ตลอดเวลาการกินอาหารเย็นวันนี้เจ้าขาอดที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินไม่ได้พวกเขาสองคนคุยกันออกรสออกชาติขนาดนี้ตามจริงแล้วมันไม่ต้องมีเธอเลยก็ได้แต่จะกลับตอนนี้ก็กลัวเสียมารยาท
แปลกที่คนไม่ชอบพูดจาเจ๊าะแจ๊ะกับใครวันนี้กลับชั่งพูดชั่งเจรจาขึ้นมาเสียอย่างั้นแถมดูจะลืมไปเลยว่าเธอนั่งอยู่บนโต๊ะนี้ด้วย
"ฮ่าๆ จริงด้วยอรลืมไปเลยว่าคุณแม่ไม่ชอบให้ขุนแอบพาสาวๆ ไปคอนโด แล้วยังไงคะคุณเอยพอเปิดไปเจอเขากำลังทำกิจกรรมรักดุเดือดอยู่คุณเอยทำยังไงคะ"
พวกเขากำลังพูดถึงเรื่องวีรกรรมของขุนเขาในวันที่เธอไปตามเขาเพราะแม่เขากำลังมาหาในวันนั้นกันอย่างสนุกสนาน
"ไม่ได้ทำยังไงคะ อาจเป็นเพราะฉันเจอแบบนี้บ่อยเลยทำให้ชินชาไปแล้ว"
เธอบอกพร้อมกับยกแชมเปญขึ้นซดจนหมดแก้วใบหน้าแดงก่ำเพราะเริ่มเมาช่วยปิดความเขินอายบนใบหน้าของเธอได้ แต่อาจจะหลบไม่พ้นสายตาของคนที่รู้จักเธอมาหลายปีแบบเขา
"โหสุดยอดไปเลยค่ะ มันจะต้องบ่อยแค่ไหนคุณเอยถึงได้ชินชาขนาดนี้ รู้สึกรู้สาอะไรไหมคนนิสัยไม่ดี"
กนกอรหันไปด่าคนนั่งนิ่งหน้าตาเฉยชาจิบไวน์ราคาแพงสบายใจ
"ทำไมต้องรู้สึก มันเป็นความชอบส่วนบุคคลของฉันถ้าจะมาเป็นเมียฉันต้องรับเรื่องนี้ให้ได้"
เขาบอกพร้อมกับจ้องมองคนที่ตั้งใจหลบสายตาเขาตลอดเวลา ยิ่งเธอเมาแก้มแดงระเรื่อยิ่งน่ามองน่าสัมผัส
"ดีนะฉันโชคดีไม่ต้องแต่งกับคนมักมาก"
"ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าจะแสดงสันดานตัวเองออกมาตอนไหนทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่"
คำพูดของเขาทำให้คนที่เริ่มเมาหันขวับมองสบตาเขาด้วยความไม่พอใจ เหมือนแมวตัวน้อยจ้องจะขย้ำเขาอย่างงั้น
"มักมากได้ค่ะแต่ต้องมีขอบเขตแต่ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนิเนอะ เอยขอตัวไปห้องน้ำนะคะ"
"ให้อรไปเป็นเพื่อนไหมคะดูคุณเอยจะเมาแล้ว"
กนกอรถามเมื่อเห็นเธอซดแชมเปญเอาซดเอาจนใบหน้าลำคอแดงก่ำแถมลุกขึ้นยังเซเหมือนจะล้มอีก
"ไม่เป็นไรค่ะ เอยเก่งแค่นี้สบายมากค่ะ"
เจ้าขาบอกพร้อมกับพยุงตัวเดินไปห้องน้ำด้วยความทุลักทุเล โดยมีสายตาคมของเขาจ้องมองตามไปอยู่ด้วยความเป็นห่วง
"ปล่อยไปแบบนั้นจะดีเหรอ "
กนกอรมั่นใจว่าพวกเขาต้องมีอะไรที่เธอยังไม่รู้แน่ๆ ดูเหมือนจะเป็นความรักรึเปล่าเธอก็ไม่แน่ใจ หมายถึงขุนเขานะที่เธอไม่แน่ใจแต่เจ้าขาเธอแน่ใจว่าหญิงสาวตกหลุมรักเจ้านายหนุ่มจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียวดูจากสายตาและท่าทางเวลาเมายิ่งเห็นได้ชัด
"เช็กบิลเลยนะ เมากันมากแล้ว"
"โอเค อรลืมบอกว่าอรพักที่โรงแรมนี้พรุ่งนี้ถึงเข้าบ้าน ขุนไปส่งคุณเอยเลยนะ"
"ไม่ต้องไปส่งห้องแน่นะ"
เขาถามเพราะเป็นห่วงเพื่อนกลัวเธอจะเมาอีกอย่างเธอเพิ่งกลับไทยทั้งที่ไม่ได้มานานด้วย
"ไม่เป็นไรๆ ไม่ได้เมา อุ้ย!! "
เธอบอกพร้อมกับจะลุกเดินให้เขาดูแต่กลับเซถลาเกือบล้มหน้าคว่ำดีที่ขุนเขาดึงตัวเอาไว้ให้เข้ามาในอ้อมกอดได้ทัน
"เห็นไหมทำเป็นเก่ง ไปเดี๋ยวเดินไปส่งบอกพนักงานให้บอกเอยรอก่อนก็ได้ "
"แหะๆ รบกวนด้วยนะคุณคู่หมั้น"
กนกอรยิ้มแห้งด้วยความอายก่อนจะเกาะแขนให้เขาช่วยพยุงขึ้นห้องไป โดยทั้งสองไม่รู้เลยว่าทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของคนที่เพิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำมา
เธอเสียใจเรื่องเขาคิดเองเออเองเสียใจเองเพียงเพราะเขาไม่ดูแลเธอดีแบบที่ดูแลกนกอรเลย รู้ทั้งรู้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกันก็แค่คนเคยนอนด้วยกันครั้งเดียว
แต่กับกนกอรเธอคือคู่หมั้นและเมียในอนาคตของเขา เธอยังทึ่งในตัวของกนกอรที่เธอรับขุนเขาได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความเจ้าชู้และอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาที่เธอเคยสัมผัสมาแล้วกับตัว...
เป็นเธอคงรับไม่ได้ถ้าเขาจะมีคนอื่นอีก เธอหวังให้เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนที่ทำกับกนกอรบ้าง คงเป็นเพราะเธอเมาเลยทำให้เกิดอารมณ์น้อยใจในเรื่องแบบนี้ขึ้น
หญิงสาวออกมายืนรอแท็กซี่ที่ไม่ค่อยมีแล้วตอนนี้เพราะดึกมากพลางคิดอะไรเรื่องของเขาไปเรื่อยเปื่อย
ปี๊นๆๆๆ
"น้องเอยมาทำอะไรตรงนี้ครับ"
อยู่ๆ เสียงแตรรถก็ดังขึ้นเล่นเอาคนที่เริ่มมึนๆ ถึงกับสะดุ้งโหยงตกใจ
"คุณนที เป็นไงมาไงคะถึงได้มาแถวนี้เวลานี้คะ"
"ผมเพิ่งกินเลี้ยงกับลูกค้าเสร็จครับ ขึ้นมาสิครับเดี๋ยวผมไปส่ง"
"ไม่เป็นไรค่ะ เอยกลับแท็กซี่ได้ค่ะ"
เธอตอบอย่างเกรงใจรู้ว่าเขาเป็นพี่ชายเพื่อนรักแต่ก็ไม่อยากรบกวนเขา อีกอย่างเธอไม่ค่อยสนิทกับเขาเพราะเขาอยู่ต่างจังหวัดเพิ่งจะเคยเจอกันจริงๆ จังๆ ก็วันนี้
"มาเถอะครับพี่ไม่ทำอะไรหรอกหรือจะโทรหาเวลาไปด้วยก็ได้นะถ้าไม่มั่นใจ"
เขายังคงคะยั้นคะยอเธอเพื่อความมั่นใจเลยให้โทรหาน้องสาวเขาดีกว่าเธอจะมายืนในที่แบบนี้คนเดียวมันอันตราย
"เอ่อ...ค่ะ งั้นรบกวนด้วยนะคะ"
เธอบอกก่อนจะเดินไปเปิดประตูขึ้นรถไปกับเขาแต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะมีรถยนต์คันหรูพุ่งเข้ามาจอดเสียงดังลั่นพร้อมกับร่างใหญ่คุ้นตาเดินเข้ามากระชากตัวเธอออกจนเธอปลิวไปกระแทกอกเขาอย่างแรง
เอี๊ยดดดด...
ปัง! ปึก!
"โอ๊ย! "
"น้องเอย! "
นทีเองก็ตกใจพร้อมกับวิ่งรีบเปิดประตูรถลงไปดูเธอทันที
"จะไปไหนเอย! "
"คุณขุน! "
"ทำอะไรของคุณ ปล่อยน้องเอยเดี๋ยวนี้นะ"
นทีเข้ามาดึงตัวหญิงสาวออกทันทีด้วยความเป็นห่วงแต่ชายที่ทำหน้าทะมึนอยู่ก็ไม่มีท่าทีจะปล่อยแขนเธอ
"น้องเอย...อย่างงั้นเหรอ นายเป็นใคร!"
"ผมต้องถามคุณมากกว่าว่าเป็นใครมาทำแบบนี้ได้ยังไง ปล่อยแขนน้องเอยด้วยไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจแล้ว"
ชายหนุ่มทั้งสองมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร พร้อมกับจับแขนเจ้าขาเอาไว้คนละข้างทำเอาคนเมาถึงกับตาสว่างทันที
"เอาสิ ฉันก็อยากจะรู้ว่านายจะทำอะไรฉันได้"
ขุนเขาถามด้วยน้ำเสียงกวนประสาทจนนทีเองเห็นก็ถึงกับโมโห
"พอเถอะค่ะ คุณนทีคะนี่คุณขุนเขาค่ะ เจ้านายของเอยเอง ท่านประธานคะนี่คุณนทีประธานบริษัทที่ฉันไปเซ็นสัญญาด้วยวันนี้ค่ะ"
กลายเป็นว่าคนเมาต้องมาอธิบายให้ผู้ชายสองคนที่ยืนจ้องหน้ากันไม่ไปไหนฟังก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้
"เจ้านายเหรอ "
"ไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้เจ้าขา! "
เขาไม่สนใจชายคนนั้นแต่หันมาสั่งคนที่ทำให้เขาโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเพียงเพราะเห็นเธอกำลังจะขึ้นรถไปกับผู้ชายคนอื่น แถมยังแนะนำเขาเป็นเพียงเจ้านายแทนตัวเองด้วยคำพูดห่างเหินต่อหน้ามันด้วย
"ขอโทษนะคะคุณนที เอยคงกลับกับคุณไม่ได้แล้ว ขอตัวนะคะ"
นทีได้ยินแบบนั้นมือที่เคยจับแขนเธอเอาไว้แน่นก็ปล่อยอัตโนมัติ เธอเป็นอะไรกับเจ้านายหนุ่มคนนี้ ทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดที่ว่าสามารถฆ่าเขาได้เลยนะ
"อย่าคิดจะยุ่งกับเธอถ้าไม่อยากเดือดร้อน"
พอเห็นแม่ตัวดีขึ้นรถไปแล้วเขาก็หันมาจัดการขายตรงหน้าที่เขาไม่สนใจว่าจะเป็นใครมาจากไหนหากมายุ่งกับผู้หญิงของเขามันก็คือศัตรูเขาทั้งหมด ก่อนจะเดินกลับขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความแรงเร็วตามอารมณ์