Episode-๐๒ จบความสัมพันธ์

1382 Words
หลายวันผ่านไป หลังจากคืนนั้นฉันก็ถอยห่างออกมาประมาณหนึ่ง ไม่โทรไม่ตามไม่โวยวายและทำทุกอย่างตามปกติเช่นเดียวกับเบียร์ “วันหยุดนี้ไปดูหนังกันนะ” “ถ้าปฏิเสธล่ะ ?” “ก็ไม่ไปไงรอฝันว่างก่อน” “เหรอ... คิดว่าจะพาคนอื่นไปแทนซะอีก” “เดี๋ยวนี้ประชดเก่งนะ” เบียร์ว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือให้ฉัน “แม่โทรมารับด้วยนะบอกเขาว่าสองทุ่มกลับ” จากนั้นก็ลงสนามไปเตะบอลต่อค่ะ โทรศัพท์อยู่ในมือแล้วแน่นอนว่าฉันเช็ก จะว่าไปเบียร์ก็ไม่เคยหวงมือถือกับฉันเลยนะแม้แต่รหัสโซเชียลต่าง ๆ เขาก็บอกให้ฉันรู้ เข้าอันนั้นออกอันนี้ทุกอย่างปกติค่ะ ในกล่องข้อความก็มีแต่เพื่อนสนิทเขาที่โต้ตอบกัน ในบัญชีรายชื่อกับบันทึกการโทรก็ปกติค่ะ ทุกอย่างมันปกติมากถ้าไม่จับสังเกตได้ก็คงจะไม่เอะใจหรอก เขาดูรักฉันมากนะแต่ถ้าเสมอต้นเสมอปลายด้วยก็คงจะดี ระหว่างรอเบียร์ฉันก็ไถฟีดโซเชียลไปเรื่อยก็ใช้มือถือเขาเล่นนั่นแหละ และสิ่งที่ฉันคิดมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อบัญชีการใช้งานอีกแอคเคาน์หนึ่งแนะนำการเพิ่มเพื่อนเด้งขึ้นมา เห็นแบบนั้นฉันจึงใช้เครื่องของตัวเองค้นหาชื่อนี้ดูปรากฏว่าไม่พบค่ะเขาคงบล็อกไว้และชะล่าใจเลยไม่เอาของตัวเองบล็อกด้วย เข้าไปส่องมีเพื่อนร่วมกันทั้งกลุ่มค่ะและมีการอัปเดตเช่นเดียวกันกับอีกบัญชีหนึ่ง จะแตกต่างตรงที่บัญชีนี้มีคอมเมนต์โต้ตอบกับใครคนหนึ่ง ถึงตอนนี้คำพูดของพี่ปั้นลอยมาในหัวเลยค่ะ ในสายตาคนอื่นฉันมันโง่จริง ๆ นั่นแหละ “ลองค้นหาบัญชีนี้ให้หน่อย” ส่งแช็ตให้ใครคนหนึ่ง ไม่สิ! พี่สะใภ้ในอนาคตของฉันต่างหากที่ตอนนี้ขังตัวเองอยู่ตรงไหนสักแห่งบนโลกใบนี้เพราะว่าพี่ชายฉันสร้างเรื่องเอาไว้ [รูปภาพ] [ชื่อเดียวกันแต่มีสองบัญชี] “ขอบใจมาก มีอะไรให้ช่วยจะทักไปอีก” เราสนิทกันค่ะเรียนมัธยมต้นมาด้วยกันแต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันหรอก เธอชื่อเสียงเพลง ไม่รู้เหมือนกันว่าไปปิ๊งรักกับพี่ชายฉันตอนไหน “เที่ยวพอหรือยังกลับมาได้แล้วมั้ง” [กลับได้ไงยังไม่เจอผู้ดี ๆ เลย] “ฮ่า ๆ เธอระวังพี่ปั้นหักคอนะ” [ฉันมากกว่าที่จะหักคอเขา] “พอแล้วมั้งแค่นี้ก็ร้องไห้เหมือนหมาแล้ว” [สมน้ำหน้า! กลับไปเดี๋ยวเจออีก] แน่นอนว่าไม่ใช่แค่คำขู่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ช่วยหรอกแม้ว่านั่นจะเป็นพี่ชายตัวเองก็ตาม ผิดก็คือผิดค่ะ เลิกสนใจแช็ตของเสียงเพลงเงยหน้าขึ้นมาอีกทีใครอีกคนก็มานั่งข้าง ๆ แล้ว “ไหนว่าไม่มา ?” “ไอ้บาสลากมาอะดิ” “มันชอบมึงไง” “รู้ ... กูก็ชอบมัน” “...” นี่คือพิ้งค์เพื่อนในกลุ่มฉันเอง เราสนิทกันนะคะและก็สนิทกับเบียร์ด้วย “คืนก่อนเธอไปดื่มกับพวกมันหรือเปล่า” “คืนไหน ฉันไม่ได้ไปไหนสักคืน” น้ำเสียงเป็นกันเองเอ่ยก่อนจะทอดสายตาไปในสนาม “มีวันโน้นไอ้พวกนี้ไปกันเธอไม่ได้ไปด้วยเหรอ” “เปล่า ฉันไปกับพี่ชาย” “พี่ชาย ? เธอมีพี่ชายด้วยเหรอไม่เห็นเคยรู้เลย” “มี หล่อด้วย” “จีบค่ะ!” “หมดสิทธิ์ค่ะ ตำแหน่งพี่สะใภ้ฉันไม่ว่างแล้ว” “โธ่! จบกัน” มองผิวเผินเราก็เพื่อนสนิทกันนะคะแต่ไม่รู้ว่าทำไมความสัมพันธ์จัญไรของคนสองคนถึงเกิดขึ้นมาได้ แค่มีเซ็กซ์เหรอก็คงใช่แหละ ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้และไม่สนว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง แค่เพียงไม่นานการแข่งขันก็จบลง “ดูทำหน้าสิ” มือหนาบีบแก้มฉันด้วยความมันเขี้ยว “เป็นอะไรอีก” “เป็นคนที่นายไม่รัก” “รักครับ” น้ำเสียงจริงจังตอบกลับแทบจะทันทีและไม่สนว่าตรงนี้จะมีใครอยู่บ้าง เขาเป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ ห้าปีมานี้เขาชัดเจนในความสัมพันธ์เสมอแม้ว่าบางทีจะติดเกมส์หรือติดเพื่อนไปบ้างแต่ก็ไม่เคยทำตัวเสเพลหรือบอกใครว่าโสด ตรงนี้แหละที่มันกำลังทำให้ฉันเจ็บอยู่ ปากบอกว่ารักฉันขณะเดียวกันก็ใช้ร่างกายแสดงความรักกับคนอื่น “รักแบบไหน แบบที่มีแค่ฝันคนเดียวหรือเปล่า” “เบียร์มีแค่ฝันมาตลอดนะ เป็นประจำเดือนหรือไงอารมณ์อ่อนไหวจังเลยครับ” เบียร์ว่ายิ้ม ๆ แล้วโอบเอวฉัน “มึงสองคนต้องใจเย็น ๆ นะเผื่อลืมว่าพวกกูอยู่ตรงนี้” บาสพูดแทรกขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างพิ้งค์ที่ไม่ได้สนใจฉันกับเบียร์สักเท่าไหร่ “พวกนายก็เหมือนกันแหละ เผื่อลืมว่าฉันก็เป็นเพื่อนเหมือนกัน” “...” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบเมื่อได้ยินฉันพูดแบบนั้น ไม่มีใครรู้สึกผิดหรือละอายใจหรอกค่ะมันก็แค่เรื่องสนุกในกลุ่มเท่านั้นเอง “พูดอะไรของเธอเนี่ย” พิ้งค์เอ่ยก่อนจะมองหน้าฉันกับเบียร์สลับกัน “น่าจะเป็นวันนั้นของเดือนอย่างที่นายบอก” ฉันไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกและเดินออกมาจากตรงนั้นทันที มีแวบหนึ่งในหัวคิดเสียดายเวลาและก็คิดว่าเขาจะคิดได้แล้วเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่เช่นเดียวกับพี่ปั้น แต่ฉันก็ลืมคิดไปค่ะถ้าคนมันจะดีมันก็คงดีไปนานแล้ว หมับ! “เป็นอะไรวะ” “สนุกไหม ?” “อะไร ? ฝันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่” ฉันเงียบแล้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า จากที่ตั้งใจว่าจะค่อย ๆ ปรับค่อย ๆ คุย แต่พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วมันทำให้รู้ว่าฉันไม่ควรอยู่ตรงนี้ อดทนไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครนึกถึงความรู้สึกฉันสักคน แม้แต่คนที่บอกว่ารักฉันยังไม่นึกถึงเลย “เพียงฝัน...” “เราเลิกกันเถอะ” “...” “ฝันรู้ว่าเบียร์เข้าใจเหตุผลของมัน” “เข้าใจอะไรวะอยู่ดี ๆ ก็บอกเลิก มีอะไรทำไมไม่คุยกันอะ” เบียร์เริ่มโวยวายใส่ฉันเพราะเราเคยสัญญากันไว้ไม่ว่าจะทะเลาะกันแรงแค่ไหนก็ห้ามบอกเลิกเด็ดขาด “ใจเย็นค่อย ๆ คุยกัน” บาสเอ่ย “เย็นอะไรมึงดูดิกูยังไม่รู้เรื่องเลยอยู่ดี ๆ ก็บอกเลิก” “เพียงฝันเธอใจเย็นก่อนอย่าใช้อารมณ์กันสิ” “เงียบปากให้หมด! ไม่ต้องช่วยพูดหรือช่วยปิดบังแล้วนะเพราะฉันรู้หมดแล้ว จะพากันไปดื่มที่ไหนเข้าโรงแรมไหน ไม่ต้องช่วยปิดอีกต่อไปแล้ว” “...” “ห้าปี ... แม่งโคตรเสียเวลาเลย” “ขอโทษ” กวาดสายตามองทุกคนแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที คำขอโทษของเขาก็คือการยอมรับแต่โดยดีนั่นแหละ ไม่จำเป็นต้องถามหรือฟังคำแก้ตัวอะไรจากใครอีก ความจริงมันอยู่ตรงหน้าแล้วถ้าฉันยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็โง่เกินคนแล้วล่ะ ความรู้สึกตอนนี้มันแย่กว่าที่คิดอีกค่ะทั้งที่รู้ก่อนแล้ว เลือกที่จะไม่โวยวายแล้ว ตั้งใจว่าจะคุยกันดี ๆ ด้วยซ้ำแต่ว่าฉันก็ทำไม่สำเร็จ พอได้อยู่ท่ามกลางทุกคนฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่ ทุกคนรู้และช่วยกันปกปิดอย่างดีด้วยซ้ำไป เคยได้ยินมาว่าถ้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าร้องไห้ให้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ใช่ค่ะคนโง่อย่างฉันกำลังทำตามอยู่ “ร้องไห้กลางสายฝนก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่รู้หรอกนะว่าร้องไห้” ใครคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับกางร่มให้ฉัน “จะไม่สบายเอานะ” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD