บทนำ
คนเรามักจะซ่อนใครบางคนเอาไว้ในเพลงบางเพลงเสมอ เขาถึงได้มีคำพูดที่บอกว่าเพลงสื่อถึงความรู้สึกต่างๆ ในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง ช่วงเวลาที่มีความสุข เศร้า เหงา หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ใครคนนั้น แอบรักใครบางคนอยู่ ณ ช่วงขณะนั้น
'แค่เพียงเสี้ยวนาที ของในบางราตรี ได้ยินเสียงของเธอในยามนิทรา'
เสียงเพลงดังคลอ หญิงสาวรูปร่างเล็กสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบห้า น้ำหนักของเธอคร่าวๆ น่าจะประมาณได้ที่สี่สิบห้าเห็นจะได้ เธอยังเป็นนักศึกษา ผิวขาวราวกับน้ำนมสด ดวงตากลมโตอย่างมีเสน่ห์ ริมฝีปากบางรูปกระจับ รับกับลำคอขาวระหง และรูปร่างที่อวดทรวดทรงอย่างสมบูรณ์แบบ เธอเป็นเด็กสาวแรกรุ่นที่มีทั้งความฝัน ความหวัง และเข้าใจมาโดยตลอดว่าชีวิตจะต้องโรยด้วยกลีบดอกไม้
แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอกำลังวาดฝันมันไม่ใช่ชีวิตที่เธอเป็นในตอนนี้เลย จริงอยู่ที่เธอมีความฝันที่แสนหวาน อยากเป็นนักเขียนนิยายรักโรแมนติกชื่อดังทั้งๆ ที่ตัวเองยังเรียนหนังสืออยู่ เธออยากตามความฝันของเธอไปให้ไกล จึงได้เริ่มต้นเร็วกว่าคนอื่น ทางบ้านเธอไม่ได้ว่าอะไรทั้งนั้น ลูกอยากทำอะไรป๊ากับม๊าก็พร้อมจะสนับสนุนลูกสาวเสมอ
แต่ความรู้สึกที่เธอกำลังเจออยู่ตอนนี้ ความรู้สึกที่ยิ่งเจอ ยิ่งรัก ยิ่งเจอ ยิ่งถลำลึก เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตที่สดใสของเธอจะเป็นอย่างนี้ได้ รู้สึกผิดทั้งต่อเพื่อน ตัวเองและเขา อยากจะถอยก็ไม่ได้ จะก้าวต่อไปก็เดินไม่ไหว ความรู้สึกรัก รู้สึกชอบที่เธอมีต่อเขามันแทบจะล้นออกมานอกอกของเธออยู่แล้ว
เธอรักเขา ยิ่งได้เจอ ยิ่งได้ใกล้ชิดก็ยิ่งรักเขา อยากเข้าใกล้เขาเรื่อยๆ แต่…
เขาไม่ได้รักเธอ ไม่เคยแม้แต่จะมีเธออยู่ในสายตาของเขาเลยสักนิด
น้ำมนต์ หญิงสาวคนที่กล่าวมาข้างต้น มันเป็นชีวิตที่บัดซบของเธอเอง เธอคือคนคนนั้น เธอคือคนที่แอบรักผู้ชายที่ชอบเพื่อนเธอเข้าเต็มเปา แอบรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแต่ทุกอย่างเธอไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกของเธอต่อเขาได้ เธอต้องเก็บซ่อนมันเอาไว้ ยิ่งลึกยิ่งดี ยิ่งต้องทำเหมือนไม่รู้สึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี เธอจะทรยศความไว้วางใจที่เขาให้เธอไม่ได้
"เอ่อ… พี่กวนเรารึเปล่าครับ"
ชายหนุ่มที่เธอกำลังนั่งอยู่ด้วย เขามักจะชักชวนเธอให้ออกมาหาอยู่เสมอ ออกมาเพื่อปรับทุกข์ ออกมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านความรักให้แก่เขา แต่เขาคงไม่รู้ว่าเธอเองก็เจ็บทุกครั้งที่ได้ยินเขาพูดถึงใครอีกคน
"ไม่ค่ะ" มือเรียวยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นกระดกดื่ม ส่วนชายคนที่มาด้วยก็เป็นวิสกี้รสขมแทน บางทีการได้ออกมาเจอกันอย่างนี้มันอาจจะเป็นหนทางเดียวที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดเขา อยู่กับเขาสองต่อสองโดยที่เธอไม่ได้รู้สึกผิดก็ได้
ที่ปรึกษาอย่างเธอ ทำได้เพียงเท่านี้จริงๆ นั่นแหละ
น้ำมนต์นั่งแอบมองใบหน้าหล่อคมผิวขาวราวกับหิมะของเขา ดวงตาเฉี่ยวคม รับกับจมูกโด่งขึ้นเป็นสัน ริมฝีปากของเขาก็บางอมชมพู ที่ลำคอมีเส้นเลือดขึ้นจนเธอเห็นมันเต้นอยู่อย่างนั้น รูปร่างของเขาก็สมส่วนจนเธอเองลอบกลืนน้ำลายก็หลายที เธอไม่เคยมีความรักมาก่อน เธอไม่เคยคบใครมาก่อน เธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนมาก่อน นอกจากป๊ากับน้องชาย ก็มีเพียงเขานี่แหละผู้ชายที่ใกล้ชิดเธอที่สุด
"ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รำคาญพี่"
ชายหนุ่มยังไม่ได้พูดอะไรออกมามาก เขายังนั่งอยู่ที่โต๊ะวีไอพีที่เขาเป็นคนจองเอาไว้เอง เขานั่งพิงหลังมองลงไปที่ด้านล่างของคลับที่เป็นของเพื่อนเขาเอง เห็นผู้คนมากมายต่างก็ออกมาอวดลวดลายโชว์นั่นโชว์นี่และหิ้วทั้งคนรู้จักและไม่รู้จักกลับไป เขามีความทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ทุกข์แสนทุกข์ คนที่เขาแอบชอบน่าจะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้เขา เขาไม่รู้ต้องทำยังไงแล้วเลยโทรหาเพื่อนสนิทของเธอคนนั้นให้ออกมานั่งด้วยกันเสียหน่อย
เห็นว่าเธอคนนี้ สนิทกับหญิงสาวคนนั้นมากมาย เธออาจจะรู้ก็ได้ว่าคนคนนั้นชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และเขาต้องทำอย่างไรให้ได้หัวใจของผู้หญิงคนนั้นมาครอบครอง
"ไม่รำคาญเลยค่ะ"
"น้องมนต์ครับ"
"คะ? " น้ำเสียงนุ่มๆ เปล่งออกมาจากริมฝีปากสีชมพู เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวคนนี้ ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเอ่ยถามเธอไปอีกครั้ง
"น้องเตยเขา ยังไม่มีแฟนแน่ใช่มั้ยครับ"
สายตาของเธอแสดงออกถึงความผิดหวัง แต่เพียงพริบตาเดียวเธอก็สามารถปรับมันให้ออกมาดูปกติได้ เธอไม่ได้เสียใจ ไม่เลยสักนิดเดียว
"ยัยเตยยังโสดอยู่มากค่ะ ถ้าพี่วีก้ารีบหน่อยก็น่าจะทันนะคะ เพราะเพื่อนของมนต์คนนี้ฮ็อตไม่เบาเลยน้าาาา~"
ยิ้มตาหยีให้เขาเหมือนกับตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด ก่อนจะหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกอะไรบางอย่าง เรื่องราวของเขากับเธอมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร ก็คงต้องเล่าย้อนไปในวันหนึ่งที่มหาวิทยาลัย เธอเห็นชายหนุ่มที่หน้าตาดี รูปร่างก็ดี มากับสาวสวยที่คล้องแขนเขาเข้ามาในมหาวิทยาลัยนี้ มีจับแก้ม ลูบหัว และจูบหน้าผาก ก่อนจะโบกมือลากันไปแยกทางกับสาวคนนั้น
ผ่านมาอีกหลายเดือน เธอก็เห็นชายคนเดิม มาที่มหาวิทยาลัยกับสาวคนเดิม เขาทำกับเธอคนนั้นเหมือนเดิม และก็จากไปแบบเดิม กระทั่งเธอมารู้ทีหลังว่า ผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในเพื่อนของกลุ่มแฟนของเพื่อนๆ เธอ แต่เขาน่าจะงานยุ่งที่สุดในกลุ่มละมั้งก็เลยไม่ค่อยได้เจอเขามานั่งไร้สาระสักเท่าไหร่ กระทั่งวันหนึ่ง เธอได้มีโอกาสแนะนำตัวกับเขาอย่างเป็นทางการมันเป็นวันที่เพื่อนสาวของเธอมาถึงที่มหาวิทยาลัยเร็ว และเขาก็ได้โอกาสเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนเธอ
"ฮายยยย~ โอ๊ะ มีผู้มาจีบอีกแล้วเหรอยัยเตย เกิดมาสวยนี่น่าอิจฉาจริงๆ "
ตอนแรกที่เดินเข้าไปเธอไม่เห็นว่าผู้ชายคนที่นั่งคุยกับเพื่อนเธอเป็นใคร แต่ยิ่งเดินไปใกล้หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้เห็นเต็มๆ ตาว่าชายคนนี้ คือคนที่เธอแอบมองมาตลอด
เธอแห้วแล้วสินะ
"สวัสดีค่ะมนต์ชื่อน้ำมนต์นะคะ เป็นเพื่อนร้ากกกของยัยเตยค่ะ"
"ครับ พี่วีก้านะครับ" เขายิ้มอย่างเขินอาย ไม่ได้ยิ้มให้เธอหรอก แต่ยิ้มให้ใครอีกคนต่างหาก ภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า หรือการกระทำของเขา มันอยู่ในสายตาของเธอทั้งหมด สายตาของคนที่มองเขามาเนิ่นนาน
หลังจากนั้นมาไม่นานเธอกับเขาก็บังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า เลยแลกเบอร์และไลน์กัน โดยที่เขาเป็นคนขอก่อน ในวันนั้นเธอดีใจมาก แต่ต้องมาแห้วอีกครั้งเมื่อเขาพูดกับเธอว่า
"พี่ขอโทรถามเรื่องน้องเตยได้มั้ยครับ ช่วยพี่จีบน้องเตยหน่อยนะครับ"
"ค่ะ" รอยยิ้มที่ส่งกลับไปให้เขา แม้จะดูเหมือนเป็นรอยยิ้มที่แสนจะธรรมดา แต่ใครกันจะรู้บ้างว่าเธอเองก็เก็บความรู้สึกเก่งไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
"น้องมนต์ก็ฮ็อตอยู่นะครับ"
อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาทำให้น้ำมนต์หลุดออกมาจากภวังค์ความคิด ที่เธอดันนึกย้อนกลับไปในวันที่ได้เจอกับเขา ได้รู้จักเขา
"มนต์เหรอคะ"
"ครับ ลูกน้องพี่ เอ่อ พวกกัปตัน เห็นแอบชอบน้องมนต์หลายคนเลย มีเพื่อนพี่ด้วยนะอยากรู้จักมั้ยครับ"
"ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณนะคะ"
เธอไม่ได้อยากรู้จักกับคนอื่นสักหน่อย น้ำมนต์ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นกระดกดื่มอีกครั้ง มันเป็นน้ำเปล่าที่ไร้รสชาตินอกจากความเย็นเพราะในแก้วก็มีน้ำแข็งรวมอยู่ด้วย เหมือนกับหัวใจของเธอที่ตอนนี้มันทั้งเย็นและชา
"ช่วงนี้ไม่ได้ไปที่มหา'ลัยเลยเหรอคะ มนต์ไม่ค่อยได้เจอพี่วีก้าเลย"
"น้องสาวพี่ซ่อมรถเสร็จแล้วน่ะครับ ก็เลยไม่ได้ไปส่งน้องแล้ว แอบเสียดายเหมือนกัน ไม่ได้เจอน้องเตยเลย"
อ่อ คนนั้นคือน้องสาวหรอกเหรอ จะว่าไปหน้าตาก็แอบคล้ายกันอยู่นะ ทำไมเธอถึงได้รู้สึกโล่งขึ้นมานะเมื่อรู้ว่าคนคนนั้นเป็นแค่น้องสาว คงจะโล่งแทนเพื่อนล่ะมั่งเพราะแรกๆ เธอก็กลัวว่าวีก้าจะมาจีบเพื่อนเธออย่างทิ้งๆ ขว้างๆ กลัวว่าเขาจะมาหลอกเพื่อนของเธอ
"พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวกัน พี่วีก้าจะตามไปด้วยก็ได้นะคะ"
"ที่ไหนครับ"
"ห้างxxx ค่ะ เราจะไปหาอะไรกินกัน"
"จะไม่รบกวนใช่มั้ยครับ"
"ไม่หรอกค่ะ แกล้งทำเป็นบังเอิญไปเจอกันก็ได้นะคะ"
"งั้นก็พรุ่งนี้เจอกันครับ พี่จะโทรหาน้องมนต์นะครับ"
"ค่ะ งั้นวันนี้มนต์ขอตัวก่อนนะคะ" จะไม่ไหวแล้ว เธอเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออกเลย มันจุกอยู่ในอก
"ให้พี่ไปส่งนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"พี่เป็นคนชวนเราออกมานะครับ พี่จะรับผิดชอบน้องมนต์เอง"
พูดจบก็ยกมือขึ้นเรียกเก็บเงิน รอไม่นานมากชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน เขายิ้มอบอุ่นให้เธอเหมือนๆ กับทุกครั้ง ก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อยเป็นการขออนุญาตและเลื่อนมือหนาจับมือของเธอเอาไว้ พาเธอเดินออกมาจากตรงนั้นมาจนถึงลานจอดรถ
"ขอบคุณนะคะ"
ใจเธอบางมากเกินไปแล้ว เพียงแค่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เธอก็เก็บเอามาคิดมากอย่างมีความหวังว่าเขาเองก็คงจะมีใจให้เธอบ้าง แต่ไม่ใช่เลย เพราะความจริงแล้วเขาทำเพราะเขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ดูแลคนอื่นดีแบบนี้อยู่แล้ว
ปึก!
ประตูรถสปอร์ตหรูถูกปิดลงจากคนที่อยู่ด้านนอกชายหนุ่มเดินอ้อมหน้ารถไปนั่งประจำที่ของตัวเอง แล้วขับรถออกมาจากตรงนั้นทันที บรรยากาศภายในรถเงียบสนิทจนบางคนรู้สึกอึดอัด แม้ว่าตอนนี้น้ำตาของเธอมันจะไหลอยู่รอมร่อ แต่เธอไม่ชอบบรรยากาศอึดอัดแบบนี้เลย
"พรุ่งนี้อย่าลืมนะคะ ให้ยัยเตยรอนานระวังนางโกรธนะคะ" เขากดยิ้มเล็กน้อย
"น้องเตยเขา น่าจะไม่ได้รู้สึกพิเศษกับพี่น่ะครับ แต่พี่ก็แค่อยากจะลองดู"
อึก…
ลองดู
"มนต์ก็อยากลองบ้างเหมือนกัน"
พึมพำออกมาน้ำเสียงเบา ก่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดออกมา น้ำมนต์ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา เธอหันไปมองเขาที่ดวงตาของเขายังมองไปที่ถนนโล่งด้านหน้าอยู่เลย เขาไม่ท้วงติงอะไรทั้งนั้น ราวกับว่าที่เธอพูดออกไปนั้นเขาไม่ได้ยินมันเลยสักนิด
ก็ดีแล้วล่ะ
ไม่ได้ยินก็ดีแล้ว
"ถ้าได้รักกับคนที่เราชอบ มันคงจะดีมากเลยนะครับน้องมนต์"
เขาพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก่อนที่จะหันมายิ้มบางๆ ให้เธอแล้วกลับไปสนใจท้องถนนตรงหน้าอีกครั้ง
"คิดเหมือนกันมั้ยครับ" เธอพยักหน้าตอบ แล้วแอบมองใบหน้าของเขาจากเงามืดที่ปกคลุมมาพอดี