เสียงปืนดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับร่างของผมล้มลงไปที่พื้น เลือดมันค่อยๆไหลออกมาจากหัวผมทีละนิดและเพิ่มเป็นมากขึ้น ป้าที่ยิงผมรีบวิ่งหนีไปทันที นี่มันอะไรกัน ทำไมผมถึงไม่เฉลียวใจเลยซักนิดว่าป้าไม่ใช่แค่คนขายของ ตอนนี้สติสุดท้ายที่ผมเห็นผมเอามือไปจับแผลที่โดนยิงที่มีเลือดทะลักออกมาเยอะแยะเต็มไปหมด ผมเริ่มหายใจติดขัด พร้อมกับเลือดที่เริ่มไหลออกมาจากปากของผม ซึ่งแน่นอนว่ามันเจาะเข้าไปที่หัวของผม ผู้คนต่างพากันมารุมล้อมผมจากนั้นผมก็หลับไปเลย เอาจริงๆ ผมอยากให้น้องอัญรับโบว์ที่ผมซื้อกับมือเองนะ แต่มันคงไม่มีโอกาสนั้นแล้วหละครับ
ผมตื่นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ทุกคนต่างเข้ามารุมผมเพราะเป็นห่วง ซึ่งต่างจากน้องอัญที่ยืนมองผมอย่างเซ็งๆก็เพราะรายนั้นเเขาเกลียดผมเข้าไส้อย่างที่ผมเคยบอกไปไงครับ
"แต่แกก็ไม่ได้เกลียดเธอใช่มั้ยละ"
มีเสียงผุดขึ้นมาจากในหัวผมแบบกระทันหัน ผมตกใจนะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะบางที มันอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากกระสุนก็ได้
“เป็นยังไงบ้างลูก เขียน ลูกเจ็บมากมั้ย”
แม่ดาถลาเข้ามาดูผม แม่มีรอยช้ำที่ตาจนเห็นได้ชัด แม่คงร้องไห้มากๆแน่ๆที่ผมโดนแบบนี้
“เจ็บครับ แต่ก็ทนได้”
“แม่ขอโทษนะลูกที่แม่ดูแลเขียนไม่ดี แม่ขอโทษ”แม่เอาแต่พร่ำโทษตัวเองไม่หยุด ผมจึงค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือแม่เอาไว้ เพราะผมไม่อยากเห็นแม้เอาแต่ร้องโทษตัวเองแบบนี้ทั้งๆที่มันเป็นความผิดของเองทั้งนั้นที่หนีออกไปคนเดียว
“อย่าโทษตัวเองนะครับแม่ ผมผิดเอง ผิดเองทั้งหมดเลย”
“ไม่ใช่นะเขียน อย่าคิดแบบนั้น”
แม่ดาตบที่มือผมเบาๆ
“ใช่เขียน อย่าคิดแบบนั้น ชีวิตของเขียนในเมื่อก้าวเข้ามาในตระกูลขจรไพศาล ไม่ว่าที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้นแหละลูก”
พ่อกรพูดขึ้น สีหน้าพ่อกรก้ดูไม่ดีพอๆกับแม่ดานั่นแหละครับ คงจะไม่ได้นอนมาหลายวันเพราะเรื่องของผม
“ขอบคุณนะครับพ่อกร”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก ว่าแต่ตอนนี้ อาการเป็นไง บอกพ่อกับแม่ได้มั้ย”
“ ยังปวดหัวอยู่เลยครับพ่อ งั้นผมขอพักผ่อนนะครับ มันปวดมากจริงๆ”
“ได้ซิ พักผ่อนเถอะ”
ในขณะที่พ่อกรกับแม่ดากำลังจะออกไป ผมก็นึกถึงโบว์ที่ผมซื้อให้น้องอัญขึ้นมา
“เดี๋ยวครับพ่อกร”
พ่อกรหยุดทันทีพร้อมกับหันมามองผมอย่างสงสัย
“ว่าไงลูก”
“คือว่า... คือพ่อเห็นถุงที่ผมถือไว้ตอนโดนยิงมั้ยครับ”
พ่อขมวดคิ้วทันทีพร้อมกับพยายามนึอะไรบางอย่าง
“ถงสีขาวๆใช่มั้ยลูก”
“ครับ ใช่ครับ”
“อืม แม่เขาเก็บไปแล้วหละ อยู่ที่บ้าน เขียนจะเอามั้ยเดี๋ยวพ่อจะให้คนเอามาให้”
แค่รู้ว่ามันยังอยู่ผมก็ดีใจแล้วหละครับ
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมค่อยกลับไปดูที่บ้านก็ได้”
“โอเค งั้นพักเถอะลูก”
“ฝันดีนะลูกเขียนฟ้า”
แม่ดายิ้มให้ผม ถึงแม้ใบหน้าจะอิดโรนแต่ก็ช่างเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ใจผมมีความาสุขที่ได้ตื่นมาเห็นรอยยิ้มนี้
“ครับแม่ฝันดีครับ”
พ่อแม่ดากับพ่อกรออกไป ผมจึงหลับตาลง แต่เสียงนั้นก็ไม่ได้หายไปไหนเลยนะ และตลอดเวลาที่ผมพูดกับพ่อกรและแม่ดา เสียงนั้นก็ดังแทรกขึ้นมาตลอดเวลาเลยด้วย
" รีบนอนไปเถอะ กลางคืนกูจะได้ออกไปบ้าง น่ารำคาญชิบหาย"
ผมไม่รู้ว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงอะไร แต่มันอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการผ่าตัดก็ได้ ผมเชื่อแบบนั้น และผมก็มารู้สึกตัวอีกทีคือตอนกลางคืน แต่ผมไม่ได้อยู่ในร่างของตัวเองแล้วครับ ผมเป็นเพียงแค่ความรู้สึก ได้ยิน แต่ทำอะไรไม่ได้ แต่ร่างกายผมมันกลับขยับเองโดยที่ผมไม่ได้เป็นคนสั่งเลย
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” ผมตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้มากนะ
"จะตกใจทำไมวะเขียน ตอนกลางวันแกก็ออกมาแล้ว ส่วนตอนกลางคืนก็ให้ฉันออกมาบ้างซิ อย่าเห็นแก่ตัวออกมาคนเดียวตลอดดิ”
เสียงนั้นอีกแล้ว เสียงนั้นดังมาจากที่ไหนกันแน่
“แกเป็นใครกันแน่”
"ถามแบบนี้อีกแล้ว ฉันก็เป็นแกไง ฉันชื่อริว ที่จริงฉันเป็นแกมาตั้งแต่เกิดนั่นแหละ เพียงแต่ แกได้ใช้ชีวิตส่วนฉันก็แค่แฝงในตัวแกไม่มีวันได้ออกมาเลยก็เท่านั้น แต่ตอนนี้ฉันได้ออกมาใช้ชีวิตบ้างละ และแน่นอน ชีวิตแกมันจะดีขึ้นเยอะหลังจากนี้ แกหลับไปได้ละเขียนฟ้า”
สิ้นสุดคำพูดของริวผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผมกันแน่ มันเป็นไปได้ยังไงว่ามีผมถึง 2 คน มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง