แม้ว่าภารกิจแรกจะไม่สำเร็จแต่อนามิกาก็ไม่ได้ละความพยายามแม้แต่น้อยเพราะหล่อนนั้นได้คิดแผนสองไว้รองรับในวันถัดมา...
ในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดกับคนอื่น ก็ลองให้มาพูดกันดูเองเป็นไร...
เมื่อคิดได้อย่างนี้ หล่อนก็โทรหาหมอธานุวัตน์ตามเบอร์โทรที่บังคับของเขามาในทันที แรกๆ นั้นเขาอิดออดนิดหน่อยเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดของเขา เขาออกเวรมาก็จะกลับมานอนแต่หล่อนก็พล่ามบ่นใส่เขาให้เขาหูชาจนต้องยอมออกมาเจอหล่อนจนได้...
เพราะว่าบ้านเขาอยู่ไม่ห่างจากร้านดอกไม้ของหล่อนนัก อนามิกาจึงนัดเขามาที่ร้านกาแฟที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ติดร้านของหล่อนนั่นเอง
หล่อนมานั่งรอเขาอยู่ได้ไม่นานนัก ตติยะในชุดลำลองสีขาวสะอาดตา เปล่งแสงออร่าทั้งชุดทั้งสีผิวเจ้าของจนบรรดาสาวๆ ในร้านต้องเหล่มองอย่างสนใจ โดยเฉพาะอนามิกาที่โบกมือเรียกเขาหย็อยๆ จากโต๊ะในสุด
ธานุวัตน์เห็นหน้าหล่อนแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้าบึ้งหรือว่าจะหัวเราะดีที่หล่อนกวนเวลาพักผ่อนอันแสนมีค่าของเขา... แต่จะโทษหล่อนเองฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนักเพราะเขาเองก็ลืมปิดมือถือในวันพักผ่อนอย่างนี้ เลยถูกหล่อนตามตัวได้...
“ว่าไงคุณ...” เขาทักหล่อนก่อนจะนั่งลงที่โซฟาสีน้ำตาลตรงข้ามที่ที่หล่อนนั่ง
“เพราะว่าผมทำให้ไอ้ต้นไม่ได้พักผ่อนเมื่อคืนนี้หรือเปล่านะ เวรกรรมเลยนำสนองผมในวันนี้” เขาเอ่ยประชดหล่อนกลายๆ อนามิกาก็ย่นจมูกใส่เขาอย่างไม่แคร์
ในเมื่อเขาลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องทุ่มเท ใช่ว่าหล่อนจะได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ ก็เขาบอกเองว่าถ้าตติยะสมหวังเพื่อก็จะอารมณ์ดีขึ้น
ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์แล้วเขาจะมาโอดครวญทำไมกัน
“จะทำงานใหญ่ใจต้องรัก จะทำงานรักก็ต้องตั้งใจ”
“โอ้โห ไปได้มาจากไหนเนี่ย” เขาหัวเราะออกมากับคติของหล่อน
“แต่งเอง...” อนามิกาบอก “อย่ามัวพูดเรื่องอื่นเลย เอาเรื่องที่เราควรต้องคุยกันดีกว่า” หล่อนเริ่มจริงจังขึ้น...
“อืม... เข้าสู่โหมดจริงจังแล้วเหรอ” เขากล่าวล้อๆ กับท่าทางขึงขังของหล่อน
“นี่ ไม่เล่นนะฉันซีเรียส ที่ฉันโทรเรียกคุณมาวันนี้เพราะว่าฉันอยากให้คุณช่วยฉันคิดว่าจะทำยังไงก็ได้ที่จะทำให้สองคนนั้นได้เจอกัน ได้คุยกัน แล้วเราก็ดูว่าจะเป็นอย่างไร”
“แล้วมันจะได้อะไร”
“โอ๊ย ฉันไม่เชื่อว่าคนที่ฉลาดอย่างคุณจะถามฉันได้... ก็เราต้องดูว่าเขาสองคนเป็นยังไง ยังมีสายตาอาลัยกันหรือเปล่า มีวี่แววจะคืนดีกันมั้ย ถ้าใช่ เราก็ลงมือแผนต่อมา”
“ลงมือแผนต่อมา” เขาเลิกคิ้วขึ้น... “ทำอะไรต่อเหรอ”
“ไม่รู้ แต่ก็มีแผนไว้สองสามอย่าง อย่างเช่นว่า มอมยาทั้งสองคนแล้วก็จับมาขังไว้ในห้องเดียวกันให้เหมือนลักพาตัว หรือไม่ก็เอาสองคนนั้นไปปล่อยเกาะด้วยกันพออยู่กันสองคนแล้วความหลังที่ผ่านมาก็จะแจ่มชัดขึ้น แล้วถ่านไฟเก่าก็จะคุ”
“งั้นผมก็ขอแจ้งว่าผมจะให้คุณทำคนเดียวนะ เพราะว่าผมไม่เอาด้วย คุกทั้งนั้นนะนั่น”
“คุกอะไร เขาไม่เอาเรื่องเราหรอกน่า คนกันเองทั้งนั้น ก่อนอื่นนะ ฉันว่าเราเอาแผนแรกให้เสร็จก่อนเถอะ แล้วเรื่องต่อมาค่อยว่ากัน... คุณช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าจะเอาไง”
“อ้าว... คุณคิดทุกอย่างได้เป็นตุเป็นตะ วางแผนทุกอย่างทะลุประโปร่งหมดขนาดนี้ ต้องให้ผมช่วยอะไรไม่ทราบ หรือว่าคุณยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้เขามาเจอกัน”
“เปล่า... ฉันคิดไว้แล้วว่าจะทำยังให้สมเหตุสมผลที่เขาจะมาเจอกัน... แต่ฉันแค่อยากจะให้คุณน่ะเป็นสื่อกลางที่จะลากหมอต้นมาตามนัด”
“อืม... ไว้ผมจะพิจารณาก็แล้วกัน”
“ไว้จะพิจารณาอะไร ฉันบอกพี่พรีมไว้แล้วว่าพรุ่งนี้ ฉันจะนัดแฟนมาแล้วให้ผู้ใหญ่อย่างพี่พรีมมาช่วยดูว่าแฟนฉันเป็นคนยังไง... พี่พรีมเค้าค่อนข้างเจ้าระเบียบและก็หวงน้องถึงฉันจะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ แต่เขาก็คอยดูแลช่วยเหลือ บอกแบบนี้พี่พรีมก็ตามฉันมาแทบไม่ทันเพราะห่วงกลัวว่าฉันจะเผลอคบคนไม่ดี ต้องผ่านสายตาเขาก่อนเท่านั้น ส่วนคุณทำยังไงก็ได้ที่จะหลอกหมอต้นมาด้วยตามที่ฉันนัด แล้วเราก็จะทิ้งให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันและก็คอยสังเกต”
“นี่คุณจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าผมกับเพื่อนว่างมาหรือเปล่า...”
เขาถามอย่างนั้นอนามิกาก็หน้าม่อยไปทันที
“แล้วคุณกับหมอต้นว่างไหมล่ะคะ”
“ว่าง”
“อ้าว แล้วจะมาโวยวายทำไม” หล่อนแหวขึ้นมา
“เปล่า แค่อยากให้คุณคิดก่อน ว่าเวลาจะทำอะไรให้นึกถึงหัวจิตหัวใจคนอื่นบ้างไม่ใช่จะเอาแต่ความต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว”
“คะ คุณกำลังด่าฉันหรือเปล่า” อนามิกาถาม.. หล่อนจับน้ำเสียงเรียบๆ ของเขาไม่ได้เลยว่าตกลงเขาจะหมายความว่ายังไง
“เปล่าด่า แต่หมายความว่าอย่างที่พูดนั่นแหล่ะ เอาเป็นว่าผมจะพาเพื่อนมาแล้วกัน แต่ผมก็ไม่รู้จะบอกมันว่าไงถึงจะชวนมันมาได้ ผมไม่ถนัดโกหก คุณช่วยคิดให้หน่อยสิ”
อนามิกาเผลอค้อนเขา ทำไมนะคำพูดเขาแต่ละคำที่พูดกับหล่อนมาถึงทำให้หล่อนรู้สึกว่าเขาด่าหล่อนอยู่เรื่อย นี่ก็กำลังจะบอกว่าหล่อนช่างโกหกอีก
“คุณก็บอกเหมือนที่ฉันบอกไง ว่าอยากดูผู้หญิง ในฐานะที่เขามีแฟนมาก่อนก็อยากให้เขามาช่วยดูให้ สรุปนะ เราแกล้งเป็นว่าจะคบกันแต่ต่างฝ่ายต่างไม่แน่ใจเลยพาเพื่อนมาช่วยดูว่าคนที่จะคบนั้นดีมั้ย สุดท้ายก็มาจ๊ะเอ๋กัน ก็แค่นี้เอง”
“แล้วคุณคิดว่ามาเจอกันแล้วเพื่อนผมจะจำคุณไม่ได้เหรอ”
“เออ ฉันก็ลืมคิดเรื่องนี้ไป เอาไว้ว่าฉันจะเนียนๆ ทำเป็นไม่รู้ละกัน ตอนนั้นเขาทำอะไรไม่ได้หรอกน่า กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอกเขาก็เห็นหน้าพี่พรีม เราก็ดูอาการของพวกเขาได้แล้วน่า...” อนามิกาบอกปัดๆ หล่อนไม่ได้คิดมากเลยว่าต้องทำแผนให้เนียน.. เพราะจุดมุ่งหมายที่สุดคือการที่จะให้คนสองคนมาเจอกันเท่านั้นเอง สุดท้ายอะไรจะเกิดขึ้นต่อก็ต้องคอยดูต่อไป...
“สรุปว่าเข้าใจแล้วนะ งั้นก็ยกเลิกการประชุมเท่านี้นะคะ ฉันต้องกลับไปดูร้านต่อให้เด็กเฝ้าไว้คนเดียวน่ะค่ะ ฉันขอโทษทีที่วันนี้ฉุกละหุก วันหลังฉันจะไม่รีบอย่างนี้ค่ะ” หล่อนบอกก่อนจะวางเงินไว้ฝากเขาจ่ายค่ากาแฟแล้วเดินฉับๆ ออกไปโดยไม่ลาเขาสักคำ
นายแพทย์ธานุวัตน์มองร่างที่เดินจากไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้วก็ส่ายหัวกับตัวเอง... ผู้หญิงแบบนี้ก็มีแฮะ...