บัวชมพูยังคงมาทำงานบ้านแทนมารดาที่บ้านคุณอลังการตามปกติ เขาไม่ร้องเรียนกับบริษัทของแม่ นั้นแสดงว่ายอมรับให้เธอมาทำงานแทนแม่ได้ เธอได้กุญแจสำรองจากรปภ.ไขเข้าบ้านของอลังการเพื่อทำความสะอาดบ้าน หญิงสาวผงะไปเล็กน้อย ในห้องรับแขกอย่างกับมีสงครามเกิดขึ้น ขวดเบียร์เกลือนพื้นห้อง แก้วที่ล้มคว่ำน้ำเจิ่งนอง ข้าวของกระจัดกระจาย หรือว่า
“ขโมยขึ้นบ้าน...”
บัวชมพูพึมพำพอได้สติก็หันซ้ายหันขวาหาอาวุธ จะหยิบมีดก็กลัวเลยคว้าไม้กวาดขึ้นมาชูไว้ เสียงกุกกักดังจากชั้นสองของบ้าน เธอคิดจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เสียงเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ทำให้ไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่กำไม้กวาดแน่น จนกระทั้งร่างสูงใหญ่เดินลงบันไดผ่านหน้าเธอ ชายหนุ่มถึงกับชะงัก ดวงตาคมจ้องมองไม้กวาดในมือหญิงสาวที่ชูขึ้นเหนือศีรษะทำท่าจะฟาดลง เขารีบยกมือกำด้ามไม้กวาดไว้ก่อน
“เฮ้ย! จะทำอะไร! จะฆาตกรรมเจ้าของบ้านเรอะ!”
“คุณใหญ่!”
บัวชมพูตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในบ้านเวลานี้ อลังการไม่วางใจ กระชากไม้กวาดออกจากมือของหญิงสาว แต่เพราะเธอไม่ทันตั้งตัวยังไม่ได้ปล่อยมือจากด้ามไม้กวาดร่างบางจึงเซถลาเข้าไปปะทะกับแผ่นอกกำยำของอลังการ ร่างนุ่มนิ่มเข้ามาแนบชิด เขาสวมเพียงกางเกงขายาว ท่อนบนเปลือยเปล่ายังมีหยดน้ำเกาะอยู่ พอได้อยู่ใกล้จึงเห็นว่าเส้นผมของเขาก็ยังเปียกชื้น
“ฉันถาม!” เขาดุแต่ไม่ได้เสียงดังเหมือนครั้งแรก มือแกร่งยังโอบเอวบางไว้ “คิดจะทำอะไร”
บัวชมพูได้สติก็ปล่อยมือจากด้านไม้กวาดแล้วขืนตัวออกจากแผ่นอกกว้าง
“หนูนึกว่ามีขโมยขึ้นบ้านค่ะ”
“หือ?” เขาวางไม้กวาดลงแล้วเลิกคิ้ว
“ก็ดูสภาพห้องสิคะ ยังกับถูกโจรรื้อค้นทรัพย์สิน”
อลังการกวาดสายตามองไปรอบตัว เขาแสร้งกระแอมไอแก้เขินแล้วพูดขึ้น “เมื่อคืนหนักไปหน่อย”
“แบบนี้เรียกหนักมากเลยค่ะ” บัวชมพูเบ้ปากแล้วยื่นมือไปคว้าไม้กวาดจากมือของเขา “คุณใหญ่หลบไปทางอื่นก่อน หนูต้องเก็บเศษซากของพวกนี้”
บัวชมพูใช้ปลายด้ามไม้กวาดเกี่ยวกางเกงชั้นในสีแดงสดขึ้นมาจากพื้น “ต้องให้ซักเก็บไว้คืนเจ้าของไหมคะ”
“ทิ้งไป!” อลังการหัวเสีย เขาเป็นเจ้าของบ้าน ทำไมต้องรู้สึกผิดด้วยนะ “ขอกาแฟร้อนหน่อยสิ”
“คุณใหญ่คะ หนูมาทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดบ้านไม่ใช่แม่บ้านทำอาหารนะคะ”
เธอบ่นขณะทิ้งกางเกงชั้นในลงในถังขยะ พลางคิดในใจว่าเจ้าของกางเกงในออกจากบ้านได้ไงเนี้ย! แต่ถึงปากจะบ่นแต่เธอก็เดินไปเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนแล้วเดินกลับมาเก็บขวดเบียร์ที่ล้มอยู่บนพื้น
