกไปตามที่คิด เพราะยัยนั่นดูตั้งใจ และเป็นมืออาชีพ มากกว่าฉันและยัยผิงผิงนั้นอีก " ถ้าไม่ได้ตัดสินกันด้วยฝีมือ พรุ่งนี้เตรียมตัวตอบคำถามนักข่าวไว้ดีๆแล้วกันนะคะ " ฉันยืนท้าชนกับกรรมการคนนั้นอย่างเอาจริง " เพราะฉันเป็นคนตรงๆ เห็นอะไร ได้ยินอะไรก็พูดไปตามนั้น " ฉันตอบก่อนจะเปิดประตูออกมาทันที สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด คือความไม่ยุติธรรม ความไม่เท่าเทียม และการเอาเปรียบคนอื่น -งานวันตัดสิน - ฉันแต่งตัวตามปกติที่ได้รับบรีฟ หลังจากเกิดเรื่องนั้น ฉันก็ไม่ไปทานอาหารเย็นร่วมกันใคร เพราะถ้าไปเจอหน้ายัยพวกนั้นอีก มีหวังคงเก็บอาการความไม่พอใจเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ " เห็นมีคนบอกว่าเธอสละตำแหน่งที่หนึ่ง " เสียงน่ารำคาญของยัยผิงผิงนั้นลอยมาเข้าหูฉันอีกรอบ เพราะผลการแข่งขันออกมาแบบเป็นทางการว่า แซมมี่ได้ที่หนึ่ง ยัยผิงผิงได้ที่สอง และยัยปีใหม่อะไรสักอย่างได้ที่สาม ส่วนฉันทางกรรมการปล่อยข่าวว่า ฉันตั้งใจสละสิทธิ์ ซึ่งตอนแรกก็อยากจะแย้งนะ แต่พอคิดไปคิดมา ฉันว่าปล่อยผ่านๆไปบ้างก็ดี ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด " ช่วยหุบปากทีได้ปะ ฉันรำคาญ " ฉันกระแทกเสียงกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ " ฉันแค่จะบอกว่า เธอก็ไม่เหมาะกับการเป็นที่หนึ่งอยู่แล้วละ " ยัยนั่นตอบมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะทำทีเดินออกไปแต่ ฟุ๊บ.... ฉันกระชากเข้าที่ผมของหล่อนและกระชากเข้ามาหาตัวอีกครั้ง " อย่าปากดี ระวังจะไม่ได้ขึ้นเดิน final walk " ฉันบอกนิ่งๆ ก่อนจะดึงเส้นผมแรงขึ้น " ปล่อยนะ " ยัยนั่นพยายามจะดิ้นๆ " เออ..ได้เวลาเตรียมตัวแล้วนะคะ " เสียงของสตาฟคนหนึ่งเดินมาเจอฉากนี้เข้าพอดี แต่ยัยนั่นก็ทำได้แค่ก้มหน้าอย่างไม่กล้าห้ามปามอะไรฉัน ฟุ๊บ..... ฉันปล่อยมือ ก่อนจะแสยะยิ้มเล็กน้อย " อย่ามาปากดีกับฉัน ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ " ฉันกระซิบเข้าที่ข้างหูของมัน ก่อนจะเดินชนไหล่อย่างแรง ฉันเดินมาด้านหลังเวทีเพื่อเตรียมตัว " แซมมี่... " ฉันหันไปเจอยัยแซมมี่ ที่มีท่าทีแปลก กำชายกระโปรงไว้แน่น แถมยังหายใจหอบถี่ๆ "..ไม่สบายเหรอ? " ฉันถามก่อนจะหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางค์ขึ้นมาวางบนโต๊ะ " เปล่า..คงตื่นงานไปหน่อย" ยัยนั่นตอบเสียงสั่นๆ และเหงื่อแตกไปหมด ที่มือกำยาบางอย่างเอาไว้แน่น " ยาลดความอ้วนนะ " เธอบอกก่อนจะรีบซ่อนมันเอาไว้ " เฮ้ย..ยูไม่อ้วนเลยนะแซม " ฉันเดินไปเทียบขนาดตัวของฉันกับแซมมี่ " อย่ากินเลย..กินเยอะใจสั่นเอานะ มันอันตรายมากๆด้วย " ฉันพูดออกไปอย่างไม่เห็นด้วย เพราะยัยนี่หุ่นดีจะตาย หุ่นดีมากๆเลยละ ดูก็รู้ว่าออกกำลังกายหนัก และกินคลีนเคร่งครัดแน่ๆ " อื้ม " " เราเข้าไปแต่งตัวกันเถอะ" ฉันพูดก่อนจะเดินไปหยิบชุดที่มีป้ายชื่อตัวเอง และเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่เตรียมเอาไว้ ในระหว่างที่แต่งหน้า ด้วยช่างแต่งหน้ามืออาชีพ " ช่วยใช้เครื่องสำอางค์ส่วนตัวนะ พอดีไม่ชอบใช้ร่วมกับคนอื่น "ฉันบอกช่างแต่งหน้าไปตามตรง ซึ่งช่างก็คุ้นเคยกับฉันดีอยู่แล้ว " ได้สิจ้ะ คุณเอวา " ช่างแต่งหน้าสาวสองรีบหยิบกระเป๋าของฉันขึ้นมาวางทันที " ของผิงผิง ใช้เครื่องสำอางค์ของพี่ป้อมได้เลยนะคะ ผิงเป็นคนง่ายๆสบายๆเลยคะ " ยัยนั่นพูดขึ้นเหมือนจงใจว่าดะ มาทางฉัน " ไม่เลือกดีเนอะ " ฉันพูดขึ้นลอยๆ " มีดอกไม้มาส่งนะคะ " เสียงของสตาฟคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้ กุหลาบสีแดง ทุกคนในห้องมาตามดอกไม้กันเป็นทางเดียว " จากคุณพอช ให้คุณเอวาค่ะ " สตาฟวางดอกไม้ช่อนั้นลงตรงหน้าของฉัน " ขอบใจ " ฉันพยักหน้าตอบไปก็แสยะยิ้มเหยียดยัยผิงผิงไปที คุณพอชอะไรเนี้ย ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่จีบฉัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันไม่เคยมีใครทนนิสัยจริงๆของฉันได้เลยสักคนต่างหาก " วางไว้ตรงนี้แหละ " ฉันบอกไปอย่างไม่ใส่ใจอะไร " และก็มีของคุณแอลตัลนะคะ "ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นอีกครั้งข้างๆฉัน " ของฉันใช่ไหมจ้ะ? " ผิงผิงรีบออกตัวแรงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อแอลตัล สงสัยยัยนี่คงคลั่งมันเข้าแล้วจริงๆ " ไม่ใช่ค่ะ เป็นของคุณเอวาลีน " สตาฟหันมาทางฉัน " ไปบอกคนมาทำความสะอาดพื้นด้วยนะ พอดีเศษหน้าใครก็ไม่รู้ แตกละเอียดเลอะเทอะเต็มพื้นไปหมด " ฉันชี้นิ้วลงไปที่พื้นอย่างสะใจ " เอวา" เสียงยัยแซมมี่พูดขึ้นเบาๆ " พี่ป้อม ผิงขอไปเข้าห้องน้ำนะคะ " ยัยนั่นหน้าเสีย ก่อนจะลุกขอตัวออกไปทันทีเพื่อไม่ให้หน้าแตกแหกไปมากกว่านี้ " ถ้าเป็นดอกไม้ เอาไปทิ้งเลยนะ " " พอดีฉันได้ช่อเดียวจากพอชก็พอแล้ว " ฉันพูดอย่างเจ็บใจไม่หาย และยังงอลมันอยู่ ฉันไม่รับการติดต่อของแอลตัล ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม เพราะวันนั้นมันหักหน้าฉันต่อหน้ายัยผิงผิงจอมแอ๊บนี้ ซึ่งมันน่าจะรู้ว่าฉันโกรธมากแค่ไหน " เออ เป็นแซนวิชค่ะ " เธอตอบก่อนจะยื่นแซนวิชให้ฉัน " คุณแอลตัลบอกว่า คุณเอวาต้องหิวมากแน่ๆ เลยฝากทีมงานเอามาให้ " สตาฟคนนั้นยื่นแซนวิชให้ฉัน ซึ่งฉันก็รับไว้ก่อนจะ โบกมือให้ทีมงานออกไปทำงานของเธอได้ " (ง้อแล้วนะ เลิกงอลกูได้ละ)" มีแผ่นโน้ตบางๆติดมาด้วย ฉันหันไปเห็นแซมมี่ที่หน้าน่าเคร่งเครียดอยู่พอดี "แซมกินไหม เดี๋ยวแบ่งครึ่งให้?" ฉันถามและพยายามจะแบ่งครึ่งแซนวิชในมือ " ไม่ละ "ยัยนั้นส่ายหน้า ทั้งที่มองแซนวิชฉันอย่างกลื่นน้ำลาย ไอ้แอลตัลทำมาน่ากินขนาดนี้ ถ้าไม่ลองกินบอกเลยว่าเสียดายแน่ " ฉันกลัวว่าจะใส่ชุดเดินแบบไม่ได้ "ยัยแซมมี่ลูบท้องอันแบนราบของตัวเองอย่างพยายามอดกลั้นต่อความหิว " แซมมี่ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้นะ เธอหุ่นดีและมีวินัยออกกำลังขนาดนี้ รูปร่างก็โคตรจะเพอร์เฟค แทบไม่มีไขมันเลย"ฉันส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย ก่อนจะกินต่อหน้าต่อตาแซมมี่ " ดูพุงกับเหนียงฉันสิ เป็นชั้นๆฉันยังกินไม่หยุดปากเลย " ฉันพูดอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ จริงๆนะ ไอ้แอลตัลมันรู้จักฉันดีกว่าใคร แค่ง้อด้วยของกิน ฉันก็หายงอลมันแล้วทุกครั้งไป แต่พอเดินออกมาด้านนอกงาน ฉันก็ถูกเรียกขึ้นอีก " คุณเอวาลีน ดอกไม้ค่ะ " ออการ์ไนซ์ เดินถือช่อดอกไม้ใหญ่สะดุดตาจนคนทั้งงานแอบหันไปมองทางเธอ "จากใครอีก ? " ฉันขมวดคิ้วและหยิบการ์ดขึ้นมาอ่านทันที " จากคุณแอลตัลนะคะ พอดีทางรายการไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาในงาน คุณแอลเลยฝากมาให้แทน " ทีมงานกระซิบเข้าที่ข้างหูของฉัน " แซมมี่ ช่วยถือที " ฉันยื่นช่อดอกไม้ของพอชอะไรนั้นให้แซมมี่ที่ยืนข้างๆ ช่วยถือ "คืนนี้มีวันเกิดฉันนะไม่ลืมใช่ไหม?...แอลตัล" ฉันอ่านโน้ตนั้น " แน่นอนสิ วันเกิดมึงใครจะลืม " ฉันพูดภายในใจ และแบะปากเล็กน้อย " ห้ามโยนทิ้งเด็ดขาด!! เพราะมึงเป็นคนแรกที่ได้ดอกไม้จากกู"มันพูดทิ้งท้ายเหมือนรู้ทัน ถ้ามันส่งดอกไม้มาก่อนแซนด์วิชฉันโยนลงถังขยะหรือไม่ก็เผาทิ้งไปแล้ว ก่อนจะรับช่อดอกไม้ช่อใหม่นี้แทน และเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย " คนแรกงั้นเหรอ? "ฉันแบะปากเล็กน้อยกับการลงทุนงอลของมัน " แฟนส่งมาเหรอ? "แซมมี่เห็นท่าทีของฉันก็เอ่ยแซวๆ "เพื่อนน่ะ ....ถ้าใครได้มันเป็นแฟนนะอกแตกตาย" ฉันพูดออกไปตามความรู้สึกจริงๆ และมองช่อดอกไม้ในมือนั้นของแอลตัล ก่อนจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก และอัพลงไอจี เพื่อให้มันบันทึกวัน เดือน ปี นี้เอาไว้ :))) Evalyn_XL born to be model ss2 23 699 likes300
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD