ภารกิจทำให้ตกหลุมรัก

1442 Words
"ค่ะคุณป้า ว่าแต่ทำไมพ่อเลี้ยงเสือถึงต้องออกไปนอนที่ไร่ค่ะ?" "มีสำนักงานใหญ่อีกที่ตั้งอยู่ที่กลางไร่ ช่วงนี้กำลังเร่งเก็บผลผลิตผักส่งห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ในตัวเมือง ตอนเช้าตื่นมาจะได้ทำงานแต่เช้า ไม่ต้องเสียเวลาขับรถออกไปไร่" อินเอวาไม่เคยรู้ว่าแม้แต่เจ้าของไร่ยังต้องทำงานหนักขนาดนี้ เธอจึงเริ่มตระหนักว่าเงินห้าสิบล้านบาทที่เอาไปช่วยเหลือครอบครัวตนนั้นล้วนแล้วแต่มาจากน้ำพักน้ำแรงของคนงานที่นี่ อยู่ๆ ก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาเสียอย่างนั้น "คุณย่าขา น้องดาว..." หนึ่งดาววิ่งออกมาหาคุณย่านีรนาท ทว่าสายตากลับจับจ้องมายังอินเอวาเป็นคนแรก เด็กสาววัยสิบเอ็ดขวบกำลังน่ารักน่าเอ็นดู รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่มีผู้หญิงแปลกหน้ามาที่บ้าน อินเอวาจ้องมองดวงตาคู่สวยของหนึ่งดาว น่าแปลกใจที่มันช่างละม้ายคล้ายกับแววตาของใครคนหนึ่งที่ตนรู้จักดี "น้องดาว นี่อาอิน เรียกอาดีกว่าเนอะ หนูอิน นี่ไงจ๊ะหนึ่งดาว ลูกสาวของพ่อเลี้ยงลูกเสือ" หนึ่งดาวยกมือไหว้ ดวงตาเป็นประกายของเด็กสาวยังคงจ้องมองมายังอินเอวา "สวัสดีค่ะอาอิน" "น้องดาว น่ารักจังเลยลูก ขออาอินกอดได้ไหมคะ?" เธอพูดแล้วจึงเดินตรงไปหาเด็กสาว จากนั้นทั้งสองคนจึงสวมกอดกัน อินเอวารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้มากเหลือเกิน... "น้องดาว ต่อไปนี้อาอินจะมาอยู่กับเราที่บ้านหลังนี้ อาอินจะคอยเป็นเพื่อนและที่ปรึกษาให้กับน้องดาว" คุณนีรนาททำความเข้าใจกับหลานสาว หนึ่งดาวเป็นเด็กดีและรู้ความ เธอฉีกยิ้มดีใจที่มีโอกาสได้รู้จักอินเอวา "ตั้งแต่เกิดมาน้องดาวยังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่สวยเท่าอาอินเลยนะคะ น้องดาวนึกว่าอาอินเป็นดาราซะอีก" เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ ลักษณะนิสัยของหนึ่งดาวแตกต่างจากพ่อเลี้ยงเสืออย่างมาก ทั้งสองคนมีการพูดคุยกันเล็กน้อยเพื่อทำความรู้จักกัน "เดี๋ยวน้องดาวไปช่วยพี่แสงหล้าเขาจัดโต๊ะอาหารมื้อเย็นนะลูก ย่าขอคุยกับอาอินหน่อย" คุณนีรนาทบอกหลานสาว นางมีเรื่องสำคัญต้องทำความเข้าใจกับอินเอวา "ค่ะคุณย่า" หนึ่งดาวลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปอย่างว่าง่าย การช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านเป็นสิ่งที่นางปลูกฝังให้หลานสาวมาตั้งแต่เด็ก "คุณป้าจะคุยเรื่องคุณเสือเหรอคะ?" "ใช่ ตั้งใจฟังป้าให้ดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่หนูอยู่ในบ้านหลังนี้ หนูจะต้องเก็บเรื่องที่จะแต่งงานกับพ่อเลี้ยงเสือเอาไว้เป็นความลับจนกว่าจะครบสองเดือน ป้าอยากให้หนูทำยังไงก็ได้ให้พ่อเลี้ยงเสือเขามีใจให้หนูให้ได้" นางวางแผนมาดิบดีแล้ว เพราะรู้จักนิสัยของบุตรชายเป็นอย่างดีนั่นเอง "มีใจ? มีใจแปลว่าถึงขั้นมีความรักให้เลยหรือเปล่าคะ?" "แค่ทำให้พ่อเลี้ยงเสือเปิดใจได้ก็ถือว่ายากแล้วล่ะลูก" อินเอวาครุ่นคิด มันก็จริงอย่างป้านีรนาทพูด แค่เปิดใจก็ถือว่างานหินแล้ว เพราะพ่อเลี้ยงเสือคงไม่มีทางรักใครง่ายดาย "แล้วหลังจากนั้นล่ะคะคุณป้า?" "หลังจากครบสองเดือนเราจะมาดูกันว่าเป็นยังไง ถ้าหนูทำให้พ่อเลี้ยงเปิดใจหรือว่ารักหนูได้ ตอนนั้นป้าจะให้หนูเป็นคนตัดสินใจว่าหนูอยากแต่งงานกับพ่อเลี้ยงเสือหรือเปล่า" คุณนีรนาทไม่ได้คาดหวังอย่างเต็มร้อย เพราะผลสุดท้ายแล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพ่อเลี้ยงเสือเพียงคนเดียวหากอินเอวาไม่ได้รักบุตรชายของนาง "คุณป้าขา หนูขอพูดความกังวลใจของหนูหน่อยนะคะ" "หนูอินสามารถพูดได้ทุกอย่างเลยลูก อยู่ที่บ้านหลังนี้คิดซะว่าเป็นลูกสาวของป้านะ หนูจะได้ไม่ต้องเกร็งอะไร" "ขอบพระคุณที่กรุณาหนูนะคะ แต่ว่า...ท่าทางพ่อเลี้ยงเสือเขาดุมากนะคะ เขาคงจะไม่มีทางเปิดใจให้ผู้หญิงคนไหนง่ายๆ หนูกลัวว่าจะทำให้คุณป้าผิดหวัง" และเรื่องมันดูยากขึ้นไปอีก เพราะอินเอวาก็ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบพ่อเลี้ยงเสือเลยสักนิด การที่จะทำให้ผู้ชายคนหนึ่งตกหลุมรักโดยที่ตนไม่รู้สึกอะไรนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย "ป้าอยากให้หนูลองพยายามดูก่อน ที่สำคัญไม่ต้องกังวลถึงเรื่องเงินห้าสิบล้านนั่น สุดท้ายแล้วไม่ว่าหนูจะแต่งหรือไม่แต่งกับพ่อเลี้ยงเสือ ป้าก็จะยกหนี้ห้าสิบล้านให้อยู่ดี ขอเพียงแค่ทำให้ชีวิตพ่อเลี้ยงเสือเขามีสีสันบ้าง ให้เขาได้รู้สึกถึงการมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง หรือมีความรู้สึกกับผู้หญิงบ้างก็ยังดี ป้าไม่ได้คาดหวังผลมาก...แต่จริงๆ ก็คาดหวังว่าหนูจะเป็นผู้หญิงที่ทำให้พ่อเลี้ยงเสือเขาอ่อนโยนลงได้" คุณนีรนาทพูดเสียงเบาลงในเรื่องละเอียดอ่อนเช่นเรื่องหนี้สิน "แล้วถ้าถึงวันนั้น สมมติว่าหนูทำให้พ่อเลี้ยงเสือเขารักหนูได้จริงๆ แล้วหนูไม่อยากแต่งงานกับเขาล่ะคะ คุณป้าจะว่าอะไรหรือเปล่าคะ?" เธอเพียงแค่ถามเผื่อไว้ เพราะรู้ดีว่าตนจะไม่มีทางตกหลุมรักผู้ชายสุดแสนเย็นชาเช่นพ่อเลี้ยงเสืออย่างแน่นอน "ไว้หลังจากสองเดือนเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันนะลูก ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก" คุณนีรนาทคลี่ยิ้มแสนเอ็นดูอินเอวา เป็นจังหวะที่พ่อเลี้ยงเสือเดินลงมาจากชั้นสอง "คุยอะไรกันอยู่?" เสียงทุ้มดุดันถามขึ้น "งั้นแม่ขอไปดูก่อนนะว่าอาหารมื้อเย็นใกล้จะเสร็จหรือยัง หนูอินคุยกับพ่อเลี้ยงเสือไปก่อนนะลูก" นางอยากให้ทั้งสองคนมีโอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้น จึงลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องครัว อินเอวาจึงเดินออกมาหาพ่อเลี้ยงหนุ่มซึ่งยืนกอดอกพิงประตูห้องนั่งเล่นอยู่ "คุณจะรอทานมื้อเย็นที่บ้านเหรอคะ?" หญิงสาวหาเรื่องชวนคุย "ไม่ได้ยินที่ถามเหรอ เธอคุยอะไรกับแม่ฉัน?" "คุยเรื่องงาน หมายถึงงานที่ต้องดูแลน้องดาว" "หึ! อยากจะรู้จริงๆ ว่าเธอไปทำท่าไหนคุณแม่ถึงให้เธอมาทำงานที่บ้าน?" เสือยังคงคับข้องใจไม่หาย เรื่องอะไรมารดาถึงยอมให้สาวเมืองกรุงมาทำงานในไร่ในสวนเช่นนี้ เหตุผลที่ว่าให้มาคอยดูแลและเป็นที่ปรึกษาของหนึ่งดาวนั้นฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเหตุผลอะไรคุณถึงได้ตั้งแง่กับฉันเหลือเกิน อาจจะเพราะเรื่องที่คุณเห็นฉันเมาวันนั้น แล้วก็เรื่องที่เรามีปากเสียงกันเล็กน้อยเมื่อวันก่อน แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยนะ เพราะฉะนั้น...จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่เราจะลองพูดคุยกันดีๆ บ้าง" อินเอวามีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพ่อเลี้ยงเสือทุกครั้งที่เจอหน้ากัน จึงยอมกัดฟันเจรจาสงบศึกเสียแต่เนิ่นๆ 'ส่วนเรื่องที่ค้างคาใจกันก่อนหน้านี้ ค่อยหาโอกาสเอาคืนทีหลังก็ไม่สาย' เธอคิดในใจ "เธอสำคัญตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า คิดว่าฉันใส่ใจเรื่องพวกนั้นเกี่ยวกับเธอหรือยังไง?" "ก็ถ้าไม่คิดอะไรก็ช่วยพูดดีๆ กับฉันด้วย ไม่ต้องตะคอกเสียงดังแล้วก็ไม่ต้องทำเสียงดุก็ได้ แถมชอบทำหน้าขี้เก๊กอีกต่างหาก" ว่าให้เขาแล้วจึงทำเมินหน้าหนี เสือไม่อยากต่อปากต่อคำเพราะเกรงว่ามารดาจะได้ยิน "ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร อ้อ แล้วที่จะมาดูแลน้องดาว ก็กรุณาอย่าชักจูงลูกสาวฉันไปในทางที่ไม่ดีก็แล้วกัน ถ้าลูกฉันโตมาแล้วเป็นเหมือนเธอฉันคงรับไม่ได้" อินเอวาอ้าปากกำลังจะเถียงกลับ แต่เสียงแตรรถของผู้มาเยือนกลับดังขึ้นที่หน้าบ้านเสียก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD