หลายวันผ่านไป
หลังจากคืนนั้นฉันก็ถอยห่างออกมาประมาณหนึ่ง ไม่โทรไม่ตามไม่โวยวายและทำทุกอย่างตามปกติเช่นเดียวกับเบียร์
“วันหยุดนี้ไปดูหนังกันนะ”
“ถ้าปฏิเสธล่ะ ?”
“ก็ไม่ไปไงรอฝันว่างก่อน”
“เหรอ... คิดว่าจะพาคนอื่นไปแทนซะอีก”
“เดี๋ยวนี้ประชดเก่งนะ” เบียร์ว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือให้ฉัน “แม่โทรมารับด้วยนะบอกเขาว่าสองทุ่มกลับ” จากนั้นก็ลงสนามไปเตะบอลต่อค่ะ
โทรศัพท์อยู่ในมือแล้วแน่นอนว่าฉันเช็ก จะว่าไปเบียร์ก็ไม่เคยหวงมือถือกับฉันเลยนะแม้แต่รหัสโซเชียลต่าง ๆ เขาก็บอกให้ฉันรู้
เข้าอันนั้นออกอันนี้ทุกอย่างปกติค่ะ ในกล่องข้อความก็มีแต่เพื่อนสนิทเขาที่โต้ตอบกัน ในบัญชีรายชื่อกับบันทึกการโทรก็ปกติค่ะ ทุกอย่างมันปกติมากถ้าไม่จับสังเกตได้ก็คงจะไม่เอะใจหรอก เขาดูรักฉันมากนะแต่ถ้าเสมอต้นเสมอปลายด้วยก็คงจะดี ระหว่างรอเบียร์ฉันก็ไถฟีดโซเชียลไปเรื่อยก็ใช้มือถือเขาเล่นนั่นแหละ และสิ่งที่ฉันคิดมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อบัญชีการใช้งานอีกแอคเคาน์หนึ่งแนะนำการเพิ่มเพื่อนเด้งขึ้นมา เห็นแบบนั้นฉันจึงใช้เครื่องของตัวเองค้นหาชื่อนี้ดูปรากฏว่าไม่พบค่ะเขาคงบล็อกไว้และชะล่าใจเลยไม่เอาของตัวเองบล็อกด้วย
เข้าไปส่องมีเพื่อนร่วมกันทั้งกลุ่มค่ะและมีการอัปเดตเช่นเดียวกันกับอีกบัญชีหนึ่ง จะแตกต่างตรงที่บัญชีนี้มีคอมเมนต์โต้ตอบกับใครคนหนึ่ง ถึงตอนนี้คำพูดของพี่ปั้นลอยมาในหัวเลยค่ะ ในสายตาคนอื่นฉันมันโง่จริง ๆ นั่นแหละ
“ลองค้นหาบัญชีนี้ให้หน่อย” ส่งแช็ตให้ใครคนหนึ่ง ไม่สิ! พี่สะใภ้ในอนาคตของฉันต่างหากที่ตอนนี้ขังตัวเองอยู่ตรงไหนสักแห่งบนโลกใบนี้เพราะว่าพี่ชายฉันสร้างเรื่องเอาไว้
[รูปภาพ]
[ชื่อเดียวกันแต่มีสองบัญชี]
“ขอบใจมาก มีอะไรให้ช่วยจะทักไปอีก”
เราสนิทกันค่ะเรียนมัธยมต้นมาด้วยกันแต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันหรอก เธอชื่อเสียงเพลง ไม่รู้เหมือนกันว่าไปปิ๊งรักกับพี่ชายฉันตอนไหน
“เที่ยวพอหรือยังกลับมาได้แล้วมั้ง”
[กลับได้ไงยังไม่เจอผู้ดี ๆ เลย]
“ฮ่า ๆ เธอระวังพี่ปั้นหักคอนะ”
[ฉันมากกว่าที่จะหักคอเขา]
“พอแล้วมั้งแค่นี้ก็ร้องไห้เหมือนหมาแล้ว”
[สมน้ำหน้า! กลับไปเดี๋ยวเจออีก] แน่นอนว่าไม่ใช่แค่คำขู่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ช่วยหรอกแม้ว่านั่นจะเป็นพี่ชายตัวเองก็ตาม ผิดก็คือผิดค่ะ
เลิกสนใจแช็ตของเสียงเพลงเงยหน้าขึ้นมาอีกทีใครอีกคนก็มานั่งข้าง ๆ แล้ว
“ไหนว่าไม่มา ?”
“ไอ้บาสลากมาอะดิ”
“มันชอบมึงไง”
“รู้ ... กูก็ชอบมัน”
“...” นี่คือพิ้งค์เพื่อนในกลุ่มฉันเอง เราสนิทกันนะคะและก็สนิทกับเบียร์ด้วย “คืนก่อนเธอไปดื่มกับพวกมันหรือเปล่า”
“คืนไหน ฉันไม่ได้ไปไหนสักคืน” น้ำเสียงเป็นกันเองเอ่ยก่อนจะทอดสายตาไปในสนาม “มีวันโน้นไอ้พวกนี้ไปกันเธอไม่ได้ไปด้วยเหรอ”
“เปล่า ฉันไปกับพี่ชาย”
“พี่ชาย ? เธอมีพี่ชายด้วยเหรอไม่เห็นเคยรู้เลย”
“มี หล่อด้วย”
“จีบค่ะ!”
“หมดสิทธิ์ค่ะ ตำแหน่งพี่สะใภ้ฉันไม่ว่างแล้ว”
“โธ่! จบกัน”
มองผิวเผินเราก็เพื่อนสนิทกันนะคะแต่ไม่รู้ว่าทำไมความสัมพันธ์จัญไรของคนสองคนถึงเกิดขึ้นมาได้ แค่มีเซ็กซ์เหรอก็คงใช่แหละ ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้และไม่สนว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง
แค่เพียงไม่นานการแข่งขันก็จบลง
“ดูทำหน้าสิ” มือหนาบีบแก้มฉันด้วยความมันเขี้ยว “เป็นอะไรอีก”
“เป็นคนที่นายไม่รัก”
“รักครับ” น้ำเสียงจริงจังตอบกลับแทบจะทันทีและไม่สนว่าตรงนี้จะมีใครอยู่บ้าง เขาเป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ ห้าปีมานี้เขาชัดเจนในความสัมพันธ์เสมอแม้ว่าบางทีจะติดเกมส์หรือติดเพื่อนไปบ้างแต่ก็ไม่เคยทำตัวเสเพลหรือบอกใครว่าโสด ตรงนี้แหละที่มันกำลังทำให้ฉันเจ็บอยู่ ปากบอกว่ารักฉันขณะเดียวกันก็ใช้ร่างกายแสดงความรักกับคนอื่น
“รักแบบไหน แบบที่มีแค่ฝันคนเดียวหรือเปล่า”
“เบียร์มีแค่ฝันมาตลอดนะ เป็นประจำเดือนหรือไงอารมณ์อ่อนไหวจังเลยครับ” เบียร์ว่ายิ้ม ๆ แล้วโอบเอวฉัน
“มึงสองคนต้องใจเย็น ๆ นะเผื่อลืมว่าพวกกูอยู่ตรงนี้” บาสพูดแทรกขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างพิ้งค์ที่ไม่ได้สนใจฉันกับเบียร์สักเท่าไหร่
“พวกนายก็เหมือนกันแหละ เผื่อลืมว่าฉันก็เป็นเพื่อนเหมือนกัน”
“...”
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบเมื่อได้ยินฉันพูดแบบนั้น ไม่มีใครรู้สึกผิดหรือละอายใจหรอกค่ะมันก็แค่เรื่องสนุกในกลุ่มเท่านั้นเอง
“พูดอะไรของเธอเนี่ย” พิ้งค์เอ่ยก่อนจะมองหน้าฉันกับเบียร์สลับกัน “น่าจะเป็นวันนั้นของเดือนอย่างที่นายบอก”
ฉันไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกและเดินออกมาจากตรงนั้นทันที มีแวบหนึ่งในหัวคิดเสียดายเวลาและก็คิดว่าเขาจะคิดได้แล้วเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่เช่นเดียวกับพี่ปั้น แต่ฉันก็ลืมคิดไปค่ะถ้าคนมันจะดีมันก็คงดีไปนานแล้ว
หมับ!
“เป็นอะไรวะ”
“สนุกไหม ?”
“อะไร ? ฝันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่”
ฉันเงียบแล้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า จากที่ตั้งใจว่าจะค่อย ๆ ปรับค่อย ๆ คุย แต่พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วมันทำให้รู้ว่าฉันไม่ควรอยู่ตรงนี้ อดทนไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครนึกถึงความรู้สึกฉันสักคน แม้แต่คนที่บอกว่ารักฉันยังไม่นึกถึงเลย
“เพียงฝัน...”
“เราเลิกกันเถอะ”
“...”
“ฝันรู้ว่าเบียร์เข้าใจเหตุผลของมัน”
“เข้าใจอะไรวะอยู่ดี ๆ ก็บอกเลิก มีอะไรทำไมไม่คุยกันอะ” เบียร์เริ่มโวยวายใส่ฉันเพราะเราเคยสัญญากันไว้ไม่ว่าจะทะเลาะกันแรงแค่ไหนก็ห้ามบอกเลิกเด็ดขาด
“ใจเย็นค่อย ๆ คุยกัน” บาสเอ่ย
“เย็นอะไรมึงดูดิกูยังไม่รู้เรื่องเลยอยู่ดี ๆ ก็บอกเลิก”
“เพียงฝันเธอใจเย็นก่อนอย่าใช้อารมณ์กันสิ”
“เงียบปากให้หมด! ไม่ต้องช่วยพูดหรือช่วยปิดบังแล้วนะเพราะฉันรู้หมดแล้ว จะพากันไปดื่มที่ไหนเข้าโรงแรมไหน ไม่ต้องช่วยปิดอีกต่อไปแล้ว”
“...”
“ห้าปี ... แม่งโคตรเสียเวลาเลย”
“ขอโทษ”
กวาดสายตามองทุกคนแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที คำขอโทษของเขาก็คือการยอมรับแต่โดยดีนั่นแหละ ไม่จำเป็นต้องถามหรือฟังคำแก้ตัวอะไรจากใครอีก ความจริงมันอยู่ตรงหน้าแล้วถ้าฉันยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็โง่เกินคนแล้วล่ะ
ความรู้สึกตอนนี้มันแย่กว่าที่คิดอีกค่ะทั้งที่รู้ก่อนแล้ว เลือกที่จะไม่โวยวายแล้ว ตั้งใจว่าจะคุยกันดี ๆ ด้วยซ้ำแต่ว่าฉันก็ทำไม่สำเร็จ พอได้อยู่ท่ามกลางทุกคนฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่ ทุกคนรู้และช่วยกันปกปิดอย่างดีด้วยซ้ำไป
เคยได้ยินมาว่าถ้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าร้องไห้ให้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ใช่ค่ะคนโง่อย่างฉันกำลังทำตามอยู่
“ร้องไห้กลางสายฝนก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่รู้หรอกนะว่าร้องไห้” ใครคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับกางร่มให้ฉัน “จะไม่สบายเอานะ”
“...”