Episode-๐๔ ผ่านมันไปให้ได้

1328 Words
พ่อบอกว่าความรักไม่เคยฆ่าใครตายแต่ถ้ารักคนอื่นมากกว่าตัวเองอันนี้ตายแน่นอน ... ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันจะตายให้ได้เลย ค่ำคืนแรกผ่านไปด้วยความยากลำบากแต่ก็ผ่านไปได้แล้วหนึ่งวัน ฉันเลือกที่จะไม่แตะโทรศัพท์มือถือและเอาแต่ขลุกตัวเองอยู่กับพ่อ ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองว่างแม้กระทั่งส่งของให้ลูกค้าฉันก็ทำได้ ความจริงก็ทำตลอดนั่นแหละแต่ส่วนมากจะเป็นพี่ปั้นมากกว่า “ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน” “ไหวค่ะ พ่อพูดเหมือนหนูบอบบางจับอะไรไม่เป็นอย่างนั้นแหละ” “พ่อไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้” “ไหวสิคะ พ่อไม่เห็นเหรอว่าหนูไม่ได้ร้องไห้เหมือนเมื่อวานแล้ว” ฉันบอกออกไปตามความจริงแม้ว่าหลายครั้งจะยังคิดถึงเขาก็ตาม “แน่ใจเหรอว่าจะไม่ให้โอกาสเขา คนเราผิดพลาดกันได้นะเพียงฝัน” “คำว่าผิดพลาดใช้กับเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจทำเท่านั้นแหละค่ะ” ฉันยังคงยืนยันคำเดิมต่อให้ยังรู้สึกมากแค่ไหนก็จะไม่พาตัวเองกลับไปอยู่ตรงนั้นอีกแน่นอน “ส่งครบทุกบ้านแล้วใช่ไหมคะ” “เหลืออีกหนึ่งที่แต่เดี๋ยวพ่อไปส่งเองเพราะมันไกลอยู่ในตัวเมืองโน่น” “หนูจะเข้าตัวเมืองเหมือนกันเดี๋ยวหนูไปส่งเองก็ได้ว่าแต่ของเยอะไหมมีอะไรบ้าง” “ไม่เยอะหรอก แค่อุปกรณ์แต่งซิ่งสองสามชิ้นเอง” จบประโยคก็หยิบเกจ์วัดมาตรงหน้าฉันหกตัว “เป็นบ้านนะไม่ใช่หน้าร้านเหมือนเจ้าอื่นโอนจ่ายแล้วและไม่ต้องเก็บค่าส่งนะเขาเป็นลูกค้าประจำเรา” “จะพิจารณาอีกทีนะคะถ้าหล่อจะให้ฟรี” “ผู้หญิง!” “ถ้างั้นคูณสองของราคา” “พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง” พ่อถึงกับส่ายหน้าให้ค่ะ ฮ่า ๆ “บ้านโมเดิร์นชั้นเดียวนะ เข้าตัวเมืองไปอยู่ซ้ายมือมีหลังเดี่ยวสีฟ้าน้ำทะเล” “เข้าใจแล้วค่ะ” “ว่าแต่หนูจะไปไหนแล้วจะกลับกี่โมง” “ไปหาเพื่อนค่ะไม่ทันค่ำก็กลับแล้ว พ่อสบายใจได้ไม่เถลไถลแน่นอน” “เพื่อน ? เท่าที่พ่อรู้เพื่อนสนิทหนูมีแค่เอ้นะ” พ่อของเอ้ก็คือเพื่อนรักของเขานั่นแหละ “คนนี้พิเศษค่ะเพราะจะกระโดดจากเพื่อนสนิทมาเป็นพี่สะใภ้หนูด้วย” ฉันว่ายิ้ม ๆ แต่คนตรงหน้ากลับไม่ยิ้มด้วยแถมยังไม่มีท่าทีแปลกใจอีกต่างหาก “ไปก่อนนะคะจะรีบกลับค่ะ” “ขับรถดี ๆ นะ” “สบายใจได้หนูซิ่งแน่นอน” “เพียงฝัน!” “คิกคิก” ฉันมีนัดกับเสียงเพลงค่ะ แน่นอนว่าพี่ปั้นไม่รู้เพราะฉันไม่ให้รู้แต่ก่อนจะไปหาเพื่อนสาวก็ต้องเอาของไปส่งก่อน จากบ้านฉันเข้าตัวเมืองไม่ไกลเท่าไหร่แต่ปกติไม่ค่อยได้มาทางนี้หรอกเพราะชอบเถลไถลข้ามจังหวัดมากกว่า จะหนีเที่ยวทั้งทีใครเขาอยู่แถวบ้านกันล่ะคะ มาถึงก็เห็นบ้านสวยตามที่พ่อบอก มองเข้าไปในบ้านมีรถยนต์จอดอยู่สามคันค่ะแต่ยังไม่ทันกดโทรหาใครก็มีผู้หญิงวัยกลางคนออกมาซะก่อน “สวัสดีค่ะคุณน้าหนูเอาของมาส่งค่ะ” “รอเดี๋ยวนะลูก” น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยพลางหันไปเรียกใครคนหนึ่งที่อยู่ในบ้าน “น่านฟ้าหนูสั่งอะไรอีก” “คะ ? หนูเหรอ” เสียงพึมพำตอบกลับมาก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาหยุดยืนตรงหน้าฉัน “อ๋อ...ลุงเก้าให้มาส่งใช่ไหม” “ใช่ค่ะ” “ของออกแบบค่ะแม่” ประโยคนี้เขาหันไปพูดกับคุณน้าค่ะ “พ่อบอกว่าไม่คิดค่าส่งค่ะลูกค้าประจำ” “ประจำจริง! รับของจนพี่งงหมดแล้วเพราะไม่ใช่แค่ร้านเดียว” เขาว่ายิ้ม ๆ พลางชี้มือไปยังรถยนต์คันหนึ่งซึ่งแต่งสวยมากพร็อบมาเต็ม “รถสวยต้องจอดอยู่บ้านนะแล้วเอาคันไม่สวยไปออกรบแทน” “เข้าใจเลยค่ะพี่ชายหนูก็เป็น” “พี่ชายเหรอ ? สงสัยจะเป็นครั้งก่อนที่มาส่งแล้วพี่ทอฝันรับแน่เลย” “ถ้าไม่ใช่พ่อก็พี่ชายหนูแหละค่ะเพราะที่ร้านไม่ได้จ้างใครพวกเราส่งกันเอง” “จ้า ไว้อีกสามวันมาส่งใหม่นะ” “ได้เลยค่ะ ขอบคุณที่ใช้บริการนะคะ” เอ่ยขอบคุณและยกมือไหว้ทั้งคู่อย่างมีมารยาท “อะไรมาส่งเหรอครับ” “สั่งจนจำไม่ได้เลยว่างั้น” “โธ่พี่! ก็มันมีหลายอย่าง” ไม่ได้สนใจที่จะฟังต่อและไม่ได้หันไปมองด้วยฉันก็ขึ้นรถขับออกมาเลย นัดกับเสียงเพลงที่หน้ามหาวิทยาลัยของเธอค่ะ ก็จังหวัดใกล้ ๆ นี่แหละ “ร้องไห้เยอะหรือไงสภาพดูไม่ได้เลย” ประโยคทักทายแสนน่ารักดังขึ้นพลางจับหน้าฉันหันซ้ายทีขวาที “อกหักใครเขาร้องไห้กันเขาเริ่มต้นใหม่กันทั้งนั้นแหละ” “นั่นมันคำพูดของพี่ชายฉัน” “เออนั่นแหละยืมก่อน” “ไปไหนกันดีล่ะเรา” “เมาไหม ไม่ต้องห่วงมีคนดูแลอย่างดี” “บาร์โฮสต์เหรอ” “ไปไหมล่ะ” “น่าสนนะ” “ฮ่า