ขอนอนด้วยคน

1486 Words
สิงห์ขับรถมาเรื่อยๆ เขาไม่ยอมพูดอะไรตั้งแต่ที่อินเอวาก้าวขึ้นรถ หญิงจะรู้สึกประหม่าทำตัวไม่ถูก เอาแต่นั่งเกร็งอยู่ข้างคนขับ พลันชำเลืองมองเขาเป็นระยะ "ฉันขอโทษถ้าฉันพูดอะไรให้คุณไม่พอใจ แต่ว่าเรื่องที่คุณถามฉันเล่าให้ฟังไม่ได้จริงๆ เพราะป้านีกำชับไว้ว่าให้เก็บเป็นความลับก่อน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมทุกคนที่จะรู้เอง เห็นใจฉันเถอะนะคะ" หญิงสาวทำน้ำเสียงออดอ้อน เพราะตอนนี้เธอมีเพียงพ่อเลี้ยงสิงห์เท่านั้นที่ดูเหมือนจะเป็นมิตร "ผมรู้ว่าเรื่องนี้เป็นคำสั่งของคุณแม่คุณถึงไม่อยากพูดอะไร แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็พอจะรู้แล้วว่าคุณเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าที่เมียผมก็ว่าที่เมียพี่เสือนั่นแหละ อ้อ จะว่าไปแล้วพี่เสือรู้เรื่องนี้หรือยัง?" เขาหันขวับมาจ้องมองใบหน้าสวยทันทีที่ขับรถเข้ามาจอดหน้าสำนักงานไร่ ซึ่งด้านหน้ามีเต็นท์คนงานกางอยู่มากกว่ายี่สิบหลัง "เอ่อ... เขาไม่รู้หรอกค่ะ คุณสิงห์อย่าบอกพ่อเลี้ยงเสือนะคะ" "เขาเป็นพี่ชายผม เรื่องอะไรผมจะไม่บอกเขา" สิงห์พูดแล้วจึงเปิดประตูลงจากรถ เขาเดินตรงไปยังโต๊ะไม้ตัวยาวใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ทุกคนกำลังรับประทานมื้อค่ำกันอยู่รวมถึงพ่อเลี้ยงเสือด้วย คนงานก่อกองไฟผิงแก้หนาว กลิ่นควันไฟกลางไอหมอกทำให้รู้สึกอิ่มเอมกับธรรมชาติ อินเอวาไม่คุ้นชินกับบรรยากาศงดงามเช่นนี้ เธอมองเห็นว่าสิงห์เดินตรงไปหาพ่อเลี้ยงเสือที่กำลังนั่งรับประทานมื้อค่ำอยู่กับคนงานคนอื่นๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปขวาง "คุณสิงห์ อย่านะคะ" เสียงห้ามปรามบ่งบอกอารมณ์หวาดระแวง คนงานทุกคนหันมาจ้องมองอินเอวาเป็นตาเดียว รวมถึงพ่อเลี้ยงเสือและนิลลาด้วย พวกคนงานต่างซุบซิบพูดคุยกันราวกับเป็นเรื่องแปลก "เอามาด้วยทำไม?" เสือถามน้องชายเสียงดุ ขณะที่นิลลามองแขกไม่ได้รับเชิญด้วยหางตา แต่บุรุษสองคนซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามพ่อเลี้ยงเสือมองมายังอินเอวาด้วยรอยยิ้ม "เขาขอมาด้วย คุณพ่ออนุญาต" ประโยคท้ายคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ "หึ! ไม่รู้ว่าคุณแม่จะเอาเธอมาไว้ที่ไร่ทำไม ไม่มีประโยชน์" คำพูดของพ่อเลี้ยงเสือทำให้คนงานหลายๆ คนถึงจะอ้าปากค้าง มีเพียงนิลลาที่รู้สึกสะใจ หล่อนคลี่ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าเจ้านายที่ตนแอบหลงรักแสดงออกว่าไม่ชอบอินเอวาเช่นกัน "พี่เสือ ผมว่าพี่พูดเพลาๆ ลงหน่อยก็ดีนะครับ" สิงห์ไม่อยากจะนึกภาพ หากตนบอกพี่ชายเรื่องที่หญิงสาวจะต้องแต่งงานกับใครคนใดคนหนึ่ง เขาคงโวยวายโดยไม่มีเหตุผลทันที "ฉันอิ่มแล้ว มีอะไรจะคุยก็ตามไปที่เต็นท์ของฉัน" สิงห์บอกน้องชาย แล้วจึงลุกเดินฟึดฟัดออกจากโต๊ะอาหารไป นิลลามองตามพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ "คุณอินครับ ช่างพี่เสือเขาเถอะ เดี๋ยวผมแนะนำคนที่คุณควรรู้จัก นี่นิลลาเป็นผู้จัดการไร่ ส่วนสองคนนี้ช้างกับไม้ เป็นผู้จัดการไร่เหมือนกัน ส่วนนี่คุณอิน เธอจะเข้ามาทำงานในไร่ของเรา" สิงห์แนะนำอินเอวาให้ทุกคนรู้จัก "สวัสดีครับคุณอิน" ช้างทักทายด้วยรอยยิ้ม "ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ" ไม้พูดตามหลังด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน มีเพียงนิลลาคนเดียวที่ยังคงนั่งเงียบอยู่ อินเอวาจึงทำเป็นไม่สนใจ "ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเช่นกันค่ะ ว่าแต่ทำไมที่นี่ถึงต้องมีผู้จัดการไร่ตั้งสามคนละคะคุณสิงห์?" "ที่นี่ไร่กว้างใหญ่มาก แบ่งออกเป็นหลายส่วนทั้งไร่ชา ไร่ผักผลไม้แล้วก็ฟาร์มไก่ไข่ ดังนั้นจึงต้องมีผู้จัดการไร่ดูแลในหลายๆ ส่วนครับ" สิงห์อธิบาย "ว่าแต่คุณอินจะเข้ามาทำงานในส่วนไหนของไร่กันครับ" ช้างนึกสงสัยจังเอ่ยถามขึ้น "คุณอินเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณแม่ ดังนั้นเธอจะมาอยู่ที่ไร่และช่วยงานบางส่วนเท่านั้นไม่ได้เฉพาะเจาะจง แต่เดี๋ยวค่อยดูรายละเอียดกันอีกที" เสือเลือกที่จะบอกเช่นนั้น เพราะถึงอย่างไรตนก็คงไม่ประกาศออกไปว่าอินเอวาคือว่าที่นายหญิงของไร่แห่งนี้ หญิงสาวโล่งอก ขณะที่นิลลารู้สึกอิจฉาตาร้อน หล่อนกำมือแน่นและพยายามเก็บอาการริษยานี้ไว้ "ฉันขอไปคุยกับคุณเสือหน่อยนะคะ" อินเอวาบอกสิงห์ เธอยังรู้สึกค้างคาใจที่พ่อเลี้ยงเสือแสดงท่าทีเกลียดชังตนออกนอกหน้า "ตามสบายครับ แต่ถ้าโดนเสือไล่กัดผมช่วยไม่ได้นะ" สิงห์พูดติดตลก เรียกเสียงหัวเราะจากคนงานคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี อินเอวาได้แต่ยิ้มเจื่อน และรีบเดินตรงไปทางที่พ่อเลี้ยงเสือเดินไปก่อนหน้านี้ ขณะที่นิลลาปลีกตัวออกไปโดยไม่มีใครสนใจ หล่อนตั้งใจจะเดินไปหาพ่อเลี้ยงเสือที่เต็นท์ของเขาเช่นกัน "สวยปานนางฟ้านางสวรรค์ขนาดนั้นจะมาทำอะไรในไร่ครับพ่อเลี้ยงสิงห์ แน่ใจนะครับว่าเป็นแค่ลูกสาวของเพื่อนแม่ ไม่ใช่อย่างอื่น?" ไม้เอ่ยแซวเจ้านาย เพราะปกติแล้วไม่เคยมีสาวเมืองกรุงหน้าตาสะสวยระดับดารานักแสดงเข้ามาทำงานในไร่เช่นนี้ และที่สำคัญดูเหมือนพ่อเลี้ยงเสือจะไม่ค่อยชอบหน้าหญิงสาวเสียด้วย "พวกมึงอย่าไปปากดีกับคุณอินเขาก็แล้วกัน เดี๋ยวอยู่ไปก็รู้เองนั่นแหละ เพราะตอนนี้กูยังไม่รู้อะไรเหมือนกัน" "พูดซะเหมือนมีอะไรสักอย่างนะครับพ่อเลี้ยง แต่ก็เอาเถอะ สวยๆ แบบนี้มีไว้ให้มองก็พอได้ชื่นใจ" ช้างพูดติดตลกพลันหัวเราะน้อยๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชื่นชอบผู้หญิงหน้าตาสวย อินเอวาเดินมาจนถึงเต็นท์คนงานที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ เธอเห็นพ่อเลี้ยงเสือนั่งก่อกองไฟอยู่ที่หน้าเต็นท์ของเขาจึงเดินตรงเข้าไปหา หญิงสาวไม่ได้มีเจตนาที่จะมาก่อเรื่อง แต่ที่คุยกันก่อนหน้านี้ว่าจะสงบศึกดูเหมือนจะไม่ได้ผล "พ่อเลี้ยงเสือ ไหนเราคุยกันแล้วไงคะว่าจะลองคุยกันดีๆ ทำไมคุณถึงต้องแสดงท่าทางรังเกียจฉันต่อหน้าคนอื่นขนาดนั้นด้วย" เธอไม่พูดเปล่า ร่างอรชรเดินตรงเข้ามาและทิ้งตัวนั่งลงข้างกายเขา เสือจึงได้กลิ่นกายหอมละมุนของอินเอวา "ฉันก็บอกเธอไปแล้วเหมือนกัน ฉันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจอะไรเธอเลยสักนิด เธอต่างหากที่สำคัญตัวเองผิด" "ถ้าคุณไม่ได้ตั้งแง่อะไรกับฉันก็ช่วยกรุณาหันมามองหน้าฉันแล้วก็ยิ้มให้ฉันด้วย" เสือหันขวับมาจ้องมองใบหน้าสวยทันที แต่ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีมานี้เขาไม่เคยยิ้มให้ใคร และไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าดีมาสั่งให้ตนยิ้มเช่นนี้ มีเพียงยิ้มเดียวที่เขาจะมอบให้ได้คือการยิ้มมุมปากเย้ยหยันก็เท่านั้น "ฉันไม่รู้จักเธอ เธอไม่รู้จักฉัน เราไม่ได้สนิทกัน เพราะฉะนั้นอย่ามาปากดีบอกให้ฉันยิ้มให้เธอ" เสือพูดใส่หน้าอินเอวา ลมหายใจอุ่นเป่ารดดวงหน้างาม หญิงสาวจึงได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ชายหนุ่มดื่มเข้าไป ด้านนิลลาซึ่งยืนหลบมุมแอบมองทั้งสองคุยกันอยู่ หล่อนกำมือแน่นด้วยความริษยาเพราะรับรู้ได้ถึงความสนิทสนมของทั้งสอง เสือไม่เคยพูดจากับหล่อนเช่นนี้ ไม่แม้แต่จะพูดเกินสองสามคำนอกจากสั่งงาน สายตาที่พ่อเลี้ยงเสือมองอินเอวานั้นบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง มันเป็นการสื่อสารผ่านสายตาเย็นชาที่นิลลามองออก ทว่าอินเอวากลับมองเห็นเพียงความเยือกเย็นผ่านแววตาของเสือ เขาไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเช่นนี้มาก่อนเลย "แต่ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้วนี่คะ งั้นเรามาคุยกันดีๆ นะ พรุ่งนี้ฉันขอช่วยคุณเก็บผักแต่เช้านะ" "ตื่นตีห้าให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาบอกว่าจะช่วยเก็บผัก และที่สำคัญมาทำงานก็กรุณาอย่ามาสร้างภาระให้คนอื่น" เขาบอกเสียงแข็ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD