ตอน 3

1262 Words
“พี่ฐาทำไมยืนสั่นอย่างกับเจ้าเข้าทรงล่ะคะ” “ส่วนฐากูรฟังให้ดีหลังจากวันนี้นายต้องไปแจ้งกับพ่อแม่ฉันให้ยกขันหมากมาสู่ขอภัทรา” “หะ....หา ว่าไงนะครับ” “ได้ยินไม่ชัดหรือไง” ไม่ใช่แค่ฐากูรหรอกที่ต้องร้องคำว่าหา !! ทั้งเบญจกุลและภัทราต่างตาค้างอ้าปากหวอ ราวกับมีใครเอาไม้ค้ำปากไว้อย่างนั้น “พ่อทำไมพูดแบบนั้นคะ  ภัทรากับพี่ฐาเพิ่งคบหากันได้หกเดือนเองนะคะ อีกอย่างภัทราเองก็ไม่พร้อมจะแต่งงาน งานการภัทรายังไม่ลงมือทำเป็นชิ้นเป็นอันจะให้แต่งงานแล้วหรือคะ”   “หลังจากแต่งงานก็ทำซะ” “ไม่นะค่ะพ่อ” “ภัทราพ่อว่ายังไงก็ตามนั้นอย่าเถียง” “ไม่เถียงไม่ได้หรอกค่ะแม่นี่มันชีวิตภัทรานะคะ” “เราเหลวไหลมาสักพักแล้วเรียนจบโท แทนที่จะรีบเข้าไปทำงานในกระทรวงที่พ่อจัดการไว้ให้ แต่นี่อะไร รอยชาย แถมยังหนีไปร้องเพลงเปลืองเนื้อเปลืองตัวอย่างนั้นอีกพ่อไม่จับขังคุกทหารดีถมไปแล้ว” มารดาสำทับเสียจนภัทรานั่งไม่ติดร้อนดุจไฟเผากาย “ถ้าอย่างนั้นแต่งกับคนที่พ่อกับแม่หาไว้ให้ถ้าไม่แต่งกับนายฐา” ทั้งที่ยังไม่ได้มองใครไว้ให้ลูกสาวแต่เพราะเจ้าตัวดีสร้างเรื่องจนท่านทนไม่ไหว แม้จะหวงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนสักปานใดเรื่องแต่งงานนั้นคิดไว้ท้ายสุดของชีวิตลูกสาวด้วยซ้ำ แต่เมื่อเข้าอีหรอบนี้ การแต่งงานจึงมาก่อนการทำงาน ขืนปล่อยให้ทำอะไรตามอำเภอใจ ได้เดือดร้อนป่องกลางก่อนได้แต่งแน่ เล่นไปเปลืองตัวกับแขกผู้ชายอย่างนั้น ฐากูรลอบยินดีกับคำกล่าวจากปากท่านนายพล เขารึเรื่องแต่งงานกับผู้หญิงไม่เคยบรรจุอยู่ในส่วนรอยหยักของสมอง แม้ภัทราสวยบาดใจ ไร้ที่ติเครื่องหน้าที่จัดได้ว่าราวภาพวาดจากฝีมือจิตรกรเอกหุ่นอรชร ที่เมื่อชายใดได้เห็นเป็นต้องน้ำลายกระเฉาะ เพราะส่วนเว้าส่วนโค้งอันลงตัว ประดุจนางวรรณคดีไทยหลายๆ เรื่อง แต่เขากลับไม่พึงใจยังถวิลหาชีวิตโสดลงตัวที่สุดในขณะนี้ แม้ว่าเวลาควงหญิงสาวเขาจะดั่งเหมือนเจ้าชายได้ควงคู่กับเจ้าหญิงในเทพนิยายไม่ปาน “ไม่นะคะพ่อถ้าจะแต่งจริงๆ ต้องเป็นพี่ฐา” “ภัทรา” เสียงทุ้มฐากูรดังแทรก “หรือพี่ฐาไม่เต็มใจแต่งงานกับภัทราคะ” “เอ่อ...” เขาไม่อาจเผยความรู้สึกที่ฝังลึกในจิตใจได้ ในทางกลับกันยิ่งไม่อาจเอ่ยคำปฏิเสธคำสั่งจากปากท่านนายพลเคร่งวินัยคนนี้ได้ด้วย “กดโทรศัพท์หาพ่อกับแม่นายให้หน่อย” ท่านนายพลส่งโทรศัพท์ไปตรงหน้าชายหนุ่มคู่ควงของบุตรสาว แม้จะควงกันแค่ไม่กี่เดือนสำหรับท่านนายพลถือได้ว่ามากพอสำหรับให้ทั้งคู่แต่งานกันหากภัทรา ยังประพฤตินอกลู่นอกทางเช่นทุกวันนี้ งานการที่ตั้งใจฝากให้ยังไม่สน จนท่านเองต้องบอกบ่ายเบี่ยงกับทางผู้ใหญ่ไม่รู้กี่ครั้ง             หลังจากต่อสายคุยกับบุพการีคนรักของบุตรสาวแล้ว ท่านนายพลรหัตหันมาคุยเป็นการเป็นงานกับหนุ่มสาว โดยให้เบญจกุลร่วมเป็นพยานในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้หนุ่มสาวทั้งสองบิดพลิ้วในการแต่งงานสายฟ้าแลบ             “อย่าลืมพรุ่งนี้พาพ่อกับแม่นายมาสู่ขอภัทรา” กล่าวเสร็จท่านผละจากไปทิ้งให้สามหนุ่มสาวปลงไม่ตกทั้งโดนสั่งห้ามไม่ให้ไปร้องเพลง แถมยังต้องแต่งงานขณะยังไม่พร้อมอีกด้วย นี่มันวัยเลยเบญจเพสมาตั้งปี ไยภัทรายังต้องโดนมรสุมเบญจเพสไม่รู้หยุดหย่อน             “พี่ฐาไม่พูดคัดค้านอะไรบ้างล่ะคะ”             “แหม...ภัทราก็เห็นว่าพี่อ้าปากทันท่านนายพลพ่อของภัทราที่ไหนล่ะ”             “ทำไงภัทรายังไม่อยากแต่ง”             “ว่าไปแล้วพวกแกก็ควงกันไปควงกันมาหลายเดือนไม่น่ามีปัญหาอะไรถ้าต้องแต่งงาน”             “มี” ทั้งคู่ประสานเสียงกันราวกับนัดหมายกันไว้ เบญจกุลถึงกับผงะหงายมองหน้าทั้งสองเหลอหลา หรือว่าสองคนนี้ไม่มีจิตพิศวาสต่อกัน             “ไหนว่าปัญหามาซิเริ่มจากยัยภัทราก่อน” นิ้วเรียวขาวสะอาดเช่นลูกคนมีอันจะกินชี้ไปยังเพื่อนสาวแสนสวย ความจริงเบญจกุลนึกเสียดายภัทราอยู่มากอยากให้ร้องเพลงเรียกแขก เสียดายผลประโยชน์มหาศาล             “ฉันยังอยากร้องเพลงอยากใช้ชีวิตโสดหลังเรียนจบอีกสักพัก อีกอย่างฉันกับพี่ฐาคือยังไม่คิดการณ์ไกลในการคบหากันขนาดนั้น” อีกอย่างฐากูรสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้วไม่เคยแต่เนื้อต้องตัว ดั่งคู่รักอันควรจะแสดงออกต่อกัน ซึ่งจุดนี้ภัทราเสียจริตความเป็นหญิงอยู่มาก ทั้งที่ร่างอรชรสวยสะคราญหาใครเปรียบ แต่ดูเหมือนไม่ดึงดูดฐากูรให้นึกอยากแตะต้องเธอเท่าที่ควร             “ใช่ๆ เอ่อ...ไม่ใช่ฉันไม่รักภัทรานะเว้ย แต่เรายังอยากอยู่แบบนี้ไปก่อน”             “แล้วแกสองคนจะรอดได้ยังไง”             “ยากว่ะ”             “นั่นสิแม่กับพ่อแกทางนั้นก็รู้จักภัทราแล้ว”             “ทำๆไปก่อนเถอะพี่ฐาภัทรารู้ว่าเวลาพ่อโกรธอะไรก็ห้ามไม่ได้”             “หมายความว่าเราต้องแต่งงานกันจริงๆเหรอ”             “พี่ฐาไม่อยากแต่งงานกับภัทราขนาดนั้นเลยหรือคะ”             “มะ...ไม่ใช่อย่างนั้น” จริงๆก็อย่างนั้นแหละเขามีอะไรในใจเยอะแยะที่ปรับตัวเองไม่ได้ แม้จะพยายามคบหากับภัทราหญิงสาวที่จะเปลี่ยนแปลงบางอย่างใจกายในใจเขาได้ แต่จนแล้วจนรอดเวลาไม่อาจช่วยอะไรได้ แม้ความสวยไร้ที่ติของภัทรายังละลายความรู้สึกมากมายในใจเขาไม่ได้เสียที จะให้เขาแต่งงานตอนนี้ไม่เท่ากับทำร้ายภัทราทางอ้อมเลยหรือ             “แล้วภัทราอยากแต่งงานกับพี่ฐาหรือเปล่าล่ะ”             “ก็...ไม่อยากเท่าไหร่อย่าโกรธภัทรานะคะพี่ฐาภัทราพูดตรงเกินไป”             “ไม่โกรธ เอาเป็นว่าพี่คงต้องไปบอกพ่อกับแม่ ตามที่ท่านนายพลพ่อของภัทราขอร้องซะก่อน ความจริงไม่ต้องบอกซะด้วยซ้ำท่านคุยกันเองหมดแล้ว” ฟังได้ชัดเจนทุกหูที่นั่งรวมกันอยู่ในห้องรับแขก คือฝ่ายของฐากูรดีใจมากสำหรับข่าวมงคลแต่งสะใภ้ชาติพันธ์หน่อเนื้อทหารเข้าตระกูลนับว่าเป็นเกียรติแก่วงตระกูลพ่อค้าวาณิชย์อย่างมาก   “ฉันเสียลูกค้าหมดเลยยัยภัทราวีของฉัน” “ฉันจนปัญญาว่ะ” หลังจากนั้นใบหน้าทั้งสามหนุ่มสาวเศร้าสลด ดูไม่จืดตามๆกันก่อนแยกย้ายจากกันไป เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง ส่วนท่านนายพลกับคุณหญิง ลอบยิ้มพอใจสามารถกดดันทั้งตัดแขนขาบุตรสาวจอมซนให้หมดฤทธิ์ด้วยการแต่งงาน จริงๆ แล้วท่านรู้สึกไม่ปกติกับฐากูร ท่าทางคู่รักของบุตรสาวดูเรียบร้อยไปหน่อยบุคลิกดูขัดตาพิลึก ทว่าเมื่อบุตรสาวคบหาเป็นแฟนแล้วย่อมหมายถึงทั้งคู่มีใจให้กันพอจะสมรสกันได้ ครอบครัวฐากูรนั้นจัดได้ว่าอยู่ในระดับสังคมชั้นดีมหาเศรษฐีย่อมๆ แม้ไม่ได้รวยล้นฟ้า ถือได้ว่าสมน้ำสมเนื้อกับตระกูลราชการเช่นประชาบดีอยู่มาก 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD