17 แล้วจะมีผู้ช่วยไปทำไม

1241 Words
“ถ้ามากันครบแล้ว ก็ขอเปิดประชุม” เมื่อทุกคนเข้ามานั่งจนเต็มห้องประชุม ตรงเวลาเป๊ะไม่มีสายสักคน แล้วเสียงทุ้มกังวานของชายหนุ่มที่นั่งหัวโต๊ะตรงตำแหน่งประธานก็ดังขึ้น ส่วนเจนจิราก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารวาระประชุม ดูตั้งอกตั้งใจ สายตาจดจ่อดูจริงจัง อ่านจนหมดทุกบรรทัด แต่ไม่เข้าหัวเธอเลยสักตัวอักษร สายตาลอบชำเลืองมองผู้เข้าร่วมประชุม แต่ก่อนที่นั่งของเธอคือเก้าอี้ตัวแรกซ้ายมือประธาน แต่คราวนี้มีผู้จัดการฝ่ายการตลาดคนใหม่เพิ่งรับเข้ามาไม่เกินสองเดือน ดูท่าทางมีเรื่องงานจะคุยกับประธานมากกว่าเธอ เจนจิราจึงขยับมานั่งข้างนิคฝั่งขวา อาศัยร่างใหญ่โตของอีกฝ่ายช่วยบดบัง ถึงจะเก่งกล้าแค่ไหน แต่ยอมรับว่าเธอยังไม่แกร่งพอจะตีสีหน้า ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ถึงจะรับปากเขาไว้ แต่ก็ปากดีไปอย่างนั้น เอาเข้าจริงก็ทำไม่ได้ ยิ่งช่วงหลังมานี่เจอเจ้านายเมินใส่ เธอก็ยิ่งอยากอยู่ให้ห่างสักล้านปีแสง แต่ด้วยหน้าที่การงาน บางครั้งก็ทำไม่ได้ ยังดีที่เจ้านายก็ไม่เคยเรียกเธอคุยงานสักครั้ง ต่างคนต่างไม่เหมือนเดิม เข้าหน้ากันไม่ติด ตอนนี้อย่าว่าแต่สบตาเลย แค่มองหน้าก็ยังร้อนๆ หนาวๆ ราวกับเจอเจ้าหนี้ก็ไม่ปาน เตวิชญ์เริ่มไล่ซักสอบถามตั้งแต่ผลการดำเนินงานไปจนถึงยอดขาย และปัญหาของแต่ละแผนก จนมาถึงยอดออร์เดอร์จากลูกค้า ซึ่งแต่ละคนก็นำเสนอเต็มที่ บางคนตอบไม่เคลียร์ ประธานก็ไล่บี้หนัก เหงื่อตกไปตามๆ กัน ตั้งแต่เลิกเหล้าหายเมา กลับมาทำงานจริงจัง เตวิชญ์ก็กลายเป็นคนน่าเกรงขาม และน่ากลัวขึ้นอีกสิบเท่า “เจน ติดปัญหาอะไรหรือเปล่า” จู่ๆ เตวิชญ์ก็หันไปถามผู้ช่วยสาว “คะ?” หญิงสาวสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งที่พยายามดึงตัวเองให้อยู่ในห้องประชุมนี้ แต่จิตเธอมันก็ช่างเกเรนัก เถลไถลออกไปไกล จนไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไร “นายวิชญ์ถามว่าเจ๊ติดปัญหาอะไรหรือเปล่า” นิคเห็นหญิงสาวทำหน้างง อดไม่ได้จึงก้มลงกระซิบกระซาบกันสองคน “ไม่มีค่ะ” “งั้นก็ให้ช่างซ่อมบำรุงรีบเข้าไปจัดการแก้ไขเครื่องจักร ตัวไหนที่มีปัญหาก็ให้รายงานเข้ามา สำรวจดูด้วยว่าอายุมันกี่ปีแล้ว บางทีเราอาจจะต้องพิจารณาสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่” สิ้นคำของเตวิชญ์ทุกคนต่างพยักหน้าหงึกหงัก “ปิดประชุม ทุกคนออกไปได้...ยกเว้นเจน อยู่ก่อน” อะไรนะ?...เมื่อกี้เธอฟังผิดหรือเปล่า “เจ๊เป็นไรปะ? ทำไมหน้าซีด” นิคหันมามองหญิงสาว ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ที่ผู้ช่วยสาวเอาแต่เหม่อลอย คราวนี้ก็หน้าซีดเหมือนคนไม่สบาย “ปะ…เปล่า แค่สงสัยว่านายวิชญ์มีไรจะคุยด้วย พอรู้มั้ย” “ผมไม่รู้หรอก เดี๋ยวเจ๊ก็รู้เองแหละ” ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วทุกคนก็ทยอยเดินออกไปจากห้องประชุม ปล่อยให้เจ้านายกับผู้ช่วยสาวได้พูดคุยกันต่อ บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบ เจนจิราหันไปมองเขา ดวงตาไหววูบ ร้อนๆ หนาวๆ สีหน้าเคร่งเครียดวิตกกังวลขึ้นมาทันที พยายามนึกถึงงานที่ดูแล งานไหนที่มีปัญหาจนเจ้านายต้องขอคุยด้วย...ก็ไม่มีนี่นา “ทำไมไม่ถือแฟ้มขึ้นมาเอง” “คะ?” งานไหนอีกล่ะทีนี้ “เมื่อเช้าหายไปไหน ทำไมไม่เอาแฟ้มขึ้นมาเสนอ...รึมีปัญหา?” น้ำเสียงที่คุยกับเธอดูปกติเหมือนเจ้านายคุยกับลูกน้องทั่วไป...คราวนี้เป็นเธอที่ไม่ปกติ เมื่อคิดออกแล้วว่างานไหน มือบีบกันแน่นจนชื้นเหงื่อ...ตายแน่ “เจน...เอ่อ ลงไปตรวจงานที่แปลงหญ้าค่ะ เลยให้เดย์มันถือขึ้นไปเสนอ” เธอชี้แจงให้ฟัง เดือนที่แล้ว เธอหอบเอาแฟ้มงานสำคัญจำเป็นและก็เร่งด่วนขึ้นไปเสนอ ต้องการอธิบายให้เขาฟัง แต่กลับถูกไล่ออกมา สีหน้าเย็นชาของเจ้านายแสดงออกชัดว่าไม่ต้องการเสวนาด้วย เธอรู้ตัวว่าเจ้านายไม่ชอบขี้หน้า และดูไม่ไว้ใจเธอเหมือนเดิม จึงพยายามหลบเลี่ยง แล้วงานเมื่อเช้าก็ไม่ได้เร่งด่วนหรือคอขาดบาดตายอะไร จึงให้ลูกน้องไปจัดการแทน กลับไม่ถูกใจเขาอีก ตกลงเขาต้องการแบบไหนกันแน่ เธอชักจะทำตัวไม่ถูกแล้ว “แล้วมันตอบคำถามฉันได้มั้ยล่ะ” น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้น “เดย์มันรู้เรื่องดีค่ะ เพราะเจนบอกแล้วว่าให้นายวิชญ์เซ็นอะไรบ้าง” “เธอไม่ใช่พนักงานฝึกหัด เป็นถึงผู้ช่วยฉัน เรื่องแค่นี้คงไม่ต้องให้บอกย้ำหลายครั้ง งานอย่าให้ผิดพลาด” “เอ่อ…เดย์ทำงานแทนเจนได้ค่ะ” “ถ้าเดย์มันทำได้ แล้วฉันจะมีผู้ช่วยไปทำไม” สายตากับน้ำเสียงแบบนี้ นี่มันข่มขู่กันชัดๆ “ค่ะ ถ้างานไรที่ต้องคุย เจนจะถือขึ้นไปเอง” “ทุกงาน!” ทุกงาน!...นี่เธอกำลังทำใจและก็หลบหน้าเขาอยู่นะ จะให้เสนอหน้าไปทุกครั้งได้ยังไง อีกอย่างถ้านับทุกงาน เธอมิต้องเดินเข้าออกห้องเขาทั้งวัน ไม่ต้องทำงานทำการอื่นเลยหรือไง ...ไม่!! “หรือมีปัญหา?” รองประธานหนุ่มหรี่ตามองคนตรงหน้า สายตาจ้องจับผิด หากเธอพลาด รับรองได้เจอซองขาวแน่ “คือ...” “หรือที่ทำแบบนี้เพราะเธอจงใจ” “จงใจ?...ไม่ใช่นะคะ เจนไม่ว่างจริงๆ ต้องลงไปตรวจงานที่แปลง” หญิงสาวส่ายหัวรีบตอบปฏิเสธพัลวัน “หึ!..อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะสนใจ บอกเลยมันไม่ได้ผล” “เปล่าคิด เจนบอกแล้วไงคะว่าไม่ว่างถึงให้เดย์มันช่วย” “ถ้าใครทำงานไม่ได้ หรืองานมีปัญหา ฉันก็ไม่คิดจะจ้างไว้ให้เสียเงินเสียเวลาหรอกนะ” “ค่ะ” เธอรับคำเบาๆ ลองคิดตามที่เขาพูด ก็จริง!!...เพราะเธอคือผู้ช่วยมืออาชีพ เคยภาคภูมิใจกับความสามารถนี้ แต่เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคืนนั้น มันทำให้เธอหลงทาง “คราวหน้า...อย่าให้เห็นอีก เรื่องงานก็ส่วนงาน ไม่ต้องเอาเรื่องอื่นมาปะปน หรือถ้าทนไม่ได้ก็ลาออกไป” ลาออกไป!! ริมฝีปากเรียวเม้มแน่น สายตาหลุบต่ำ หัวใจสั่นไหวรุนแรง ทำงานทุ่มเททั้งกายใจมาตลอดห้าปีกลับไม่เห็นความดีกันสักนิด ครั้งนี้ใจเธอป่วยก็แค่ต้องการเวลา แต่เขากลับไม่เข้าใจ ตำหนิเธออย่างไม่ไว้หน้า ใจเหี่ยวแฟบ กระบอกตาร้อนผ่าว น้ำตาทำท่าจะไหล เธอต้องกล้ำกลืนฝืนไว้ แต่ก่อนไม่ใช่คนบ่อน้ำตาตื้น แต่คราวนี้แค่คำพูดไม่กี่คำของเขา กลับมีอิทธิพลทำร้ายจิตใจเธอ เพียงเพราะเขาพูดถูกต้อง หรือเพราะเธอกำลังน้อยใจกันแน่ ไม่สิ...เธอเคยเป็นคนเข้มแข็ง ผ่านมาได้ทุกอย่างด้วยตัวเอง คำพูดของเขาก็แค่บั่นทอนกำลังใจ ไม่ทำให้เธอบาดเจ็บ เลือดไหล หรือต้องขาดใจตายสักหน่อยก็แค่เรื่องขี้ผง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD