ผ่านมาจนครบสามอาทิตย์แล้ว สบู่ที่ทำครั้งแรกก็สามารถนำมาทดลองใช้ได้แล้ว นางหยิบสบู่สองก้อนขึ้นมานำให้ซูฉีและซูลี่ใช้ด้วยกันหนึ่งก้อน และนางใช้เองหนึ่งก้อน สบู่ที่ทำครั้งที่สองยังต้องรออีหลายวันถึงจะใช้ได้
ส่วนเรื่องที่ซูลี่รู้ว่านางไม่ซูเม่ยก็ได้มีการพูดคุยกันไปแล้ว ว่าหากซูเม่ยไม่กลับมาก็ให้นางใช้ชีวิตแทนซูเม่ยและอย่าบอกเรื่องนี้กับซูฉีเพราะกลัวว่าซูฉีจะรับเรื่องนี้ไม่ไหว ส่วนซูลี่เองก็จะค่อยๆปรับตัวกับนางไป
"เราจะทดลองใช้กันจนครบหนึ่งอาทิตย์แล้วค่อยเอาไปขายนะ ต้องทดลองก่อนว่าสบู่จะใช้ได้ดีหรือไม่"
"เจ้าค่ะ มีกลิ่นหอมๆนิดๆมีกลิ่นของแครอทด้วยเจ้าค่ะ" ซูฉีดมกลิ่นของสบู่และเอ่ยบอก
"ก็มันทำมาจากแครอท" ซูลี่สวนกลับ ซูฉีถลึงตากลับว่าข้ารู้แล้ว
"ที่สำคัญเวลาใช้อาบน้ำเสร็จแล้ว ให้เก็บไว้ในที่แห้งอย่าให้โดนน้ำนะ ไม่งั้นสบู่จะละลายเร็ว"
"อ่อๆที่สำคัญอีกอย่างอย่านำไปล้างหน้านะ เพราะข้าก็ไม่แน่ใจว่าถ้านำมาล้างจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ ทางที่ดีใช้แค่กับผิวกายก็เพียงพอ ใบหน้าพวกเจ้าใช้น้ำเปล่าหรือไม่ก็น้ำซาวข้าวเหมือนเดิมไปนะ เข้าใจหรือไม่"
"เจ้าค่ะ"
"ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ จะไม่นำไปล้างหน้าเด็ดขาดเจ้าค่ะ"
ผ่านไปครบเจ็ดวันสำหรับการทดลองใช้สบู่ ทั้งตัวนางเองและซูฉีกับซูลี่ก็ไม่เกิดอาการแพ้การใช้สบู่แครอท ส่วนสบู่แตงกวาใบบัวบกและสบู่น้ำมันมะพร้าวเสร็จแล้วเมื่อสามวันก่อน และนางก็นำสบู่สูตรละสองก้อนแบ่งให้ป้าจางและสาวใช้แบ่งกันไปทดลองใช้อาบน้ำ และทั้งหมดก็ยังไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด นางจึงคิดว่าสมควรนำไปขายได้แล้ว แต่ก่อนจะนำไปขาย นางต้องไปซื้อกระดาษและเชือกเส้นเล็กๆเพื่อนำมาห่อสบู่แต่ละก้อน หากจะให้ซื้อกล่องไม้มาใส่เกรงว่าราคาของสบู่จะต้องพุ่งไปมากกว่านี้ เลยคิดว่าใช้กระดาษและเชือกมาห่อแทนจะดีกว่า
ในวันนี้หลังจากส่งขนมในตอนเช้าเสร็จ นางก็เดินยังร้านหนังสือเพื่อจะซื้อกระดาษ
"เถ้าแก่ข้าจะมาขอซื้อกระดาษเจ้าค่ะ" รดาเดินเข้าไปในร้านขายหนังสือที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ รายล้อมไปด้วยหนังสือที่วางเรียงกันอยู่บนชั้น
"คุณหนูท่านหมายถึงกระดาษท่านไช่หรือขอรับ" เถ้าแก่เดินออกมาต้อนรับ
กระดาษท่านไช่ ก็คงเป็นกระดาษอย่างที่นางคิดใช่หรือไม่ ที่ทำจากไม้
รดานางพยักหน้าให้เถ้าแก่และขอดูกระดาษก่อนว่าใช่ที่นางต้องการหรือไม่ และเมื่อเถ้าแก่ร้านหนังสือนำมาให้ก็พบว่าเป็นกระดาษตามที่นางต้องการ แม้สีจะไม่ได้ขาวอย่างกระดาษในโลกที่นางจากมา
"เรียนเถ้าแก่ข้าอยากรู้ว่าทำไมถึงเรียกว่ากระดาษท่านไช่หรือเจ้าคะ"
"เพราะว่าท่านไช่เป็นคนคิดค้นการทำกระดาษขึ้นมา โดยการนำเอาเศษเปลือกไม้ เศษปอ เศษผ้าและเศษอวนมาใช้ทำกระดาษขึ้นอย่างไรเล่าคุณหนูคนทั่วไปนิยมใช้กระดาษท่านไช่นี่แหละ ท่านยังต้องการหรือไม่"
"เอาเจ้าค่ะ ข้าเอาทั้งหมดหนึ่งร้อยแผ่นเจ้าค่ะ" ที่นางซื้อไปเยอะถึงหนึ่งร้อยแผ่นเพราะจะได้ไม่ต้องออกมาซื้ออีกในครั้งต่อไป ร้านหนังสือแห่งนี้อยู่ไกลอยู่เหมือนกัน นางจึงไม่อยากเดินทางมาบ่อยนัก
"คุณหนูท่านคงรักการเขียนมากสินะ ถึงได้ซื้อกระดาษไปเยอะขนาดนี้ ได้ๆเดี๋ยวข้าจะไปเอามาให้ท่านเดี๋ยวนี้" ซูเม่ยนางเพียงยิ้มรับไม่ได้กล่าวปฏิเสธแต่อย่างใด กลัวว่าหากบอกไปเถ้าแก่จะมองนางแปลกๆที่นำกระดาษนี้ไปห่อของ
"ได้แล้วคุณหนู ทั้งหมดยี่สิบเหวิน"
"จริงสิเถ้าแก่ ท่านมีเชือกเส้นเล็กๆขายหรือไม่เจ้าคะ"
"เชือกเส้นเล็กๆหรือ ที่ข้ามีอยู่ปกติจะเอาไว้ห่อหนังสือเวลามีลูกค้ามาซื้อหนังสือสามสี่เล่มแล้วต้องการห่อหนังสือกลับ คุณหนูท่านอยากได้หรือ"
"เจ้าค่ะ ขอข้าดูเชือกได้หรือไม่เจ้าคะ" เถ้าแก่จึงเดินไปหลังร้านและนำเชือกมาให้ดู
"ข้าอยากได้เจ้าค่ะ ท่านจะขายให้ข้าหรือไม่เจ้าคะ ข้าต้องใช้จำนวนนึงเลยเจ้าค่ะ"
"ได้ๆ ข้าขายให้ได้ เชือกนี่หลานชายข้าก็เป็นคนทำขึ้นมาเอง ข้ามีเท่าที่นำออกมาท่านจะเอาหมดเลยหรือไม่"
"เอาหมดเลยเจ้าค่ะ"
"ค่าเชือกข้าคิดแค่สี่เหวิน ค่าหนังสือยี่สิบเหวินทั้งหมดยี่สิบสี่เหวิน" นางหยิบเงินจ่ายให้เถ้าแก่ไป ส่วนกระดาษและเชือกหวังจิ้งเป็นคนรับไปถือเอง
กลับมาถึงจวนนางก็สอนให้อี๋นั่ว ซูฉีและซูลี่ นำกระดาษห่อกับสบู่ให้เป็นรูปทรงและใช้เชือกมัดเป็นปมรูปโบว์ เมื่อห่อสบู่จนครบทั้งหมดก็นำไปเก็บไว้ก่อน แต่แยกไว้สบู่ก้อนเล็กและก้อนใหญ่ไว้อย่างละสูตร เพราะในยามเว่ย(13.00-14.59น.)นางจะนำสบู่ไปแนะนำกับร้านขายเครื่องประทินโฉมร้านหนึ่ง
เมื่อถึงเวลานางก็ออกไปพร้อมกับอี๋นั่วและซูฉีกับซูลี่ รวมทั้งหวังจิ้งส่วนสาวใช้ข้างกายของน้องสาวนางให้อยู่ที่จวน ไม่อยากให้ยกกันไปเยอะ เพราะเพียงแค่นำสบู่ไปแนะนำ
"พี่สาวข้าขอพบเถ้าแก่เนี้ยของที่นี่ได้หรือไม่เจ้าคะ ข้ามีสินค้าจะมาแนะนำเจ้าค่ะ"
"เจ้ารอข้าสักครู่" ไปไม่นานก็ถูกเชิญให้เข้าไปข้างในร้าน เดินไปยังห้องๆหนึ่ง เมื่อเข้าไปถึงก็พบหญิงสาวที่อายุคงจะไม่เกินยี่สิบห้าปี
"เชิญนั่งกันก่อน เสี่ยวจิงไปนำชามาต้อนรับแขก" คนที่นำทางพวกนางเข้ามาก็คือเสี่ยวจิง ได้รับคำสั่งจึงเดินออกไปและนำชามาเทให้ทุกคน
"ข้าชื่อจิ้งซินเป็นเจ้าของของที่นี่ ไม่ต้องเรียกข้าว่าเถ้าแก่เนี้ยหรอก เรียกข้าว่าพี่จิ้งซินก็พอ ที่มากันในวันนี้มีสินค้าอะไรมาแนะข้างั้นหรือ" เห็นว่าเจ้าของที่นี่ดูเป็นมิตร รดาจึงยิ้มและนำสบู่ที่เตรียมมานำมาวางบนโต๊ะ
"ก่อนอื่น ข้าชื่อซูเม่ย นี่ซูลี่และซูฉีน้องสาวข้าเอง ส่วนนั่นสาวใช้ข้างกายข้าเจ้าค่ะ ที่ข้ามาในวันนี้เพราะอยากจะนำสบู่ที่ข้าทำขึ้นมามาฝากท่านขายที่ร้านนี้เจ้าค่ะ" ซูเม่ยหยิบสบู่ขึ้นมาและแกะเชือกออกเผยให้เห็นสบู่ก้อนทั้งสามก้อน ก้อนหนึ่งสีขาวนวล ก้อนหนึ่งสีเขียว ก้อนหนึ่งสีส้ม จิ้งซินหยิบสบู่ก้อนสีส้มขึ้นมาพินิจดู
"ท่านทำขึ้นเองอย่างนั้นหรือ"
"เจ้าค่ะ สบู่ที่ท่านถือทำมาจากแครอท มีส่วนผสมของแครอท น้ำมันมะพร้าว และน้ำผึ้งเจ้าค่ะ"
"แล้วจะใช้ชำระร่างกายได้จริงหรือ"
"ได้จริงเจ้าค่ะ ข้าและน้องสาวทั้งสองรวมถึงคนในจวนต่างก็ทดลองใช้กันมาแล้ว ไม่มีแพ้หรือมีผื่นขึ้นเลยเจ้าค่ะ ท่านดูที่ผิวของพวกนางได้ ผิวของพวกนางดูนุ่มขึ้นเจ้าค่ะ" ซูลี่และซูฉียื่นแขนออกไปให้จิ้งซินดู
"ถ้าเช่นนั้น ทั้งสามก้อนนี่ต่างกันหรือไม่"
"สบู่ก้อนสีส้ม ทำจากแครอทเป็นหลักมีสรรพคุณช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ ลดความหมองคล้ำที่เกิดจากการตากแดดได้เจ้าค่ะ ช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น ส่วนสบู่ก้อนสีเขียวทำจากแตงกวาและใบบัวบก มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความกระจ่างใสของผิว ลดความมันของผิว ช่วยลดความย่อนคล้อยของผิว ลดความหมองคล้ำได้เช่นกันเจ้าค่ะ ส่วนสีขาวทำจากน้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณลดความแห้งกร้านของผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว และขจัดความมันได้ดี สบู่น้ำมันมะพร้าวนี่จะเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายเจ้าค่ะ"
"ดูน่าสนใจ" จิ้งซินพยักหน้าหลังจากได้รับฟังสรรพคุณของสบู่แต่ละสูตร
"ในวันนี้ข้าจึงนำสบู่มาให้ท่านได้ลองใช้ก่อน เพื่อให้ท่านได้ตัดสินใจ แต่มีสิ่งสองสิ่งที่ข้าจะบอกหนึ่งคือสบู่นี้ใช้แค่ชำระร่างกายอย่านำไปล้างหน้านะเจ้าคะเพราะอาจจะทำให้ใบหน้าของท่านสิวขึ้นได้ อีกอย่างข้าทำขึ้นสองขนาดมีขนาดเล็กและขนาดใหญ่เพื่อที่จะสามารถขายทั้งลูกค้าที่มีฐานะและฐานะปานกลางรวมไปถึงคนที่อยากจะซื้อแบบก้อนเล็กนำไปลองใช้ก่อน"
"เจ้าคิดมาหมดแล้วสินะ ได้ ข้าจะลองใช้สบู่ก่อน แล้วเจ้าจะให้ข้าใช้ก้อนไหน" จิ้งซินนางเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณหนูคนนี้จะให้นางลองใช้สบู่ชิ้นไหน
"ขอข้าดูผิวของท่านนะเจ้าคะ" ซูเม่ยลูบผิวของจิ้งซิน ผิวของจิ้งซินดูเผินๆเหมือนจะดูสุขภาพดีแต่พอลองได้ลูบดูแล้วผิวยังต้องการความชุ่มชื้น
"ลองใช้สบู่น้ำมันมะพร้าวก่อนนะเจ้าคะ ผิวของท่านยังต้องการความชุ่มชื้นเจ้าค่ะ ข้าจะมอบสบู่ก้อนเล็กนี้ให้ท่านทั้งหมดสามสูตร เผื่อท่านอยากจะนำไปให้คนของท่านทดลองใช้ก่อน"
"ได้สิ" จิ้งซินรับสบู่ก้อนเล็กทั้งสามสูตรมาอย่างละก้อน
"วิธีการเก็บรักษาหลังใช้เสร็จควรเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่ควรวางไว้ในที่น้ำขังเพราะจะทำให้สบู่ละลายเร็วขึ้นจะทำให้ใช้ไม่ได้นาน"
"ข้าเข้าใจแล้ว แต่ก่อนเจ้าจะไปข้าขอถามว่าหากข้าจะนำสบู่ของเจ้ามาขาย เจ้าจะคิดราคาอย่างไร" กล้านำสินค้ามาเสนอก็คงต้องมีการคิดคำนวณไว้แล้วบ้าง
"ข้าคิดไว้แล้วเจ้าค่ะ ก้อนใหญ่หนึ่งร้อยห้าสิบเหวิน ก้อนเล็กเจ็ดสิบห้าเหวินเจ้าค่ะ"
"อืมมม ข้าขอถามอีกนิดการทำสบู่ของเจ้าทำยากและใช้เวลานานหรือไม่"
"นานเจ้าค่ะ เพราะข้าต้องเริ่มทำน้ำมันมะพร้าวก่อน เพราะน้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนประกอบที่ใช้ทำสบู่ทุกสูตร และข้ายังต้องตีสบู่ให้สีข้นขึ้นอีก เมื่อทำสบู่ออกมาแล้วต้องรออีกสามอาทิตย์ถึงจะนำสบู่มาใช้ได้"
"คงใช้เวลาและลงแรงไปมากทีเดียว ...ข้าคิดว่าข้าจะรับสบู่ของเจ้าก้อนใหญ่ราคาสามร้อยเหวิน ส่วนก้อนเล็กราคาหนึ่งร้อยห้าสิบเหวิน และข้าจะขายในร้านข้า ก้อนใหญ่ในราคาสี่ร้อยเหวิน ส่วนก้อนเล็กจะขายในราคาสองร้อยยี่สิบเหวิน ไม่ต้องกลัวว่าทำไมข้าขายแพง หากสินค้าของเจ้าดีจริงข้าย่อมมีวิธีขายอยู่แล้ว เอาตามนี้อีกสามวันข้าจะให้คำตอบแก่เจ้า หากข้าใช้แล้วไม่แพ้ข้าจะรับสบู่เจ้ามาขายในร้านตามราคาที่ข้าบอก"