ในขณะเดียวกัน
ยุคอนาคต
ร่างระหงของจ้าวมี่อิงกำลังนั่งยองๆ หลับตาปี๋อยู่ตรงประตูโค้งซึ่งเป็นทางเข้าออกของประตูเมืองตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน ท่ามกลางผู้คนมากมายกำลังแหงนหน้าชื่นชมกับดอกไม้ไฟในพิธีเปิดงานเทศกาลชีซี
ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว! เสียงหวีดหวิวแหวกว่ายขึ้นสู่ท้องฟ้า
ปัง!ปัง!ปัง!กลุ่มก้อนเล็กๆ ต่างพากันแตกตัวเป็นสีสันมากมายอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิด เสียงดังกระหี่มกึกก้องไปทั่ว ในขณะที่ร่างของมี่อิงกำลังนั่งหลับตาปี๋อยู่ในขณะนั้นได้ยินเสียงดอกไม้ไฟอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งอยู่บนเหนือศีรษะของเธอก็ว่าได้
“เสียงดอกไม้ไฟ! นั่นมันเสียงของดอกไม้ไฟไม่ใช่เหรอ แต่ว่าในฉางอานงานชีซีสิ้นสุดลงแล้วจะมีการจุดดอกไม้ไฟอีกทำไมกันอีก” หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
ฉับพลันเสียงจากไมโครโฟน ซึ่งดังมาจากด้านในของการจัดงานหลังประตูเมืองดังกล่าวแผดเสียงดังก้องขึ้นมาทันใด
“ขอต้อนรับผู้เข้าชมงานทุกท่าน เทศกาลชีซีประจำปีนี้ของเมืองซีอานในบรรยากาศของเมืองจำลองโบราณในสมัยราชวงศ์ถังบัดนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สวมชุดฮั่นฝู เที่ยวชมงานกับบรรยากาศในยุคต้าถัง ดื่มด่ำกับดอกไม้ไฟหนึ่งแสนนัดซึ่งทางซีอานมอบให้กับทุกท่านและขอเปิดงานอย่างเป็นทางการนับต่อจากนี้” สิ้นเสียงผู้ประกาศเปิดงาน
พรึ่บ! เปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นทันที
และภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าในขณะนี้คือตึกสูงระฟ้ามากมาย มองเห็นได้ตั้งแต่ไกลตรงจุดที่เป็นกำแพงเมืองเก่า ผู้คนในยุคปัจจุบันมีทั้งสวมชุดฮั่นฝูโบราณและเสื้อผ้าในยุคปัจจุบันต่างกำลังแหงนมองดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นเพื่อเปิดงานเทศกาลดังกล่าว และยังมีที่พากันเดินขวักไขว่ไปมาเดินเข้าประตูโค้งเข้าไปเดินเที่ยวงานเทศกาลหลังประตูเมืองโบราณ
“กลับมาแล้ว! ในที่สุดก็ได้กลับบ้านของฉันแล้ว! ฉันกลับมาในยุคปัจจุบันได้แล้ว!!!” มี่อิงตะโกนออกมาจนสุดเสียงด้วยความดีใจอย่างสุดขีดท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายต่างหันกลับมามองเธอเป็นตาเดียวกัน
“ผู้หญิงคนนี้ท่าจะบ้า!ยืนพูดอยู่ได้คนเดียว หน้าตาก็ดีไม่น่าเป็นแบบนี้เลย”
“สงสัยจะหลงยุคคิดว่าตัวเองเป็นคนในสมัยโบราณแน่ๆ ถึงได้ตะโกนออกมาแบบนั้น ประสาทจริงๆ เชียว”
เสียงของผู้คนที่เอ่ยขึ้นมานั้นไม่ได้ทำให้จ้าวมี่อิงสะทกสะท้านแต่อย่างใด เธอนั่งหันรีหันขวางก่อนจะก้มลงมองห่อผ้าที่อยู่บนหน้าตักพร้อมลุกขึ้นยืนจากพื้นอย่างช้าๆ พลางหยิบห่อผ้าแพรซึ่งมีเสื้อผ้าของร้านเช่าและชุดโบราณของเพื่อนใหม่ในยุคอดีตที่เธอไปพบด้วยความบังเอิญ
“ขอบใจมากเลยนะจินเอ๋อ ถ้าเมื่อคืนไม่ได้เธอช่วยไว้ฉันคงถูกทหารจับตัวไปคุมขังแล้วแน่ๆ” หญิงสาวเอ่ยถึงเพื่อนต่างมิติก่อนจะฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา
“จริงสิ! ฉันพลัดหลงไปอยู่ในยุคอดีตตั้งนานที่นั่นเป็นเวลาฟ้าสางแต่ทำไมที่นี่ยังอยู่ในพิธีเปิดงานอยู่แล้ว เหมือนฉันไม่ได้หายไปไหนนานเลย” มี่อิงพูดพร้อมรีบยกแขนเรียวข้างซ้ายพร้อมเลิกชายแขนเสื้อยาวเพื่อดูนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของเธอ
“นาฬิกาไม่ตายแล้วหรือนี่! เดินได้เหมือนเดิมเวลาเพิ่งจะสองทุ่มสิบนาทีเท่านั้น นี่หมายความว่าฉันหลงเข้าไปในอดีตและกลับมาใช้เวลาแค่สิบนาทีเท่านั้นเองนะเหรอ” หญิงสาวยืนงงงันกับห้วงเวลที่เกิดมิติซ้อนทับกับเธอจนเป็นเหตุทำให้มี่อิงพลัดหลงเข้าไปอยู่ในยุคอดีตอยู่ชั่วขณะ
“เลิกคิด! เลิกคิดมี่อิง! เธอได้มาอยู่ในยุคของตัวเองแล้วไม่ต้องไปหลงอยู่ในยุคโบราณแบบนั้น ชีวิตของจ้าวมี่อิงต้องดำเนินต่อไปในยุคนี้ไม่ใช่ในยุคสังคมโบราณเสียที่ไหนกันเล่า” หญิงสาวกล่าวพร้อมสะบัดศีรษะของตัวเองไปมาติดต่อกันเพื่อขับไล่ความมึนงงที่เกิดขึ้นให้ออกไปจนหมด
“รีบเอาชุดไปคืนร้านดีกว่าจะได้กลับเข้าที่พักเสียที ฉันจะไม่ไปไหนแล้ว เลิก! เลิก!” มี่อิงพูดพร้อมกระชับห่อผ้าที่ได้จากเพื่อนในยุคอดีตเอาไว้ในอ้อมกอดเดินกลับไปที่ร้านให้เช่าชุดโบราณที่เธอเดินออกมาโดยที่มิทันได้บอกใคร
ร่างระหงหันกลับไปมองร้านเช่าชุดฮั่นฝูซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าไม่ไกลจากประตูโค้งเท่าใดนัก ระยะจากจุดที่เธอยืนอยู่ในขณะนี้กับร้านดังกล่าวใช้เวลาเดินประมาณห้านาทีและระยะทางจากร้านไปตรงประตูโค้งห่างกันประมาณยี่สิบเมตร แต่เหตุไฉนมี่อิงจึงรู้สึกว่าเดินออกจากร้านเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น
“ทำไมตอนเราเดินมาถึงตรงนี้เหมือนไม่กี่ก้าวเอง แต่อีตอนเดินกลับนี่นะสิระยะทางใช้เวลาเดินห้านาทีก็ว่าได้ แปลกจังเลยอย่าบอกนะว่ามิติต่างเวลาที่เกิดขึ้นมีผลกับระยะทางด้วย” มี่อิงบ่นพึมพำพลางเดินตรงไปยังร้านเช่าชุดดังกล่าว
เพียงครู่หญิงสาวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้านที่ประตูกระจกปิดเอาไว้เช่นเดิม ภายในร้านยังคงมืดสนิทยังไม่มีทีท่าว่าไฟจะมาเสียด้วยซ้ำ ในขณะที่ด้านนอกแสงไฟจากร้านค้าอื่นๆ กลับสว่างดั่งเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ครั้นมี่อิงเห็นเช่นนั้นเธอรีบเลื่อนประตูกระจกเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว เดินตรงดิ่งไปที่เก้าอี้ตัวเดิมพลางทรุดกายลงนั่งรอก่อนจะคว้ามือถือและกระเป๋าที่วางทิ้งไว้เอามาเก็บไว้กับตัว ท่ามกลางความโล่งใจของหญิงสาว
“เฮ้อ! แบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะโชคดีที่กลับมาได้และเวลาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย ถึงแม้ว่าในยุคนั้นเราจะอยู่ที่นั่นจนเวลาผ่านไปถึงรุ่งสาง ห่อผ้าของจินเอ๋อที่ให้เราติดตัวมาเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเราเข้าไปในยุคอดีตมิหนำซ้ำยังไปหลงอยู่ในยุคสมัยของถังไท่จงฮ่องเต้อีกด้วย แต่จะว่าไปบ้านเมืองในยุคนั้นสวยงามกว่าที่เคยจินตนาการเอาไว้เสียอีก” หญิงสาวพูดพึมพำอยู่เพียงคนเดียว
พรึ่บ! แสงไฟภายในร้านสว่างวาบขึ้นมาทันใดพร้อมเสียงเจ้าของร้านหุ่นอวบอ้วนก้าวเข้ามาพร้อมกล้องถ่ายรูปสำหรับใช้ถ่ายแฟชั่นโดยเฉพาะ
“โอ้ย! ค่อยยังชั่วดีนะที่ไฟดับแปปเดียวเพราะต้องการโชว์ดอกไม้ไฟ แต่ถ้าไฟดับเพราะระบบการจ่ายไฟขัดข้องท่าทางนายกเทศมนตรีเมืองซีอานได้โดนร้องเรียนแน่ว่าทำงานไม่ได้เรื่อง” สาวใหญ่เจ้าของร้านพูดโวยวาย ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างครั้นเห็นคนสวยนั่งมองนางอยู่ในขณะนี้
“น้องสาวรอนานไหม พอดีพี่ต้องเดินกลับไปที่รถเอากล้องถ่ายรูปด้วยตัวเอง ผู้ช่วยพี่ดันมีเรื่องวุ่นวายทางบ้านเกิดขึ้นขอลากลับไปแล้ว พี่ก็เลยต้องทำเองคนเดียวหมดเลยว่าแต่...”
สาวใหญ่เจ้าของร้านกล่าวได้เพียงเท่านั้นกลับต้องเงียบงันเมื่อสายตาของนางสังเกตชุดฮั่นฝูที่อยู่บนเรือนร่างของหญิงสาวแสนสวยตรงหน้ามิใช่ชุดของทางร้านที่เลือกไว้ให้
“คุณน้องชุดของพี่ที่แต่งให้หายไปไหนอย่างนั้นเหรอ แล้วเอาชุดจากไหนมาใส่แทนทำไมพี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไม่ใช่ชุดในร้านของพี่เลยนะ” เจ้าของร้านพูดพลางเอื้อมมือจับเนื้อผ้าพลางสังเกตลวดลายที่ปักอยู่บนตัวชุด ช่างงดงามและมีลายวิจิตรที่มิเคยเห็นมาก่อน
“งาม! งามมากพี่ยังไม่เคยเห็นลวดลายบนผ้าแบบนี้มาก่อนเลยนะ ฝีเข็มลงยากมากต้องใช้ความเชี่ยวชาญและทักษะสูงมากทีเดียว” สาวใหญ่เจ้าของร้านพูดชมไม่ขาดปาก
ในขณะที่มี่อิงได้แต่กลืนน้ำลายลงคอครั้นได้ยินเช่นนั้น ห่อผ้าที่เธอกำลังกอดอยู่ในขณะนั้นกระชับแน่นมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เสื้อผ้าของร้านอยู่ภายในนั้นหากแต่เปรอะเปื้อนฝุ่นดินจนมอมแมมต้องส่งซักแห้ง อีกทั้งยังมีบางจุดขาดเพราะวิ่งหนีการจับกุมมาทั้งคืนทำให้สัมผัสต่ออะไรมิต่ออะไร จะคืนให้ก็ช่างกระไร
“พี่สาวคะชุดของทางร้านมี่อิงขอซื้อต่อได้ไหม อยากซื้อชุดฮั่นฝูเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเหมือนคนอื่นบ้าง” หญิงสาวบอกเจตนาของเธอกลับไป
“จะซื้อชุดนั้นนะเหรอคุณน้อง” สาวใหญ่ถามสวนกลับไปทันที
ใบหน้าสวยพยักขึ้นลงติดๆ กันพร้อมเอ่ยขึ้น
“มี่อิงอยากได้ค่ะพี่ ขายให้หนูเถอะนะคะพร้อมชุดเครื่องประดับบนหัวหนูทั้งหมดนี่แหละ” หญิงสาวพูดพลางก้มศีรษะของเธอซึ่งมีปิ่นหงส์และมีพวงห้อยระย้าเสียบเอาไว้เพียงแค่นั้น
“เครื่องประดับก็มีแค่ปิ่นหงส์เก่าๆ พี่สาวได้มาตอนไปเที่ยวที่เมืองลั่วหยาง มีของเก่ามาวางขายตามสถานที่ท่องเที่ยว ปิ่นหงส์อันนี้แค่ร้อยหยวน เอาเป็นว่าไม่ต้องซื้อหรอกพี่สาวให้อย่าลืมเอากล่องของมันไปด้วย” กล่าวพลางเอื้อมมือไปหยิบกล่องปิ่นหงส์ที่อยู่ในกระเป๋าเครื่องประดับยื่นส่งให้ พร้อมเอ่ยขึ้น
“ชุดฮั่นฝูที่คุณน้องจะซื้อแพงมากเลยนะราคาหนึ่งหมื่นหยวนเลยทีเดียว” เจ้าของร้านตอบกลับไป
“ห๊ะ!หนึ่งหมื่นหยวนเลยเหรอคะ...แพงจังเลย” มี่อิงถึงกับเสียงอ่อยลงทันที
“ใช่แล้วคุณน้องชุดนั้นแพงมาก แต่เอาเถอะถ้าอยากได้พี่ก็จะให้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชุดแค่ทำงานให้กับพี่ก็พอ” สาวใหญ่เจ้าของร้านบอกเจตนากลับไป
และนั่นทำให้ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น
“จริงเหรอคะพี่สาว..แล้วจะให้มี่อิงทำอะไรบอกมาได้เลยค่ะ” มี่อิงถามกลับไปอย่างกระตือรือร้น
“ก็ไม่ยากอะไรเลย แค่มาเป็นนางแบบให้กับทางร้านถ่ายชุดฮั่นฝู วันมะรืนนางแบบและนายแบบที่พี่คัดเลือกเอาไว้รวมทั้งคุณน้องด้วยเป็นหนึ่งในนั้น มาพร้อมกันที่ร้านของพี่เราจะเดินทางไปเมืองลั่วหยางด้วยกัน เพื่อถ่ายแบบในชุดฮั่นฝู บันทึกทั้งเป็นภาพนิ่งและคลิปวีดีโอ งานนี้นอกจากจะได้ชุดที่คุณน้องอยากได้แล้วยังมีค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ ให้ด้วยนะแล้วก็” สาวใหญ่เจ้าของร้านกล่าวเพียงแค่นั้นพลันเงียบเสียงลง สายตาจับจ้องอยู่ที่ชุดโบราณที่หญิงสาวกำลังสวมอยู่บนร่างอยู่ในขณะนี้
“คุณน้องเอาชุดที่กำลังสวมอยู่ตอนนี้ไปด้วยนะ พี่อยากถ่ายเก็บไว้เป็นแบบจะขออนุญาตดูลวดลายบนผ้า บอกตรงๆ ว่าไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลย อยากรู้ว่าปักด้วยมือหรือใช้เครื่องจักร” สาวใหญ่เจ้าของร้านบอกหญิงสาวกลับไป
ครั้นจ้าวมี่อิงได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวนั่งคิดอยู่ชั่วขณะ วันมะรืนยังคงเป็นวันหยุดพักผ่อนของเธอที่สามารถใช้มันได้อย่างคุ้มค่าและเต็มที่
“ก็โอเคเหมือนกันนะดีกว่านอนหายใจทิ้งอยู่ในห้องพัก นอกจากจะได้เงินค่าขนมแล้วถือโอกาสเที่ยวไปในตัวอยากไปเมืองลั่วหยางตั้งนานแล้ว” มี่อิงครุ่นคิดอยู่ภายในใจพลางพยักหน้าขึ้นลงเป็นการตอบตกลงอีกฝ่าย
“ตกลงค่ะวันมะรืนมี่อิงจะไปที่ร้านของพี่สาว จะไปเป็นนางแบถ่ายชุดฮั่นฝูให้กับทางร้านพี่...ว่าแต่หนูจะได้ค่าขนมจริงๆ เหรอไม่หักเป็นค่าชุดที่หนูอยากได้เอาไว้ละคะ” หญิงสาวถามกลับไป
“ไม่หักหรอกจ๊ะ ปกติใครที่มาเป็นนางแบบและนายแบบให้กับทางร้านของเรา พี่สาวจะมอบชุดฮั่นฝูไว้ให้เป็นที่ระลึกเพียงแต่คุณน้องเป็นฝ่ายขอเลือกก่อนก็เลยไม่ได้เซอร์ไพรส์ ส่วนค่าขนมในการถ่ายแบบทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหวจ่ายให้คนละห้าพันหยวน สำหรับนางแบบและนายแบบตัวหลักนะ นอกนั้นทั่วไปค่าขนมคนละสามพันหยวน”
“มีตัวหลักกับทั่วไปด้วยเหรอคะ” มี่อิงถามกลับไปด้วยความสงสัย
“มีสิจ๊ะน้องสาวตัวหลักคือนางแบบที่ได้มาตราฐานและคุณภาพ ใส่ชุดไหนสวยและงดงาม ขึ้นกับทุกชุดและทุกสี อย่างคุณน้องใส่สีขาวของร้านพี่ก็สวยราวเทพธิดา พอมาสวมชุดม่วงแบบนี้งามดั่งสตรีชนชั้นเชื้อพระวงศ์หรือธิดาของชนชั้นสูงเลยเชียวนะ”
“อัยยะ! สวยในแบบหมู่ชนชั้นเชื้อพระวงศ์หนูไม่เอา เคยเห็นในหนังสือแต่งหน้าประหลาดมาก” มี่อิงตอบสวนกลับไป
“นั่นมันในประวัติศาสตร์แต่ก็ใช่ว่าจะทุกช่วงของราชวงศ์ถังเสียที่ไหนกันเล่า ยุคถังตอนต้นเป็นวัฒนธรรมรอยต่อจากราชวงศ์สุยผสมผสานกับยุคราชวงศ์ถัง ทำให้หญิงงามของต้าถังตอนต้นจะงามจริงๆ มีทั้งสูงต่ำอ้วนผอมเหมือนในสมัยเรานี่แหละ เพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ก็ยุคสมัยของถังเสวียนจงที่นิยมสาวอวบเจ้าเนื้อ และมีการแต่งแต้มประทินโฉมตามที่เห็นในบันทึกประวัติศาสตร์อย่างที่รู้กันและเห็นตามสารคดี”
ในขณะที่มี่อิงก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้เช่นกันว่าเพื่อนสาวของเธอในยุคอดีต ซึ่งอยู่ในสมัยยุคถังไท่จงฮ่องเต้ เป็นช่วงยุคต้นของราชวงศ์ถังเช่นกัน
“จริงสิ...เราก็เพิ่งไปวิ่งมาราธอนทั่วเมืองฉางอานมา ผู้คนในยุคนั้นก็ไม่แตกต่างไปจากคนในยุคปัจจุบัน แค่สวมเสื้อผ้าที่แตกต่างและชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้ก้าวล้ำนำหน้าแบบที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้” มี่อิงรำพึงอยู่ภายในใจก่อนจะเหลือบสายตามองนามบัตรที่เจ้าของร้านยื่นส่งให้เธอ
“เอานี่นามบัตรของร้านรับไว้สิ..วันมะรืนพี่จะไปรับถึงที่พักแล้วไปลงสถานีรถไฟ พวกเราจะเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงข้ามไปที่เมืองลั่วหยางกัน ใช้เวลาเดินทางแค่สองชั่วโมงก็ถึงแล้ว ส่วนทีมงานจะเดินทางล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งวันเพื่อจัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายแบบให้เรียบร้อย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนหกโมงเช้า จะได้กลับมาซีอานไม่ดึกมากนัก”
มี่อิงยื่นมือไปรับนามบัตรดังกล่าวมาถือเอาไว้ในมือพลางนั่งครุ่นคิด
“ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเราอีกเหมือนกับวันนี้หรอกกระมัง เป็นไปน้อยมากโอกาสหนึ่งในล้านที่จะมีมิติแห่งเวลาในยุคอดีตเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง ฉันคงจะไม่โชคร้ายซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนั้นอีกหรอกนะ ก็ดีเหมือนกันวันหยุดจะได้มีอะไรทำแก้เบื่อมิหนำซ้ำยังได้เงินใช้เพิ่มอีกด้วย” หญิงสาวพูดพลางยิ้มน้อยๆ ออกมาพร้อมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย
“โอเคค่ะพี่สาวแล้ววันมะรืนพบกันนะคะ” จ้าวมี่อิงตอบตกลงกลับไปท่ามกลางความพึงพอใจของอีกฝ่าย