หนึ่งในพวกมันบุกเข้ามาประชิดตัวของคราเทลอย่างรวดเร็วปานสายลม น้ำหนักที่กดทับลงมาด้วยดาบส่งผลให้ร่างบางที่ใช้กาตาร์ทั้งสองอันกันเอาไว้ได้อย่างพอดิบพอดีถึงกับต้องเกร็งมือทั้งๆที่ตอนแรกเธอไม่คิดว่าร่างเงาอันผอมบางของพวกมันไม่ควรจะมีเรี่ยวแรงมากมายขนาดนี้
‘สงสัยว่าต้องให้พี่เนเธอร์ช่วยซะแล้วล่ะสิเนี่ย’ หญิงสาวคิดพลางกัดริมฝีปากตนเองเบาๆอย่างขัดใจ แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยปากเรียกพี่ชายของตนเองเพราะคิดว่าควรจะเรียกตอนที่เธอต้านพวกมันไม่ไหวจริงๆ
ดวงตาสีอเมทิสต์หลับลงช้าๆอย่างรวบรวมสมาธิ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะลืมขึ้นเช่นเดียวกับเจ้าตัวที่รวบรวมแรงของตนเองแล้วผลักร่างสีดำทมิฬให้เซไปทางด้านหลัง จากนั้นคราเทลก็อาศัยจังหวะนี้ ตรงเข้าไปใช้ดาบผ่าเข้าที่ลำตัวของมันจนขาดออกเป็นสองท่อน!
“อ๊าก!!”
เสียงร้องอันโหยหวนพร้อมกับร่างของปีศาจเงาที่ค่อยๆแหลกสลายกลายเป็นฝุ่นควันและจางหายไปกับอากาศทำให้ศัตรูที่เหลืออีกสามตัวถึงกับกระโจนเข้ามาหาเธอพร้อมๆกันโดยอาศัยจังหวะที่เธอไม่ทันได้หันไปมองเพราะมัวแต่มองดูกลุ่มควันสีดำที่ลอยอยู่
“ระวัง!”
เสียงเข้มของเนเธอร์ทำให้คราเทลหันกลับไปมองยังด้านหลังของตนเองอย่างรวดเร็ว แต่ความไวของพวกมันก็ทำให้รู้ว่าเธอคงจะไม่ทันการที่จะกระโดดหลบ เธอจึงเลือกที่จะยกแขนขึ้นมากันอย่างเตรียมรับชะตากรรมพร้อมกับหลับตาปี๋
แต่แล้ว...ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาด!
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
“โจเซฟ! พาคราเทลออกไปจากที่นี่ก่อน!” เสียงของเนเธอร์ที่ตะโกนอยู่ด้านหน้าของเธอทำให้คราเทลลืมตาขึ้นพร้อมกับกระพริบถี่ๆอย่างไม่อยากเชื่อภาพที่เธอเห็น
“พี่เนเธอร์!” เสียงใสถึงกับร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นเนเธอร์นั้นตัดสินใจเรียกดาบขึ้นมาสองด้ามจากปกติที่เป็นด้ามเดียว ก่อนจะใช้ดาบข้างขวารับคมดาบทั้งสองอันจากศัตรู ส่วนด้านซ้ายนั้นก็ทำหน้าที่รับคมดาบอีกอันหนึ่ง
และถ้าคาดประมาณความเร็วที่เขาเคลื่อนตัวมาบังเธอเอาไว้กับระยะเวลาที่พวกเงาเหล่านั้นพุ่งเข้ามาแล้ว ก็เรียกได้ว่าเธอรอดตายไปได้อย่างฉิวเฉียดเลยทีเดียว!
ใบหน้าคมสันของชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลแสดงถึงความเคร่งเครียดอย่างที่นานๆจะได้เห็น แต่ไม่เพียงแต่ความเครียดเท่านั้นที่ฉายชัดออกมาจากแววตาของเขา แต่มันกลับมีรังสีแห่งการเข่นฆ่าแผ่ออกมาจากร่างหนาซึ่งเป็นธรรมชาติของทายาทนักฆ่าที่พร้อมจะสังหารศัตรูทุกคนในการต่อสู้!
โจเซฟดึงชายแขนเสื้อเธอเป็นเชิงให้ทำตามที่เนเธอร์บอก นั่นก็คือการพาเธอออกไปจากบ้านหลังนี้เพื่อความปลอดภัย แต่คราเทลกลับยื้อร่างของตนเองเอาไว้ แววตาฉายชัดถึงความดื้อดึงของเจ้าตัวพร้อมกับที่เสียงใสนั้นเอ่ยออกมาจากริมฝีปากบางด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า
“ไม่! ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!” กล่าวจบ อักขระมนตราสีม่วงก็ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเธอเช่นเดียวกับดวงตาที่เปล่งประกายจ้า
พรึบ!
กระแสลมที่พัดแรงออกมาจากมนตราของเธอเป็นเหตุให้ผมสีน้ำตาลแดงนั้นปลิวสยายเช่นเดียวกันกับข้าวของทั้งหลายในห้องที่เริ่มไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ แม้กระทั่งเส้นผมและเสื้อผ้าของชายหนุ่มอีกสองคนยังถูกลมกรรโชกเสียจนมันปลิวสะบัดไปตามกระแสลมที่คราเทลเป็นผู้ก่อขึ้น
ดวงตากลมสวยปิดลงช้าๆเพื่อรวบรวมสมาธิ กาตาร์ทั้งสองอันหายไปจากมือของเธอในขณะที่เนเธอร์นั้นยังคงยื้อยุดไปมาอยู่กับเงารูปบุรุษอีกสามตนที่เหลือ
กระแสพลังมากมายไหลเวียนอยู่ในร่างของเธอพร้อมกับภาษาอะไรบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจนั้นดังขึ้นในห้วงคิดเสียจนหญิงสาวสามารถจำมันได้แม่นยำอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่คำเดียว!
‘มัทเทลียา กรีเฟิร์น!!!’
เสียงร่ายคาถาดังขึ้นภายในใจของเธอก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะลืมขึ้นพร้อมกับคลื่นพลังอะไรบางอย่างที่ส่งออกจากมือของเธอที่ผายไปยังเป้าหมาย!
กรึก!
เคร้ง!
ทันทีที่เวทมนตร์ของเธอถูกส่งออกไป ร่างสีดำสนิททั้งสามก็แข็งจนกลายเป็นหินราวกับถูกสาปด้วยพลังเวทย์อันรุนแรง ก่อนที่มือเรียวนั้นจะบีบเข้าหากันส่งผลให้แรงบีบอัดจากมือบางส่งตรงไปยังร่างที่แข็งเป็นหินของพวกมันแหลกสลายกลายเป็นผุยผงภายในชั่วพริบตาเดียว!
ควันสีดำสนิทที่กองอยู่บนพื้นต่างก็ปลิวว่อนอยู่เต็มบริเวณห้องครัว ก่อนที่มันจะจางหายไปราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
คราเทลค่อยๆลดระดับมือของตนเองลงอย่างเชื่องช้าเช่นเดียวกับการทรงตัวของเธอที่เริ่มไม่มั่นคงเหมือนอย่างเคย ในหัวของเธอรู้สึกหนักอึ้งเหมือนกับว่ามีใครเอาอะไรบางอย่างมาวางลงบนหัวจนเธอทรงตัวไม่ได้
“คราเทล!” เสียงทุ้มของเนเธอร์ที่ดังกว่าปกติ แสดงถึงความตกใจของเขาที่มีมากจนถึงขีดสุด และนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่หญิงสาวสามารถรับรู้ได้ก่อนที่ดวงตาของเธอจะปิดสนิท ใบหน้างามนั้นซีดเซียวเนื่องจากความอ่อนเพลีย เส้นผมสีน้ำตาลแดงกลับมาอยู่ในสภาพเดิมหลังจากที่อักขระมนตราที่เธอเรียกขึ้นนั้นจางหายไปแล้ว
ตุบ!
ร่างบางที่เกือบจะร่วงลงสู่พื้นถูกโจเซฟรองรับเอาไว้อย่างพอดิบพอดีในขณะที่เนเธอร์นั้นได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขาปลอดภัย
แต่แล้วอาการหวงน้องสาวก็กลับมาอีกครั้งจนชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีดำสนิทได้แต่ส่งยิ้มกวนๆให้ที่มุมปากพร้อมกับพูดว่า
“เดี๋ยวฉันจะพาน้องสาวนายไปพักที่ห้องนั่งเล่นก่อนก็แล้วกัน ส่วนนายก็ทำความสะอาดห้องครัวไปก่อนแล้วฉันจะกลับมาช่วย”
กล่าวจบ โจเซฟก็อุ้มร่างของคราเทลออกจากห้องครัวไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เนเธอร์มองตามอย่างขัดใจโดยที่ไม่สามารถห้ามอะไรได้แม้แต่น้อยเนื่องจากเจ้าเพื่อนตัวแสบของเขาเดินหายลับออกจากห้องไปแล้ว
ทายาทแห่งตระกูลเรเมอร์ถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้งอย่างอ่อนแรง เขาเรียกเก็บอาวุธของตนเองอย่างรวดเร็วพร้อมกับมองดูสภาพห้องครัวที่เรียกได้ว่า ‘เละยิ่งกว่าผ่านสงครามโลกมา’ ก่อนจะเดินตรงไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดทั้งหลายในห้องเก็บของที่อยู่ถัดจากห้องนี้ไป
ในขณะเดียวกัน...
ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทอุ้มร่างบางมาไว้ที่โซฟาตัวใหญ่อย่างแผ่วเบาก่อนจะย่อตัวลงข้างๆเพื่อพินิจใบหน้าหวานของหญิงสาวให้ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าครั้งไหนๆ
แววตาที่เขามองดูคราเทลนั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมและพอใจในขณะที่มือหนาของเขาเอื้อมไปจับผมสีน้ำตาลแดงของหญิงสาวที่ปรกใบหน้ามาทัดหูเอาไว้อย่างอ่อนโยน
แว่นตาของชายหนุ่มถูกถอดออกไปวางข้างตัวของเขา เผยให้เห็นแววตาที่ทรงอำนาจผิดกับเวลาปกติลิบลับ แต่คราเทลที่หมดสติไปคงจะไม่มีวันได้แววตาของเขาในตอนนี้อย่างแน่นอน
คราเทลรู้สึกเหมือนตนเองกำลังล่องลอยอยู่ ณ ที่ใดสักแห่งหนึ่ง ทุกส่วนในร่างของเธออ่อนแรงไปหมดจนหญิงสาวไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
โจเซฟก้มมองดูแขนของตนเองซึ่งมีโบว์สีดำผูกอยู่อย่างลวกๆก่อนจะกระตุกยิ้มออกมาที่มุมปากราวกับว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
มือหนาของเขาเอื้อมไปแตะลงบนหน้าผากมนของคราเทลอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นโดยที่ชายหนุ่มนั้นหลับตาลงแล้วร่ายคาถาพึมพำ
แสงสีขาวนวลส่องแสงเรืองรองออกมาจากมือของเขาทันทีที่คาถานั้นถูกร่ายจนจบ ก่อนที่แสงเหล่านั้นจะซึมผ่านเข้าไปภายในหน้าผากของเธออย่างรวดเร็ว
คราเทลที่หมดสติไปรับรู้ถึงไอเย็นบางอย่างที่เข้ามาภายในตัวของเธอ แต่หญิงสาวก็อ่อนเพลียเกินกว่าที่จะลืมตาขึ้นมาได้ ความเย็นที่ได้รับนั้นทำให้สมองของเธอดูโล่งอย่างน่าประหลาด อีกทั้งมันยังทำให้เธอรู้สึกง่วงนอนเสียจนอยากจะนอนพักสักงีบ
แสงสีทองค่อยๆเปล่งออกมาจากบริเวณตำแหน่งหัวใจของเธอ จากนั้นความอบอุ่นก็ค่อยๆเข้ามาแทนที่ความกังวลที่เธอรู้สึกเสียจนร่างกายทุกช่วยของเธอได้รับการผ่อนคลาย
“นอนพักเสียก่อนเถิด”
เสียงทุ้มที่หญิงสาวจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนส่งผลให้ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อยอย่างลืมตัว ก่อนที่คราเทลจะจมลงสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์แบบเพราะความอ่อนเพลีย ทิ้งให้โจเซฟมองดูหญิงสาวอย่างเงียบสงบ
และเมื่อเวลาผ่านไปนานพอสมควร ร่างสูงโปร่งก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปคว้าแว่นของตนเองขึ้นมาสวม จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปยังห้องครัวเพื่อช่วยเพื่อนชายที่มีความสามารถในการทำความสะอาดบ้าน...ต่ำกว่ามาตรฐานสากลของโดรีเธีย!
สองชั่วโมงต่อมา
คราเทลที่ตอนนี้อยู่ในอาการที่ยังไม่หายเพลียจากการใช้พลังเวทย์กำลังเดินเคียงข้างกับเนเธอร์ซึ่งมีสีหน้าหงิกงอไม่ต่างจากเธอเสียเท่าไหร่ เสียแต่กว่าสาเหตุของเขานั้นเป็นเพราะว่าเขาถูกโจเซฟสวดเรื่องทำจานแตกเพิ่มไปอีกหนึ่งชุดใหญ่ๆจนเขาต้องรับผิดชอบโดยการซื้อพวกอุปกรณ์การครัวมาไว้ที่บ้านใหม่หลังจากที่พาคราเทลไปรายงานตัวที่โรงเรียนฟราเทลเลียสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“นี่ คราเทล”
“หือ?” คราเทลขานรับออกมาเบาๆ แววตาที่แสนจะอิดโรยหันไปมองเนเธอร์ที่เรียกชื่อเธอออกมาเมื่อครู่นี้ด้วยสีหน้าเป็นคำถาม
“เรื่องที่เกิดขึ้นที่ห้องครัว....” ชายหนุ่มเว้นช่วงไปเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลดูเป็นกังวลยามเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกตามตรงเลยว่ามันเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากคราเทลต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้โดยลำพัง เธอจะสามารถต่อกรกับพวกมันได้ไหม แล้วถ้าจบเรื่องแล้ว เธอจะมีสภาพเป็นยังไง?
เพียงแต่คิด มือหนาก็กำเข้าหากันแน่นจนมือนั้นเกร็งไปหมด ราวกับว่าจะระบายความเครียดทั้งหลายออกมา
“เธอไปมีเรื่องกับใครมาหรือเปล่า” น้ำเสียงเคร่งเครียดส่งผลให้ร่างบางส่ายหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเธอฉายแววครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เสียงใสจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า
“ถึงแม้ว่าฉันจะมีคนคอยชวนทะเลาะอยู่บ่อยๆ แต่ฉันก็มั่นใจนะว่าคงไม่มีใครโกรธแค้นฉันถึงขั้นจะฆ่าจะแกงฉันแบบที่พวกเงาประหลาดอะไรนั่นทำกับฉันหรอก”
“ฉันจำได้ว่า พวกมันพูดถึงทายาทโดๆ อะไรสักอย่างนี่แหละ”
เนเธอร์กล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบคาง สายตาของเขาเหม่อมองไปยังเส้นทางตรงหน้าอีกครั้งเมื่อถึงทางแยกที่จะต้องเลี้ยวตรงหัวมุมถนน
“พวกนั้นอาจจะจำผิดคนก็ได้ ถึงได้มาทำร้ายฉันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนั้น” คราเทลยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก สีหน้าของเธอดูสดชื่นขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ผิดกับชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างๆเธอลิบลับ
“ฉันก็หวังว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้น” เนเธอร์รำพึงออกมาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอื้อมมือหนาไปจับมือของน้องสาวมากุมเอาไว้เพื่อความสบายใจของตัวเขาเองโดยที่คราเทลนั้นได้แต่มองตามอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกมาเพราะพอจะมองออกว่าพี่ชายของเธอคงจะมีเรื่องกลุ้มใจอะไรบางอย่างซึ่งก็คงจะไม่พ้นเรื่องของเธอเป็นแน่
_________________________________________________________________________________________
*กาตาร์ คืออาวุธสำหรับนักฆ่าที่มีลักษณะปลายดาบเป็นมีดยาวประมาณหนึ่งฝ่ามือ ส่วนบริเวณที่จับนั้นมีลักษณะคล้ายกับสนับมือเพื่อให้อาวุธนั้นไม่สามารถหลุดออกจากมือไปโดยง่าย อีกทั้งยังสะดวกกับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ที่สามารถทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในทุกกระบวนท่า