31 บีบบังคับ

1175 Words
‘อยู่ไหน ขึ้นมาพบฉันหน่อย’ “เจนอยู่ที่แล็บค่ะ นายวิชญ์มีไรคะ” เธอกรอกเสียงตอบกลับไป มือกำโทรศัพท์แน่นจนชื้นเหงื่อ “มาพบฉันที่ห้อง…เดี๋ยวนี้!!” พูดเสร็จก็วางสายโดยไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ เจนจิราจ้องโทรศัพท์ในมือตาค้าง หัวใจเต้นรัว นี่แค่เสียงยังไม่เจอตัว แล้วถ้าต้องขึ้นไปเผชิญหน้ากัน แค่คิดก็อยากจะลาป่วยเสียเดี๋ยวนี้...ใครก็ได้ช่วยฉันที! ตั้งแต่คืนนั้นที่เธอเมาหนัก แล้วเจ้านายแบกไปส่งบ้าน ก็รู้สึกอับอายจนไม่กล้าสู้หน้าเขา เธอไม่เคยย่างกรายหรือเฉียดเข้าใกล้เตวิชญ์อีกเลย เรียกได้ว่าเข้าหน้าไม่ติดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พอเจ้านายโทรตามให้ไปพบ เธอก็ยิ่งหวาดวิตก กังวล คิดไปสารพัด ร้อนวูบวาบ มวนท้อง เหมือนตอนถูกเรียกขึ้นห้องปกครองครั้งแรก สมัยมัธยมปลายยังไงอย่างงั้น เจนจิราเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ริมฝีปากเรียวเม้มแน่น เกือบห้าโมงเย็น ใกล้ถึงเวลาเลิกงานอยู่แล้วเจ้านายจะเรียกพบทำไม มีปัญหาอะไร ไม่ไปได้ไหม ...ก็ไม่น่าได้ หญิงสาววางมือจากอุปกรณ์ที่กำลังทำงานค้างอยู่ เดินไปสั่งลูกน้องให้จัดการต่อ เสร็จก็หมุนตัวเดินออกจากห้อง ตรงขึ้นชั้นสาม แต่ละย่างก้าวเชื่องช้า สวนทางกับคำสั่งเดี๋ยวนี้ของเจ้านายไกลลิบ พอขึ้นบันไดไปถึงชั้นสาม บริเวณหน้าห้องเงียบกริบ ไร้ผู้คน กวาดตามองไปยังโต๊ะเลขาหน้าห้อง ปกตินิคจะนั่งทำหน้าที่อยู่ตรงนั้นจนเย็น เพื่อเคลียร์งานให้เสร็จในแต่ละวัน ไม่ให้ค้างคา แต่วันนี้กลับว่างเปล่า สายตาเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้อง สิบเจ็ดนาฬิกาห้านาทีได้เวลาเลิกงานพอดี เจนจิราก่นด่าหนุ่มรุ่นน้องในใจ เกิดจะมาเป็นคนตรงต่อเวลาอะไรวันนี้ อยู่เป็นเพื่อนกันสักหน่อยก็ไม่ได้ อย่างน้อยมีบุคคลที่สาม เธอยังพอจะอุ่นใจกว่านี้ ...เอาวะ ไม่อยากมองหน้าเจ้านายก็ไม่ต้องมอง พูดธุระเสร็จก็กลับ...จบ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ ‘ก๊อก ก๊อก’ ‘เข้ามา’ สิ้นเสียงอนุญาต หญิงสาวก็ผลักประตูเปิดเข้าไป เจ้าของห้องยังไม่ทันเอ่ยอะไร เธอก็ถามถึงธุระที่เขาเรียกพบทันที “นายวิชญ์รียกเจนมาพบ มีไรคะ?” เจนจิรายืนนิ่งอยู่กลางห้อง ไม่ยอมขยับเข้าไปใกล้มากกว่านั้น จะว่ากลัวก็ไม่ใช่ จะว่าอายก็ไม่เชิง ระยะห่างเท่านี้แหละกำลังดี เขาจะได้ไม่มากล่าวหาเธอว่าอยากเป็นสะใภ้เล็กอีก ใบหน้าสาวแดงระเรื่อเมื่อเผลอสบตาเจ้านาย ก่อนจะรีบเมินหน้าหนี รู้สึกกระดากอายวีรกรรมที่ตัวเองก่อไว้ เมาหนักจนเดือดร้อนเขาต้องอุ้มไปส่งถึงบ้าน เตวิชญ์เหลือบตาขึ้นมองลูกน้องสาว ที่ยืนห่างไปเป็นโยชน์ กำลังยืนก้มหน้าหลบตา จะคุยด้วยก็คงต้องตะโกนถึงจะได้ยิน แล้วมันจะรู้เรื่องกันไหม “ขยับเข้ามา ฉันขี้เกียจตะโกนคุย” “นายวิชญ์ไม่ต้องตะโกนเจนก็ได้ยินค่ะ พูดมาได้เลย” “ฉันบอกให้ขยับเข้ามา” เห็นท่าทางไม่อยากเข้าใกล้ เหมือนรังเกียจของลูกน้องสาว เตวิชญ์ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ “...” “เจน” “ค่ะ” เธอยอมขยับเข้าไป แต่ยังทิ้งระยะห่างพอสมควร “นายวิชญ์มีไรก็ว่ามาเลยค่ะ” “ไปบอกป๊า ว่าเธอจะไม่ไปช่วยงานที่ฟาร์มโคนม” เสียงเข้มออกคำสั่ง ทำเอาเธอชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตาเจ้านาย สายตาแข็งกร้าวจ้องประสานมา ไม่มีท่าทีว่ากำลังพูดเล่น “เรื่องนี้ เจนรับปากนายใหญ่ไปแล้ว” “รับปากได้ ก็ยกเลิกได้” “เจนไม่กล้าพูดหรอกค่ะ” “ฉันสั่ง” “แต่...” “เจน!...ใครเป็นเจ้านายเธอ” สายตาเยือกเย็นกดดัน หากคำตอบไม่พอใจ งานนี้เธอโดนหนักแน่ เจนจิราอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง มือบีบกันแน่นจนชื้นเหงื่อ ยิ่งสบตาคมดุคู่นี้ ที่ไม่เหมือนเจ้านายคนเดิม ก็ยิ่งน่ากลัว อยากวิ่งหนีไปให้ไกล แต่ก็ทำไม่ได้ ...เย็นไว้เจน เธอต้องไม่ยอมให้เขาข่มขู่เด็ดขาด แต่ก่อนเคยคุยกันด้วยเหตุผล ถึงคราวนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจ้านายจะไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็ควรจะรับฟังเธอบ้าง อยากรู้จริงๆ ว่าใครกันที่เคยพูดว่า อยู่ใกล้ชิดเจ้านาย แล้วคุณจะรู้สึกอบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์ยามเช้า ถ้าถามเธอตอนนี้บอกได้เลยว่าร้อน...ร้อนรุ่ม ร้อนจนแสบเหมือนอยู่ในกองไฟต่างหาก “แล้วทำไมนายวิชญ์ ไม่บอกนายใหญ่เองคะ” เธอโต้กลับเสียงเบา ท่าทียังกล้าๆ กลัวๆ “ฉันสั่งให้เธอพูด…เธอก็ต้องเป็นคนพูด!” “เจนทำอย่างนั้นไม่ได้” “เจน!!” “ถ้านายวิชญ์ไม่มีไรแล้ว เจนขอตัวนะคะ เพราะนี่ก็เลยเวลาเลิกงานแล้ว” จะให้เธอพูดจากลับไปกลับมาเป็นคนไม่มีสัจจะ เธอทำไม่ได้หรอก สาครจะมองเธอเป็นคนยังไง ที่พูดจากลับกลอกเชื่อถือไม่ได้ คุยกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว ยังเปลี่ยนใจ ในสายตาผู้ใหญ่เธอคงจะกลายเป็นคนไม่สู้งาน เหลาะแหละ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ...หมดกันความดีที่สะสมมาเป็นอันต้องเสียไป เพราะเขาคนเดียว...เธอไม่ทำเด็ดขาด!! ร่างบางหมุนตัวหันหลังให้ทันที ไม่อยากเสวนาต่อ แต่ขายังไม่ทันก้าว ก็ถูกกระชากแขนเต็มแรง จนร่างเซถลาเข้าไปหาเขา “โอ๊ย!!” เจนจิราร้องขึ้นด้วยความตกใจ และรู้สึกเจ็บแปลบ เมื่อไหล่กระแทกเข้ากับแผ่นอกแข็งกระด้าง “นายวิชญ์!!” “เธอจะพูด หรือไม่พูด!!” ใบหน้าเตวิชญ์อยู่ห่างเธอไม่ถึงคืบ สายตาดุดันจ้องนิ่ง เจนจิราต้องเบือนหน้าหนี มือไม้เย็นเฉียบ ขาก็สั่น อย่าบอกนะว่าเธอกำลังกลัวเขา “ไม่...” ปากเผยอค้างเอ่ยได้แค่นั้น เมื่อใบหน้าคมก้มลงมากระแทกปิดปาก ไม่ให้หญิงสาวได้มีโอกาสปฏิเสธ ริมฝีปากแนบสนิท บดขยี้จูบหนักหน่วง ดุดัน หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบ มือใหญ่ก็เอื้อมมาจับท้ายทอยเธอไว้ บังคับให้รับจูบจากเขา มือเล็กยกขึ้นผลักอกหนา แต่ราวกับกำแพงใหญ่ไม่มีไหวติง “อืออออ อ่อยยยย” ยิ่งเธอขัดขืน เขาก็ยิ่งบีบบังคับให้เธอรับจูบเขา ริมฝีปากหนาขบเม้มปากเรียวบาง บังคับเธอให้เปิดปากปล่อยให้ลิ้นหนาแทรกเข้าไป บดขยี้จูบ “อย่าให้ฉันต้องบังคับ” “นะ...นายวิชญ์ ปล่อยเจนนะ ไหนบอกว่าจะไม่ยุ่งกับเจนอีกไง แล้ว...” “ฉันบอกตอนไหน” “นายวิชญ์!!” “ไปบอกป๊า ว่าเธอไม่ไปช่วยแล้ว” “ไม่ค่ะ” “เจน! เธอกล้าท้าทายฉันเหรอ” “เปล่า แต่เจนรับปากไปแล้ว” “ถ้าเธอยังดึงดันจะไปช่วยงานที่ฟาร์มโคนม ได้เจอดีแน่!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD