คืนนั้นหลังจากที่แพรววามาส่งนับดาวที่หน้าบ้านเด็กสาวก็เดินเข้าบ้านไปอย่างมีความสุขและก็พบว่าแม่ปรานียังคงนั่งรอเธอกลับมาจากที่ทำงานเหมือนอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา เด็กสาวเดินเข้าไปกอดมารดาด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ
“ไม่ยอมนอนอีกแล้วนะคะ”
น้ำเสียงสดใสร่าเริงของนับดาวแซวปรานีอย่างต้องการหยอกล้อผู้เป็นมารดา ปรานีกอดตอบลูกสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เพราะกว่าลูกสาวจะเลิกงานก็ปาไปตีหนึ่งเศษ เรื่องการทำงานที่สถานบันเทิงของนับดาวเธอคัดค้านตั้งแต่ครั้งแรกที่เด็กสาวไปสมัครงาน แต่ด้วยเหตุผลที่ทั้งบ้านไม่มีเงินพอที่จะส่งเสียนับดาวให้เรียนต่อสูง ๆ ในระดับมหาวิทยาลัย
และเธอเองก็ป่วยกระเสาะกระแสะทำให้ปรานีต้องยอมที่จะให้นับดาวไปทำงานในสถานที่อโคจรแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ห่วงแสนห่วง แต่แพรววาก็ได้ให้สัญญาว่าจะดูแลลูกสาวของเธอให้ดีที่สุดมันก็ทำให้เธอวางใจได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งสองเดือนที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์อันตรายที่ทำให้เธอต้องเป็นห่วงเลยสักครั้งซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
“อยากเห็นหนูกลับเข้าบ้านมาก่อนถึงจะหลับลง”
แววตาของนับดาวหม่นแสงลงเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นเมื่อได้ยินประโยคที่ชวนเศร้าใจก่อนที่ดวงตากลมโตของเด็กสาวจะกลับมาสดใสร่าเริงเช่นเดิม มือที่กอดมารดาเอาไว้กระชับกอดแน่นขึ้นมากกว่าเดิมความรู้สึกอบอุ่นพลันแล่นไปทั่วสรรพางค์กาย หัวใจที่หม่นเศร้าชั่วครู่คล้ายถูกเติมเต็มด้วยความสุขที่ไม่สามารถประเมินค่าออกมาได้
“ไม่ต้องรอทุกวันก็ได้ค่ะ วันไหนง่วงแม่ก็นอนเลยนับดาวสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด”
นับดาวบอกมารดาให้คลายใจก่อนที่ทั้งคู่จะเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนบ้านแล้วแยกย้ายกันเข้าห้องนอน หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วนับดาวก็ล้มตัวลงนอนด้วยความสุข ใบหน้าของเก้าทัพยามที่กำลังเดินออกไปจากผับลอยเด่นขึ้นมาในมโนสำนึกก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะประดับไปด้วยรอยยิ้ม มือบางคว้าตุ๊กตามานอนกอดและค่อย ๆ หลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราที่ฝันดีตลอดทั้งคืน
คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก
“วันนี้ทำไมน้องเก้าตื่นแต่เช้าเชียว” ที่รักที่เดินเข้ามาในครัวมองลูกชายที่กำลังนั่งปั้นแป้งด้วยความตั้งใจ สองมือเต็มไปด้วยแป้งทำขนมเรียกรอยยิ้มจากผู้เป็นมารดาได้เป็นอย่างดี ตอนเด็ก ๆ เก้าทัพค่อนข้างใจร้อนด้วยเหตุนี้พี่หมอกฤษฎิ์จึงส่งเด็กชายตัวน้อยไปเรียนทำขนมกับคุณยาย มันเลยทำให้เก้าทัพกลายเป็นคนที่มีความอดทน ละเมียดละไม และใจเย็นขึ้นมาก
เย็นจนถึงขั้นที่ว่าเย็นชากับผู้หญิงแทบทุกคนยกเว้นกับเธอผู้เป็นมารดา แก้มใสพี่สาว และลูกพี่ลูกน้องอย่างน้องเกรซ รวมไปถึงกอหญ้าหลานสาวและน้องเพลง เพียงฝันลูกสาวคนเล็กของคุณหมอเพลิงกัลป์ที่ค่อนข้างสนิทกับบ้านของเธอ
“ตื่นมาทำขนมบัวลอยไข่หวานให้คุณแม่ที่รักก่อนจะกลับคอนโดครับ”
รอยยิ้มหวานถูกส่งมาให้ผู้เป็นมารดาอย่างออดอ้อนก่อนที่ที่รักจะเดินไปนั่งลงข้าง ๆ ลูกชายแล้วช่วยลูกชายปั้นขนมบัวลอยกันสองคนแม่ลูกอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าภายนอกเก้าทัพจะเย็นชาไร้ความรู้สึกกับผู้หญิงทุกคน แต่สำหรับมารดาที่เขารักสุดหัวใจแล้วมุมอ่อนโยนของเก้าทัพจึงมีให้เห็นตลอดเวลา
“อืม ฝีมือไม่ตกเลยนะเรา” คำชมแรกหลังจากที่กฤษฎิ์ตักบัวลอยขึ้นชิมหลังอาหารมื้อเช้าทำเอาเก้าทัพถึงกับอมยิ้มออกมาน้อย ๆ น้อยครั้งที่เก้าทัพจะแสดงฝีมือการทำอาหารหรือทำของหวานให้คนที่บ้านทาน แต่ถ้าได้เข้าครัวแล้วคำชมคือสิ่งที่เก้าทัพมักจะได้รับตามเสมอ
“แน่นอนสิครับ ลูกชายหมอกฤษฎิ์เสียอย่าง”
คำพูดที่เหมือนจะโอ้อวดตนเองอยู่ในทีทำเอากฤษฎิ์ถึงกับหลุดยิ้มออกมาแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนที่จะตักของหวานกินคำต่อไปไม่หยุดอย่างถูกปาก สายตาคมกริบจ้องมองลูกชายที่กำลังพูดคุยกับภรรยาตัวน้อยอย่างอ่อนโยน ปีนี้เก้าทัพอายุย่างยี่สิบปีแล้วลูกชายของเขาโตขึ้นมากและความเฟียร์สก็เพิ่มมากขึ้นไม่มีแผ่ว
เมื่อเช้าเขาได้รับรายงานจากเรียวคนสนิทว่าเมื่อคืนลูกชายตัวน้อยของเขาสร้างวีรกรรมเอาไว้ไม่น้อยทั้งฟาดคนหัวแตกเลือดอาบ ทั้งชักปืนขู่คนจนพวกนั้นวิ่งหนีแทบไม่ทัน อืม นี่สินะลูกพ่อที่แท้จริง นิสัยห้าวตีนเหมือนเขาไม่มีผิด หึ นายมันแน่มากนะกันต์ดนัยลูกพ่อ
“เรียนรู้แต่สิ่งดีไปจากพ่อขาก็พอ อะไรที่มันห้าว ๆ เฟียร์ส ๆ แม่ขอละอย่าเรียนรู้เลยนะลูกนะ สงสารแม่เถอะแม่แก่แล้ว”
คุณแม่ยังสาวบอกลูกชายตัวน้อยที่เธอยังคงมองว่าเป็นเด็กตลอดเวลาในสายตาของเธออย่างขอร้องอ้อนวอน ทำเอาเก้าทัพถึงกับก้มหน้าซ่อนยิ้มที่มารดาแอบเหน็บบิดา คนที่ถูกพาดพิงถึงกับบึนปากทำหน้างอนใส่ภรรยาตัวน้อยที่แอบเหน็บตนเข้าให้อย่างน่ารัก
“อะไรที่ได้ไปจากพ่อมีแต่ดี ๆ ทั้งนั้นลูกจ๋า เพราะพ่อคนนี้เป็นพ่อที่ดีและสามีที่ดีของแม่เราเสมอมาไม่เค้ยไม่เคยทำเรื่องที่ไม่ดีเลยสักนิด”
กฤษฎิ์ตีหน้าตายเยินยอตัวเองให้ลูกชายฟังก่อนที่จะยกน้ำขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดี แต่เมื่อประโยคถัดมาของที่รักดังขึ้นน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไปถึงกับพุ่งกระฉูดลงบนโต๊ะอาหารอย่างไม่ตั้งใจ เพราะประโยคของภรรยาจี้ใจดวงน้อย ๆ ของกฤษฎิ์เข้าเต็ม ๆ
“เรื่องผู้หญิงเพลา ๆ บ้างก็ดีนะลูกอย่าเผลอไปทำลูกสาวใครเขาท้องเข้าจนลืมรับผิดชอบล่ะ”
เก้าทัพหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อน้ำเปล่าพุ่งออกมาจากปากของบิดาจนสำลักไอหน้าดำหน้าแดงร้อนถึงพี่ชินที่ต้องรีบวิ่งมาช่วยลูบหลังเจ้านายด้วยความเป็นห่วง
เรื่องราวระหว่างบิดามารดาของเขาในอดีตใช่ว่าเขาจะไม่รู้ เพราะคุณลุงเรียวอิจิพ่อของพี่หมอวายุเคยแอบเล่าให้เขาฟังว่าพ่อขาเคยทำแม่ขาท้องกว่าจะกลับมาเจอกันอีกทีก็ตอนพี่แก้มใสอายุสี่ขวบแล้ว
“ลูกเรานิสัยดีขนาดนี้จะไปทำใครท้องได้จริงไหมลูกรัก”
กฤษฎิ์หันมาหาลูกชายที่พยักหน้ารับอย่างแข็งขันก่อนที่คำพูดของที่รักจะพูดขึ้นมาลอย ๆ อีกหนึ่งประโยคทำเอาคุณพ่อสุดมั่นถึงกับเงียบปากลงในทันที
“ก็ไม่แน่ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ แต่บอกไว้ก่อนนะ ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาจริง ๆ แม่จะปล่อยให้เลี้ยงลูกเองเสียให้เข็ด”
ที่รักยกนิ้วขึ้นชี้หน้าลูกชายอย่างคาดโทษก่อนที่เก้าทัพจะรีบขยับมากอดเอวเอาหน้าซุกที่อกอวบของมารดาอย่างแสนรัก กฤษฎิ์ที่เห็นแบบนั้นถึงกับตาเขียวปั๊ดมองลูกชายที่บังอาจเอาหน้าหล่อ ๆ มาซบนมเมียเขาอย่างออดอ้อน
“หยุดเลยนะเจ้าเสืออย่ามาเนียนอ้อนซบนมแม่ พ่อหวง”
กฤษฎิ์ขู่ลูกชายฟ่อ ๆ ราวกับจงอางหวงไข่ก่อนที่เก้าทัพจะยิ้มออกมาอย่างซุกซนแล้วอ้อนมารดาไม่หยุด ที่รักยกมือขึ้นมาลูบผมลูกชายด้วยความเอ็นดูก่อนที่จะก้มหน้าลงหอมหัวลูกชายด้วยความรักสุดหัวใจ
“กลับคอนโดไปแล้ววันไหนเหงาก็กลับมาที่บ้านนะลูกนะแม่ที่รักรอน้องเก้าเสมอ”
น้ำเสียงนุ่มละมุนที่แสนอบอุ่นบอกลูกชายคนเล็กก่อนที่เก้าทัพจะพยักหน้ารับคำมารดา สองแม่ลูกกอดกันอย่างแนบแน่นภาพนั้นทำเอากฤษฎิ์อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ในใจได้แต่คิดว่าสิ่งที่ภรรยาพูดขึ้นมามันคงไม่มีทางเป็นจริงหรอก เพราะเจ้าลูกชายของเขามันเย็นชากว่าเขาเสียอีกคงไม่มีทางไปทำผู้หญิงท้องได้หรอกเนอะ
กฤษฎิ์ไม่รู้เลยว่าความมั่นใจในความคิดของตัวเองต้องพังทลายลงในวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อลูกชายได้เจอกับใครบางคน