“ถึงบ้านแล้วไม่ทราบคุณพ่อกลับมาหรือยังนะคะ ตอนที่โทรไปหาเมื่อครู่ท่านยังอยู่บริษัทอยู่เลย”
“เดี๋ยวเข้าไปก็คงรู้ล่ะครับ หวังว่าท่านคงชอบของขวัญที่ผมเอามาฝากนะ”
“ต้องชอบแน่ๆ ค่ะ ก็คุณตั้งใจนี่คะ” อรุโณรีย์ยิ้มให้กับชายหนุ่มซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของเธอไปแล้ว ก่อนที่รถคันหรูจะเลี้ยวเข้าประตูรั้วและจอดนิ่งตรงหน้าคฤหาสน์ แล้วสองหนุ่มสาวก็ก้าวลงจากรถเดินเข้าบ้าน
“คุณรอฉันที่ห้องรับแขกนี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาน้ำผลไม้กับของว่างมาให้” หญิงสาวยิ้มและกล่าวกับทอเลเมียส เมื่อพาเขาเข้ามาถึงห้องโถงที่ใช้รองรับแขกเหรื่อ เธอวางกล่องของฝากลงบนโต๊ะไม่ได้ทันสังเกตเลยว่าสีหน้าท่าทางของคนที่พามาด้วยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนที่อรุโณรีย์จะเดินจากไป จากนั้นก็รีบหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวราคาแพง มองดูของตกแต่งรอบๆ ด้วยตาเปล่าก็รู้ถึงรสนิยมในของเจ้าของบ้านแล้วว่าหรูหรามากแค่ไหน
และทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปหมดเลย ไม่เหลือเค้าไว้ให้รำลึกถึงแม้แต่น้อย ขนาดกรอบรูปครอบครัวขนาดใหญ่ที่เคยแขวนอยู่ตรงผนังนั้น ก็หายไปด้วย แน่นอน...จิ้งจอกเฒ่าจะเก็บไว้ทำไมล่ะอย่าว่าแต่รูปเลยกระทั่งคนที่มีเลือดเนื้อลมหายใจเหมือนกัน ยังถูกกำจัดทิ้งอย่างเลือดเย็น
“มาแล้วค่ะ...แตงโมหวานๆ กับเค้กค่ะ” เสียงใสแจ๋วมาพร้อมกับร่างงามระหง เธอถือถาดที่มีของว่างและน้ำผลไม้แก้วใหญ่สองแก้วมาด้วย ทอเลเมียสรีบปรับสายตาและสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่อยากให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล จนอาจทำให้งานเกิดความผิดพลาดได้ อย่างไรเสีย ตอนนี้ต้องทำตัวให้แนบเนียนเป็นที่สุด
“คุณวงศ์ศาสตร์ยังไม่กลับเหรอครับ”
“กำลังเดินทางมาค่ะคงใกล้จะถึงแล้วล่ะ คุณรออีกแป๊บนะคะ” “ไม่เป็นไรผมไม่ได้รีบ” เขาบอกและฝืนยิ้มให้ในขณะที่อรุโณรีย์ก็วางถาดไว้บนโต๊ะก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอีกตัวที่อยู่ติดกับเขา เธอหยิบคัพเค้กขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วส่งเข้าปากรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมทั้งพยักหน้าชวนเขาด้วย
“หิวนี่เองถึงได้รีบกลับบ้าน เมื่อกี้ผมถามแล้วทำไมไม่บอกล่ะ”
“เปล่านะคะ เมื่อกี้มันไม่หิวแต่ตอนนี้เริ่มหิวขึ้นมาหน่อยๆ เอง” อรุโณรีย์กลืนของหวานในปากโดยไวและหันมาตอบเขา เธอเม้มและใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตามความเคยชินโดยไม่รู้หรอกว่ามันกำลังกระตุ้นสารบางอย่างในตัวคนมองให้ปะทุอย่างน่าประหลาด
“เลอะ...”
“หืม...คะ...”
“เลอะปาก...ตรงนี้” ชายหนุ่มบอกพลางใช้นิ้วชี้หน้าตัวเองบอกจุดให้กับเธอ อรุโณรีย์ใช้มือแตะซับเป็นการเช็ดเบาๆ เพราะไม่คิดว่ามันจะเลอะเทอะอะไรมากมาย
“ยังติดอยู่นะ...ให้ผมช่วยดีกว่าขยับมาสิ” ทอเลเมียสดึงทิชชู่จากกล่องมาไว้ในมือและเป็นฝ่ายขยับไปนั่งชิดริมโซฟาเสียเอง หญิงสาวมองเขาเหลอหลาแต่ก็ยื่นหน้าให้เขาช่วยแต่โดยดี
“ตรงนี้ต่างหาก...คุณเนี่ยเหมือนเด็กเลย...” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขำๆ พร้อมรอยยิ้มบาดใจเช่นเคย ทิชชู่ในมือค่อยๆ เช็ดบริเวณแก้มซ้ายที่เปรอะครีมเค้กอย่างเบามือ และเพราะระยะใบหน้าของเขาที่โน้มเข้ามาใกล้ทำให้อรุโณรีย์รีบหลับตาหนีความกระชั้นชิดทันทีทอเลเมียสมองใบหน้าหวานที่แก้มแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดแห่งวัยอย่างลืมตัว มือที่คอยเช็ดรอยเปื้อนชะลออ้อยอิ่งราวกับไม่อยากละห่าง ลมหายใจอุ่นแฝงเร้นไปด้วยกลิ่นสาวโชยเข้าจมูกให้เขาสูดดม ชายหนุ่มไม่อาจเบือนสายตาไปทางไหนได้ เหมือนเขากำลังถูกมนต์บางอย่างสะกดให้หลงลืมตัวไปชั่วขณะ
“เสร็จหรือยัง...”
“...” ไม่มีคำตอบ และน้ำเสียงอีกครึ่งหนึ่งของเธอก็หายไปพร้อมๆ กับริมฝีปากเขาที่ทาบทับบนกลีบปากสีชมพูเข้มของเธอ หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจพยายามดึงตัวหนี ก็พบว่าไม่สามารถขยับห่างได้เนื่องจากศีรษะถูกมือใหญ่หน้าของเขาจับกดเอาไว้ และอีกความผิดพลาดจากความไม่ตั้งตัวก็คือ เธอเผลอเปิดปากให้เขาใช้ลิ้นอุ่นๆ รุกล้ำเข้าไปอย่างง่ายดาย
“...” เสียงทุ้มครางฮือในลำคออย่างสมใจ ก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้กายสาวเข้าไปอีก ถ้าหากไม่มีพนักโซฟากั้นระหว่างกลางมีหวังเขาคงตวัดร่างของอรุโณรีย์ขึ้นมานั่งบนตักไปแล้วล่ะ
ทอเลเมียสไม่ปล่อยเวลาให้ไร้ประโยชน์ เขาตักตวงดูดดื่มความหวานในโพรงปากสาวเต็มที่ ลิ้นร้ายตวัดวนดึงเอาลิ้นเล็กให้ตอบสนองพัวพันซึ่งเธอที่ยังตื่นตระหนกยังนั่งตัวสั่นให้เขาโอ้โลมด้วยหัวใจที่แทบหยุดเต้น
อรุโณรีย์รู้สึกได้ถึงความร้อนวูบวาบในช่องอก ที่เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วตัว ลิ้นนุ่มราวกำมะหยี่ชั้นดีของเขาตวัดรัวอยู่ภายในโพรงปาก ในขณะที่ริมฝีปากหนาของเขาก็ยังดูดเม้มริมฝีปากเธอจนเปียกชื้นเย็นฉ่ำ เธอแทบจะหลอมละลายให้กับความหอมหวานที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต อารมณ์แปลกๆ นำพาความโหวงเหวงเสียวแปลบในช่องท้อง ราวกับโหยหาอะไรบางอย่างจากเขาที่กำลังสอนประสบการณ์ใหม่ให้กับเธอ
“คุณหนูคะคุณหนู...”
สองร่างผละออกจากกันทันทีที่เสียงของหญิงวัยกลางคนดังมาแต่ไกล และคิดว่าอีกไม่กี่วินาทีเจ้าของเสียงที่ขัดจังหวะนั้น คงปรากฏตัวให้เห็น
ป้าจวงนั้นเอง....