29 ไม่อยากสนใจอยู่แล้ว

1235 Words
...คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ในเมื่อเตวิชญ์ใจดีอาสาไปส่ง เจ้านายที่ดีก็ต้องคอยสอดส่องดูแลลูกน้องอยู่แล้ว เดย์บอกตัวเอง อารมณ์อยากดื่มเหล้าต่อ ผนวกกับไม่อยากมีเรื่องกับเจ้านาย ขนาดขันอาสาจะไปส่ง ยังโดนเชือดด้วยสายตา และถ้ายังดึงดัน คราวนี้โดนหนักแน่... เอาวะ ในเมื่อเจ้านายรับอาสาไปส่ง ก็อย่าไปขัดเลย ดีเหมือนกัน เพราะยังไงเตวิชญ์กับลูกพี่ก็สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก รับรองปลอดภัยหายห่วง ไว้ใจได้มากกว่าทุกคนที่นั่งสลอนกันอยู่ที่นี่ “เดี๋ยวฉันไปส่งเจนเอง” เตวิชญ์พูดขึ้นอีกครั้ง ยืนยันจะไปส่งลูกน้องสาว “ครับ” คราวนี้ทุกเสียง ประสานตอบรับพร้อมกัน เดย์ขยับตัว ลุกขึ้นยืนพรวดพราด ทำท่าจะเข้าไปประคองลูกพี่สาวที่ฟุบหลับอยู่ข้างๆ ไปส่งที่รถยนต์เจ้านาย แต่เตวิชญ์กลับยกมือขึ้นห้าม “ไม่ต้อง! เดี๋ยวฉันพยุงไปเอง พวกแกกินต่อเถอะ” เตวิชญ์ขยับเข้าไปใกล้ จับร่างหญิงสาวเขย่าเบาๆ แต่เจนจิราเพียงส่งเสียงอืออาในลำคอไม่ยอมลุก เจ้านายหนุ่มจึงก้มลงไปช่วยประคอง แต่หญิงสาวเมาหนัก ร่างอ่อนปวกเปียก โงนเงนไปมาราวกับไร้กระดูก ทำท่าจะรูดลงไปกองกับพื้น “อืออออ…อย่ายุ่งน่า จานอนนน…” เสียงบ่นงึมงำ ขัดใจดังมาจากปากคนเมา ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างเอือมระอาอยากจะฟาดสักเผี๊ยะ รู้ว่าไม่ไหวก็ยังดื่มจนเมา ร่างสูงโน้มตัวลงไป และตวัดแขนช้อนเข้าที่ขาพับหญิงสาว ยกขึ้นอุ้มราวกับร่างไร้น้ำหนัก แล้วเดินตัวปลิวตรงไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน สมาชิกรอบโต๊ะอ้าปากค้าง เมื่อเห็นเจ้านายอุ้มผู้ช่วยสาวไปต่อหน้าต่อตา ท่าเหมือนเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเข้าห้องหอ นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าทั้งคู่สนิทกันจนเป็นเรื่องปกติ และเจนจิราไม่เคยแสดงออกว่าชอบผู้ชายคนไหน ก็อดคิดไม่ได้ว่า มันต้องมีอะไรในกอไผ่ แต่ทุกคนรู้จักเจนจิราดี พอๆ กับเจ้านาย รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็แค่เรื่องน่าแปลกใจเท่านั้น ไม่นานทุกคนก็หมดความสนใจ และหันมาดื่มกินกันต่อ โดยไม่มีทีท่าจะจบลง จนกว่าจะล่วงเข้าสู่วันใหม่ “ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงปวดหัวมั้ยล่ะเอ็ง” เสียงทักดังขึ้นเหนือศีรษะ เจนจิรากระพริบตาถี่ๆ หลายครั้ง เพื่อปรับสายตาให้คุ้นกับแสงเจิดจ้า มือยกขึ้นกุมขมับ ปวดหัวแทบระเบิด...แฮงค์ บอกได้คำเดียวว่าแฮงค์หนักมาก “ลุง มาปลุกไรแต่เช้า คนจะนอน” คอแห้งเป็นผง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ฟังแทบไม่รู้เรื่อง พอเบิกตาเต็มที่ก็เห็นลุงมิ่งยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างโซฟา สีหน้าบูดบึ้ง “เช้าอะไร นี่มันสายแล้วโว้ย” “อ้าวเหรอ ทำไมเหมือนเพิ่งนอนเอง ขออีกหน่อยละกัน...ฮือ...ปวดหัวชะมัด” มือบีบคลึงขมับไปมาสีหน้าเหยเก “สมน้ำหน้า แล้วนึกยังไงไปกินเหล้าจนเมา” “ก็...เงินเดือนออก อยากจะฉลองมั่งดิ ทีลุงยังกินจนเมา เจนตามไปหิ้วกลับบ้านตั้งหลายครั้ง ไม่เห็นเคยบ่นนี่แค่ครั้งเดียวเอง” “ครั้งเดียว!! แต่เอ็งเป็นผู้หญิงนะโว้ย เมาเละขนาดนี้...แล้วผู้ชายที่ไหนมันจะมามอง หมดกันค่าสินสอด นึกว่าจะพอได้ค่าน้ำร้อนน้ำชามั่ง” “เดี๋ยวนะ!...ก่อนจะคิดถึงค่าสินสอด ถามก่อนมีแฟนมั้ย” “ก็เป็นซะแบบนี้ ใครมันจะชอบ” “ไม่ชอบก็ไม่ต้องชอบสิ ไม่เห็นจะสน” ปากเล็กขยับขึ้นลงเถียงข้างๆ คูๆ ไม่อยากสนใจอยู่แล้ว อยู่ใครอยู่มันไปเลยยิ่งดี ...เอ๊ะ!! แล้วจะไปนึกถึงเขาทำไม “เออไม่สน แล้วถ้าไม่มีข้าสักคน เอ็งจะอยู่กับใคร” “อยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นจะเดือดร้อน” “ข้าถามจริงๆ เหอะ” ท่าทางของลุงมิ่งดูจริงจัง มือยกขึ้นกอดอก จ้องหน้าหลานสาว “ไร?” “ไม่มีใครถูกใจเอ็งมั่งเลยเหรอวะ” “ถามทำไม” “ก็ถ้ามี ข้านี่แหละจะไปสู่ขอมันให้” “ลุงมิ่ง!!” “ก็ข้าไม่กล้ารอให้ผู้ชายมาขอเอ็งน่ะสิ กลัวมันจะเปลี่ยนใจ” “หึ!...ฉันสวยขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องง้อผู้ชาย” “สวยตรงไหน บอกข้าดิ หน้าตาก็พอเข้าวัดเข้าวาได้อยู่หรอก ดีที่ขาวหน่อย แต่แห้งยังกะตะเกียบ แล้วนิสัยก็กระโดกกระเดก แต่งเนื้อแต่งตัวดูไม่ได้” เมื่อเห็นสภาพเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ของหลานสาว ไม่เจริญหูเจริญตาด้วยประการทั้งปวง “ลุงจ๋า...นี่หลานตัวเองนะ ชมกันนิดนึง เสื้อผ้าไม่ใช่ประเด็น เค้าดูกันที่จิตใจจ้า แล้วที่บอกว่ากระโดกกระเดก ไม่ใช่นะจ๊ะ เขาเรียกว่าผู้หญิงแกร่ง โปรดเข้าใจให้ถูกต้อง” “หึ!...แม่หญิงแกร่ง” สำเนียงประชด เรียกเสียงหัวเราะหลานสาวได้ทันที “แล้วไม่ดีตรงไหน เก่งแบบนี้ไง จะได้เอาตัวรอด...” คนพูดชะงัก เอาตัวรอดอย่างนั้นหรือ แล้วที่เธอเสียทีให้เจ้านายไป เรียกว่าเอาตัวไม่รอดหรือเปล่า...ไม่ใช่สักหน่อย นั่นมันเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ไม่ตั้งใจ! “เออ! รู้ว่าเอ็งเก่ง แต่จะให้ดีก็หัดทำตัวหวานๆ น่ารักอย่างสาวๆ เค้ามั่ง เผื่อจะไปเข้าตาผู้ชายดีๆ สักคน...หรือว่าเอ็งไม่ชอบผู้ชาย อย่างที่เค้าลือกันวะ” ลุงมิ่งคงลืมไปแล้วว่าเลี้ยงมาเองกับมือ สั่งสอนแต่ละอย่างเพื่อไม่ให้ใครมารังแกหลานสาวได้ แล้วเธอจะเอาความอ่อนหวานมาจากไหน สายตาจริงจังจับอยู่ที่ใบหน้าหลานสาว ปีนี้เจนจิราอายุย่างเข้าปีที่ยี่สิบเจ็ด แต่ไม่เคยมีแฟน หรือมีผู้ชายหน้าไหนเข้ามาจีบ เคยดีใจว่าหลานสาวเป็นเด็กดี ทำตัวอยู่ในลู่ในทาง เอาการเอางาน แต่พอถึงตอนนี้กลับรู้สึกเป็นห่วง อย่างน้องก็อยากเห็นหลานสาวมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝา จะได้นอนตายตาหลับ “ไร้สาระอะลุง ไอ้พวกนั้นมันก็ลือมั่วๆ” “อย่าว่าแต่พวกมันเลย เป็นข้าก็คิด” “เจนไม่ได้ชอบผู้หญิง” “เออแล้วไป...อย่าน้อยข้าก็ยังพอมีหวัง สินสอดสักหมื่นสองหมื่นก็ยังดีวะ” “ลุง! หมื่นสองหมื่นนั่นค่าสินสอดหรือเงินเดือน” “ก็ถ้าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันไม่มีตังค์จริงๆ ข้าก็จะยกเอ็งให้ฟรีๆ ไปเลย ถ้ามันเอา” คำว่าฟรีกระแทกใจอย่างแรง ใบหน้าสาวเจื่อนลง ใจกระหวัดไปคิดถึงคืนนั้น...ไม่ฟรี! เขาจ่ายค่าตัวให้ และไม่ใช่น้อย มากกว่าที่ลุงเธอบอกตั้งสิบเท่า แต่ทำไมพอได้ยินคำว่าฟรี กลับรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา “เจนไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่เป็นเพื่อนลุงแบบนี้แหละ” “ไม่ได้หรอก เผื่อวันข้างหน้าข้าไม่อยู่ แล้วเอ็งจะอยู่กับใคร ยังไงก็มองๆ ไว้มั่ง รักใครชอบใคร” “เจน…ยังไม่ชอบใคร” ปลายเสียงแผ่วลง ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเท่าใดนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD