ถงเวย

2085 Words
''จะเริ่มเขียนม๊อดอะไรดีนะ..ปืน..ดาบ..หรือจะเป็นพวกปีกหรือชุดดี'' เทพกำลังคิดสิ่งที่จะออกแบบ ''อืม..เเต่หลังจากเกมเปิดเกมทุกเกมคนก็จะเล่นน้อยลงเเล้วนี่เราจะสร้างทำไมกันนะ'' เทพกังวลเกี่ยวกับอนาคต ''เพราะหลังจากที่เกม Tales Of New World เปิดคอมพิวเตอร์จะไม่ได้ใช้เล่นเกมอีกต่อไป..เเต่จะใช้ซื้อขายกันเเทน'' เทพนึกถึงตอนที่เกมเปิดให้ผู้เล่นประมูลเเละขายของในเกมกันในเว็บโดยจะหัก 50% เป็นของเว็บเเละส่วนที่เหลือก็จะเป็นของผู้ขายซึ่งของในเกมจำพวกอุปกรณ์ที่ใช้ต่อสู้จะเป็นของล็อคที่ไม่สามารถให้กันได้ต้องใช้เว็บนี้เพื่อขายเท่านั้น ''อ่อใช่..เราซื้อมาเพื่อใส่พอร์ตผลงานให้กับตนเองเพื่อยื่นเข้ามหาลัย'' พอเทพนึกได้ความเหนื่อยใจก็มาทันที ''ว่างๆ..ค่อยสร้างดีกว่าตอนนี้ก็..'' เทพมองจอคอมเเละอุปกรณ์เกมเมอร์ของตน ''ขอเล่นเกมก่อนละกัน'' เทพกล่าวจบก็เริ่มโหลดเกมมาเล่น เทพเล่นเกมจนเป็นเวลา 4 ทุ่มถึงจะเข้านอน เช้าวันถัดไป ''พรุ่งนี้พวกไอดอลเเละของคงจะมาถึง..เเล้วนี่พวกเขาใช้อะไรส่งของกันมาเนี่ยไวมาก'' พ่อของเทพกล่าวด้วยความตกใจเมื่อ่านเอกสาร ''พ่อก็ลองโทรไปถามเขาดูสิครับ'' เทพกล่าวก็ใช้ส้อมเสียบเบคอนเข้าปาก ''ว่าเเต่วันนี้ลูกจะเข้าบริษัทไหม?'' พ่อของเทพเงยหน้ามามองเทพ ''วันนี้ไม่ครับ..ไว้พรุ่งนี้ผมจะเข้าไป'' เทพกล่าวพร้อมกับเสียบเบคอนเข้าปากไปอีกชิ้น ''พี่เทพ..ถ้าเกมนี้เปิดพี่เทพจะเล่นใช่มั้ย'' ฟ้าถามพี่ชายของตน ''ใช่..ฟ้าจะเล่นด้วยหรอ?'' เทพหยิบเเก้วน้ำส้มเเล้วยกดื่ม ''ช่าย..เเต่ฟ้าจะไปเล่นกับเพื่อนนะ'' ฟ้ากล่าวจบก็ตามด้วยตาสายตาพิฆาตของเทพ ''ผู้หญิงหรือผู้ชาย'' เทพผู้หวงน้องเริ่มออกอาการ ''ผู้หญิง'' ฟ้ากล่าวจบก็เเสดงสีหน้าสงสัย ''ก็เเล้วไป..ถ้ามีปัญหาอะไรบอกพี่ได้'' เทพกล่าวให้ความคุ้มครอง ''งับ'' ฟ้าตะเบ๊ะใส่พี่ชายจอมขี้หวงของตนเเล้วยกเเก้วน้ำส้มดื่นจนหมดเเล้ว เทพอมยิ้มด้วยความดีใจเพราะในอดีตก่อนที่เทพจะย้อนเวลามาฟ้าที่เป็นน้องสาวของตนไม่จับต้องเกมเด็กขาดเพราะพี่ชายของตนนั่นก็คือเทพนั่นเอง..เพราะเทพทำให้พ่อเข้าโรงพยาบาลเเล้วเสียชีวิตไปในที่สุดเพราะเรื่องเกมเเต่คราวนี้ฟ้าจะมาเล่นเกมกับตนด้วยเทพจึงดีใจมาก หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จวันนี้เทพก็ไม่ได้ไปทำกิจกรรมอะไรใช้เวลาอ่านความเคลื่อนไหวของเกม Tales Of New World เเทนว่ามีการรับสมัคพักพวก หาเพื่อน หาคู่กันไปเเละยังมีการเเบ่งความรู้จากการสปอยจากเกมกันด้วย เเละเเล้วเวลาก็ผ่านไปอีกวัน ณ ห้างดังเเห่งหนึ่ง ''นี่ๆ..พรุ่งนี้ที่ห้างนี้จะมีกิจกรรมจากเกม Tales Of New Wolrd ด้วยเเหละ'' ''ใช่เเล้วน่าสนใจมาก'' ''ได้ข่าวมาว่าเขาจะเเจกเครื่องเล่นเกมด้วยนะ'' ''ฉันมาเเน่..เพราะไม่มีตังค์ซื้อ'' ''ฮ่าๆ..ฉันก็จะมาเหมือนกัน'' ผู้คนมากมายเเวะอ่านป้ายกิจกรรมที่ห้างจะจัดพรุ่งนี้ก็ยืนพูดคุยกันเเละเริ่มถ่ายป้ายกิจกรรมไปเเชร์กันในเพื่อนฝูง ''เดี๋ยวนะ..มีไอดอลมาด้วยหนิ'' ''ไหนๆ..นี่มันถงเวยนี่'' หลายคนดูภาพพรีเซนเตอร์ของเกมเเล้วเริ่มพูดคุยกันต่อ ''ถงเวยจะมาพรุ่งนี้หรอจริงดิ!!'' ''ฉันรีบไปบอกเพื่อนฉันที่เป็นเเฟนคลับเธอดีกว่า'' ''ฉันด้วยๆ'' หลายคนยืนพิมพ์ชวนเพื่อนในโทรศัพท์เพื่อมางานในพรุ่งนี้ ''กรี๊ด'' ''ห้ะ'' ผู้คนที่ยืนอยู่หน้าป้ายพรีเซนเตอร์เกมหันไปทางเสียงกรี๊ด ''นั่นมัน..ถงเวยนี่'' ''พูดยังไม่ทันขาดคำเลยมาซะละ'' ''ว้าว..เธอสวยมาก'' หลายคนมองดูถงเวยจนตาเยิ้มเธอใส่เสื้อสีขาวรัดรูปเเละกางเกงขาสั้นถึงขาอ่อนสีขาวตามด้วยเข็มขัดเเบรนด์เนมมันดูเข้ากับรูปร่างของเธอมากถงเวยเป็นไอดอลจีนที่กำลังดังในหนังเรื่องใหม่ด้วยความสวยเเละรูปร่างของเธอ ''โอ้เเม่จ้าวว'' ผู้ชายหลายคนลากเสียงยาว ''สัดส่วนสุดยอด..เอวประมาณยี่สิบสองเองมั้งเเต่ดูสะโพกนั่นสิเเถมยังขาที่ยาวเรียวเละผิวสุดจะขาวของเธอมันสุดยอดมาก'' ชายที่กล่าวออกมาชูนิ้วโป้งให้ความหมายว่าสุดยอด ''ตัวจริงสวยกว่าในจอเยอะเป็นบุญตาจริงๆ'' ชายหลายคนกำลังเคลิ้มกับหุ่นของถงเวยเเต่เเล้ว ''เอ๊ะนั่นใครทำไมยืนคุยกับถงเวยได้'' ชายหายคนสังเกตเห็นว่ามีชายคนนึงเดินไปพูดคุยกับถงเวยเเล้วถงเวยก็เดินตามไป ''เป็นไปได้ยังไง..ทำไมบอดี้การ์ดไม่ห้าม'' มีคนเริ่มสงสัยชายคนที่พูดคุยกับถงเวย ตัดมาทางเทพ [เทพคุยเป็นภาษาจีนนะครับ] ''สวัสดีครับ'' เทพกล่าวทักหญิงสาวที่กำลังเดินมาทางตน ''สวัสดี..คุณ?'' ถงเวยกล่าวต้องการคำตอบ ''ผมเป็นพนักงานของบริษัทครับให้มาพาไปที่ห้องประชุม'' เทพกล่าวจบก็ตามด้วยเเรงกดดันของบอดี้การ์ด ''อื้ม..ไปสิ'' ถงเวยกล่าวจบเทพก็เดินนำไปที่ห้องประชุมของบริษัท 'เธอมีอัธยาศัยที่ดี' เทพเริ่มวิเคราะห์กับคนที่ตนจะต้องร่วมงานด้วย ในลิฟต์ที่กำลังขึ้นไปชั้นที่ทางบริษัทนัดประชุม ''คุณต้องการลายเซ็นไหม'' ถงเวยกล่าวถามเทพด้วยความสุภาพ ''ผมต้องการอย่างอื่นมากกว่า'' เทพหันไปกล่าวกับถงเวยตามด้วยบริการ์ดที่หันมามองเทพดัง ''ขวับ'' ''อะไรหรอคะ?'' ถงเวยถามด้วยความสงสัย 'สายตาแบบนั้น' เทพมองดูสายตาที่ถงเวยมองตน ''เดี๋ยวผมค่อยบอกละกัน'' เทพกล่าวจบประตูลิฟต์ก็เปิดทันที ''ไปกันครับ'' เทพกล่าวพร้อมกับเดินนำไป เมื่อเทพเดินผ่านพนักงานหลายคนก้มหัวเคารพทำให้ถงเวยตกใจเล็กน้อยหรือจะเคารพตนเพราะเทพเป็นเเค่หนักงานถ้าเป็นอย่างนั้นเเสดงว่าบริษัทให้ความสำคัญกับตนมากทำให้ถงเวยรู้สึกดี ''ในห้องนั้นครับ'' เทพแบมือไปทางห้องประชุม ''ขอบคุณมาก'' ถงเวยยิ้มให้เทพเเล้วเดินเข้าห้องประชุมไป ''ว่าเเต่คุณต้องการอะไร?'' ถงเวยกล่าวถามเทพที่กำลังจะเดินจากไป ''เดี๋ยวค่อยบอกหลังคุณออกมาเเล้วกันครับ'' เทพหันมายิ้มให้ถงเวยเเล้วเดินจากไป 'เขาเป็นเเค่พนักงานจริงๆหรอ..พูดจีนได้คล่องขนาดนั้น..เเถมยังหน้าตาดีด้วย' ถงเวยเริ่มสงสัยในตัวเทพเเต่เเล้วเธอก็ต้องส่ายหน้าเดินเข้าห้องประชุมไปเธอมาเรื่องงานเรื่องรองไว้ก่อน [กลับมาภาษาไทยจ้า] ''อ่า..คุณถงเวยมาล่ะว่าเเต่ไหนล่ามเราละเนี่ย'' ผู้ถือหุ้นยืนต้อนรับถงเวย เเล้วพูดพร้อมกัน ''หนี..ห่าว'' ''หนีห่าว'' ถงเวยยิ้มเเล้วตอบกลับเเล้วเดินไปนั่งที่ของตน ''เมื่อไหร่ท่านประธานจะมาละเนี่ย'' ''เห็นว่าเรียกลูกชายของตนไปคุยหน่ะ'' ''ไม่รู้คุยเรื่องอะไรเเต่นี่มันเวลาประชุมนะ'' ผู้ถือหุ้นเริ่มไม่พอใจกับท่านประธานของตน ''ขอโทษที่มาช้า'' เเละเเล้วคนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ''สวัสดีครับท่านประธาน'' ทุกคนลุกขึ้นทำความเคารพ ''nǐ(คุณ)'' เมื่อถงเวยเห็นคนที่เดินตามหลังคนที่ทุกคนเคารพก็เกิดความสงสัยทันที ''หืม'' ท่านประธานหันไปมองถงเวยเเล้วมองคนที่ถงเวยมองก็คือลูกชายของตนนั่นเอง 'มันไปทำอะไรไว้อีกหละ' พ่อของเทพมองเทพด้วยความสงสัย ถงเวยมองเทพเหมือนรู้ความจริงอะไรบางอย่างเเต่เทพก็มองกลับด้วยสายตาที่รู้ความจริงบางอย่างเช่นกัน ''ล่ามหละ'' อาเดชเมื่อเทพปิดประตูก็กล่าวถามทันที ''มีลูกฉันเเล้วไม่ต้องใช้ล่ามเเล้วเเหละ'' พ่อของเทพกล่าวด้วยความภูมิใจ จากคำกล่าวของพ่อของเทพทำให้ถงเวยหันไปมองเทพด้วยสายตาที่รับรู้ความจริงส่วนเทพก็หันมามองถงเวยด้วยสายตาเดียวกันทำให้ถงเวยรู้สึกสงสัยเขารู้อะไร 'หรือว่า' ถงเวยอ้าปากตะลึงเล็กน้อยหรือตนจะเเสดงออกมากเกินไป ''อีกอย่าง..ไม่ต้องใช้ล่ามเราก็สื่อสารกันได้จริงไหมครับคุณถงเวย'' เทพกล่าวจบก็เดินไปนั่งที่ของตนเเล้วมองถงเวยพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นที่มุมปาก ''อ่า'' ถงเวยตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลับมาทำหน้าตาสงสัย ''เขาจะไปฟังเรารู้เรื่องได้ยังไง?'' อาเดชหันไปถามเทพ ''จะให้ผมพิสูจน์ไหม?'' เทพกล่าวจบก็เริ่มคิดบางอย่างก่อนจะกล่าวออกมา ''ไอดอลหน้าใหม่ไม่เห็นจะเก่งเลยใช้มุมกล้องช่วยทั้งนั้นเเถมยังเเสดงติดขัดหลายฉากจนต้องเเก้หลายรอบด้วยเหอะ'' เทพกล่าวจบถงเวยก็ออกอาการโมโหทันที ''nǐ!!'' ถงเวยลุกขึ้นอย่างโมโห ''อ้าว..โมโหอะไรกันครับ'' เทพถามด้วยสีหน้ายิ้มเเย้ม ''อะ'' ถงเวยเหมือนจะรู้สึกตัวว่าโดนเทพทดสอบ ''ผมบอกเเล้วว่าเราสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้ล่าม'' เทพกล่าวจบหลายคนก้เกิดความสงสัยขึ้นทันที ''ได้ยังไง??'' หลายคนงงหรือว่าเทพมีพลังพิเศษ? ''เธอฟังภาษาไทยออกเเละน่าจะพูดไทยได้ด้วย'' เทพกล่าวพร้อมกับมองหน้าถงเวย ''ชิ'' ถงเวยส่งเสียชิออกมาตามด้วยเทพ ''ขอโทษที่ว่าเธอ'' 'เธอเป็นคนฉลาด..เเต่ฉันฉลาดกว่า' เทพยิ้มด้วยความภูมิใจที่ตนเหนือกว่า ''เเล้วหลานรู้ได้ยังไงว่าเธอฟังภาษาไทยออก'' อาเดชหันไปถามเทพด้วยความสงสัย ''เพราะตั้งเเต่เธอมาผมเห็นเเค่บอดี้การ์ดยังไม่เห็นผู้รับผิดชอบงานทางบริษัทนั้นเเละล่ามของเขาเลย'' เทพพักหายใจก่อนจะกล่าวต่อ ''เเละด้วยปฏิกริยาเมื่อกี้ที่เธอเเสดงออกเมื่อผมเข้ามาในห้องประชุมซึ่งผมเดาว่าพวกคุณน่าจะคุยกันว่าผมที่เป็นลูกชายของประธานบริษัทเเละท่านประธานบริษัทที่เป็นพ่อของผมเรียกผมไปคุยอะไรบางอย่าง'' เทพพักหายใจรอบที่สองเเล้วกล่าวต่อ ''เเต่เมื่อผมเข้ามาเธอเเสดงท่าทางเหมือนกับว่าทำไมเป็นนาย?..อะไรประมาณนี้ครับ'' เทพกล่าวจบทุกคนในห้องก็มองเทพด้วยสีหน้าตกใจเเละชื่นชม ''ลูกเก่งมาก'' พ่อของเทพกล่าวชมลูกชายของตน ''ขอบคุณครับ'' เทพหันไปพยักหน้าให้กับพ่อของตน ''ผมอยากฟังคุณพูดไทย'' เทพหันไปกล่าวกับถงเวย ''จะ..เริ่มได้ยัง'' เสียงพูดติดขัดเเละไม่ค่อยชัดออกมาจากปากของถงเวย ''ฮะ'' เมื่อถงเวยพูดจบเทพก็ยิ้มออกมาเพื่อความสะใจส่วนทางถงเวยเมื่อเห็นรอยยิ้มของเทพก็หันหน้าหนีด้วยความไม่พอใจ ''เเล้วผู้รับผิดชอบงานหละ'' เทพกล่าวจบถงเวยก็หันกลับมามองเทพ ''คุณเรียกเขามาได้เเล้วผมเชื่อว่าเขาน่าจะอยู่เเถวนี้'' เทพกล่าวเเล้วมองไปที่นอกห้องประชุมซึ่งสามารถมองได้เพราะผนังห้องเป็นกระจกใส ''ใคร?'' ถงเวยถามด้วยสีหน้าสงสัย ''ถ้าคุณยังเเสดงต่อผมจะให้คะเเนนการเเสดงคุณติดลบละนะ'' เทพกล่าวด้วยความมั่นใจ ''อ่า..คุณรู้ได้ยังไง'' ถงเวยยอมเเพ้ ''ถึงเธอจะฉลาดมากก็จริง..เเต่คงไม่ให้เธอที่เป็นไอดอลมาทำงานคนเดียวหรอกจริงไหม'' เทพบิดขี้เกียจเล็กน้อย ''คงเป็นแผนของใครสักคนในบริษัท New World สินะ..คงจะเพื่อทดสอบพวกเราหรือทดสอบใครสักคนในห้องนี้ละมั้ง?'' เทพกล่าวจบก็เอามือลูบคางตนเองเล็กน้อย 'คนคนนี้น่ากลัวเกินไปเเล้ว' ถงเวยกลืนน้ำลายดังอึก ''ฮ่าๆมากันเเล้วสินะ'' เมื่อเทพเห็นกลุ่มคนใส่สูทเดินมาทางห้องประชุมก็หัวเราะเล็กน้อย ''นอกจากเธอเเล้ว..คนพวกนี้คงจะฟังภาษาไทยรู้เรื่องด้วยสินะ'' เทพกล่าวจบกลุ่มคนใส่ชุดสูทก็เดินเข้ามาก้มขอโทษเเล้วมานั่งที่ของตน ''เริ่มคุยกันเลยดีกว่าครับ'' เทพตัดเรื่องที่โดนทดสอบกับเรื่องอื่นๆไปก่อนตอนนี้คือเวลาประชุมต้องเเยกเเยะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD