วิธีการใช้เตาหลอมโอสถก็ง่ายดายอย่างมาก เพียงแค่ส่งลมปราณเข้าไปในเตาหลอม มันก็จะแปลงลมปราณให้เป็นเพลิงปราณสําหรับการหลอมโอสถให้เอง
ทว่าสำหรับวิธีการที่ลั่วชิงอีกำลังทำอยู่นั้น นางกําลังใช้ลมปราณชักนําเพลิงจากพิภพซึ่งเป็นเพลิงปราณธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์มากกว่าเพลิงปราณทั่วไป
เพลิงปราณยิ่งถ้ามีความบริสุทธิ์มาก ก็จะช่วยให้การหลอมโอสถมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมันยังมีผลกับความบริสุทธิ์ของเม็ดโอสถหลังจากการหลอมโอสถอีกด้วย
ความบริสุทธิ์ของโอสถนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากจะให้เทียบระหว่างโอสถลมปราณระดับต่ำ 2 เม็ด โดยที่เม็ดแรกมีความบริสุทธิ์ 10 ส่วน กับ โอสถลมปราณเม็ดที่สองที่มีความบริสุทธิ์ 5 ส่วน แม้จะต่างกันแค่ครึ่งเดียว แต่ถ้านําไปใช้จริง โอสถที่มีความบริสุทธิ์ 10 ส่วน จะทำให้ผู้ที่ดูดซับลมปราณจากโอสถได้รับประโยชน์ทั้งหมดโดยไม่มีผลเสียหรือสิ่งตกค้างใดๆ ในร่างกายของผู้ใช้ แต่ถ้าสำหรับโอสถที่มีความบริสุทธิ์ 5 ส่วน ต่อให้ใช้เป็น 10 เม็ด ก็ไม่ได้รับผลประโยชน์จากโอสถเท่าที่ควร ซ้ำร้ายยังเป็นผลเสียต่อร่างกายอย่างยิ่งยวด
วิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม ลั่วชิงอีก็หลอมโอสถชุดแรกได้สำเร็จ โดย 1 ชุดโอสถนั้นจะมีเม็ดโอสถอยู่ 3 เม็ด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว นักปรุงโอสถจะหลอมโอสถได้ครั้งละหนึ่งเม็ดโอสถเท่านั้น ทว่าสำหรับเซียนโอสถผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนเซ๊ยนเช่นลั่วชิงอีย่อมต้องแตกต่างจากคนทั่วไปอยู่แล้ว
แต่สำหรับการหลอมโอสถในครั้งนี้ของลั่วชิงอีนั้นทุลักทุเลอย่างมาก เนื่องจากการหลอมโอสถนั้นจะต้องใช้ลมปราณอย่างมากพอสมควรในการหลอมโอสถในแต่ละครั้ง
ทว่าสำหรับลั่วชิงอีที่อยู่เพียงขอบเขตลมปราณสามัญขั้นที่ 4 การที่นางสามารถหลอมโอสถออกมาได้ นับว่าปาฏิหาริย์อย่างมากแล้ว
ต่อให้เป็นนักปรุงโอสถคนอื่นต่อให้พวกเขาจะมีลมปราณขั้นรวมปราณ ทว่าถ้าหากพวกเขาจะหลอมโอสถลมปราณระดับต่ำ แม้จะหลอมโอสถสัก 1, 000 ครั้ง โอกาสสำเร็จของพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะถึง 10 ครั้ง หรือไม่?
แต่สําหรับลั่วชิงอีที่เป็นถึงเซียนโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนเซียน ต่อให้นางจะหลับตาหลอมโอสถแบบไม่ตั้งใจ นางก็สามารถหลอมโอสถได้สำเร็จโดยไม่ล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว
“ความบริสุทธิ์เพียง 9 ส่วน ฝีมือข้าตกไปหรืออย่างไร? แต่ก็ช่างเถอะ…ถ้าใช้เองคงไม่เป็นไรหรอก” เมื่อตรวจทานเม็ดโอสถที่หลอมขึ้นมาได้สำเร็จ น้ำเสียงที่ดูคล้ายจะไม่พอใจก็ดังขึ้น
หากเรื่องนี้ เกิดขึ้นในตอนที่ยังเป็นเซียนโอสถบนแดนเซียน เกรงว่าทั่วทั้งสามพิภพคงเกิดความโกลาหลแล้ว…
หลังจากนั้นลั่วชิงอีก็ใช้ออกมาด้วยเคล็ดวิชาด้านโอสถ โดยวิชานี้มีชื่อว่า เคล็ดวิชากระจกเงาหมื่นบุปผา วิชานี้นั้นสามารถลอกเลียนแบบโอสถที่มีความบริสุทธิ์ตั้งแต่ 10 ส่วนลงมา แต่จะต้องมีวัตถุดิบครบ ถึงจะลอกเลียนแบบโอสถได้
วิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง
เพียงแค่ครู่เดียว ลั่วชิงอีก็มีโอสถลมปราณระดับต่ำความบริสุทธิ์ 9 ส่วน เพิ่มมาอีก 4 ชุด รวมเป็น 5 ชุด ทำให้ในตอนนี้นางเหลือสมุนไพรสำหรับหลอมโอสถลมปราณระดับต่ำเพียง 5 ชุดเท่านั้น
ไม่พูดพร่ำทําเพลง ลั่วชิงอีก็กลืนโอสถลมปราณลงคอไป 1 เม็ด จากนั้นนางจึงเริ่มเดินพลังปราณภายในร่าง เพื่อทำการดูดซับลมปราณจากโอสถ
ปัง ปัง ปัง ปัง
เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วยาม หลังจากดูดซับลมปราณจากโอสถลมปราณทั้งหมด 5 ชุด จนหมด ร่างงามอ้อนแอ้นอรชรของลั่วชิงอีก็ดูเติบโตขึ้นเล็กน้อย
ทว่าพอลืมตาขึ้นมา ก็พบกับคราบของเหลวสีดำเลอะเปอะเปื้อนหน้าตัก ซึ่งระดับลมปราณในขณะนี้ของลั่วชิงอีเข้าสู่ขอบเขตรวมปราณเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นร่างกายของนางจึงขับของเสียที่ไม่จําเป็นออกมา
ใช่แล้ว! ร่างกายของจอมยุทธ์ระดับรวมปราณ..
“ขอบเขตรวมปราณขั้นที่ 7 พร้อมกับจุดชีพจรที่เปิดเพิ่มอีก 5 จุด เป็น 17 จุด ถือว่ายังพอรับได้” น้ำเสียงยินดีปรีดาของลั่วชิงอีดังขึ้น ใบหน้างามสะพรั่งพยักหน้าไปมาด้วยท่าทางพึงพอใจ
“ทำไมร่างของข้า จึงได้ส่งกลิ่นเหม็นออกมามากถึงเพียงนี้กัน เห็นทีคงตอนหยุดเดินลมปราณเสียก่อน กําจัดกลิ่นกายสําคัญยิ่งกว่า…” ลั่วชิงอีที่ค่อนข้างจะมีนิสัยที่รักความสะอาด ไฉนเลยจึงจะทนสภาพอันเน่าโทรมของตนเองในขณะนี้ได้
หลังจากเอ่ยจบ ลั่วชิงอีก็ลุกขึ้นและเดินออกไปยังด้านนอกถ้ำ นางลงไปแช่นํ้าที่ลำธารเบื้องล่างใกล้ตัวถ้ำ เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดหมดจดพร้อมซักชุดอาภรณ์ไปด้วย
หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อย นางก็ใช้ลมปราณทำให้อาภรณ์แห้ง เมื่อสวมเสื้อผ้าอาภรณ์เสร็จแล้ว ก็เดินกลับเข้ามายังภายในถ้ำอีกครั้ง พร้อมกับเริ่มหลอมโอสถลมปราณอีกครั้ง จากนั้นไม่นาน…
วิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง
“ความบริสุทธิ์ 10 ส่วน ถือว่ายังพอใช้ได้ แม้จะไม่ถึงความบริสุทธิ์ขั้นวิเศษก็ตามที…” ลั่วชิงกล่าวขณะมองไปยังโอสถสีขาวในมือด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ทว่า…ถ้านักปรุงโอสถในดินแดนเทียนฉี่ ได้มายินคำกล่าวเมื่อครู่ของลั่วชิงอี เกรงว่าพวกเขาคงได้กัดลิ้นตัวเองจนตายไปหลายคนอย่างแน่นอน
บนดินแดนเทียนฉี่นั้น ต่อให้เป็นสุดยอดอัจฉริยะด้านศาสตร์โอสถก็หลอมโอสถได้ที่ความบริสุทธิ์ไม่เกิน 8 ส่วน ถ้ามีโชควาสนายิ่งใหญ่ก็อาจจะถึง 9 ส่วน ก็แค่อาจจะเท่านั้น ทว่าสำหรับโอสถที่มีความบริสุทธิ์ 10 ส่วน เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าขานในตำนานเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนเท่านั้น
เป็นเพราะว่าโอสถที่มีความบริสุทธิ์ 10 ส่วน ไม่ได้ปรากฏบนดินแดนเทียนฉี่มานานนับหมื่นปีแล้ว… ดังนั้นมันจึงกลายเป็นเพียงแค่ตำนาน
หลังจากนั้นลั่วชิงอีก็ใช้ออกด้วย เคล็ดวิชากระจกเงาหมื่นบุปผา เพื่อทำการคัดลอกโอสถที่อยู่ในมือ ทำให้ในตอนนี้นางมีโอสถในตำนานไว้ในครอบครองถึง 5 ชุด หรือ 15 เม็ด เลยทีเดียว!
จากนั้นเวลาก็ได้ล่วงเลยมาจนถึงยามซวี (19.00 — 20.59)
“ตระกูลลั่ว หลังจากข้าเตรียมตัวพร้อมเมื่อไหร่ ข้าจะต้องกลับไปทวงความยุติธรรมให้แม่หนูลั่วชิงอีแน่…” น้ำเสียงเย็นเยียบประหนึ่งน้ำแข็งพันปีดังขึ้น ลั่วชิงอีได้ตัดสินใจแล้ว นางจะไม่กลับไปยังตระกูลลั่วอีก เพราะในเมื่อไม่มีใครเห็นหัวนาง ทำไมจะต้องกลับไปให้พวกเขาดูถูกหรือรังแกอีกเล่า!
หลังจากจัดการอะไรเสร็จสรรพ ลั่วชิงอีก็เตรียมตัวที่จะพักผ่อน เนื่องจากวันนี้ทั้งวันนางเหนื่อยมามากพอสมควรแล้ว อีกทั้งพรุ่งนี้เช้าจะต้องนำโอสถไปขายในเมืองอีก
“เออ…จริงสิ เกือบลืมประทับตาสัญลักษณ์แล้ว…” หลังจากกล่าวจบ ลั่วชิงอีก็ทำการประทับตราสัญลักษณ์บนโอสถทันที
การประทับตราสัญลักษณ์บนโอสถนั้น เป็นเรื่องปกติที่นักปรุงโอสถมักจะทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อเป็นการยืนยันว่าโอสถแต่ละเม็ด นักปรุงโอสถคนไหนเป็นคนหลอมโอสถเม็ดนั้นๆ ขึ้นมา
สำหรับตราประทับสัญลักษณ์บนโอสถแต่ละเม็ดของลั่วชิงอี ซึ่งสัญลักษณ์ของนางก็คือ หงส์สยายปีก
หลังจากทำตราประทับสัญลักษณ์บนโอสถครบทั้งหมดแล้ว ลั่วชิงอีก็หาโขดหินใหญ่นั่งผิง จากนั้นก็ผล็อยหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน