วันต่อมา @เกาหลี
ชายหนุ่มมาถึงเกาหลีแล้ว ก่อนหน้านี้เขาพยายามคิดไตร่ตรองอย่างหนักว่าควรมาดีไหม เพราะว่าเขาเองก็รู้สึกเหมือนกันว่าเขาไม่ค่อยอยากมา และเขากับน้ำมนต์ก็ค่อนข้างที่จะสนิท และใกล้ชิดกันมากขึ้นในทุกๆ วัน เขาหวั่นไหวหรือเปล่าเขาไม่รู้ เขารู้เพียงแค่ว่าหากลองห่างกันดูเขาน่าจะพอรู้อะไรบ้าง
อีกอย่างถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่รู้ว่าเขาชอบน้องเตยหอมจริงหรือเปล่า แต่เขาก็รู้ว่าน้องเตยหอมไม่ได้มีใจให้เขาอย่างแน่นอนไม่ว่าวันนี้เขาจะรู้เหตุผลของหัวใจตัวเองหรือไม่ เขาก็จะถือซะว่าการที่เขามาหาเตยหอมในครั้งนี้เป็นการมาหาเตยหอมก่อนจะตัดใจแล้วกัน ทันทีที่เขามาถึงเกาหลีคนแรกที่เขาโทรหาอย่างร้อนรนใจเลยก็คือ…
[น้ำมนต์]
เฮ้อ… แล้วมันจะห่างได้ยังไง
(ขาาา… พี่วีก้า) น้ำเสียงของเธอยังงัวเงียอยู่เลย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาติดเสียงเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เขารู้เพียงแค่ว่าเมื่อได้ยินเสียงเธอทีไรก็มักจะทำให้เขายิ้มได้เสมอเลย
"พี่มาถึงเกาหลีแล้วนะครับ ตอนนี้อยู่ที่โรงแรม" น้ำมนต์เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบเขากลับมา
(ค่ะ รีบไปหายัยเตยนะคะ มนต์เป็นห่วงเพื่อนนางยิ่งอยู่คนเดียวอยู่ด้วย)
"เรายังไม่ตื่นเหรอครับ" ทำราวกับไม่ได้ยินที่น้ำมนต์พูด ก็เขายังไม่อยากพูดเรื่องผู้หญิงคนอื่นตอนนี้ เขาอยากคุยกับเธอมากกว่า
(ใช่ค่ะ)
"แพลนวันนี้จะทำอะไรบ้างครับ"
(อือออ… มนต์ว่าจะไปรับนะโมมาเล่นที่โรงแรมค่ะ เห็นบ่นๆ ว่าอยากว่ายน้ำ)
"สระน้ำโรงแรมก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำสินะครับ"
(ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ)
"ไม่มีครับพี่แค่รู้สึก…" ร้อนใจยังไงก็ไม่รู้ วีก้าไม่ได้พูดออกไป แล้วเปลี่ยนเป็นชวนเธอคุยเรื่องอื่นๆ ไปแทนซึ่งก็กินเวลาราวหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ
(เดี๋ยวมนต์ต้องไปรับนะโมแล้วนะคะ)
"ครับ"
(มนต์ฝากเพื่อนมนต์ด้วยนะคะพี่วีก้า)
"เดี๋ยวพี่โทรหาน้องมนต์ใหม่นะครับ ขับรถดีๆ นะ" ไม่ได้รับปากเธอเรื่องเพื่อน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ อย่างไรวันนี้เขาก็คิดว่าเขาจะมาทิ้งทวนสำหรับความสัมพันธ์ไล่ตามนี้แล้ว
(ค่าาาา~)
สายถูกวางไปแล้ว ชายหนุ่มก็เก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง เขาเตรียมตัวเพียงชั่วครู่ แล้วก็ออกเดินทางไปหาเตยหอมทันที น่าแปลก แปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้พบเจอเตยหอมเลย ไม่เหมือนกับอีกคนที่แค่เขาไม่ได้เจอก็รู้สึกร้อนใจและนึกถึง
…
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เขาเคาะประตูห้องพักของเตยหอมตามที่น้ำมนต์ส่งมาให้รออยู่ไม่นานมากนักเตยหอมก็ออกมาเปิดประตู เธอดูตกใจที่เห็นเขา
"พะ พี่วีก้า!"
"เซอร์ไพรส์ครับ" วีก้ายื่นถุงอาหารเช้ามาให้เตยหอมตรงหน้า เขาฉีกยิ้มให้เธออย่างอบอุ่นแล้วยืนมองหน้าเธอที่อยู่ในสภาพของคนที่เพิ่งตื่น
"เอ่อ ขะ เข้ามาก่อนมั้ยคะ"
"งั้น พี่รบกวนด้วยนะ"
วีก้าเดินตามเตยหอมเข้ามาในห้องพักที่เธอจองเอาไว้ ส่วนเตยหอมก็หาน้ำหาท่าให้เขากินก่อนที่จะขอตัวไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แล้วเดินออกมาต้อนรับเขาในอีกสภาพหนึ่งเป็นสภาพที่ดูดีกว่าเมื่อครู่
"มาได้ไงคะ"
"น้ำมนต์บอกน่ะ"
"ยัยนี่นิ ปากสว่างจริง" ว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก
"อย่าว่าน้ำมนต์เลยครับ พี่เป็นคนถามน้ำมนต์เอง"
วีก้าตอบกลับเตยหอมไป เตยหอมที่เห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาสองคนเดินออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกัน และในทุกๆ วัน วีก้าจะมาหาเธอตอนเช้า ส่งเธอกลับโรงแรมตอนเย็นเป็นแบบนี้อยู่ตลอดทั้งสัปดาห์ และวีก้าเองก็มักจะโทรหาน้ำมนต์แทบจะตลอดเวลาเหมือนกันจนบางทีเธอก็แปลกใจว่าเขาจะมาทำไม
"ดีจังเลยนะคะ ที่พี่วีก้าว่างช่วงนี้พอดี"
"ครับ พี่เพิ่งประชุมใหญ่เสร็จแล้วว่าง เห็นน้ำมนต์บอกเราหนีมาเที่ยวที่นี่คนเดียวพี่เลยแอบตามมาน่ะครับ"
"แล้วพี่จะกลับเมื่อไหร่คะ ถ้ากลับแล้วเตยเหงาแย่เลย เรายังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกตั้งสองสามที่ใช่ไหมคะ"
ช่วงหลายวันที่ผ่านมาวีก้าทำให้เธอไม่เหงาจริงๆ เขาพยายามเป็นเพื่อน เป็นพี่ที่ดีกับเธอมาตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน และเธอก็รู้สึกว่าเขากำลังเว้นระยะห่างกับเธออย่างเหมาะสม เตยหอมแอบอมยิ้มอยู่ในใจและหวังเพียงแค่ว่าเขาจะรู้ใจตัวเองเร็วๆ เพราะเธอเชื่อว่าแท้จริงแล้วคนที่เขาถูกใจไม่ใช่เธอหรอกแต่เป็นน้ำมนต์มากกว่า เธอสังเกตวีก้าอยู่หลายครั้งแล้ว เธอกล้าฟันธงเลยล่ะว่าคนในใจเขาไม่ใช่เธออย่างแน่นอน
แต่ด้วยความที่น้ำมนต์เป็นคนสวย ที่วางตัวค่อนข้างดี เลยไม่ค่อยมีใครกล้ามาจีบน้ำมนต์สักเท่าไหร่ และเธอเองก็คิดว่า วีก้าก็คือหนึ่งในนั้น เพราะเท่าที่เธอสังเกต เวลาที่วีก้าอยู่กับเธอเขามักจะพูดถึงน้ำมนต์ด้วยแววตาเป็นประกาย แถมยังยิ้มตลอดเวลาที่พูดถึงเพื่อนเธออีกด้วย และถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าจีบเธอ ชอบเธอก็ตาม แต่เธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับเธออย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่เธอหรอกที่ให้เขาได้แค่พี่ชาย เขาเองก็ด้วยที่ให้เธอได้เพียงแค่น้องสาวเท่านั้น เธอมั่นใจเกินร้อย เพราะพี่วีกาปฏิบัติกับเธอต่างกันกับน้ำมนต์อย่างสิ้นเชิง และเขาชอบแอบมองน้ำมนต์อยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยพูดหรือแสดงมันออกมา
"พรุ่งนี้พี่ต้องกลับแล้วครับ เสียดายเหมือนกันอยากกลับพร้อมน้องเตย"
"เอางี๊มั้ย งั้นวันนี้เราเที่ยวที่ที่เราคุยกันไว้ให้ครบเลย แล้วก็ก่อนกลับพี่ขอ..." เขาเงียบไปเพียงนิดก่อนจะพูดต่อ
"ขออะไรคะ" เตยหอมหันไปมองหน้าวีก้าตาใสแป๋ว
"อยากถ่ายรูปด้วยได้ไหมครับ พี่อยากเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำดีๆ ของเรา"
"ได้เลยค่าา~"
…
คนที่อยู่ทางนี้เห็นรูปภาพในไอจีที่มีวีก้าถ่ายรูปคู่กับเตยหอมแล้วก็ต้องรีบคว่ำหน้าจอมือถือของตัวเองลง ก่อนที่จะรู้สึกอะไรไปมากกว่านี้น้ำมนต์ก็เดินเข้าไปอาบน้ำ และแช่น้ำอุ่นเพื่อต้องการผ่อนคลายความรู้สึกอะไรบางอย่างที่มันจุกอยู่ในอกคล้ายจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ร้องไม่ออก
เธอให้เขาไปเอง แต่! เขาไม่ใช่ของเธอสักหน่อย เขาเองก็ประกาศปาวๆ ว่าเขาชอบเพื่อนเธอ จีบเพื่อนเธอ มีเพียงเธอคนเดียวที่คิดไม่ซื่อต่อเขา และคิดทรยศเพื่อนรักของตัวเอง ตอนนี้เพื่อนเธอกำลังตั้งท้องและคงต้องการคนดูแลที่ดี ไม่ได้! เธอจะทำร้ายเพื่อนของเธอไม่ได้!
ต้องห่าง…
เธอต้องห่างกับเขาได้แล้ว แต่! หัวใจเธอมันไม่แข็งแรง แค่ได้เห็นเบอร์ แค่ได้เห็นหน้า แค่ได้ยินเสียง หัวใจที่เคยคิดเอาไว้ว่าจะไม่ยอมกลับอ่อนลงอย่างทันทีราวกับภูเขาน้ำแข็งพังทลายลงมา
น้ำมนต์แช่น้ำแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมา เธอพยายามที่จะไม่นึกถึงเรื่องราวที่ทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอีก เธอพยายามที่จะทำอย่างอื่นทดแทนเพื่อให้ตัวเองๆ ไม่ว่างและฟุ้งซ่าน แต่ว่าหัวใจของเธอมันกลับไม่ยอมฟัง เธอทำงานไม่ได้ เธอหาอะไรทำไม่ได้เลย น้ำมนต์หมดหนทางเลือกอื่น เธอเลยเลือกที่จะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนอนคลุมโปงก่อนที่จะปล่อยน้ำตาออกมากับความรู้สึกผิดหวังและเสียใจ
แค่วันนี้วันเดียว…
แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เธอขออ่อนแอแค่วันนี้วันเดียวก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาที่เธอกลับกล้าชอบผู้ชายของเพื่อน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะยังไม่ตกลงใจกันแต่เพื่อนเธอก็ยังโสด และสวย ส่วนเขาก็เดินหน้าเข้าหาเพื่อนเธออย่างเต็มที่
ทั้งรู้สึกเสียใจ ถ้าเธอกล้าทักทายเขาเร็วกว่านี้ เรื่องราวมันจะยังเป็นแบบนี้อยู่ไหมนะ ก็คงไม่หรอกมั้งเพราะสุดท้ายแล้วคนที่เขาชอบก็คือเพื่อนเธอ ไม่ใช่เธอ
"ฮึก… ฮือออ~" น้ำมนต์นอนร้องไห้ไปครึ่งค่อนคืนก่อนจะค่อยๆ หลับไปเพราะความเหนื่อยล้า
…
ติ๊งต่อง~ ติ๊งต่อง~ ติ๊งต่อง~
เสียงกริ่งห้องพักของเธอดังขึ้น น้ำมนที่กำลังงัวเงีย และตาบวมตุ่ยเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาทั้งคืนก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปเปิดประตูห้องพัก ทันทีที่ประตูเปิดออกเสียงเล็กแหลมก็ดังขึ้นกระแทกหน้า
"ยัยน้ำมนต์ ทำไมตาบวมแบบนี้ วันนี้งานฉันจะเสียมั้ยเนี่ย"
"เพลิน มาทำไมอ่าาา~"
"อ๊าย! กล้าถามนะยะ วันนี้ฉันจะพาแกไปถ่ายแบบคู่กับฉันไง ที่แกรับปากเอาไว้ว่าจะช่วยฉันจำไม่ได้หรือไง" เอ่อ จริงด้วย เคยรับปากยายนี่ไว้นี่นา
"ฉันลืมไปเลย"
"ไปเลยค่ะ แต่งตัว ดีนะที่สตูดิโออยู่แถวๆ นี้ ไม่งั้นฉันวีนแกแน่" พาเพลินรอไม่นานน้ำมนต์ก็เดินออกมาในชุดที่ค่อนข้างจะเรียบร้อย เธอมองเพื่อนแล้วส่ายหัวไปมาเล็กน้อยแล้วก็จูงมือน้ำมนต์ออกมาทันที
การถ่ายแบบวันนี้เป็นการถ่ายโฆษณาตัวใหม่ของพาเพลิน แต่ว่านางแบบที่ถ่ายคู่กันดันป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ทำให้ต้องหานางแบบกะทันหัน ผู้จัดงานติดต่อใครไปก็ไม่มีใครว่าง เธอเลยถามความต้องการของผู้จัดงานว่าต้องการประมาณไหน ก็ได้มาว่าความต้องการของผู้จัดงานตรงกับเพื่อนเธอคนนี้เป็นที่สุด
"มาแล้วค่าาาา"
"โอ้โห นี่น้องน้ำมนต์ใช่มั้ยคะเนี่ย"
"สวัสดีค่ะ" น้ำมนต์คิดว่าเธอต้องถูกดุแน่ แต่คิดว่าขณะที่กำลังมาตาของเธอมันน่าจะลดบวมลงได้บ้างนะเพราะเธอก็ประคบมาตลอดทางเลย หรือว่าเธอมาสายจะถูกดุหรือเปล่าเนี่ย กลัวจังเลย
"สวยมากกกก~ มีเสน่ห์มาก เดี๋ยวน้องมนต์ลองเดินให้พี่ดูหน่อยได้มั้ยคะ"
"ค่ะ" น้ำมนต์เดินไปตรงหน้าของผู้จัดงาน แล้วเดินไปที่จุดมาร์กก่อนจะเดินเข้ามาหาผู้จัดงานด้วยท่าทางที่สง่าและสวยงาม
"เริศค่ะ เริศมาก สวยมาก เก่งมาก ทำไมถึงมาแอบอยู่แบบนี้ละคะ สนใจเป็นนางแบบอาชีพมั้ยคะน้องมนต์"
"เอ่อ… มนต์เดินแบบไม่เก่งหรอกค่ะ"
"เดี๋ยวเราไปแต่งหน้าแต่งตัวกันก่อนดีกว่านะคะ เรื่องอื่นพี่ขอคุยด้วยหลังเสร็จงานนะ"