ตอนที่ 3 เก็บเอาไว้

1477 Words
หญิงสาวนั่งเงียบไปตลอดทางจนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน ต่างคนต่างเดินหายเข้าไปในบ้านของตัวเอง เมฆาที่ชินกับสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้วทำเพียงแค่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนปรางค์วลัยเลือกที่จะจัดกระเป๋าก่อนถึงเข้าไปอาบน้ำ เมื่อออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวทำเพียงแค่ใส่เสื้อผ้าแล้วคว้ากระเป๋า เพื่อจะเดินออกจากห้องนอนลงไปยังชั้นล่างตามที่ได้นัดกับเขาเอาไว้ “พร้อมหรือยัง” “ค่ะ” ปรางค์วลัยก้าวขึ้นรถเงียบๆ เธอนั่งนิ่งมาจนถึงที่โรงพยาบาล เมฆาพาเธอขึ้นมาส่งบนห้องพักที่ปริมกำลังนอนอยู่ เขาตรวจเช็กอาการปริมจากชาร์ตคนไข้ก่อนจะเดินกลับออกไป “อ้าว หมอเมฆ พรุ่งนี้ off ไม่ใช่เหรอคะ ป่านนี้แล้ว มาทำอะไรคะเนี่ย” พยาบาลอาวุโสคนหนึ่งทักทายเขาด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นเขาเดินเข้าไปในวอร์ด “มาอาศัยนอนที่นี่สักคืนครับ” “มีอะไรหรือเปล่าคะ” “พอดีมีคนไข้ที่ผมพามาครับ เลยจะรอดูอาการก่อน” “คนพิเศษเหรอคะ” พยาบาลแซวเขา “พิเศษมากเลยครับ ฝากด้วยนะครับ ถ้ามีอะไรด่วนหรือฉุกเฉินตามผมด้วย” “ได้ค่ะ” “ขอบคุณครับ นอนก่อนนะครับ ล้ามาทั้งวัน” เมฆาเดินกลับเข้าห้องพักหมอไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง แต่เดิมเขาตั้งใจจะนอนพักแล้วค่อยตื่นไปดูปริมกับปรางค์วลัยอีกที แต่สมองก็พลันหวนคิดไปถึงภาพที่ปรางค์วลัยยืนตัวสั่นเพราะความตกใจที่มารดาของเธอนอนกองอยู่บนพื้น หญิงสาวอยู่กับมารดาแค่ 2 คนตั้งแต่เขาจำความได้ จนวันสุดท้ายก่อนที่มารดาของเขาจะกลับไปอยู่กับบิดาที่ต่างจังหวัด มารดาได้กำชับเขาว่าให้ช่วยดูแลปริมกับปรางค์วลัยด้วย ดวงตาคมปิดลง เขาพยายามนอนหลับเพื่อจะได้มีแรงไปคอยดูแลหญิงสาวหลังจากที่วันนี้เขาเองก็เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เช้าวันต่อมา เมฆาที่หลับๆ ตื่นๆ และคอยเดินไปดูปริมกับปรางค์วลัยหลายครั้งก็ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวจะลงไปหาซื้อของกินขึ้นมาให้ปรางค์วลัยเพราะรู้ดีว่าเธอจะไม่ลงไปแล้วทิ้งให้มารดาอยู่คนเดียวแน่นอน “เป็นยังไงบ้างครับ” เมฆาส่งเสียงทักทายหลังจากเปิดประตู “ดีขึ้นแล้วล่ะลูก” ปริมยิ้มน้อยๆ ให้ช่วยหนุ่มที่ช่วยเป็นธุระให้ “วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ปกติจะไม่มีหมอเฉพาะทาง แต่การรักษาและตรวจทุกอย่างจะดำเนินไปตามปกติครับ บุคลากรที่นี่พร้อมตลอด วันนี้น่าจะได้ทำ MRI เลย” “จ้ะ” “น้าปริมอย่าเพิ่งกินอะไรนะครับ เดี๋ยวจะได้สามารถเข้าทำ MRI ได้เลย” เมฆาพูดพลางวางถุงของกินรองท้องมื้อเช้าลงบนโต๊ะ ปรางค์วลัยมองแล้วก็รู้ว่าเขาเอามาให้เธอ “จ้ะ” หลังจากเมฆาเดินออกไปจากห้อง ปรางค์วลัยก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้มารดาของเธอน่าจะได้เริ่มทำการตรวจ เธออาจจะต้องทำอะไรอีก จึงอยากจะเตรียมพร้อมไว้ก่อน เมื่อได้เวลาหมอมาราวด์คนไข้ ปริมบอกอาการหมอที่มาโดยไม่ปิดบัง ซึ่งเมฆาที่ตามมาด้วยเมื่อได้ฟังอาการแล้วก็ต้องสบตากับหมอเจ้าของไข้ ก่อนจะพยักหน้ากันแล้วส่งคนไข้ลัดคิวทำ MRI ว่าเป็นเคสด่วน ปรางค์วลัยมีสีหน้าไม่ดี เธอรู้ดีว่าเมฆาค่อนข้างจะขี้เล่น แต่หากเป็นเรื่องใหญ่ เขาจะเงียบขรึมและแสดงออกทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด หลังจากหมอเจ้าของไข้ออกไป เมฆาก็บอกวิธีการเตรียมตัวกับปริมและปรางค์วลัย เพื่อในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่มาพาปริมไป หลายชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่ปริมถูกเจ้าหน้าที่เข็นกลับมาที่ห้องโดยมีปรางค์วลัยเดินตามมา หญิงสาวมีสีหน้าเครียด เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก “ตูน ออกไปกับพี่หน่อย” เมฆาเปิดประตูมาเรียกปรางค์วลัยออกไปคุย หญิงสาวพยักหน้าแล้วเดินตามเขาออกมาหน้าห้อง “ผลไม่ดีเหรอ” “ใช่ เจอก้อนที่ปอด” “ใหญ่ไหม” “ใหญ่ เราต้องส่องกล้องแล้วเอาเนื้อไปตรวจว่าเนื้อดีหรือเนื้อร้าย” “อืม เอาที่เห็นสมควรเลย” “น้าปริมมีประกันใช่ไหม” “มี ประกันหลายตัว กับใช้สิทธิ์ที่ทำงานตูนได้ ตูนบรรจุแล้ว” “โอเค งั้นเดี๋ยวพี่จัดการให้” ปรางค์วลัยเดินกลับเข้าไปไปในห้องหลังจากเมฆาเดินออกไป เธอเลือกที่จะบอกมารดาถึงผลตรวจ MRI ซึ่งปริมเองก็ยอมรับและทำใจได้ หญิงสาวจึงสบายใจได้ในระดับหนึ่ง แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นอีกครั้ง เมื่อในช่วงเย็นปรางค์วลัยต้องกลับไปที่บ้านเพื่อไปเอาชุดทำงาน และถ้าเธอไปทำงาน ปริมจะไม่มีคนอยู่เฝ้า “เอาอย่างนี้ไหมครับ น้าปริมย้ายออกไปอยู่ห้องธรรมดาไหม พยาบาลจะได้เดินดูได้ตลอด” เมฆาบอกปริมกึ่งขอความเห็นจากปรางค์วลัย “ได้หมดจ้ะ น้าไม่มีปัญหา อีกอย่างเหลือแค่เก็บชิ้นเนื้อ น้าจะได้กลับบ้านแล้วนี่ อยู่ห้องธรรมดาก็ได้” ปริมไม่มีปัญหาอะไร “ก็ได้ค่ะ” “ไม่นานหรอกครับ หลังเก็บชิ้นเนื้อ เราจะรอดูอาการ 2-3 ชั่วโมง ถ้าไม่มีเลือดออกก็จะสามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้เลยครับ” เมฆาอธิบายขั้นตอนคร่าวๆ “แต่พรุ่งนี้วันจันทร์ ตูนต้องไปทำงาน ใครจะอยู่กับแม่ล่ะ” “เดี๋ยวพอหมอเจ้าของไข้ให้กลับบ้านได้ พี่ไปส่งน้าปริมที่บ้านก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ” “รบกวนหรือเปล่าเมฆ น้ารอตูนมาตอนเย็นก็ได้” “ไม่เป็นไรครับ ผมว่าน้าปริมกลับไปพักผ่อนที่บ้านน่าจะดีกว่า ไม่ต้องนอนอึดอัดอยู่บนเตียงโรงพยาบาล” “เอาที่เมฆสะดวกเลยจ้ะ” “งั้นเดี๋ยวจัดการเรื่องห้องพักให้เรียบร้อยก่อน แล้วเดี๋ยวตูนกลับบ้านพร้อมพี่ ไม่ต้องห่วงแม่ เดี๋ยวพี่ฝากพยาบาลเอาไว้” หญิงสาวพยักหน้ารับเมื่อได้ยินสิ่งที่เมฆาพูด ตอนนี้เธอแทบจะคิดอะไรไม่ออก จึงปล่อยให้เขาเป็นคนจัดการทั้งหมด หลังจากที่เมฆาทำเรื่องย้ายห้องพักให้ปริมและรอจนได้เตียงแล้ว เขาก็พาปรางค์วลัยไปทำเรื่องเอกสาร ก่อนจะขึ้นไปหาปริมที่เตียง “ตูนกลับก่อนนะคะแม่ พรุ่งนี้เช้าตูนจะแวะมาหาก่อนไปทำงานค่ะ” “ไม่ต้องหรอก เหนื่อยเปล่าๆ รอกลับไปเจอกันที่บ้านเลยดีกว่า” ปริมบอกบุตรสาวอย่างเข้าใจ “ไม่ต้องห่วงน้าปริมหรอก พี่ขอให้พยาบาลช่วยดูให้แล้ว” เมฆาปลอบใจปรางค์วลัยพลางมองเธอด้วยสายตาจริงจัง “งั้นตูนกลับก่อนนะคะ แม่อย่าปล่อยให้โทรศัพท์แบตเตอรี่หมดนะ ตูนจะได้ติดต่อได้” “จ้ะ ไปเถอะ กลับกันดีๆ นะ” “ครับ ถ้ามีอะไร น้าปริมเรียกพยาบาลได้ทุกคนนะครับ” “จ้ะ” ปรางค์วลัยกอดปริมก่อนจะเดินออกมา เมฆาเดินตามหลังหญิงสาวไปเงียบๆ จนเมื่อกำลังจะผ่านเคาน์เตอร์พยาบาลชายหนุ่มก็หยุดแล้วฝากปริมกับพยาบาลโดยบอกว่าเป็นน้าของเขา ก่อนจะเรียกให้หญิงสาวไปที่รถด้วยกัน และขับออกไปในเวลาไม่นาน “พรุ่งนี้ไปทำงานใช่ไหม” “อือ” “ออกมาพร้อมพี่เลยก็แล้วกัน พี่จะมาดูน้าปริมแต่เช้า” “อือ” “กุญแจบ้านล่ะ” มือหนาแบขอกุญแจบ้านของหญิงสาว “เอาไปทำอะไร” ปรางค์วลัยถามเขาพลางขมวดคิ้ว “ก็พรุ่งนี้พี่ต้องพาน้าปริมกลับมาส่งที่บ้าน จะไม่ให้พี่มีกุญแจเข้าบ้านเหรอ” “ลืม โทษที กุญแจพวงของแม่อยู่ที่บ้าน เดี๋ยวกลับไปถึงบ้านค่อยเอา” “อืม” ปรางค์วลัยนั่งเงียบจนกระทั่งถึงบ้าน เมื่อถึงบ้านเธอก็หายเข้าไปไม่นานแล้วกลับออกมาพร้อมกับกุญแจบ้านอีกพวงที่เป็นของมารดาเธอ “พวงนี้ของแม่ ห้ามทำหาย” “รู้แล้วน่า” “พี่จะเก็บเอาไว้เลยก็ได้ เผื่อตูนไม่อยู่แล้วจะเข้ามาหาแม่” “อือ ก็ต้องอย่างนั้น” “ขอบคุณ” “อืม ไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าก็ออกมาก่อน 7 โมงแล้วกัน” “อือ” หญิงสาวเดินกลับเข้าบ้านไปโดยมีสายตาคมมองตาม เขารอจนเธอปิดประตูล็อกบ้านเรียบร้อยแล้วถึงได้เดินเข้าบ้านไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD