หลังจากที่หลายวันก่อนถูกหมอภีมขับรถชนหัวใจเข้าเต็มๆฉันก็ไม่ได้เจอหน้าคุณหมออีกเลยเพราะช่วงนี้ฉันเรียนหนักที่เคยโม้ไว้ว่าฉันจะต้องได้เบอร์โทรหมอภีมภายในสามวันเลยยังทำไม่สำเร็จ
“เออ เมื่อวานที่ช็อปโทรมาบอกว่ากระเป๋าที่ฉันกับแกไปถามหามาแล้วนะวันนี้ไปดูกัน”
“เอาไว้วันหลังแล้วกันวันนี้ขี้เกียจ”
“อย่า แกจะไปหาคุณหมอคนนั้นก็บอกมาเถอะ”
ยัยมีนมองฉันอย่างรู้ทันหรือจะเรียกว่ารู้ไส้รู้พุงก็ได้
“ถือว่ารู้ใจ”
“ย่ะ เออ ว่าแต่แกลืมพี่น็อตได้แล้วจริงๆหรอ”
ทันทีที่เดินมาหาที่นั่งได้ยัยมีนก็ถามถึงคนที่ฉันไม่อยากจะพูดถึง
“ยัง”
ถ้าบอกว่าฉันลืมพี่น็อตได้แล้ว ไม่รู้สึกอะไรด้วยแล้วมันก็คงจะเป็นเรื่องที่แปลกเกินไปเพราะคนคบกันมาตั้งหลายเดือน
“เมื่อวานฉันเจอพี่น็อตที่โรงพยาบาล”
ฉันเล่าด้วยสีหน้าที่เศร้า ถึงฉันจะแสดงออกว่าไม่เป็นอะไรแล้วแต่ลึกๆมันก็รู้สึกเจ็บแหละ
“หรอ แล้วพี่น็อตไปที่นั่นทำไม”
“ไม่รู้สิไม่อยากรู้ด้วยเลิกพูดถึงผู้ชายแบบนั้นเถอะ”
“สงสัยจะไม่ทันแล้วย่ะโน่นมาโน่นแล้ว”
ยัยมีนพยักพเยิดหน้าให้ฉันมองไปด้านหลัง
“ไปกันเถอะ”
พอฉันเห็นพี่น็อตกำลังเดินมาทางนี้ฉันก็ชวนยัยมีนไปที่อื่นแต่พี่น็อตก็เข้ามายืนดักหน้า
“พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยคะ”
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วค่ะ”
ฉันเดินเฉียดไหล่พี่น็อตอย่างไม่แคร์โดยมียัยมีนตามมาด้วย
“สงสัยจะไม่จบง่ายๆแล้วมั้งเหมือนพี่น็อตจะไม่อยากเลิกกับแกเลยนะ”
“อยากเลิกหรือเปล่าไม่รู้แต่ฉันเลิกกับเขาแล้ว ได้ยินมั้ย”
ฉันย้ำชัดกับยัยมีน
“จ้า สวยยย”
“อันนี้ไม่เถียง”
ฉันภูมิใจในความสวยของตัวเองพลางหยิบมือถือขึ้นมาตอนนี้ฉันกับยัยมีนอยู่ในรถ ตั้งแต่ที่เท้าฉันเจ็บยัยมีนก็ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ฉันนั่งทุกวัน
“แวะขนมร้านนั้นหน่อยนะ”
ยัยมีนรู้ดีว่าฉันหมายถึงร้านไหนเพราะฉันสองคนชอบไปซื้อขนมญี่ปุ่นอยู่ร้านนึงเรียกได้ว่าเป็นลูกค้าประจำเลยล่ะเมนูขึ้นชื่อของทางร้านคือชีสทาร์ตอารมณ์คล้ายๆทาร์ตไข่บ้านเราแต่อันนี้เป็นของญี่ปุ่นแท้ๆขอบอกว่ารสชาติอร่อยมากแล้วราคาก็แอบแพงมากเหมือนกัน
“เมื่อเช้ายังบ่นน้ำหนักขึ้นอยู่เลยไม่ใช่หรอ”
“ใครบอกว่าฉันจะซื้อไปกินเองล่ะ”
ฉันพูดพลางมองมือถือแล้วยิ้มให้กับหมอภีม เอ่อ ฉันหมายถึงรูปของคุณหมออ่ะค่ะแล้วก็เป็นรูปที่ฉันแอบเซฟมาจากประวัติบุคลากรของโรงพยาบาล จิตเนอะ 555
“ซื้อไปให้ใครยะ”
“เดี๋ยวก็รู้”
พอมาถึงร้านฉันก็ให้พนักงานจัดขนมใส่กล่องให้ขากลับเดินถือออกมาจากร้านเต็มสองไม้สองมือ
“ตกลงแกจะซื้อขนมพวกนี้ไปให้ใครเนี่ย”
กลับเข้ามาในรถยัยมีนก็ยังถามไม่หยุด
“ซื้อไปฝากพยาบาล”
“อย่าบอกนะว่าแกจะเอาขนมพวกนี้ไปหาพวก”
“เขาเรียกว่าผูกมิตรต่างหากล่ะเป็นไงเพื่อนฉลาดใช่ม๊าาา”
“ย่ะฉลาดใช้เงินน่ะนะ”
“เอ้า แน่นอนมีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะต้องฉลาดใช้ด้วย”
ฉันพูดอย่างลอยหน้าลอยตา
“เห้อ…ฉันชักจะสงสารคุณหมอคนนั้นแล้วสิสงสัยช่วงนี้ดวงคุณหมอจะถูกดาวพระเสาร์แทรก”
หน้ายัยมีนที่มองฉันตอนนี้แบบว่านะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนใช่ฝูงนิตบกระบาลแยกไปแล้วค่ะ
ยัยมีนขับรถมาส่งฉันที่โรงพยาบาลที่หมอภีมทำงานอยู่ โรงพยาบาลกับมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนอยู่คนละทางกันเลยค่ะแล้วไกลกันมากด้วยแต่ทำไงได้ก็คนมันอยากเจอนินา
“แน่ใจนะว่าไม่ให้มารับ”
“อือ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกลับเองขอบใจนะเพื่อนรักที่มาส่ง”
ฉันส่งจูบไปให้ยัยมีน
“ตามใจ”
“งั้นไปล่ะ”
ฉันโบกมือบ๊ายบายยัยมีนแล้วหยิบถุงขนมลงมาจากรถเดินเข้ามาด้านในตรงมาที่แผนกผู้ป่วยทั่วไปที่ฉันเจอหมอภีมวันนั้น
“ไม่ทราบว่าป่วยเป็นอะไรมาคะ”
พยาบาลหน้าเคาน์เตอร์ถามฉันขึ้น ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ถือว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศก็ว่าได้ครอบครัวฉันรักษาที่นี่ทุกคน
“ไม่ได้ป่วยค่ะคือมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อยน่ะค่ะ”
“อะไรคะ”
พยาบาลมองหน้าฉันด้วยความสงสัย ฉันถอดแว่นตาออกก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปคุยใกล้ๆ
“มาหาหมอภีมน่ะค่ะ”
“คุณหมอภีมรภัทรใช่มั้ยคะ”
“ค่ะ”
ฉันรีบพยักหน้า
“วันนี้คุณหมอไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะคือที่จริงคุณหมออยู่แผนกศัลยกรรมทรวงอกค่ะจะมาแผนกผู้ป่วยทั่วไปเฉพาะวันจันทร์กับวันอังคารค่ะ”
“แล้วไม่ทราบว่าแผนกศัลยกรรมทรวงอกไปทางไหนหรอคะ”
“ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสามแล้วเลี้ยวขวาค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“อ่อ นี่ค่ะ ขนม”
ฉันส่งกล่องขนมไปให้พยาบาล พยาบาลมองหน้าฉันงงๆ
“รีบไว้เถอะค่ะถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่หลายวันก่อนมารักษาอยู่ที่นี่แล้วคุณพยาบาลดูแลดีมากน่ะค่ะ”
“อ่อ ขอบคุณค่ะ”
พยาบาล อ่อ แบบยังงงอยู่ว่าฉันมารักษาตอนไหนแต่ก็ยอมรับกล่องขนมจากมือฉันนะ
ฉันขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้นสามแล้วเดินมาตามที่พยาบาลคนนั้นบอก
“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าคุณหมอภีมรภัทรอยู่มั้ยคะ”
ฉันยิ้มให้พยาบาลที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์อย่างเป็นมิตรที่สุดเพราะต่อไปนี้ฉันจะมาที่นี่ทุกวัน
“คุณหมอผ่าตัดอยู่ค่ะไม่ทราบว่านัดคุณหมอไว้หรือเปล่าคะ”
“ต้องนัดด้วยหรอคะ”
ว่าที่คูมแฟนทำตัวอย่างกะดาราเลยเนอะ
“ต้องนัดล่วงหน้าก่อนค่ะเพราะปกติคิวคุณหมอแน่นมากค่ะไม่ทราบว่าเป็นคนไข้ของคุณหมอหรือเปล่าคะ”
“ค่ะแต่ไม่ได้นัดไว้หรอกค่ะ”
ฉันไม่ได้โกหกนะก็ฉันเป็นคนไข้ของเขาจริงๆนินา
“ถ้าจะพบคุณหมอเพื่อปรึกษาอาการคนไข้ต้องนัดคุณหมอไว้ล่วงหน้าก่อนนะคะ”
มีพยาบาลอีกคนเดินเข้ามา น่าจะเป็นหัวหน้าคนนี้มั้ง
“งั้นหรอคะขอบคุณนะคะ อ่อ นี่ค่ะ”
เหมือนเมื่อกี้เลยค่ะพี่พยาบาลพากันมองหน้าฉันงงๆว่าฉันเอาขนมให้ทำไม
“คือว่าหลายวันก่อนมารักษาที่นี่แล้วคุณพยาบาลดูแลดีมากเลยน่ะค่ะวันนี้เลยซื้อขนมมาฝาก”
ฉันพูดสคริปเดียวกับพยาบาลที่อยู่แผนกคนป่วยทั่วไปแล้วพยาบาลสองคนนี้ก็มองหน้าฉันคงจะสงสัยว่าฉันมารักษาเมื่อไหร่แต่พอเห็นชื่อร้านขนมก็รีบรับอย่างไว
“นี่ขนมร้านดังที่อยู่แถวทองหล่อนิคะอยากกินมานานแล้วแต่ว่าราคาแพงมากเลยไม่กล้าซื้อ”
สีหน้าพยาบาลคนที่พึ่งเดินเข้ามาดูเป็นมิตรกับฉันขึ้นมาทันที อย่างที่บอกว่าร้านนั้นเป็นร้านญี่ปุ่นซึ่งเจ้าของก็เป็นคนญี่ปุ่นที่มาปักหลักอยู่ที่นี่ถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นจะรู้ว่าขนมของญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องของรสชาติและราคาที่ฉันซื้อมานี่ก็ตกพันกว่าบาทเองค่ะ
“ถ้าชอบก็กินเยอะๆเลยนะคะ”
พูดแล้วฉันก็เดินออกมาแต่พยาบาลก็เรียกฉันไว้
“เดี๋ยวก่อนค่ะคือว่าถ้าน้องอยากพบคุณหมอจะนั่งรอก่อนก็ได้นะคะเดี๋ยวอีกสักครึ่งชั่วโมงคุณหมอก็น่าจะผ่าตัดเสร็จแล้ว”
“ได้หรอคะ”
ฉันถามด้วยความตื่นเต้น การพิชิตใจเพื่อนร่วมงานถือว่าสำเร็จ
“ได้สิคะเห็นแก่ที่น้องมีน้ำใจซื้อขนมมาฝากพวกพี่แต่อย่าบอกคุณหมอนะคะว่าพวกเราบอกให้รอ”
“ไม่บอกแน่นอนค่ะ อ่อ เดี๋ยววันหลังจะซื้อรสอื่นมาให้อีกนะคะ”
“เกรงใจแย่เลย”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ”
พูดแล้วฉันก็เดินมานั่งที่เก้าอี้แถวๆนั้นผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงหมอภีมก็เดินออกมาจากห้องๆนึง รู้สึกจะเป็นห้องผ่าตัดแต่เขาไม่ได้เดินมาทางนี้
"คุณหมอคะ"
ฉันวิ่งไปขวางหน้าหล่อๆนั้นไว้ ผู้ชายอะไรหล่อวัวตายควายล้มแต่ติดที่ชอบทำหน้าเย็นชาตลอดเวลา
"คุณมาที่นี่ทำไม"
กว่าหมอภีมจะตอบฉันได้ก็เล่นให้ฉันรอไปหลายวินาที นี่ถ้าให้ฉันยืนรอนานกว่านี้อีกนิดเดียวฉันจะกระโดดไปเกาะเอวแล้วนะคะ
"คือพรีมซื้อขนมมาฝากคุณหมอน่ะค่ะ"
ฉันส่งกล่องขนมสีหวานแหววที่ฉันตั้งใจเลือกเป็นพิเศษอยู่ๆหัวใจก็เต้นโครมครามขึ้นมาเฉยๆ ปกติฉันไม่ใช่คนประหม่าแบบนี้หรอกนะแต่ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าหมอภีมทีไรความมั่นใจที่มีมันก็มลายหายไปหมด
"ขอบคุณนะแต่ผมไม่ทานของที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ขอตัว"
เจ้าของร่างสูงโค้งศรีษะให้ฉันนิดนึงก่อนจะเดินผ่านหัวใจที่ห่อเหี่ยวของฉันไป ผู้ชายอะไรปฏิเสธน้ำใจคนอื่นอย่างไร้เยื่อใยสุดๆ
"ถ้าไม่ชอบขนมที่พรีมเอามางั้นพรุ่งนี้พรีมจะเอาสลัดผักรวมมิตรมาให้นะคะ"