ๆ” พูดเล่นกันไปอย่างนั้นแหละค่ะ “ร้านเบเกอรี่แถวนี้แล้วกันเดี๋ยวฉันต้องไปทำรายงานต่อ” “โอเค” มาถึงร้านเบเกอรี่ก็สั่งนั่นสั่งนี่มากินแก้เครียดจนเสียงเพลงเริ่มเข้าประเด็น “คิดไว้หรือยังว่าจะเอายังไงต่อ” “เลิก” “...” “แต่ตอนนี้ยังรู้สึกอยู่ คิดถึงส่วนหนึ่งอยากเจอส่วนหนึ่งและเกลียดส่วนหนึ่ง” ฉันบอกออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง ถามว่ายังรักไหมตอบได้เต็มปากว่ายังรัก “ใคร ๆ ก็รู้สึกกันทั้งนั้นแหละฉันเองก็เป็น” “แต่เธอก็เลือกที่จะให้อภัยนี่” “เพราะเขาเป็นแบบนั้นแต่แรกแล้วไง เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเขาก็แค่เป็นตัวเองในแบบของเขา ใจหนึ่งฉันอยากหนีไปให้ไกลด้วยซ้ำแต่ก็นั่นแหละไกลแค่ไหนก็ยังเป็นเขาอยู่ดี ... แต่ถ้าฉันเป็นเธอฉันก็คงเลิกเหมือนกัน ไม่ใช่คนคุยไม่ได้เป็นอะไรกันแต่มีอะไรกันและยังวนเวียนอยู่ในชีวิตประจำวันตลอด ความสัมพันธ์น่ากลัว” พี่ปั้นก็พูดทำนองนี้ค่ะ คนคุยที่เขาตกหลุมรักก็คือเสียงเพลงตรงหน้าฉันนี่แหละ ก็จริงอย่างที่เธอพูดค่ะเพราะพี่ชายฉันโสดเก่ง คุยไปเรื่อยถ้ายังไม่ใช้คำว่าแฟนกับใครแต่ถ้าได้รักใครแล้วเขาก็รักคนเดียวนะคะ ต่างจากเรื่องราวของฉันที่เราเป็นทั้งเพื่อนรัก เป็นทั้งคนรักกันมาก่อนแล้วอยู่ ๆ ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป “ฉันใช้วิชาแฮกเกอร์ไปสืบค้นบัญชีนั้นที่เธอส่งมาให้เรียบร้อยแล้วนะ มันถูกใช้งานมาพร้อมกับอีกบัญชีหนึ่งนั่นแหละ” “ช่างแม่งเหอะฉันไม่อยากสนใจแล้ว” “แล้วเอาไงต่อล่ะ ไปเรียนก็ต้องเจอกันอีก” “แค่สองวันเองคงไม่เป็นอะไรหรอกเอ้ก็อยู่” ฉันเรียนภาคพิเศษค่ะวันเสาร์อาทิตย์ จันทร์ถึงศุกร์ทำงานแต่ว่าลาออกได้สักพักแล้วเพราะทนอยู่กับหัวหน้าที่เลือกปฏิบัติไม่ได้ “เธอนี่เป้าหมายชัดเจนดีนะ” “เลิก ฉันเลิกจริง ๆ แต่ตอนนี้ยังปรับตัวไม่ได้คงต้องอยู่กับความรู้สึกนี้ไปก่อน แต่เชื่อสิว่าฉันต้องผ่านมันไปได้แน่” “ผ่านมันไปให้ได้นะฉันเป็นกำลังใจให้ ถ้าไม่รู้จะไปไหนไม่รู้จะคุยกับใครก็โทรมา” “อืม” ทุกอย่างมีเวลาของมันค่ะ ตอนนี้ฉันยังเจ็บแต่อีกเดี๋ยวทุกอย่างคงดีขึ้นเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD