ในห้องนอนของทอรุ้งที่บ้านจักราวุธ ทุกคนกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะกัมปนาทแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับกุหลาบแก้ว
เด็กสาวนอนอยู่บนเตียง เปิดรูปที่วิษรุจตั้งเป็นโปรไฟล์ด้วยความคิดถึง หัวใจเธอลงปฏิพัทธ์ต่อเขา ทอรุ้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร
‘พี่รุจคะ รุ้งเป็นห่วงนะคะ’ ทอรุ้งเพียรส่งข้อความไปหาเขาอีกครั้ง
วิษรุจยังคงนั่งดื่มอยู่ที่หน้าบ้านแบบหัวปักหัวปำ
(เธอเป็นใคร กล้าดียังไงมาห่วงฉัน)
ทอรุ้งรีบถ่ายรูปหน้าตัวเอง พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสส่งไปให้เขาในทันที
(อ๋อ...ยายเด็กบ้าคนนี้นี่เอง) วิษรุจส่งมาเป็นข้อความเสียง น้ำเสียงทั้งอ้อแอ้เพราะเมาแปล้
(เด็กบ้า ดีกว่าผู้ใหญ่บ้า ๆ ก็แล้วกันค่ะ) เธอมีงอน ส่งเป็นเสียงกลับไปหาเขาเช่นกัน
(ยายเด็กเมื่อวานซืน เธอจะไปรู้เรื่องอะไร นี่มันชีวิตของฉัน อย่ามายุ่ง)เสียงที่บ่งบอกว่าเมา ช่างเหมือนเวลาที่คุณพ่อของเธอเมาแล้วต่อล้อต่อเถียงกับคุณแม่
(แปลกคน ความรู้ท่วมหัว แต่ไม่ยักเอาตัวรอด) เธอพิมพ์ไป
วิษรุจเมื่อโดนเด็กหญิงปรามาสตนเองแบบนั้นถึงกับหัวร้อน ตาสว่าง เลือดพลุ่งพล่านไปหมด
"หน็อยแน่ ยายเด็กนรก ก็ดีแต่เข้าข้างพี่ชายของมันน่ะสิ ในโลกนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่น่าเชื่อถือสักคน" วิษรุจถึงกับเอ่ยปาก
บล็อก ตัวหนังสือที่เขาเห็นอยู่หน้าจอ เขาลังเลว่าจะกดบล็อกทอรุ้งหรือไม่ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ เด็กสาวก็ยังกระหน่ำข้อความส่งมาถึงเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณรุ้งคะ พวกคุณจะไปโรงพยาบาลกันแล้วค่ะ พี่น้อยมาตาม" เสียงน้อยดังมาจากนอกห้อง
"ค่ะ รุ้งกำลังไป" เธอรีบลงจากเตียงคว้ากระเป๋าสะพายไปด้วย
ที่โรงพยาบาล
เลขาฯ ของคุณอิทธิพลเอาเอกสารมาให้ท่านเซ็นถึงโรงพยาบาล ทอรุ้งรีบเดินเข้าไปเสนอหน้า
"สวัสดีค่ะพี่"
"ว่าไงจ๊ะ"
"คะ คือ รุ้ง รุ้งมีเรื่องอยากจะถามนะคะ"
"เรียกพี่ว่าพี่น้ำฝนก็ได้ค่ะ" รอยยิ้มแสดงถึงความเป็นคนใจเย็น
"ทนายวิษรุจกลับมาทำงานหรือยังคะ"
"ยังค่ะ หนูถามทำไมหรือคะ"
ทอรุ้งยิ้มแป้น
"อ๋อ... คุณวิษรุจเขาทำของหล่นเอาไว้ที่นี่น่ะค่ะ หนูเก็บได้ แต่หนูต้องเอาไปคืนเขาด้วยตัวเอง"
"ฝากพี่เอาไปคืนให้ไหม"
ทอรุ้งส่ายหน้า
"มันเป็นของมีค่ามาก ๆ ค่ะ มีค่ากับความรู้สึก"
น้ำฝนคิดว่าเด็กสาวล้อเล่น
"ต้องไปคืนเขาที่บ้านเองแล้วละ เพราะคุณอิทธิพลอนุมัติให้ทนายวิษรุจลาหยุดยาวได้อีกหนึ่งเดือน เอกสารอยู่นี่จ้ะ"
"ตั้งเป็นเดือนเลยหรือคะ มีหวังตับแข็งตายไปอีกคน" ทอรุ้งบ่น
"อะไรจะแข็งตายนะจ๊ะ"
"พี่น้ำฝนคะ รุ้งขอที่อยู่พี่ทนายรุจได้ไหมคะ เพราะรุ้งต้องไปอยู่เชียงใหม่อีกเป็นเดือนเลยค่ะ"
"คุณรุ้งคะ คุณป้าเรียกค่ะ" น้อยเดินออกมาตาม
"ได้ค่ะ" น้ำฝนเขียนที่อยู่ของวิษรุจให้
"ขอบคุณมากค่ะ" ทอรุ้งยกมือไหว้ กำกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ในมือแน่นด้วยหัวใจที่คาดหวัง
ขณะที่กำลังเดินลงมาจากตึกเพื่อกลับบ้าน
"คุณป้าคะ รุ้งจะขอไปชอปปิงก่อนกลับเชียงใหม่ได้ไหมคะ"
"รุ้งจะไปกับใคร โตก็ไม่ได้มากับเราเสียด้วย"
"ก็ไปคนเดียวนะสิคะป้า รุ้งโตแล้วนะคะ อีกอย่างไปเดินชอปปิงมีนายโตไปด้วยก็ไม่สนุกหรอกค่ะ เพราะรุ้งจะไปหาดูเสื้อผ้าใส่เที่ยวสงกรานต์"
"อย่าเถลไถลนะ หรือว่าจะให้ป้าไปเดินเป็นเพื่อน"
"ป้าเดินไหวไหมคะ"
คุณแจ่มจันทร์จับที่หัวเข่าตัวเอง
"ไม่เอาดีกว่า เคยไปเดินกับพี่ต๊ะกับพี่นิ้งแล้ว อุ้ย ไม่ไหว เวียนหัวด้วย คนก็เยอะ งั้นเราก็ระวัง ๆ ตัวด้วยล่ะ"
"ค่ะ คุณป้า" เด็กสาวยิ้มด้วยความดีใจ เมื่อไปส่งคุณป้าที่รถแล้วจึงขอแยกตัวไป
ทอรุ้งเดินออกจากโรงพยาบาลเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าตั้งใจจะไปชอปปิงจริง ๆ จังหวะที่ล้วงกระเป๋าหยิบเอาเงินออกมา กระดาษที่อยู่ของวิษรุจก็ร่วงลงไป เธอรีบเก็บแทบไม่ทัน
"ชิ..." เด็กสาวทำหน้างอน ๆ อยู่คนเดียว หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าเช็กว่าวิษรุจติดต่อเธอกลับมาบ้างหรือยัง
‘ทำไมยังไม่อ่านข้อความของเราอีกเนี่ย’
เธอคิดไป วิษรุจน่าจะเมาแอ๋ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เธอเคยถามเรื่องราวของวิษรุจกับกุหลาบแก้ว กุหลาบแก้วบอกว่าเขาอยู่คนเดียว พ่อกับแม่ไปทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศอินเดีย
‘ไม่เห็นต้องเป็นห่วงเลย ได้ยินที่เขาว่าแกไหมว่าเป็นเด็กเปรต’
จังหวะที่กำลังจะก้าวขาไปข้างหน้า ก็มีเสียงเตือนข้อความใหม่เข้า ทอรุ้งจึงรีบเปิดดู
(เธอมันก็ไม่ต่างกับพี่ชายของเธอนั่นแหละ เชื้อสายย่อมไม่ทิ้งพันธุ์ คนอยากแย่งของของคนอื่น มันก็ทำวิธีการชั่ว ๆ เพื่อจะได้มา พี่ชายของเธอชั่วร้ายที่สุด)
"เฮ้ย! แรงไปไหมเนี่ย หน็อย แบบนี้มันต้องไปลุยให้ถึงที่ ต้องเจอกับทอรุ้งจะได้ตาสว่าง มองไม่ออกหรือไงว่าพี่นิ้งรักพี่ต๊ะ ไม่งั้นพี่นิ้งจะยอมแต่งงานด้วยทำไมวะ ถ้าเป็นเรา ไม่รักก็ไม่มีทางแต่งหรอก ถึงแม้จะท้องหรือมีลูกด้วยก็ตามเหอะ หื้อ..."
เธอมันเขี้ยววิษรุจ นึกเห็นใบหน้าคมคายที่นั่งตรงข้ามพูดจาพาทีตอนที่พากันไปกินข้าวเมื่อเจอกันครั้งแรก ในความรู้สึกของทอรุ้งเหมือนเธอไปออกเดตแรกอย่างไรอย่างนั้น เก็บเอาพี่รุจไปนอนฝันคนเดียวเป็นประจำ
เธอเดินลงมาจากสถานีรถไฟ ตรงไปโบกรถแท็กซี่ ก่อนจะให้ที่อยู่กับคนขับเพื่อมุ่งไปยังบ้านของวิษรุจ
สิ่งแรกที่วิษรุจตื่นมาจากความเมามาย คือการกระดกน้ำเมาสีอำพันเข้าไปถอนพิษฤทธิ์สุรา เขาเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น เรื่องที่กุหลาบแก้วยอมแต่งงานกับกัมปนาทยังอยู่ในใจของเขา เฝ้าแต่ถามตัวเองว่า เขาไม่ดีตรงไหน เธอถึงไม่รัก
เขาหยิบมือถือขึ้นมา อยากจะกดโทร. ไปหา ไปคุยกับกุหลาบแก้วแต่ก็ไม่กล้า เขาจึงไล่เปิดอะไรต่างในมือถือดู แล้วก็สะดุดกับข้อความที่ทอรุ้งส่งมาเป็นสิบ ๆ ข้อความ
"ชิ... ยายเด็กบ้า ตื๊อจริง ๆ บังอาจส่งข้อความมาซะยาวยืด ว่างมากหรือไง"
เขารีบพิมพ์ข้อความส่งให้เธอ จะทำให้ทอรุ้งรู้ไปเลยว่าเขาตั้งตนเป็นศัตรูกับกัมปนาท และรวมถึงแม่สาวน้อยคนนี้ด้วย
(เธอมันก็ไม่ต่างกับพี่ชายของเธอนั่นแหละ เชื้อสายย่อมไม่ทิ้งพันธุ์ คนอยากแย่งของของคนอื่น มันก็ทำวิธีการชั่ว ๆ เพื่อจะได้มา พี่ชายของเธอชั่วร้ายที่สุด)
เขายิ้มอย่างสะใจ ก่อนจะนั่งลงไปบนเก้าอี้ที่ตรงหน้ามีทั้งกระติกน้ำแข็งและขวดวิสกี้ขวดใหม่ที่เพิ่งเปิด