ตอนที่ 3

1012 Words
ก๊อก ๆ มีคนมาเคาะที่ประตูบ้าน คนที่สนิทกันจะรู้ว่าวิษรุจไม่เคยล็อกประตูรั้ว “ฮัลโหล...” มีนชญาทักเขาเสียงดัง เธอเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือ "มีน" มีนชญาเป็นน้องสาวของอาทิตย์ "อ้าว ยังดื่มไม่เลิกอีกหรือคะ พี่อาทิตย์โทร. มาสั่งมีนหลายครั้งเลยค่ะว่าให้ทำอะไรมาให้พี่กินด้วย” พอเธอเดินเข้ามาใกล้ ๆ ก็ได้กลิ่นเหล้าหึ่ง ๆ “อึ๋ย... กลิ่นเหล้าคลุ้งไปหมดแล้วค่ะ แบบนี้ถ้ามีไฟแช็กจุดไฟติดได้เลยนะคะ" มีนแซว วางถาดอาหารตรงหน้าเขาเสร็จ ก็เดินไปเปิดหน้าต่างให้ออกกว้าง จับไม้กวาดมาปัดกวาดให้ วิษรุจเดินเข้ามาแย่งเอาไม้กวาดไปถือเอง "พี่ทำเอง แล้ววันนี้มีนไม่ไปทำงานเหรอ" "ลาพักร้อนน่ะค่ะ อาทิตย์หนึ่ง วันนี้เพิ่งวันแรก นัดเพื่อนเอาไว้แล้วค่ะ กำลังจะออกไปกับเพื่อน ว่าจะไปดูหนัง กะมาชวนพี่รุจสักหน่อย แต่สภาพแบบนี้..." "นั่นน่ะสิ มีนไปเถอะ ไปเที่ยวให้สนุกเถอะจ้ะ พี่ไม่อยากเป็น กขค.” มีนชญายังไม่หยุดเก็บจานเปล่าที่สกปรกบนโต๊ะไปล้างให้เขาด้วย “มีนไม่ต้องทำ เดี๋ยวพี่ทำเอง ว่าแต่ทำอะไรมาให้พี่กินจ๊ะ" เขาก็เอ็นดูเธอแบบน้องสาวคนหนึ่ง อาทิตย์กับเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน พอรู้ว่ามีโครงการที่ดินเปล่าให้สร้างบ้านเองที่นี่ เขาจึงชวนอาทิตย์มาอยู่ด้วยกันโดยการซื้อที่ดินแปลงติดกัน "ยำผักกาดกระป๋องกับไข่เค็มทอดดาว และข้าวสวยร้อน ๆ พี่รุจมานั่งกินเถอะค่ะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะกินไม่อร่อย" วิษรุจหัวเราะและมองหน้าเธอ "โธ่... อย่ามองหน้ามีนแบบนั้นสิคะ นี่ก็สุดฝีมือแล้วนะ หน้าตายังน่ากินกว่าที่พี่อาทิตย์ทำเสียอีก" เธอว่ากระทบไปถึงพี่ชายคนเดียว "ขอบใจจ้ะ พี่แนะนำมีนนิดหนึ่งนะ เพื่อนเราที่มารับน่ะแฟนใช่ไหม ได้บอกเขาให้รู้หรือเปล่าว่าเราน่ะ ฝีมือทำอาหารระดับไหน" "แหม... พี่รุจ พูดแบบนี้ มีนงอนแล้วนะ แฟนมีนเขาไม่แคร์หรอกค่ะเรื่องฝีมือทำอาหาร เขาสนใจเรื่องอื่นมากกว่า” เธอพูดกำกวม “ว่าแต่ว่า ไม่เปลี่ยนใจไปดูหนังกับน้องเหรอคะ" "พี่ขี้เกียจไปหลับข้างในโรงหนังน่ะสิ แอร์ก็เย็น แถมพี่ยังเมาระดับนี้ ดีไม่ดี ไอ้คนที่นั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เหม็นละมุดที่มาจากตัวพี่ แจ้งคนตรวจตั๋วมาเชิญพี่ออกจากโรงหนังแน่ ๆ" "รู้ตัวเหมือนกันนะคะว่าเป็นไอ้ขี้เมาอยู่ ณ ตอนนี้" "ช่างเถอะ พี่ดื่ม เพราะพี่ไม่มีอะไรทำหรอก" เขาแก้ตัว เพราะปัญหาที่รุมเร้าอยู่ภายในหัวใจของเขาต่างหากที่ทำให้เขาหันหน้าเข้าหาน้ำเมา "แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ละสิ ถ้าพี่รุจเป็นปลามีหวังโดนฉมวกแทงไปแล้วแน่ ๆ" "หึ ๆ" วิษรุจหัวเราะเสียงเย็น ปริ้น ปริ้น ปริ้น เสียงแตรดังที่หน้าบ้านของมีนชญา "ไปก่อนนะคะพี่รุจ แล้วจะซื้ออะไรมาฝาก" "ไม่ต้องซื้ออะไรมาให้พี่หรอก เที่ยวให้สนุกแล้วกันจ้ะ" "บาย ๆ" เขาโบกมือให้มองเธอจนลับตา ก่อนจะกลับเข้ามาในบ้าน นั่งลงที่โต๊ะอาหารตักกับข้าวฝีมือของมีนชญาเข้าปาก แกล้มกับน้ำวิสกี้ขวดใหม่ที่เจ้าของรินใส่แก้วน้ำแข็ง 12:43 น. "แถวนี้แหละน้องพี่ว่า ซอยสุดท้ายแล้วนะ ถ้าไม่เจอจะเอายังไง" คนขับแท็กซี่หันมาบอกเธอ ทอรุ้งชะเง้อชะแง้มองไล่ไปตามบ้านแต่ละหลังที่ปลูกอยู่ในซอย "เข้าไปข้างในก่อนเถอะค่ะ ถ้าไม่มีก็ค่อยกลับออกไป หนูบอกพี่แล้วไงหนูจะจ่ายให้พี่สองเท่า" "ซอยสุดท้ายจริง ๆ นะ" คนขับแท็กซี่ก็ชักจะเบื่อ "ค่ะ" เขาขับรถแท็กซี่วนเข้าไปในซอยที่เอ่ยถึง จนกระทั่งถึงทางตันซึ่งเป็นจุดกลับรถพอดี ทอรุ้งมองเห็นซุ้มแบบลายไทยประดิษฐ์ทำจากเหล็กดัดที่ตรงหน้าประตูบ้านโดดเด่นกว่าหลังไหน ๆ และเจ้าของทาสีบ้านเป็นสีเทาดำทะมึน ความแปลกตาทำให้ทอรุ้งจ้องมอง เธอเห็นป้ายบ้านเลขที่บ้านฉลุบนแผ่นเหล็กแปะไว้ตรงกลางประตูรั้ว เธอจึงชี้ให้คนขับรถดู "พี่คะ พี่คะ จอด ๆ พี่ บ้านหลังนี้แหละค่ะ ใช่แล้ว" คนขับรถชะลอ ก่อนจะจอดสนิทเลยประตูบ้านไปนิดหนึ่ง ทอรุ้งดูตัวเลขที่บอกราคา เธอรีบคูณสองก่อนจะยื่นให้แบบไม่ต้องทอน พร้อมกับยกมือไหว้ "อยู่ไกลซะสุดซอยแบบนี้ เล่นหากันจนเหนื่อยไปเหมือนกันนะ ขอบใจ" เขารับเอาเงินจากมือของเธอ "ขอบคุณค่ะพี่" เธอรีบก้าวลงไปยืนอยู่ตรงหน้ารั้วบ้าน ‘ออกแบบบ้านได้แปลกที่สุด และไม่เข้าใจว่าทำไมใช้สีแบบนี้มาทาบ้าน โคตรมืดเลย น่ากลัวชะมัด’ เธอคิดพลางเดินไปเกาะแกะที่ประตูรั้ว ลองใช้มือหมุนแล้วผลักเบา ๆ ประตูบานนั้นก็เปิดออก ‘ไม่ยักกลัวแฮะ ไม่ล็อกรั้วอีกต่างหาก’ เธอหมายถึงเจ้าของบ้าน แทนที่จะพูดกับตัวเองว่าทำไมไม่กลัว กล้ามากที่เธอมาหาเขาถึงที่นี่ ทอรุ้งก้าวขาอย่างระมัดระวัง หมาของบ้านข้างรั้วติดกันได้กลิ่นแปลก ๆ ทั้งเห่าเสียงดัง และกระโจนเข้าใส่กำแพงเกาเล็บข่วนเล็บไปที่กำแพง เธอออกอาการสะดุ้งตกใจ เสียงมันเห่าดังมาก ๆ สายตาของเธอมองไปยังตัวบ้าน และหันไปทำเสียงเข้าใส่น้องหมา “ชู...” เธอทำเสียงห้าม แต่หมาเหล่านั้นก็หาหยุดไม่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD