“ฉันก็ต้องรู้จักให้หมด เพื่อหน้าที่การงานจะได้ราบรื่นเหมือนที่คนอื่นทำ ถึงเวลามันก็ได้นำออกมาใช้แบบนี้ พลังของผู้หญิงน่ะมันทำให้ชนะสงครามได้มานักต่อนักแล้ว ระดับแม่ทัพต่อให้ชนะมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ก็แพ้เมียอยู่ดีนั่นแหละ” และด้วยเสน่ห์อันแสนร้ายกาจของเขานี่แหละที่ทำให้เมียระดับแม่ทัพต้องยอมแพ้เช่นกัน
“ผมชอบกลยุทธ์ของพ่อเลี้ยงจริงๆ เลย เดี๋ยวนำไปใช้”
“ก็ได้แค่บางกรณี อย่างตอนนี้ เราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการยืนดู ต่อให้สงสารและอยากช่วยแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องงัดวิธีออกมาแม้จะทำให้คนร้าวฉานก็ตาม”
“ถึงพ่อเลี้ยงจะไม่ทำ สักวันเขาก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดีครับ ถือซะว่าบอกเอาบุญ”
“หวังว่าสิ่งที่ฉันทำวันนี้ มันจะช่วย...” เขาหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนจะถอนหายใจ เขากำลังหายถึงช่วยมนัสวีให้อยู่รอดปลอดภัยในวันนี้ แต่วันต่อไปไม่รู้ เขาก็ได้แต่คิดด้วยความเป็นห่วง สายตาก็มองไปที่มนัสวีเป็นหลัก
ขณะเดียวกันนั้นคเชนทร์ก็ไม่ทำให้เจ้านายห่วง เขาคอยยืนดูอยู่ห่างๆ เท่าที่สังเกตเด็กสาวทุกคนก็วัยเดียวกับมนัสวี บางคนอาจจะเต็มใจ ทำเพราะได้เงิน แต่บางคนคงไม่เต็มใจ มนัสวีคงเลือกไม่ได้ต้องทำเพราะคำว่าบุญคุณต้องทดแทน
และแน่นอนว่าสิ่งที่คเชนทร์เห็นตลอดเกือบหนึ่งชั่วโมงคือ ท่านทรงกรช ผู้ขึ้นชื่อว่าพ่อเมือง แตะอั๋งมนัสวีอยู่เสมอ ไม่โอบก็กอด มือก็วนเวียนอยู่แถวๆ เอว ต่ำลงมาจนถึงสะโพก อยากจะจับมือหักทิ้งเหลือเกิน หญิงสาวก็ทำได้แค่เพียงเอียงหนีเป็นบางจังหวะ ยิ้มแห้งๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทว่าผ่านไปไม่นัก เสียงเซ็งแซ่ก็ดังขึ้นที่หน้าทางเข้า สร้างความวุ่นวายจ้าละหวั่นพอสมควร เมื่อคเชนทร์หันไปมอง กลับเจอเหล่าคุณนายทั้งหลาย
“ไหน ไอ้แก่หัวหงอกหัวขาวอยู่ที่ไหน ฉันจะเอาเลือดหัวมันออกให้หมด” เสียงคุณนายท่านหนึ่งตวาดขึ้นพลางเดินดุ่มๆ ตรงมายังโต๊ะกลาง เท่านั้นแหละวงแตกทันที เด็กสาวทั้งหลายวิ่งวุ่นหาที่ซ่อนตัว
“ฉิบหายแล้ว” วิชิตพ่อเลี้ยงของมนัสวีสบถขึ้นด้วยความตกใจ ขณะมนัสวีมองซ้ายมองขวาแล้วลุกวิ่งไปจากโต๊ะทันที
“เดี๋ยวสิหนูวี” ท่านทรงกรชเรียกเอาไว้แต่ไม่ทันเสียแล้ว
“แม่! แม่! มาได้ยังไง” รองผู้ว่าฯ เอ่ยด้วยความตกใจ
เด็กสาวที่นั่งข้างๆ ก็วิ่งหนี
“นี่ใช่ไหมงานปิด มีแต่ผู้ชายกะจะคั่วอีหนูไปม่านรูดต่อใช่ไหม พวกแกถ่ายรูปเอาไว้ให้หมด ทั้งไอ้ทั้งอี ท่านทรงกรช ท่านน่ะตัวดี” คุณนายพูดถึงการถ่ายรูป ก็ทำให้คเชนทร์ตกใจเพราะมนัสวีจะแย่เอา
“เอ่อผม...” ท่านทรงกรชแทบแก้ตัวไม่ได้เลยทีเดียว ขณะเดียวกันเลขาท่านก็รีบมาพาออกไป เพราะขืนอยู่ต่อโดนลูกหลงจากเมียๆ แน่
“ตัณหากลับนักใช่ไหม” สิ้นคำคุณนายก็ตบเพียะไปที่ใบหน้าผัวทันที ส่วนเมียคนอื่นๆ ก็รุมสกัมพร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้
ช่วงเวลาเดียวกันมนัสวีก็วิ่งเตลิดออกมาจากงาน โดยมีคเชนทร์สะกดรอยตาม
“คุณมาทางนี้กับผมก็ได้ครับ ปลอดภัยผมรับรอง” คเชนทร์บอกพร้อมกับเดินไปรั้งแขนเธอเสียเลย
“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ คุณเป็นคนของคุณนายหรือเปล่า” มนัสวีถามด้วยความตกใจ
“ผมคือคนที่จะทำให้คุณปลอดภัยจากคุณนายต่างหาก มาครับผมจะพาออกจากงาน” ว่าแล้วเขาก็ดึงแขนเธอ แล้ววิ่งออกมาจนถึงลานจอดรถ แล้วพาขับออกเลย ใครจะว่ายังไงก็ช่างเธอต้องปลอดภัยไว้ก่อน
ส่วนพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ก็ยืนดูผลงานของตัวเองด้วยความสะใจ
“หมดเรื่องของเราแล้ว เรากลับกันดีกว่า รอฟังข่าวงานล่มวันพรุ่งนี้” พ่อเลี้ยงหนุ่มบอกก่อนจะเอี้ยวตัวออกจากงาน
“แต่ว่ารถ คุณเชนทร์น่าจะ...”
“ไม่เป็นไร เราเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งโรงแรมได้ เรื่องน้องวีให้เชนทร์จัดการ”
“ครับพ่อเลี้ยง” สิ้นคำลูกน้องก็เรียกแท็กซี่เพื่อจะได้พาไปส่งยังโรงแรมที่พัก
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นด้วยความตกใจกลัว ทำให้มนัสวีไว้ใจนั่งรถมากับชายแปลกหน้าที่เธอจำได้ ว่าเจอกันที่ห้องน้ำและเขาเมา มาคิดได้ตอนนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา กลัวเขาจะทำมิดีมิร้ายได้แต่นั่งตัวสั่นไม่กล้าขยับ แต่เอาน่าใจดีสู้เสือ
“เอ่อ ขอบคุณที่พาหนูออกมานะคะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงประหม่า
“ไม่เป็นไรครับ บ้านอยู่ไหนครับผมจะไปส่ง” ฟังเขาบอกอย่างนี้แล้วรู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างประหลาด
“ยะ ยะ อยู่ไม่ไกลค่ะ ขับไปตามเส้นทางนี้เลย ถ้าถึงซอยเข้าแล้วเดี๋ยวหนูบอก”
“โอเคครับ ผมลืมแนะนำตัวไป ผมชื่อเชนทร์ครับ”
“หนูชื่อวี ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ทำไมคุณถึงช่วยหนูออกมาแต่หนูจำคุณได้ เราเจอกันที่ห้องน้ำ ตอนนั้นคุณเมา”
“ตอนนี้สร่างเมาแล้วครับ หลับจากเจอเหตุการณ์เมียหลวงบุก”
“หนู รู้ผิดจังเลย”
“คุณไม่ผิดหรอก คุณน่าจะรู้ตัวว่าคุณไปนั่งอยู่ตรงนั้นทำไม”
“คุณยังไม่ตอบ ทำไมคุณถึงช่วยหนู”
“แล้วคุณอยากให้ผมช่วยไหมล่ะ”
“หนูไม่อยากนั่งอยู่ตรงนั้นเลยต่างหาก แต่ชีวิตก็เป็นแบบนี้มันเลือกไม่ได้”
“ก็เลยไปนั่งให้เขาโอ้โลมแตะอั๋งเหรอครับ”
“ไม่มีใครอยากจะไปนั่งให้เขาทำแบบนั้นหรอกค่ะ”
“รวมถึงสาวๆ พวกนั้นด้วยเหรอ”
“หนูไม่รู้ค่ะ ไม่รู้จักพวกนั้น”
“ผมได้ยินที่คุณกับพ่อคุณคุยกัน ขอโทษครับ”
“เป็นพ่อเลี้ยงค่ะ ไม่ใช่พ่อแท้ๆ พ่อหนูจากไปตั้งแต่หนูยังจำความไม่ได้เลย แต่เอ่อหนูก็ไม่รู้จะเล่าให้คุณฟังทำไม”
“ถึงว่า ดูเหมือนเขาจะไม่รักคุณสักเท่าไหร่ขอโทษที่พูดตรงครับ”
“หนูไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าความรักจากพ่อแม่เป็นยังไง”
“ได้แต่ให้กำลังใจครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบเสียงเศร้า
“เอ่อ คุณจะต้องไปนั่งเป็นเด็กนั่งดริ้งค์แบบนั้นอีกไหมครับ”
“ถ้าพ่อเลี้ยงกับแม่สั่ง ก็คงต้องไปค่ะ ทำให้พวกเขาได้เงิน”
“ดูแลรักษาตัวเองนะครับ”
“ไม่รู้จะพลาดพลั้งเมื่อไหร่เมื่อกันค่ะ หนูอยากไปให้พ้นๆ เหลือเกิน” มาถึงตอนนี้เธออยากระบายออกมามากๆ แต่เพราะคเชนทร์เป็นคนแปลกหน้า แค่ช่วยพาเธอออกมาจากงานก็บุญหัวแล้ว
“เอ่อ ด้านหน้าซอยเข้าบ้านหนู” เธอรีบบอก เขาจึงชะลอแล้วเลี้ยวเข้าไปทันที ขับมาอีกไม่ถึง 200 เมตรก็ถึงบ้านเรือนไทยยกสูง ในที่สุดเขาก็รู้จักบ้านเธอ จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่ใช่ ทั้งที่คิดว่าจะแอบตามส่องเท่านั้น
“นี่บ้านคุณวีเหรอครับ” เขาสังเกตบ้านเธอแล้วเหมือนคนไม่ได้ขัดสนอะไร
“ค่ะ มรดกอย่างเดียวที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้ จากนั้นก็ดิ้นรนเอง”
“รักษาตัวรอดเป็นยอดดีนะครับ” คำอวยพรของเขาเธอกลัวเหลือเกิน เพราะทุกวันนี้ก็โดนตบตีจากพ่อแม่ทุกวัน
“ดูเหมือนคุณจะรู้อะไรเยอะแยะเลย”
“เปล่า ผมแค่ได้ยินที่คุณวีพูดกับพ่อเลี้ยงเท่านั้นเอง ผ่านโลกมาเยอะอย่างผม คงเดาอะไรไม่ผิดนัก”
“ขอบคุณที่มาส่งหนูค่ะ” พูดจบเธอก็ยกมือไหว้คเชนทร์อย่างนอบน้อม ซึ่งเขาก็รับไหว้ จากนั้นเธอจึงเปิดประตูลงไป พร้อมกับเดินเข้าบ้าน ก่อนจะหันมาส่งเขาตามมารยาท
คเชนทร์ได้แต่ถอนหายใจด้วยความรู้สึกหดหู่ ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปจากหน้าบ้าน เพื่อกลับไปหาพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ ซึ่งตอนนี้คงกลับโรงแรมแล้ว และคงอยากรู้เสียเต็มประดาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเองก็เช่นกัน การบุกของเมียหลวงนี่แผนของพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ด้วยหรือเปล่า