“รู้แล้ว แต่ไม่คิดจะมีน้ำใจให้บ้างหรือไง” คราวก่อนยังหาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้เขาได้เลย
“ก็ต้องดูด้วยค่ะว่าคนแบบไหนควรมีน้ำใจให้” เธอบ่นทั้งที่มือยังทำงาน อันที่จริงแค่ชงกาแฟร้อนไม่ใช่เรื่องยุ่งอะไร แต่ก็อดบ่นไม่ได้จริงๆ
อลังการจะโต้เถียงพลันหุบปากนิ่งไป เขาแปลกใจที่ตัวเองนึกเถียงเด็กคนนี้ ปกติเขาไม่ค่อยชอบพูดคุยหยอกเล่นกับใครเท่าไหร่ แม้กับผู้หญิงที่หิ้วมานอนด้วยก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไร เขาหาที่นั่งห่างจากจุดที่หญิงสาวทำความสะอาด เอนตัวพิงพนักโชฟา มองร่างเล็กที่ก้มๆเงยๆ เก็บข้าวของบนพื้น จะว่าไป มันก็เหมือนมีคนบุกรุกบ้านเขาจริงๆ
บัวชมพูทำงานอื่นรอจนกระทั่งน้ำร้อนได้ที่แล้วจึงเดินมาชงกาแฟดำให้เจ้าของบ้าน
“กาแฟดำค่ะ อยากได้ครีมหรือน้ำตาลไหมคะ”
“ไม่ล่ะ ปกติกินแต่กาแฟดำ”
บัวชมพูขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยพอใจที่เห็นเขานั่งเกะกะสายตาอย่างนี้ โดยเฉพาะไม่สวมเสื้อ เธออดมองมัดกล้ามของเขาไม่ได้ แล้วสายตาก็ดันไปเห็นรอยข่วนบนหน้าอก เธอหรี่ตาแล้วยื่นหน้าไปมองอย่างไม่รู้ตัว
“มองอะไร เด็กทะลึ่ง” ปกติก็เปลือกอกเป็นประจำ ทำไมจู่ๆ รู้สึกเขินแฮะ
“คุณมีแผล ใส่ยาไหมคะ” เธอใช้นิ้วจิ้มที่รอยแดงๆ นั้น “ต้องไว้เล็บยาวขนาดไหนถึงข่วนเป็นรอยแดงได้ขนาดนี้”
อลังการเห็นอีกฝ่ายทำท่าขนลุกก็ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเบาๆ ผลักให้ถอยห่างออกไป
“ไปเอาเสื้อมาให้ฉันใส่!”
“อ้าว! คุณใหญ่ใส่กางเกงเองได้ ทำไมก่อนลงมาไม่ใส่เสื้อลงมาด้วยคะ” บัวชมพูทำหน้ามุย “แล้วผู้หญิงของคุณออกจากบ้านยังไง กางเกงในไม่นุ่ง”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง จ่ายเงินแล้วก็ไล่ๆออกจากบ้านสิ แล้วก็ไม่ใช่ผู้หญิงของฉันด้วย”
พูดแล้วก็ชะงักไป บัวชมพูกวาดตามองเขาอีกครั้งแล้วหมุนตัวเดินเร็วๆ ขึ้นไปหยิบเสื้อที่ชั้นสอง อลังการได้แต่โคลงศีรษะไปมาแล้วยกกาแฟดำขึ้นดื่ม ครู่หนึ่งหญิงสาวเดินลงมาพร้อมเสื้อยืดสีขาว ยื่นส่งให้เขาแล้วหันไปเก็บของในห้องรับแขกและลงมือทำความสะอาด
“ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมาวันนี้”
“มันอยู่ในคิวงานอยู่แล้ว คุณใหญ่ลืมวันเอง” เธอพึมพำแล้วหยิบหน้ากากผ้ามาปิดจมูก “คุณจะนั่งตรงนี้เหรอคะ ไปรอบนห้องดีกว่าไหม หรือบนห้องจะพังพินาศไปแล้วคะ”
“เด็กบ้า! มีหน้าที่อะไรก็ไปทำ ฉันจะนั่งตรงไหนก็เรื่องของฉัน” เขาดุแล้วรีบสวมเสื้อยืด
“แล้วทำไมวันนี้คุณใหญ่อยู่บ้านละคะ ปกติอยู่ฟาร์มไข่มุกไม่ใช่เหรอ”
เธอถามแล้วไม่สนใจว่าเขาจะนั่งตรงไหน รีบจัดการทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ ตอนเย็นจะไปช่วยน้ารุ่งรวีเปิดร้านขายกับข้าวอีก
“บ้านฉัน ฉันจะอยู่วันไหนต้องรายงานเธอเหรอ”
บัวชมพูเลิกคิ้ว แล้วยักไหล่ไม่คิดจะพูดอะไรอีก เธอเก็บขวดเบียร์ลงถังขยะแล้วจัดการเช็ดคราบน้ำก่อนจะลงมือถูบ้าน อลังการนั่งมองเธอทำงานไปเงียบๆ เธอหันมาถามเขาว่าต้องการการกาแฟเพิ่มไหม เขาพยักหน้า เธอจึงเช็ดมือแล้วรับถ้วยกาแฟใบเดิมของเขาไปชงให้ให้อีกแก้วแล้วยกมาให้ จะว่าไปเธอก็ทำหน้าที่ของเธอดีแล้ว แต่เพราะเขาหยุดงานตรงกับวันที่เธอมาทำความสะอาดพอดีถึงได้เจอกันแบบนี้
“ข้างล่างเสร็จแล้ว หนูขึ้นไปทำที่ห้องคุณใหญ่นะคะ”
“อืม”
หญิงสาวเดินไปขึ้นไปชั้นบน เขาขยับตัวเอนกายในห้องเพียงลำพัง ฟังเสียงการเคลื่อนไหว เขาไม่ได้จะจับผิดเธอ แต่แค่รู้สึกแปลกๆ ที่รู้สึกว่ามีคนอื่นอยู่ในบ้าน เขาอยู่คนเดียว ไม่ได้ติดต่อญาติพี่น้องมานาน ส่วนใหญ่จะโทรศัพท์หากัน แต่ไม่ได้ไปมาหาสู่สนิทสนมเหมือนแต่ก่อน เขาอยากอยู่คนเดียว เหมือนลงโทษที่ตัวเอง
เสียงออดดังหน้าบ้านเรียกอลังการให้ตื่นจากภวังค์ เขามองเลยไปยังชั้นบนแล้วนึกได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้ยิน และต่อให้ได้ยิน เธอก็คงเถียงเขาฉอดๆ ว่าไม่ใช่คนรับใช้ที่ต้องวิ่งไปทำนั้นทำนี้ให้ อลังการยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ลุกขึ้นไปเปิดประตูบ้าน
“ดีจริง อยู่บ้านด้วย”
“อาปกรณ์” อลังการประหลาดใจแต่ก็เบี่ยงตัวให้ชายร่างสูงใหญ่พอๆกับเขาเดินเข้ามาในบ้าน “จะมาหาทำไมไม่บอกก่อนละครับ”
“บอกให้แกหลบหน้าอาเรอะ!” ปกรณ์เดินเข้ามาด้วยความเคยชิน แต่อดกวาดตามองไม่ได้ อลังการลอบถอนหายใจโล่งอกที่ยัยหนูนั้นทำความสะอาดบ้านได้เรียบร้อยทันเวลา เขาอายุ42แล้ว แต่คนที่บ้านยังคงเป็นกังวลเรื่องของเขาอยู่
อลังการเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบขวดน้ำดื่มออกมา แต่สายตาปะทะกับถังขยะที่มีกางเกงชั้นในสีแดงนอนสงบนิ่งอยู่ เขาลอบสบถแล้วหันซ้ายหันขวาเจอเพียงหนังสือฉบับเก่าวางอยู่ จึงหยิบมันโยนใส่ถังขยะทำให้ไม่เห็นกางเกงชั้นในเจ้าปัญหา ทำไมเมื่อก่อนเขาไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้เขาวุ่นวายได้นะ
“บ้านช่องเรียบร้อยดี”
“อาครับ ผมอายุสี่สิบสองแล้ว อาอย่าทำเหมือนผมเป็นเด็กเลย”
“ก็รู้ว่าไม่ใช่เด็ก แต่มีคนเป็นห่วงไม่ดีหรือไง” ปกรณ์รับน้ำเย็นจากอลังการมาดื่ม
“อามาเที่ยวหรือครับ พักที่ไหน ไม่เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าเลย”