TK University
"วันนี้ยัยเตยไม่มาอีกแล้วเหรอ"
พลอยไพลินถามขึ้นมา เมื่อหลังๆ มานี้เตยหอมไม่ค่อยมาเข้าเรียน และส่วนใหญ่จะเลือกเรียนแบบออนไลน์มากกว่า โดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนๆ ด้วยว่าตัวเองเกิดปัญหาอะไรอยู่บ้าง ส่วนยายพาเพลินก็ไม่มาเพราะติดงานเดินแบบที่ต่างประเทศ เลยเหลือเพียงแค่น้ำมนต์กับพลอยไพลินสองคนในกลุ่ม
"ใช่ ฉันก็คิดว่ายัยเตยไลน์บอกแก เพราะนางก็ไม่ได้ไลน์บอกฉัน ในไลน์กลุ่มก็เงียบ แถมหลังๆ มานี้เห็นว่าเงียบไปด้วยนะไม่รู้มีปัญหาอะไรรึเปล่า"
"อ้าว ฉันก็คิดว่านางบอกแกนะ" สรุปแล้วว่าเตยหอมไม่ได้บอกใครเลย เธอเลือกที่จะเงียบไปเอง น้ำมนต์กับพลอยไพลินเลยตัดสินใจเปิดเข้าระบบเรียนออนไลน์ของทางมหาวิทยาลัย เพราะการเรียนออนไลน์ก็ต้องลงชื่อด้วยเหมือนกัน แต่ว่าก็ไม่เห็นว่ามีชื่อของเตยหอมแสดงขึ้นมาเลย
"เดี๋ยวเรียนเสร็จแล้วฉันว่าจะไปหายัยเตยหน่อย ห่วงยังไงไม่รู้"
"ฉันมีนัดอ่า ฝากแกอัปเดตด้วยได้มั้ย"
"ได้" ทั้งคู่นั่งเรียนกันต่อไปเรื่อยๆ วิชาแล้ววิชาเล่าจนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียนพลอยไพลินกลับไปแล้ว น้ำมนต์เลยเดินไปนั่งที่โต๊ะใต้อาคารเรียนก่อน แล้วเช็กที่ระบบเรียนออนไลน์อีกทียังไม่มีชื่อของเตยหอมแสดงขึ้นมาเหมือนเดิม เธอเลยโทรหาเตยหอมเพราะความเป็นห่วง
(ฮัลโหลมนต์) น้ำเสียงของปลายสายแสดงความอ่อนล้าออกมาได้อย่างชัดเจนจนน้ำมนต์ชะงักนิ่งไปชะงักนิ่งไป
"เตยแกไหวไหมเนี่ย" น้ำมนต์พูดออกมาด้วยความเป็นห่วง
(ฉันโอเค แกมีอะไรเหรอ)
"ฉันจดงานเอาไว้ให้ พอดีไม่เห็นว่าแกเข้าเรียนออนไลน์น่ะ"
(ขอบใจนะมนต์ แกช่วยส่งให้ฉันทางเมลได้ไหม)
"ได้ ว่าแต่แกไหวแน่นะ ไปหาหมอไหมฉันจะพาไป"
น้ำมนต์เป็นห่วงเพื่อนจากใจจริง เธอแอบสังเกตว่าตั้งแต่กลับมาจากทะเลเตยหอมก็เงียบลงอย่างเห็นได้ชัด และเก็บตัวมากกว่าเดิม จนผ่านมาหลายวันเตยหอมถึงจะออกมาหาเธอบ้าง มาหานะโมบ้าง จนหลายวันมานี่เตยหอมก็ลาป่วยอีก เธอเป็นห่วงเตยหอมมากจริงๆ
(ไม่เป็นไรแก ฉันแค่เวียนหัวนิดหน่อย เดี๋ยวก็คงดีขึ้น)
"เวียนหัวเหรอ งั้นก็กินยาแล้วนอนนะ เออนี่แกกินอะไรยังอยากกินไรไหมเดี๋ยวฉันซื้อเอาเข้าไปให้"
(อยากกินมะม่วงเปรี้ยว พอจะหาให้ได้ไหม ฉันคลื่นไส้ด้วยเผื่อกินแล้วมันจะดีขึ้น)
น้ำมนต์ชะงักไปกับคำขอของเพื่อนรักนิดหน่อย เธอตอบตกลงเตยหอมไปแล้วกดวางสาย น้ำมนต์กำลังเดินออกมาจากมหาวิทยาลัยสายตาของเธอก็ไปเห็นเข้ากับไทก้า และการันต์กำลังเดินคุยกันอยู่ที่ทางเดิน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจมากนัก เธอตัดสินใจขับรถออกไปที่ตลาดเพื่อซื้อมะม่วงเปรี้ยวให้กับเพื่อนรักตามที่เตยหอมได้ขอมา
…
ติ๊งต่อง~ ติ๊งต่อง~ ติ๊งต่อง~
น้ำมนต์มายืนอยู่ที่หน้าห้องพักของเตยหอม เธอกดกริ่งไปสองสามครั้งแล้วเตยหอมก็ยังไม่เปิดออกมาสักที หัวใจคนรอมันสั่นเธอกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรัก แต่เธอจะคอยอยู่เคียงข้างเพื่อนเสมอ
"เตย เตยหอมเธอโอเคไหม"
น้ำมนต์เรียกเพื่อนน้ำเสียงสั่น เธอกลัวเหลือเกิน เพื่อนของเธอจะโอเคไหม น้ำมนต์กดกริ่งระรัว ด้วยใจที่ร้อนรนไม่นานนักประตูห้องพักก็เปิดออกพร้อมกับร่างบางของเพื่อนรักที่ดูโทรมจนผิดหูผิดตา อีกทั้งใบหน้าที่เคยใสตอนนี้กลับซีดขาว น้ำมนต์รีบเดินไปประคองร่างของเพื่อนรักทันทีที่ตั้งสติได้
"เตยแก!"
"ฉันเพลียน่ะมนต์"
"แกไม่เป็นไรแน่นะ"
มือเรียวโอบรอบเอวบางของเพื่อนรักเอาไว้ ส่วนอีกมือยกขึ้นแตะหน้าผากของเตยหอม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ น้ำมนต์ประคองเตยหอมไปนั่งที่โซฟากลางห้องรับแขก เธอเม้มปากแน่นชั่งใจอยู่นานว่าควรจะถามเพื่อนดีไหม แต่สุดท้ายแล้วเธอก็อดไม่ได้จึงต้องถามขึ้นมา
"แกไปมีอะไรกับใครมารึเปล่าเตย"
เตยหอมชะงักเม้มปากแน่นไม่กล้าพูดกับเพื่อนของตัวเอง แม้เธอจะเคยเจอเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหน แต่เรื่องนี้มันก็หนักไปสำหรับเธออยู่ดี เตยหอมนั่งก้มหน้าลงจิกเล็บที่หลังมืออีกข้างของตัวเอง หยาดน้ำตาเริ่มไหลเอ่อคลอเบ้าตาสวย
"ระ หรือว่าแกอาจจะแค่เป็นโรคกระเพาะก็ได้"
น้ำมนต์ที่เห็นอาการของเพื่อนก็รับรู้ได้ทันทีว่าเธออาจจะมีค่ำคืนที่ไม่น่าจดจำกับใครบางคนก็เป็นได้ น้ำมนต์เลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้วเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่น เธอเองไม่ได้ฉลาดรอบรู้นักหรอก แต่เธอพอจะรู้อาการอยู่บ้างเพราะเธอเองก็มีเพื่อนกลุ่มอื่นที่มีอาการแปลกๆ แบบนี้อยู่หลายคน ต่างกันเพียงแค่คนพวกนั้นยินดีกับอาการที่เกิดขึ้นมา
น้ำมนต์ทอดสายตามองเพื่อนตัวเล็กด้วยหัวใจที่อธิบายความรู้สึกไม่ถูกอยู่ๆ เธอก็โอบร่างบางของเพื่อนรักให้แนบอก เพียงแค่นั้นน้ำตาอุ่นของเตยหอมก็ไหลลงมา เตยหอมกอดร่างเธอแน่น แน่นมากราวกับเป็นที่พึ่งสุดท้ายของตัวเองแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างที่น้ำมนต์ไม่เคยเห็นมาก่อน
"ฮะ ฮึก... มนต์ ชะ ช่วยเราด้วย ฮะ ฮึก... ฮื้อออออ~"
มือเรียวของน้ำมนต์ลูบหลังเพื่อนรักอย่างแผ่วเบา เธอไม่รู้ว่าไอ้ชายชั่วคนนั้นมันเป็นใคร ทำไมถึงกล้ารานน้ำใจเพื่อนตัวเล็กของเธอแบบนี้ เธอเองก็กอดเตยหอมเอาไว้แน่น แน่นราวกับจะบอกให้เพื่อนรักรู้ด้วยภาษากายของเธอว่า ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
"มะ มันป้องกันมั้ยเตย"
ไม่อยากถามออกไปเลย เธอรู้ว่าจะเป็นการทำร้ายน้ำใจเพื่อนของเธอมากแค่ไหน แต่ก็จำเป็นต้องกรอกคำถามลงไปด้วยใจที่เจ็บปวด น้ำตาใสของเพื่อนเธอยังไหลไม่หยุด เตยหอมสะอึกสะอื้นร่ำไห้ออกมาอย่างน่าสงสารปานจะขาดใจ เพื่อนของเธอส่ายหน้าให้เธอรู้ ใจหนึ่งเธอก็คิดว่าแค่ครั้งเดียวมันจะ... เลยเหรอ
"ปล่อยครั้งเดียวคงไม่หรอกมั้ง" น้ำมนต์พึมพำ แต่เตยหอมได้ยิน เธอเงยหน้ามองเพื่อนรักแล้วพูดขึ้น
"ทะ ทั้งคืนจนถึงเช้า ขะ เขาไม่ได้ป้องกันเลย" เตยหอมเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าร่างกายของตัวเองมีความผิดปกติไป แต่เธอยังไม่อาจที่จะรับความจริงที่โหดร้ายแบบนี้ได้
"ไอ้เลวเอ๊ย! ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าไอ้เลวนั่นเป็นใคร" หรือเธอควรไปปรึกษาพี่การันต์ดีเผื่อพี่เขาจะมีทางออกให้เตยหอมเพื่อนของเธอ น้ำมนต์มองหน้าเพื่อนนิดหน่อย แล้วยื่นบางสิ่งให้เพื่อนรัก
"ฉันรู้นะว่าแกกลัว แต่แกต้องยอมรับความจริงแล้วก้าวต่อไป" เตยหอมเม้มปากแน่นด้วยความหวาดกลัว
"ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ฉันจะเป็นทั้งป้า และแม่ทูนหัวให้เมล็ดถั่วในนั้นเอง ฉันจะอยู่ข้างๆ แก ฉันจะยอมไม่มีผัวก็ได้แต่ขอแค่แอบแซ่บก็พอ"
เธอพูดติดตลกเพื่อให้เพื่อนรักอารมณ์ดีแม้ใจจะเป็นกังวลอยู่มากเหมือนกัน เตยหอมรับบางสิ่งจากเพื่อนเข้าไปจำนวนสามอัน แล้วหายเงียบไปในห้องน้ำ เพราะว่าน้ำมนต์สงสัยอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เลยลองซื้อติดมา เธอไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะได้ใช้มันจริงๆ
"ฉันหวังว่า แกคงจะไม่โชคร้ายนะเตย แต่ถ้าโชคไม่เข้าข้างแกฉันเนี่ยแหละจะอยู่ข้างแกเอง"
…
แกร๊ก!
น้ำมนต์ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำอย่างกระวนกระวายใจ สองมือของน้ำมนต์ยกขึ้นกุมมือของตัวเองเอาไว้ เธอลุ้น ลุ้นอยู่นานมากเดินไปเดินมาจนปวดหัว พอเห็นเตยหอมเดินออกมาเธอรีบเข้าไปประชิดตัวเพื่อนรักทันที
"ปะ เป็นไงบ้าง"
"..." ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ พร้อมกับหยาดน้ำตาใสของเตยหอมที่ปล่อยออกมาจนเปียกชุ่มไปทั่วพวงแก้มนวลทั้งสองข้าง นั่นคือคำตอบที่น้ำมนต์ได้รับ
ขนาดเธอไม่ใช่ผู้ที่ประสบปัญหานี้เองเธอยังแทบทรุดแล้วคนที่ประสบปัญหานี้เองเล่า หัวใจของเธอจะแหลกลาญขนาดไหนนะ เตยหอมยังยืนอยู่หน้าห้องน้ำ แข้งขาของเธอสั่นจนไร้แรงจะก้าวเดิน ร่างบางทรุดฮวบลงจนเกือบถึงพื้นดีนะที่น้ำมนต์กลับมามีสติพอดีรีบคว้าร่างเล็กของเพื่อนเอาไว้ได้ทัน
"ใจเย็นๆ เตย ใจเย็นๆ "
น้ำมนต์ประคองร่างบางของเตยหอมไปที่โซฟารับแขก แล้วดึงเอาที่ตรวจครรภ์ออกมาดูด้วยตาตัวเองทั้งสามชิ้นแสดงผลออกมาเป็นแบบเดียวกันนั่นคือคำตอบที่ทำให้เพื่อนเธอทรุดฮวบเฉกเช่นเดียวกันกับเธอ
"มะ มนต์ ระ เราจะทำยังไงดี ฮะ ฮึก... เราจะทำยังไงดี"
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะเตยฉันอยู่ตรงนี้"
เตยหอมร้องไห้ออกมาราวกับคนที่เสียสตินั่นยิ่งทำให้น้ำมนต์ตกใจกับอาการของเพื่อนรัก เธอกำลังจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความมืดมน ไม่ได้ เธอจะให้เตยหอมจมลงไปไม่ได้ สองมือของเธอประคองใบหน้าหวานของเพื่อนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
"เตย! เตย! ยัยเตย! มองฉัน!" ใบหน้าของเตยหอมซีดเซียว ดวงตาของเตยหอมเหม่อลอย อีกทั้งร่างกายยังไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะสะอื้นไห้
"มองฉัน! ฉันอยู่นี่ ฉันยังอยู่ข้างๆ เธอ เห็นฉันมั้ยเตย"
น้ำมนต์เรียกสติเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอ เมื่อเตยหอมได้สติ เธอจ้องมองใบหน้าสวยของน้ำมนต์นิ่ง ระบายยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ
"มนต์" เอ่ยน้ำเสียงเบาเรียกเพื่อนรักกับแววตาที่เหม่อลอย
"ใช่ ฉันเอง น้ำมนต์เพื่อนเธอ ฉันเองเตย"
ทั้งสองคนกอดกันกลมอยู่บนโซฟาตัวสวยกลางห้องรับแขกในบรรยากาศที่ดูเศร้าหดหู่ ภายในห้องเงียบสนิทยกเว้นแต่เพียงเสียงสะอื้นไห้ของคนเป็นเพื่อนที่ดังขึ้นเป็นระยะอยู่พักใหญ่ๆ จนกระทั่งเสียงนั้นเงียบไปพร้อมกับลมหายใจที่สม่ำเสมอของเพื่อนตัวเล็ก น้ำมนต์จัดแจงท่าทางของเตยหอมให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุดแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนหยิบเอาผ้าห่มออกมาคลุมร่างบางให้เพื่อนรัก
เธอนั่งลงข้างๆ เตยหอม จ้องมองเพื่อนด้วยความสงสารจับใจ มือเรียววางลงที่หน้าท้องของเพื่อนเธอลูบไล้ไปมาเบาๆ
"เจ้าเมล็ดพันธุ์ ฉันจะเป็นทั้งป้า และแม่ทูนหัวให้เอง"
…
เสียงโทรทัศน์เปิดอย่างไม่ดังมากนักปลุกเตยหอมให้ได้สติรับรู้ เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ กะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสการมองเห็น เธอนอนอยู่ในท่าตะแคงข้างบนโซฟากลางห้องรับแขก บนร่างเธอมีผ้าห่มนวมสีขาวคลุมร่างกายเอาไว้ให้ความอบอุ่น พร้อมกับคนตรงหน้าที่นั่งอยู่ที่พื้นใช้แผ่นหลังบางพิงกับโซฟาที่เธอนอนอยู่ ดวงตากลมโตของคนตรงหน้าจ้องมองไปที่ซีรีส์จีนพร้อมกับกินมะละกอสุกไปด้วย
"มนต์ ยังไม่กลับเหรอ"
"ตื่นแล้วเหรอ ไม่กลับอะ คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่"
"แล้วที่บ้านแกละ"
"ฉันโทรบอกที่บ้านแล้วไม่ต้องห่วง"
น้ำมนต์ประคองร่างเล็กของเพื่อนรักให้ลุกขึ้นนั่ง ส่วนเธอก็นั่งลงข้างๆ เพื่อนของเธอ เมื่อเห็นว่าเตยหอมมีสติรับรู้ทุกอย่างแล้ว เธอจึงจำต้องพูดเรื่องของเจ้าเมล็ดพันธุ์ในนั้นให้รู้เรื่อง เธอไม่ได้มีเจตนาจะตอกย้ำ แต่เพราะเจ้าเมล็ดพันธุ์ในนั้นไม่มีความผิดใด หากเป็นไปได้เธอก็ไม่อยากให้เพื่อนรักทอดทิ้งชีวิตเจ้านั่น
"เมล็ดพันธุ์ในนั้นแกจะทำยังไง" มือเรียวของเตยหอมลูบอยู่ที่หน้าท้องแบนราบของตัวเอง
"จะเอาออกหรือ..."
"เขาไม่ได้มีความผิดอะไรนี่"
น้ำมนต์ยังพูดไม่ทันจบเตยหอมก็พูดขึ้นมา ทำให้น้ำมนต์ระบายยิ้มออกมาด้วยอาการดีใจ ดีใจที่เพื่อนเธอตัดสินใจไม่ผิด ดีใจกับคำตอบที่ได้รับ
"ฉันขอเป็นแม่ทูนหัวนะ เพราะฉันคงไม่มีผัวแล้วล่ะ คงต้องเลี้ยงแต่น้องกับหลาน"
"ไว้รอนะโมโตก่อน ฉันจะให้นะโมเป็นพ่อเด็ก" เตยหอมแหย่เพื่อน
"เอาไปเลย นะโมต้องยอมแน่คลั่งแกขนาดนั้น ฮ่าๆ "
บรรยากาศเริ่มดีขึ้นมาหน่อย น้ำมนต์ก็จัดการหาข้าวให้เพื่อนเธอกิน แต่เตยหอมกินอะไรไม่ได้เลย จำต้องปอกมะม่วงเปรี้ยวให้เตยหอมกินแทน
"ฉันคิดว่า แกควรบอกพ่อเด็กนะ ให้เขารู้ว่าเขากำลังจะมีผลผลิตของตัวเอง ถ้าเขาไม่รับก็ขอแค่ให้เขารับเป็นพ่อเด็กก็พอ พวกเราเลี้ยงกันเองก็ได้เนอะ"
นี่ก็คืออีกหนึ่งเรื่องที่เตยหอมหนักใจ เธอคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าคงจะต้องติดต่อพ่อเด็กให้รับรู้ เธอไม่ได้หวังให้เขามาเลี้ยงดู เธอไม่ได้หวังให้เขารักใคร่เธอ เธอหวังเพียงแค่ลูกของเธอต้องมีพ่อ หากลูกของเธอเติบโตขึ้นจนสามารถพูดได้แล้วถามเธอขึ้นมาเล่าว่าพ่อเป็นใคร เธอจะตอบลูกว่ายังไง
"อืม ขอบใจนะ"
"ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าไอ้เลวนั่นไม่รับ เธอยังมีฉันเข้าใจใช่มั้ย"
"เธอจะมาเป็นพ่อเด็กให้ฉันเหรอ"
"ยัยนี่นิ ฉันเป็นผู้หญิงนะ ฮ่าๆ "
"ขอบใจนะ ขอบใจแกมากจริงๆ ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลย" มือเรียวของน้ำมนต์จับเข้าที่มือของเพื่อนรัก ให้เพื่อนรู้ว่า
ฉันไม่มีวันปล่อยมือเธอแน่และทุกครั้งที่เธอหันมาเธอก็จะเจอฉันอยู่เสมอ