Prologue4

1443 Words
“สิทธิ์ของความเป็นเพื่อนที่ห่วงพะ...” “สัส! ไม่ต้องมาห่วงกู ห่วงตัวมึงเองเถอะ เรื่องของกูไม่ต้องมาเสือก ไปจัดการกับความรู้สึกเหี้ย ๆ ของมึงก่อนไหม เลิกยุ่งเลิกวุ่นวายกับกูสักที ออกไปจากชีวิตกูได้ยิ่งดี” ผมตะโกนลั่น และมันกลายเป็นจุดสนใจได้ดีเลยล่ะ เพราะมันคือร้านเหล้านั่งชิว ไม่ใช่ผับบาร์ที่เปิดเพลงเสียงอึกทึก “ที่พูดมาควายอย่างมึงใช้สมองกลั่นกรองมาแล้วใช่ไหม” ไอ้แจงมองผมแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ “กับมึงกูไม่ต้องใช้สมองเหี้ยอะไรทั้งนั้น แล้วจากนี้มึงกับกูอย่ามารู้จักกันอีก กูพยายามมองข้ามไอ้ความรู้สึกเหี้ย ๆ ของมึงมาตลอด กูพยายามคิดว่ามึงเป็นเพื่อน พยายามคิดว่าเราคือเพื่อน แต่ตอนนี้ไอ้ความรู้สึกเหี้ย ๆ ของมึงมันล้ำเส้นความรู้สึกกู เลิกวุ่นวายกับกูสักที กูเกลียดที่มึงรู้สึกแบบนั้นกับกู” เพี้ยะ! ไอ้แจงมันฟาดฝ่ามือลงที่หน้าผม “เออ กูก็เกลียดตัวเองเหมือนกันที่รักมึงแบบนี้ กูก็เกลียดไอ้ความรู้สึกเหี้ย ๆ นี่เหมือนกัน กูก็รำคาญมึงเหมือนกันที่มึงเป็นควายอยู่แบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่มีวันรักมึง มึงก็ยังโง่ให้มันหลอก!” เพี้ยะ! แต่นี่เป็นผมที่ฟาดฝ่ามือหนาลงที่แก้มใส ๆ ของไอ้แจง ผมฟาดลงเต็มแรงมือเพราะความโมโหที่มีเต็มเปี่ยม “ก็เหมือนที่กูไม่มีทางรักมึงนั่นแหละ ยังไงกูก็ไม่มีทางรักมึงแบบที่มึงรู้สึกกับกู มึงด่ากูโง่ ด่ากูควาย มึงก็ควายเหมือนกันนั่นแหละ” แล้วผมก็สวนกลับมันทันที “ไอ้เหี้ยยิม แรงไปไหมนี่เพื่อนมึงนะ” เพื่อนของผมรีบวิ่งออกมาจากร้าน และดึงไอ้แจงไปโอบไว้ “เพื่อนกันมันไม่รู้สึกเหี้ย ๆ แบบนั้นใส่กันหรอก กูไม่มีเพื่อนอย่างมัน พวกมึงอยากคบก็คบไป” ผมมองไปที่ไอ้แจง แล้วจากนั้นก็คว้ามือของเอมาจับ เพื่อพาเอกลับบ้าน “เออ กูก็ควายนั่นแหละ ควายฉิบหายเลยล่ะ ที่บ้ารักควายแบบมึงอ่ะ” เสียงของแจงมันตะโกนหลังผมมา แต่ผมไม่คิดหันกลับไปมองมันอีก… “พอใจแล้วใช่ไหม” ผมถามเอ เมื่อเราสองคนขึ้นมานั่งอยู่ในรถด้วยกัน “...” เอเลือกที่จะนั่งก้มหน้าแล้วเงียบ “ถาม” “...” “เอ” “อืม ส่วนงานแต่งก็ยกเลิกนะ” ในที่สุดเธอก็พูดออกมา และพูดประโยคที่ทำผมฝันสลาย “ขอโทษสำหรับทุกอย่าง แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ สำหรับตลอดเวลาที่ผ่านมา” “หุบปากแป๊ปดิ๊” ผมพูดขึ้นแล้วจากนั้นก็ฟุบหน้าลงที่พวงมาลัยรถ มันเป็นความรู้สึกที่เคว้งคว้าง เหมือนผมกำลังอยู่บนยอดตึก แล้วตกลงมากระทบพื้น “ที่ทำทุกอย่างแค่ต้องการแก้แค้นไอ้แจงใช่ไหม” ผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมงผมก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่พอจะรวบรวมสติย้อนความคิด เรียบเรียงสิ่งที่สองคนนั้นพูด “อืม” “ที่ผ่านมาไม่เคยรักกันเลยใช่ไหม” แล้วผมก็กลั้นใจถามคำถามที่ค้างคาใจ ไอ้คำที่เคยบอกว่ารักกัน ผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่ามันมีความจริงสักแค่ไหน “อืม” “มีหัวใจบ้างไหมวะ ทำแบบนี้ได้ไง เลือดเย็นไปไหม แล้วเด็กในท้อง...” “เด็กในท้องเป็นลูกของแฟนเรา คือเรื่องแต่งงานเราคิดไว้อยู่แล้วว่าแจงมันต้องระเบิด เราไม่ได้คิดจะแต่งงานกับยิมอยู่แล้ว คือเราไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำว่าขอโทษ” “เรียกคนนั้นว่าแฟน แล้วกับยิมคืออะไรวะ” ผมจุกในอกสุด ๆ นี่ผมตกเข้าไปอยู่ในเกมแค้นของผู้หญิงสองคนนี้มานานแล้วใช่ไหม “เพราะยิมเป็นผู้ชายคนเดียวที่แจงมันหวงมากที่สุด เพราะยิมเป็นคนเดียวที่แจงมันไม่อยากให้เสียใจ การที่ยิมมาจีบเอจึงเข้าทางเอทุกอย่าง” เอสารภาพออกมาโต้ง ๆ “ไม่เลิกได้ไหม แต่งงานกันนะ แต่งงานเถอะ ยิมสัญญาว่าจะดูแลเอให้ดี จะลืมเรื่องทุกอย่างที่เอเคยทำ ยิมจะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้เลย เราแต่งงานกันนะ” แล้วผมก็เลือกที่จะยื้อ ผมหันหน้าไปพูดกับเธอพร้อมน้ำตาที่ไหลรินจากนัยน์ตา “พอเถอะยิม มันเป็นไปไม่ได้ เอไม่ได้รักยิม ยิมเป็นคนดีนะ ยิมต้องเจอคนที่ดีกว่าเอแน่นอน ปล่อยเอไปเถอะ ขอโทษนะที่ดึงยิมเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราขอโทษจริง ๆ” “อย่าพูดแบบนี้ดิ อย่าพูดแบบนี้ อย่าทำเหมือนจะทิ้งยิมดิ” ผมยื่นมือไปกุมมือเธอ ผมยอมโง่ เพราะผมขาดเธอไม่ได้ ผมรักเธอไปแล้ว รักเธอจนหมดใจ “เราต้องไปแล้ว จากนี้เราคงไม่ได้เจอกันอีก โชคดีนะ” เธอดึงมือผมออกแล้วเปิดประตูรถลงไปทันที “เอ... อย่าไป อย่าไปยิมขอร้อง อย่าทำกับยิมแบบนี้” ผมรีบลงจากรถแล้วตามไปสวมกอดเธอไว้ “ขอโทษนะยิม แต่ถ้าจะโทษก็โทษแจงนะ เพราะแจงมันรักยิม ถ้าแจงมันไม่ทำให้พี่ชายเราตาย เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด” เธอดึงรั้งแขนผมออกแล้วเดินขึ้นรถที่มาจอดรับเธอ ผมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นถนนของลานจอดรถ ผมหมดแรงที่จะลุกขึ้นยืน เธอทิ้งผมไปแล้ว ทิ้งผมไปทั้งที่ผมพยายามหลับหูหลับตาเรื่องเธอมีคนอื่นมาโดยตลอด ทั้งที่ผมพยายามหลบซ่อนความจริง เพราะอยากรักษาหัวใจตัวเองไว้ “กูขอโทษยิม กูขอโทษ” ไอ้แจงมันนั่งลงตรงหน้าผมแล้วกอดผมไว้ “กูโคตรเกลียดมึงเลยแจง กูโคตรเกลียดมึงเลย มึงเห็นไหม มึงเห็นไหมว่าเอมันไปแล้ว เพราะมึง เพราะมึงคนเดียวกูถึงเจ็บแบบนี้” “ขอโทษยิม กูขอโทษ” “ทำไม ทำไมวะ ถ้ามึงรู้ว่าเขาจะหลอกกู ทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่แรก ทำไมมึงปล่อยให้กูรักเขา ทำไมมึงปล่อยให้กูรักผู้หญิงคนนั้นจนหมดหัวใจแบบนี้” “กูไม่อยากให้มึงเสียใจ กูขอโทษนะยิม กูขอโทษ” ไอ้แจงมันร้องสะอื้นแล้วกอดผมไว้แนบแน่น “แต่ตอนนี้กูโคตรเสียใจเลย กูโคตรเสียใจเลยมึงได้ยินไหมแจง ต่อไปนี้กูกับมึงอย่าเจอกันอีกดีที่สุด ไม่ต้องรู้จักกันเลยยิ่งดี” ผมผลักไอ้แจงออกแล้วลุกขึ้นเดินกลับมาที่รถก่อนจะขับรถออกมาทันที ไอ้แจงมันเคยคบกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่มันคบแล้วไม่ใช่มันก็เลยเลิก ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่สำหรับไอ้แจง แต่ไอ้แจงมันดันใช่สำหรับผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นง้อไอ้แจงอยู่นาน แต่ไอ้แจงมันไม่กลับไป และด้วยความคิดตื้น ๆ คิดว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วไอ้แจงมันจะกลับไปหา ผู้ชายคนนั้นเลยเลือกขู่ว่าจะโดดตึกถ้าไอ้แจงไม่กลับไปหา แต่เพราะไอ้แจงมันเป็นไอ้แจงที่ไม่แคร์ใคร มันก็เลยไม่ใส่ใจ ผู้ชายคนนั้นจึงโดดตึกลงมาตายอย่างที่ขู่จริง ๆ และเพราะผมไม่รู้ว่าเอคือน้องสาวของผู้ชายคนนั้น ผมก็เลยเผลอตกไปอยู่ในการแก้แค้นของเอ ที่เป็นน้องสาวของผู้ชายคนนั้น ผมกลายเป็นคนที่โง่ที่สุดในเกมครั้งนี้ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป... การที่ผมไม่มีเอเข้ามาอยู่ในชีวิต มันแม่งโคตรหดหู่ ผมสิ้นหวัง พ่อแม่ก็เศร้าตาม และถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปผมคงตายแน่ ๆ และคงไม่ใช่แค่ผมที่จะตาย พ่อแม่ผมก็คงตรอมใจตาม เพราะฉะนั้นผมจึงตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อลืมเรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับผม ผมจะพยายามเริ่มต้นใหม่ เพื่อครอบครัวของผม เพื่ออนาคตที่ผมยังมองไม่เห็นแสงสว่าง แต่ผมมั่นใจว่าวันข้างหน้าต้องดีกว่าวันนี้ที่เป็นอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD