Episode 6
ตอน เครื่องมือแก้แค้น
"อาการของเธอ ไม่อันตรายมากครับ ทานยาให้ตรงเวลาแล้วก็หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงไปสักหนึ่งอาทิตย์” เสียงของใครบางคนคุยกัน ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกตัว...
"อืม รู้ละ" เสียงดุดันที่คุ้นเคยของรามสูร นี่เขานั่งอยู่ข้าง ๆ ฉันเหรอ…
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณราม ยังไงก็โทรเรียกผมได้ตลอดเวลา"
ฉันลืมตาขึ้นมองไปรอบ ๆ ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นห้องที่ฉันเกลียดที่สุด ห้องของรามสูร!!
"ฟื้นแล้วเหรอ?" เสียงของรามสูรเอ่ยทักขึ้น
ฉันจะไม่ตอบอะไรคนใจร้ายแบบเขาเด็ดขาด ฆ่าได้แม้กระทั่ง ลูกน้องที่รักและซื่อสัตย์ของตัวเองอย่างแสนดี เขาทำแบบนั้นลงได้ยังไง
"อ้าวเห้ย เป็นไรอีกล่ะ เจ็บตรงไหน…เออ ๆ เดี๋ยวฉันตามหมอก่อน” เขาพูดพลางจะเอามือมาแตะหน้าผากฉัน....ด้วยความตกใจกลัว ฉันผลักมือนั้นออกไปให้ห่างทันที บ้าหรือเปล่า ก่อนหน้านี้ยังร้ายใส่ฉันอยู่เลย ตอนนี้เขากลับทำเหมือนห่วงฉัน
"อย่ามายุ่งกับฉัน ไอ้เลว!!!" ฉันแว๊ดเสียงใส่หน้ารามสูร ก่อนจะก้าวลงจากเตียงแต่ก็ถูกสายน้ำเกลือรั้งเอาไว้
"นั่งเฉย ๆ ดิ อยากเจ็บตัวหรือไง?" รามสูรดึงฉันมานั่งลงที่เตียง
"ปล่อย ๆ ฉันจะไม่ทนอีกแล้ว ขนาดแสนดี ลูกน้องของนายเอง นายยังฆ่าเขาได้ง่าย ๆ เลย ฉัน..ฮื่อ ไม่กลัว..อะไร ฮึก!อีกแล้วตายก็ไม่กลัว"ฉันพูดออกไปทั้งน้ำตา
"งั้นก็จำเอาไว้ ถ้าเธอไม่คิดหนี ก็จะไม่มีใครเดือดร้อน" เขาพูดพลางลุกขึ้น เหมือนจะเดินออกไป
"แล้วทำไมฉันถึงต้องอยู่ที่นี่ล่ะ" ฉันพูดมันออกไปอย่างท้าทาย มันไม่มีอะไรที่น่ากลัวอีกแล้วสำหรับชีวิตของฉัน
"เพราะเธอเป็นเครื่องมือแก้แค้นเดียวที่ฉันมี เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอ!"
ปัง!
หลังจากรามสูรพูดจบ เขาก็ปิดประตูเดินออกจากห้องไป...
ก๊อก ๆ ๆ
"ขอป้าเข้าไปหน่อยได้ไหมคะคุณพิม" เสียงป้านวลนี่นา
หลังจากที่ป้านวลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร
"ป้านวล!!"
ฉันก้าวลงจากเตียงทันทีพร้อมกับคุกเข่าลง
"ว้ายยย!! คุณพิมทำอะไรคะนั่น ลุกขึ้นเลย ๆ ไม่สบายอยู่ ลงมาจากเตียงทำไมคะ" ป้านวลพูดพลางจะพยุงฉันขึ้นเตียงแต่ฉันก้มลงกราบป้านวลซะก่อน
"หนูขอโทษนะคะป้า ฮึก…ที่ทำให้ป้าต้องเดือดร้อนเพราะความเห็นแก่ตัวของหนูเอง หนูขอโทษค่ะ" ฉันพนมมือไปร้องไห้ไปพูดแต่คำว่าขอโทษ
"ไม่เอาลูก ๆ ไม่ร้องไห้นะ ลุกขึ้นไปนอนพักก่อน เดี๋ยวร่างกายจะทรุดเอา เดี๋ยวคุณราม เธอจะมาโทษป้าเอาได้ว่าดูแลหนูไม่ดี" ป้านวลพยุงฉันกลับไปนอนที่เตียง
"ป้านวลพูดเหมือนกับว่ารามสูรแคร์หนูมากอย่างนั้นแหละค่ะ เขาไม่สนหรอกว่าหนูจะเป็นตายร้ายดียังไง ขนาดโรงพยาบาลยังไม่ให้ไปเลย และนี่ให้มานอนห้องตัวเอง คงกลัวหนูแอบหนีไปอีก" ฉันก้มหน้าก้มตาทานข้าวที่ป้านวลยกมาให้ เพราะตั้งแต่มาถึงฮ่องกง ยังไม่มีข้าวสักเม็ดตกถึงท้องฉันเลย
"จริง ๆ ป้าก็ไม่อยากจะพูดแก้ตัวอะไรให้คุณรามหรอกนะคะ แต่แกก็มีเหตุผลของแก คุณหมอที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้เป็นคุณหมอมือดีของครอบครัวนี้เลยนะคะ แกดูแลทุกคนในครอบครัวของคุณราม และป้ามั่นใจว่าเก่งกว่าหมอที่โรงพยาบาลอีกนะคะคุณพิม คุณรามแกโทรตามให้มารักษาตั้งแต่ไอ้แสนดีบอกว่าคุณพิมป่วยแล้ว คุณรามเลยให้รีบกลับมาบ้าน จริง ๆ แล้..." ป้านวลยังพูดไม่ทันจบ น้ำตาฉันมันก็ไหลอีกครั้ง ฉันวางช้อนลงทันที มันกินไม่ลงแล้วล่ะ
"แสนดีงั้นเหรอ…ที่แสนดีต้องตายก็เพราะพิม แสนดีโดนยิงเพราะพิม" ฉันเอ่ยออกไปด้วยเสียงสั่น ๆ
"เดี๋ยว ๆ คุณพิมใจเย็น ๆ ก่อน ไอ้แสนดีมันยังไม่ตาย" ป้านวลพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
"อะไรนะคะ? ก็แสนดีโดนรามสูรยิง พิมเห็นกับตามีเลือดออกมาด้วยนะป้านวล "
"เอาอย่างนี้นะ ถ้าคุณพิมกินข้าวที่ป้าเตรียมมาให้นี้หมด แล้วป้าจะไปเรียกแสนดีมาพบคุณพิม"
"จริงเหรอคะ พิมจะกินให้หมดเลย ป้านวลไม่ได้หลอกพิมนะ แสนดีไม่ตายจริง ๆ นะ"
" คุณรามเธอไม่ใช่คนใจร้ายแบบที่คุณพิมคิดหรอกค่ะ "
ถ้าป้านวลอายุเท่า ๆ กัน ฉันคงกลอกตาใส่ไปแล้ว รามสูรน่ะเหรอไม่ใช่คนใจร้าย ถ้ารามสูรไม่ใช่คนใจร้าย บนโลกนี้ก็คงไม่มีใครเลวแล้วล่ะ
"ทานยาที่คุณหมอให้ไว้ด้วยนะคะ " ป้านวลหยิบยามาให้ฉันหลังจากทานข้าวเสร็จ
แต่ฉันเกลียดการกินยาเป็นเม็ดที่สุด และนี่ต้องกินสี่เม็ด ตายแน่ ๆ ปกติคามินจะเอายาเม็ดไปบดผสมน้ำหวานให้ฉันก่อนตลอด...คิดถึงคามินจัง… ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะทำใจเรื่องที่ฉันหายไปได้หรือยัง เขากำลังออกตามหาฉันหรือเปล่านะ
ฉันรับยามาจากป้านวลและแกล้งทำเป็นว่ากินไปแล้ว ก่อนจะซุกยาไว้ข้างเตียง
"ป้านวลคะอย่าลืมสัญญานะ" ฉันพูดออกไปเพราะกลัวป้านวลจะหลอกฉันเรื่องที่แสนดียังมีชีวิตอยู่เพื่อให้ฉันสบายใจ
“งั้นรอสักครู่นะคะ" ป้านวลเดินถือถาดอาหารออกจากห้องไป
หลังจากที่ป้านวลเดินออกไป ฉันก็มองไปรอบ ๆ ห้อง ที่รามสูรเคยใช้ทำร้ายฉัน ในคืนก่อน มันค่อนข้างมืดจนไม่ได้สังเกตเห็นอะไร วันนี้ฉันเลยลองลุกจากเตียงไปสำรวจ ห้องนอนที่กว้างและหรูหรานี่ดู
ในห้องนี้เต็มไปด้วยรูปถ่ายระหว่างเขากับลักษณ์ น้องชายของเขานั่นแหละ ตั้งแต่วัยเด็กจนปัจจุบัน รูปถ่ายครอบครัวที่สุขสันต์และรูปที่รามสูรหอมแก้มแม่ของเขา
ฉันยังคงมองไปรอบ ๆ ผู้ชายในรูปไม่เหมือนกับตัวจริงที่ฉันเจอเลยสักนิด เวลาเขาอยู่กับครอบครัว รอยยิ้มนั้นช่างมีเสน่ห์ ดูอบอุ่น เขาดูเหมือนหัวหน้าครอบครัวที่ดีคนหนึ่ง เป็นลูกชายคนโตที่พ่อแม่ภูมิใจ
ถ้าเขาเป็นเหมือนในรูป คงน่ารักไปอีกแบบ...
"ทำไมคุณถึงวิ่งกลับมาล่ะครับ?" ฉันหันหน้าไปทางเสียงทันที
"แสนดี!" แสนดีตัวจริง ตัวเป็น ๆ ไม่ใช่ผี
"คุณหนีได้สำเร็จแล้ว ทำไมไม่หนีไปเหรอครับ กลับมาทำไม"
"ก็เพราะนายกับป้านวลยังไงเล่า ฉันกลัวนายกับป้าจะเป็นอันตราย กลัวทุกคนจะต้องตายเพราะฉัน"
"คุณพิมจำคำผมไว้นะ ถ้าคุณมีโอกาสอีกครั้ง คุณหนีไปเลย และไม่ต้องกลับมา" แสนดี พูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่เบา
"แต่วันนั้นฉันเห็นเลือด เห็นนายโดนยิง รามสูรยิงนายไม่ใช่เหรอ"
"นายไม่ใช่คนที่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ แต่คุณพิมอย่าลืมว่านายคือหัวหน้าแก๊ง ถ้าลูกน้องคนไหนทำพลาด ก็ต้องรับบทลงโทษ วันนั้นผมโดนยิงจริง ๆ ครับ แต่กระสุนมันแค่เฉี่ยว ๆ แขนไป เลยมีเลือดออกบ้าง แต่ทำแผลแป๊บเดียวก็หาย นายไม่มีทางฆ่าลูกน้อง ที่เป็นเหมือนครอบครัวตัวเองหรอกครับ "
"ทำไมนายกับป้านวลรักและเทิดทูนรามสูรจัง ผู้ชายแบบนั้นมีอะไรให้ต้องเทิดทูนมากกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้องเหรอ?”
"คิดผิดแล้วครับ คุณรามไม่ใช่แค่เจ้านาย เขาอาจจะเป็นซาตาน ที่มอบชีวิตหลังความตายให้ผมอีกครั้ง" แสนดีพูดถึงรามสูรดวงแววตาที่เปี่ยมด้วยความภักดี
"ซาตานที่ให้ชีวิต?" ฉันรู้สึกงง ๆ กับคำพูดของแสนดี
"พ่อผมเคยเป็นลูกน้องของคุณท่าน แต่ก็ต้องโดนไล่ออกเพราะพ่อผมแอบขโมยของมีค่าในบ้านหลังนี้ไป ผมกับคุณรามเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก หลังจากที่พ่อโดนไล่ออก เราก็กลับไปอยู่ที่บ้านในสลัม พ่อผมเองติดหนี้พนันเกือบสิบล้าน ไม่มีเงินไปจ่ายเขา เจ้าหนี้เลยไม่พอใจ ตามหาและจะฆ่ายกบ้าน พวกมันจุดไฟเผาบ้านของผมทั้งหลัง ตอนนั้นมันดึกมาก แม่ของผมสำลักควันนอนสลบอยู่กลางกองไฟ พ่อรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นก็เลยยิงตัวตายทันที ส่วนผมที่สำลักควันและกำลังจะหมดสติผมได้แต่จดจำใบหน้าของไอ้ชั่วพวกนั้นไว้ในใจ ท่ามกลางความร้อนของเปลวไฟ มีเด็กวัยรุ่นผู้ชายบ้า ๆ คนหนึ่ง อายุตอนนั้นคงไม่เกินสิบเจ็ด เขาเดินฝ่ากองไฟเข้ามาดึงแขนผมแล้วลากผมออกมาจากกองไฟ ก่อนที่บ้านทั้งหลังจะถล่ม และเขาก็เป็นคนล้างแค้นให้ครอบครัวของผม!" แสนดีร่ายยาว
"อย่าบอกนะว่าคนอย่างรามสูร ยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเข้าไปช่วยนายอะ"
"ใช่ครับ "
"แต่ถึงยังไงสำหรับฉัน เขาก็เป็นแค่คนโง่ คนชั่วที่เต็มไปด้วยไฟแค้น และฉันจะรอดูวันที่ไฟนั้นแผดเผาตัวเขาเอง"
"โถ่คุณพิม นี่ผมพูดไปตั้งเยอะ คุณพิมไม่คิดจะลองมองนายผมในแง่ดีบ้างเหรอครับ"
"ไม่ล่ะแสนดี"
"ตั้งแต่ที่คุณลักษณ์ประสบอุบัติเหตุ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป จากที่นายเคยกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว เคยนั่งดูหนังในวันหยุด ตีเทนนิส ว่ายน้ำ ทำอะไรหลายอย่างด้วยกัน แต่ตอนนี้ทั้งคฤหาสน์หลังใหญ่นี้มีเพียงคุณราม อาศัยอยู่เพียงคนเดียวกับน้องชายที่นอนนิ่งเป็นเจ้าชายหนิทรา"แสนดียังคง เล่าเรื่องเจ้านายแสนโหดที่เป็นคนดีในสายตาของเขาต่อไป
"แล้วคุณหญิง เอ่อ…แม่กับพ่อของนายนั่นล่ะ ไปไหน?" ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย
"คุณท่านทั้งสองเครียดหนักมาก คุณหญิงเนี่ย เห็นสภาพลูกชายคนเล็กทีไร เธอก็ช็อก เป็นลมไปทุกที คุณผู้ชายเลยต้องพาไปหาที่สงบ ๆ ปฏิบัติธรรมทำบุญ รู้สึกว่าตอนนี้จะ อยู่ที่เนปาลครับ"
"ถึงจะรักครอบครัวตัวเองมาก แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องทำลายชีวิตคนอื่นเลยนี่” ฉันพูดเสียงแข็ง คนอื่นก็มีครอบครัวเหมือนกันไม่ใช่ว่าตัวเองมีครอบครัวอยู่แค่คนเดียว
"คุณรู้ไหม คุณพิมเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เข้ามาพักในห้องนอนส่วนตัวของคุณราม และยังได้รักษาโดยคุณหมอปราชญ์ หมอที่รักษาเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้นนะครับ"
"พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง นายต้องการจะบอกอะไร? "
"คุณพิม คือ...." แสนดียังไม่ทันพูดจบประโยค
"ใครใช้ให้มึงเข้ามาในห้องนี้?" คนที่มาใหม่พูดเสียงดังขึ้น
"รามสูร…"