“ไม่เป็นไรหรอกเจ๊...เดี๋ยวนายวิชญ์ก็คงหายโกรธแหละ นายใจดีจะตาย” คำพูดของนิคก็แค่คำปลอบใจ เธอรู้ดี
“อื้อ แล้วยังไง พรุ่งนี้นายวิชญ์จะเข้าไปมั้ย”
“เออ...ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกัน แต่จะพยายาม”
“งั้นฝากด้วยละกัน ฉันกลับล่ะ”
“ครับผม”
“ลูกพี่รอด้วย” เดย์กระดกเหล้าเข้าปากหมดแก้ว เมื่อเห็นลูกพี่สาวขยับตัว ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามลูกพี่ออกไป
“แกจะไปไหน”
“กลับพร้อมลูกพี่ไง”
“ไม่ต้อง แกจะกลับทำไม อยู่กินกับพวกนั้นไปดิ”
“ไม่เป็นไรผมกลับดีกว่า”
“แกอยากอยู่ต่อก็อยู่ไปเหอะ แต่อย่ากลับดึกนักล่ะ” เจนจิราพูดเพราะรู้ใจเดย์ดี รู้ว่ามันคงอยากอยู่ต่อ จึงไล่ให้ไปนั่งกับเพื่อนๆ
ส่วนเธอก็หมุนตัวเดินตรงไปยังหน้าบ้าน คิดว่าจะมาพูดคุยตกลงกับเจ้านายดีๆ สุดท้ายเละ และคงจะถูกเจ้านายหมายหัวอีกนาน แค่คิดก็อยากเอาหัวโขกกำแพงให้หายซ่า เป็นไงล่ะพร้อมบวกดีนัก สาสมใจเลยทีนี้
“สวัสดีครับเจ๊ มาแต่เช้าเลยนะ” นิคเอ่ยทักพร้อมส่งยิ้มกว้างให้ผู้ช่วยสาว ที่กำลังเดินตรงเข้ามา
“อืม...หวัดดี” เจนจิราเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะ สีหน้ายับยู่ยี่ ไม่สบอารมณ์
“เป็นอะไรเจ๊ ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้ายุ่งแต่เช้า”
“ฉันน่ะสบายดี แกนั่นแหละ โต๊ะมีก็ไม่ค่อยนั่งนะ ชอบเร่ร่อนเป็นผีไม่มีศาล”
นิคยิ้มแห้งๆ เมื่อโดนเล่นแต่เช้า ไม่ใช่ไม่ชอบนั่งโต๊ะ งานเข้าทุกวันเหมือนกัน บางครั้งต้องไปตามงานแต่ละแผนก หรือบางทีทำไรไม่ถูกใจ พาลขัดหูขัดตาเจ้านาย ก็ถูกไล่ให้ไปไกลๆ ถึงต้องแว้บไปมาเหมือนนินจาอยู่เรื่อย
“คนมันธุระเยอะครับเจ๊ แล้วนี่มาแต่เช้า...มีไรให้นิค รับใช้ครับผม”
นิคจ้องหน้าหญิงสาว ก่อนจะเปิดยิ้มกว้างให้อย่างมีไมตรี รุ่นพี่สาวทำงานร่วมกันมาเกือบห้าปี สำหรับเขาคือห้าปีที่ทำงานที่แสงสุขฟาร์ม แต่สำหรับหญิงสาวตรงหน้าคงจะนานมาก เพราะเคยได้ยินเจ้านายบอก หากมีอะไรสงสัยก็ให้ถามเจนจิรา เพราะเธอรู้ดี และอยู่ที่นี่มานาน รู้ทุกเรื่อง ทุกอย่าง
เจอกันครั้งแรก เขาเห็นเจนจิรายืนสั่งการและคุมคนงานลงแปลงหญ้า เสียงดังกังวาน เด็ดขาด ขัดกับรูปร่างตัวผอมบางเล็ก ในใจรู้สึกทึ่งความเก่งกาจ และแข็งแกร่งของเธอ ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะทำงานกลางแจ้งแบบนี้ ถ้าไม่กลัวผิวเสีย ก็กลัวเหนื่อย งานหนักเกินไป
แต่พอเธอเปิดหมวกเปิดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นใบหน้าชัดๆ เขาก็ถึงกับตกตะลึง ใบหน้าขาวใสไร้การแต่งแต้มใดๆ ความงามระดับดาวมหาวิทยาลัย สวยหวานกระแทกใจอย่างแรง นี่มันเทพธิดาจำแลงลงมาชัดๆ
ยอมรับว่าแอบสนใจสาวสวยคนนี้มิใช่น้อย แต่พอได้ร่วมงานกันนานวันเข้าถึงรู้ว่า สาวเก่งและแกร่งคนนี้ ไม่เคยชายตาแลมองผู้ชายคนไหน ห้าปีที่เฝ้ามอง เธอไม่เคยสนใจใครนอกจากเรื่องงาน มีหนุ่มๆ ใจกล้าบางคนเทียวมาจีบ ก็ต้องแตกกระเจิงกลับไป เมื่อสาวเจ้าไม่เล่นด้วย
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงโจษจันกันหนาหูว่า เธอไม่ชอบผู้ชาย น่าเสียดายความสวยชะมัด อยากจะชวนมาลองเปิดใจคบกันดู แต่อย่าดีกว่า ผู้หญิงอะไรฉลาดรู้เท่าทันไปหมด และที่สำคัญฝีมือหมัดมวยของเธอก็ไม่ธรรมดา สามารถล้มผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์ได้ มีแต่หน้าตาอ่อนหวานเท่านั้นแหละที่หลอกตบตาคนอื่น
“นายวิชญ์อยู่มั้ย”
“อยู่ครับผม” นิคพยักหน้าบุ้ยใบ้ไปทางหน้าประตูห้อง ให้รู้ว่าเจ้านายอยู่ในนั้น
“อยู่? แล้วทำไมโทรมาไม่รับสาย”
“เอ๊า...ไม่รู้เหมือนกันแหะ เมื่อเช้าเข้าไปเสนอแฟ้ม นายวิชญ์ก็เซ็นออกมาแล้วนะ ไม่ได้มีไร...ดูเงียบๆ ไม่ได้รมณ์เสีย เจ๊จะเข้าไปคุยกับนายเลยมั้ยล่ะ”
“อือ” เจนจิราพยักหน้า ในใจยังคุกรุ่นที่เขาไม่ยอมรับสาย ถ้าไม่มีเรื่องด่วนเธอก็คงไม่โทรรบกวนหรอก นี่อะไร งานการทิ้งหมด
ตกลงยังอกหักไม่เสร็จอีกใช่มั้ย
“นายวิชญ์ครับ เจ๊...เอ๊ย!...ผู้ช่วยเจนมาขอพบครับ”
‘มีอะไร’ เสียงตอบรับดังมาจากเครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานเลขาหนุ่ม ชัดเลย!...เขาอยู่ แต่ตั้งใจไม่รับสายเธอ เจนจิราได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มันน่านัก เจ้านายก็เจ้านายเถอะ
“งานด่วน! ไม่ทราบว่าเจ้านายจะให้พบมั้ย…คะ” เธอกรอกเสียงแทรกลงไป น้ำเสียงประชดประชันจนรู้สึกได้
‘เข้ามา’
ก็แค่นั้น อะไรจะติดต่อยากติดต่อเย็นเหลือเกินเจ้านายที่รัก
“เชิญครับเจ๊ ว่าแต่ผมต้องเข้าไปด้วยมั้ย” นิคเย้ารุ่นพี่สาว เพื่อให้คลายโทสะลง เดี๋ยวจะเข้าไปบวกกับเจ้านายต่อ คดีเก่ายังไม่เคลียร์กลัวจะสร้างคดีใหม่ขึ้นอีก
“เออ!! จะเข้าไปฟังด้วยกันมั้ยล่ะ ปัญหาเรื่องส่งของให้ลูกค้าไม่ครบ”
“อุ๊ย!!...ไม่ดีกว่าเนอะ” นิคถึงกับสะดุ้ง เรื่องออเดอร์ลูกค้ารายหนึ่งรายเดียวในประวัติศาสตร์ของแสงสุขฟาร์ม มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดล้วนๆ แค่สื่อสารไม่ตรงกัน...ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดสักนิด
“หึ!…คราวนี้จะได้คุยกันชัดๆ ตอนไม่เมา”
โดนอีกดอก ช่างขยี้เก่งเหลือเกิน สวยซาดิสก์ชะมัด “ไม่คร้าบเจ๊...ตามสบายเลย เชิญครับเชิญ” นิครีบเดินนำไปที่ประตู เชื้อเชิญเข้าห้องเจ้านายอย่างไว
‘ก๊อก ก๊อก’
เจนจิรายกมือขึ้นเคาะประตู ก่อนจะผลักเปิด ในมือหอบแฟ้มเอกสารตรงเข้าไปหาเจ้านายที่โต๊ะใหญ่กลางห้อง กางแฟ้มออกให้เห็นงานสำคัญที่เธอจำเป็นต้องขึ้นมาพบเขา
“นี่ค่ะ อินวอยซ์ส่งของให้ลูกค้าต้องเซ็นใหม่”
“ทำไม?” เตวิชญ์สีหน้ายุ่ง ตวัดสายตามองเอกสารเจ้าปัญหา ที่ลูกน้องสาวกางออกให้ดู
ทำไม...นี่เธอรายงานเข้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อย่าบอกนะว่ายังไม่เปิดอีเมลล์ดู อยากจะบ้าตาย ทำงานร่วมกันมาตั้งนาน เตวิชญ์ไม่เคยทิ้งงานทิ้งการแบบนี้มาก่อน นี่ใช่ไหมอาการข้างเคียงของคนอกหัก
...เละตุ้มเป้ะ
“เจนส่งรายงานขึ้นมาให้แล้วเมื่อวาน”
“อือ...แล้วไง”
“นายวิชญ์อ่านดูหรือยัง”
“ยัง มีไรเธอก็ว่ามาสิ”
โอ๊ย!!...ทำไมเธอต้องมาทำงานซ้ำซ้อน ซ้ำซากหลายครั้ง มันเหนื่อยนะโว้ยยย
“เราส่งของให้ลูกค้าไม่ครบตามที่ออเดอร์มา แล้วเจ้านี้ก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ เจนต้องยกเลิกและออกเอกสารใหม่ ถ้าเจ้านายเซ็นเรียบร้อย จะได้ส่งของไปตามจำนวน”
“อือ” เตวิชญ์จรดปลายปากกาเซ็นโดยไม่อ่าน เสร็จในเวลาอันรวดเร็ว
“นายวิชญ์...ไม่อ่านก่อนเหรอ”
“ไม่”