เช้าวันต่อมา...
ขนมผิงนั่งเท้าคางมองชายหนุ่มเช่นเคย เพราะเธอถูกสั่งไม่ให้ลุกจากที่นอนจนกว่าเขาจะตื่นก็เลยทำจนชินมานอนเฝ้าข้างๆอยู่แบบนี้ อีกอย่างถ้าออกไปช่วยคนอื่นก็จะต้องทิ้งพ่อเลี้ยงนอนในห้องคนเดียว ซึ่งตอนนี้ในบ้านยังมีงูพิษอยู่เพราะฉะนั้นจะไว้ใจไม่ได้เด็ดขาด
"ตื่นแล้วเหรอ..."
"ค่ะ"
ขนมผิงยิ้มออกมาก่อนจะขยับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เขาลูบผมหญิงสาวก่อนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
"คราวหลังปลุกนะจะได้ไม่ต้องมานอนรอแบบนี้"
"ไม่เอาค่ะ ผิงอยากให้พ่อเลี้ยงนอนพักเยอะๆ วันนี้ต้องไปรบกับตัวยุ่งอีกไม่รู้จะมาไม้ไหน"
ขนมผิงหน้างอเมื่อนึกถึงหน้าของซินดี้ พ่อเลี้ยงได้ยินแบบนั้นก็หลุดขำออกมาอย่างอดไม่ได้ ท่าทางจะไม่ชอบมากจริงๆ
"มาไม่ไหนก็ช่างเขาสิ ฉันไม่สนหรอกนะ"
"แต่ผิงสนนี่นา ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ผิงไม่สามารถละสายตาจากพ่อเลี้ยงได้เลย ผิงหวงนี่นา"
หญิงสาวกอดรัดชายหนุ่มแน่นขึ้น เขาเป็นผู้ชายคนแรกและจะต้องเป็นคนเดียวของเธอจากนี้ไป ใครที่มันคิดจะมาแย่งต้องเจอดี
"ฉันดีใจนะที่ผิงหึงหวง แต่ถ้าเชื่อใจกันผิงจะไม่กังวลแบบนี้นะ"
"พ่อเลี้ยงน่าจะรู้ว่าคุณเขาร้ายขนาดไหน เมื่อคืนเธอแอบเข้าห้องมาคงหวังจะรวบรัดพ่อเลี้ยง ถ้าผิงเข้ามาไม่ทันมันจะเกิดอะไรขึ้นคะ ถึงแม้ว่าจะเชื่อใจกันแต่ถ้าผิงเข้ามาแล้วเจอภาพที่เธอสร้างเอง เราสองคนก็จะต้องทะเลาะกันใหญ่โต ผิงไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นค่ะ ผิงอยากเป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลไม่ใช้อารมณ์พ่อเลี้ยงเข้าใจใช่มั้ยคะ"
หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างใสซื่อ ทำไมเธอจะต้องพูดอ้อมค้อมในเมื่อทุกอย่างมันคือความจริง และเขาต้องเข้าใจในจุดนี้ด้วย หลังจากนี้ผู้หญิงคนนั้นต้องพยายามทำให้เธอกับพ่อเลี้ยงผิดใจกันแน่นอน เพราะฉะนั้นเราสองคนต้องเปิดใจคุยกันก่อน
ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างทึ่งสุดขีด ไม่คิดว่าเธอจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขนาดนี้ และที่เธอพูดมาทั้งหมดซินดี้ต้องทำอย่างแน่นอน
"โอเคเข้าใจแล้ว งั้นช่วงที่ซินดี้อยู่ที่นี่ฉันจะพยายามไม่ออกไปไหนห่างสายตาผิง ถ้าจะไปไหนไกลจะพาไปด้วย ดีมั้ย"
"ดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่พ่อเลี้ยงเข้าใจผิง"
หญิงสาวสวมกอดชายหนุ่มอย่างโล่งใจ เธอผละออกก่อนจะดึงเขาให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย ตอนนี้คุณหญิงคงจะตื่นแล้วเธอจะได้ไปดูแลท่าน
"ตื่นเถอะค่ะ คุณแม่คงจะตื่นแล้ว"
"รู้สึกว่าผิงกับแม่ฉันนี่จะเข้ากันได้ดีเลยนะ"
"ไม่ดีเหรอคะ..."
เขายักไหล่ไม่ว่าอะไร เข้ากันได้ดีก็ถือว่าดีมากแล้ว ปกติแม่เขาชอบคนยากจะตาย ถ้าไม่น่ารักน่าเอ็นดูมากพอไม่มีทางเอ่ยปากชอบเด็ดขาด
"ดีแล้ว ไปแปรงฟันดีกว่าจะได้ทานข้าวเช้ากัน"
ทั้งสองคนกุมมือกันเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะแปรงฟันด้วยกันแกล้งหยอกกันไปตามประสาคู่รัก หลังจากทำธุระเรียบร้อยขนมผิงไม่ลืมที่จะกินยาคุมที่คุณแม่ให้มา แปลกกว่าเดิมแต่ถ้าท่านบอกว่าดีเธอก็ว่าดีนั้นแหละ
"กินยาคุมเหรอ"
"ค่ะ คุณแม่ให้มาใหม่บอกว่าตัวนี้หน้าใสด้วย"
"แม่เหรอให้ยาคุม.. น่าตกใจนะเนี่ย"
พ่อเลี้ยงเอ่ยออกมาอย่างอึ้ง ไม่คิดว่าแม่จะสนับสนุนให้ขนมผิงกินยาคุมแถมยังปล่อยมานอนกับเขาเช่นเดิมอีก ท่านคงจะไม่ชอบซินดีมากจริงๆ อีกอย่างพอเขาบอกว่าจะรับผิดชอบขนมผิงแม่ก็ดูเหมือนดีใจมากอยู่ เขาควรจะดีใจที่อย่างน้อยแม่สามีกับลูกสะใภ้รักกันไม่เหมือนคู่อื่นที่ทำเหมือนเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน
"ตอนแรกผิงก็ตกใจค่ะ งั้นเราไปกันเถอะ"
"อืม ไปสิ"
ทั้งสองคนเดินกุมมือกันออกไปข้างนอก ตอนนี้คุณหญิงตื่นนอนเรียบร้อยพร้อมสำหรับรับประทานอาหารเช้า ส่วนซินดี้ยังไม่มีใครเห็นหรือว่าหล่อนจะยังไม่ตื่น
"ทานข้าวกันเถอะแม่หิวแล้ว"
ทั้งสามคนนั่งทานข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนซินดี้หล่อนตื่นเช้ากว่านั้นและเดินทางไปยังออฟฟิศที่ไร่แล้ว เธอเข้ามาในห้องทำงานของพ่อเลี้ยงคาวีเปิดดูเอกสารนั่นนี่อย่างสอดรู้
"มีแต่อะไรก็ไม่รู้ แล้วเมื่อไหร่คาวีจะมาซักทีเนี้ย"
ซินดี้เริ่มโวยวายออกมาอย่างอารมณ์เสีย ดินที่เข้ามาเอาเอกสารในห้องทำงานของพ่อเลี้ยงก็เลิกคิ้วมองหญิงสาวอย่างสงสัย
"คุณมาทำอะไรที่นี่แต่เช้าคุณซินดี้"
"มารอคาวีไง แล้วนายมาทำไมแต่เช้าไม่ทราบ"
เขามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างจับผิด เอกสารบนโต๊ะถูกวางกระจัดกระจาย เขาเดินมาเก็บแฟ้มพวกนั้นมาถือไว้ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"พ่อเลี้ยงไม่ค่อยมาทำงานที่ไร่ครับ ปกติเขาจะนั่งทำงานที่ห้องทำงานของบ้านมากกว่าที่นี่ ถ้าจะมารอคงเก้อนะครับ ผมขอตัวก่อน"
ดินถือแฟ้มเอกสารพวกนั้นแล้วเดินออกไปทันที ซินดี้ที่ได้ยินแบบนั้นก็ร้องโวยวายออกมาอย่างหงุดหงิด ทำไมทุกคนทำเหมือนเธอไม่รู้อะไรเลยแบบนี้ เมื่อก่อนเธอรู้เกี่ยวกับคาวีทุกอย่างแต่ทำไมตอนนี้มันเหมือนมืดบอดไปหมด
"กรี๊ด!!! ทำไมฉันต้องแพ้อีเด็กนั้นด้วย"
เธอกรีดร้องออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาทันที ซินดี้เปลี่ยนแผนกลับไปที่บ้านของเขาแทน เธอจะก่อกวนจนนังเด็กขนมผิงมันอกแตกตายไปเลย
"แม่จะไปกับป้าพานะ ผิงไม่ต้องไปอยู่กับพ่อเลี้ยงนะลูก"
"ค่ะคุณแม่"
ขนมผิงตอบรับอย่างว่าง่าย เธอเดินมาส่งคุณหญิงขึ้นรถก่อนจะเดินกลับมาหาพ่อเลี้ยงที่ตอนนี้กำลังนั่งอ่านเมลอยู่ หญิงสาวเดินมานั่งลงบนตักของเขาก่อนจะโอบรอบคอพร้อมกับเอ่ยถามเสียงหวาน
"ทำอะไรอยู่คะ ขอผิงช่วยงานได้มั้ยคะ"
หญิงสาวเสนอตัวช่วยชายหนุ่ม งานเอกสารหรือบางอย่างเธอทำได้ไม่เกินความสามารถ แต่ถ้าความรู้เรื่องพืชผลอาจจะต้องใช้เวลาศึกษาซักหน่อย
"ศึกษาราคาประมูลสนามบินเดือนหน้านะ ไม่รู้ว่าบริษัทอื่นจะยื่นราคาไหน แต่เราจะตั้งสูงกว่าเดิมให้มากขึ้น ตรงนั้นทำเงินหลายล้านต่อเดือนไม่อยากจะปล่อยให้หลุดมือไป"
ขนมผิงรับฟังอย่างตั้งใจ เธอก็อยากจะช่วยเขามากแต่เธอไม่มีข้อมูลบริษัทอื่นอยู่ในมือเลยซักนิดเดียว
"มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะคะพ่อเลี้ยง"
"งั้นฉันให้ผิงพิมพ์เอกสารให้ดีกว่า เอกสารประมูลร้านเช่าในสนามบินนั้นแหละ ทางการนิดหน่อยแต่มีแบบฟอร์มให้ พิมพ์ไว้ก่อนส่วนเรื่องราคาเดี๋ยวขอปรึกษาทางระดับจัดการอีกที"
"ได้ค่ะ งั้นผิงช่วยทำนะคะ"
"จ้ะ"
พ่อเลี้ยงพยักหน้าก่อนจะหอมแก้มหญิงคนรักอย่างหลงไหล เธอหันไปยังหน้าจอโน๊ตบุ๊คของชายหนุ่มก่อนจะเปิดดูฟอร์มที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้
"ไม่ยากเลยค่ะ ผิงทำเองแป๊บเดียว"
"งั้นก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวฟอร์มส่งให้ทางเมลนะ"
"ค่ะ"
ซินดี้ที่กลับมาที่บ้านก็ยืนอยู่ตรงประตูยังไม่เข้าไป เธอได้ยินทั้งสองคนคุยกันทุกอย่าง เธอกำหมัดแน่นอย่างอิจฉาที่ขนมผิงได้รับความไว้วางใจจากพ่อเลี้ยงมากเกินไป
'ถ้าเป็นแบบนี้เธอจะไม่สามารถแยกทั้งสองคนออกจากกันได้แน่นอน... มันต้องมีวิธีสิ'