สองปีต่อมา_
โรงพยาบาลชื่อดัง
ภายในห้องลับเขตพื้นที่สงวน มีเพียงร่างไร้วิญญาณนอนนิ่งแช่แข็งผ่านอุณหภูมิติดลบ แสงสลัวส่องจากหลอดไฟดวงเดียวเท่านั้น เพิ่มความสว่างส่องให้หมอหนุ่ม ในชุดแพทย์ผ่าตัดสีเขียวเข้ม
"คุณเซนโซ่ครับ ลูกค้าที่นัดไว้มารอรับแล้วครับ" ลูกน้องคนสนิทเอ่ยเรียก ขณะหมอหนุ่มจับมีดผ่าตัดใส่ในถาดแสตนเลส เห็นเพียงแววตาไร้อารมณ์ของเขาเท่านั้น
"ส่งออกได้" น้ำเสียงเข้มปราศจากอารมณ์ ใส่ผลงานชิ้นเอกในกล่องบรรจุชั้นดี คืออวัยวะร่างกายมนุษย์ ที่จะไปต่อลมหายใจให้คนอื่น แต่มันต้องแลกกับราคาสูงที่สมฝีมือ
"ได้ครับ"
"แล้วบอกมันว่าถ้าไม่ใช่เงินสด...ไม่แลก" เขายังเอ่ยบอกตอนถอดถุงมือแพทย์ มาจับปากกาเซ็นต์เอกสาร
"ครับคุณเซนโซ่" ตุลย์รับเอากล่องบรรจุภัณฑ์ถือไว้ด้วยสองมือ ก่อนก้มคำนับเจ้านายไปจัดการตามคำสั่ง
"ว้าว....ไอหมอเพื่อนรัก วันนี้มีคนตายไปกี่คนแล้วว่ะ!" เป็นเสียงชองเพื่อนชายในกลุ่ม เขาคือคาเรนฝีปากกวนบาทา มาทักทายตอนเซนโซ่เดินออกจากทางห้องลับ
"ศพต่อไปอาจจะเป็นมึง!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดเหน็บแหนม
"พูดซะกูขนลุกเลย...ว่าแต่คืนนี้มึงว่างป่ะ"
"กูมีเข้าแลป" เมื่อเขาเดินมาถึงห้องประจำตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มีลูกน้องด้านหน้าประตูคอยอำนวยความสะดวก
"ไม่คิดจะว่างแบบคนโสดๆหน่อยเหรอ คนในกลุ่มเราแมร่งติดเมีย กูก็เหงานะเว้ย" คนบอกยังเดินตามติด มานั่งลงเก้าอี้ตัวฝั่งตรงข้าม
"มึงโตแล้วปะว่ะ ยังทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาอยู่อีก"
"โถ่มึงกล้าว่ากูนะ...ระวังมีเมียเป็นเด็กมีปัญหาบ้างแล้วจะรู้สึก" พวกเขาคือหนุ่มเจ้าสำราญ ไม่ชอบฝักไฝ่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน ถึงเข้ากันได้กับเพื่อนชายในเรื่องนี้
"ไร้สาระว่ะ" มือหนายกโบกอย่างรำคาญ เขาเนี้ยหน่ะหรือจะโหยหาความรัก ขนาดหัวใจยังมีไว้แค่สูบฉีดเลือดเท่านั้น
"อุบ๊ะ!!! หุ่นแมร่งล่ำขึ้นเยอะเลยเว้ย นับวันยิ่งโตยิ่งเซ็กซี่" คาเรนรีบยกสองมือมาปิดปาก เมื่อเห็นเพื่อนชายถอดเสื้อผ่าตัด โชว์แผงกล้ามอกแขนแรง
"....." เปลือกตาหนาเลื่อนปิดไปหนึ่งวินาที ให้กับความปวดหัวที่ดันมีเพื่อนแบบนี้ในชีวิต
"ใครจะได้ขึ้นเตียงกับคุณหมอเซนโซ่นะ ตื่นเต้นจัง" คนบอกยังทำท่าทีดี๊ด๊า เรียกความหมั่นไส้
"มึงไง นั่นเตียงเดี๋ยวให้คนเข็นเข้าห้องเมื่อกี้" หางตาคมชายมองไปนอกห้อง มีพวกบุรุษพยาบาลเข็นรถผู้ป่วยไปเก็บ
"เริ่มชักจะกลัวมึงขึ้นมาแล้วแหละ งั้นกูกลับก่อนดีกว่า"
"สมควรไปตั้งนาน" รูปหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาเล็กน้อย พอเพื่อนชายทำท่าทีโบกมืออำลา เขารีบเดินเข้าห้องแต่งตัวอีกมุมนึง ฝ่ามือหนาค่อยถลกกางเกงถอดลง แล้วดึงเอากางเกงสแล็คดำมาสวมต่อ
สายตาคมเพ่งมองผ่านกระจกใส ไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยนในฉบับหมอทั่วไป มันดูน่ายำเกรงเกินกว่าจะเข้าใกล้
@ ช่วงเย็น
"เป็นไงบ้างจ๊ะลูกรัก คนไข้เยอะไหมวันนี้" โมอาผู้เป็นมารดา รับหน้าที่ปรุงอาหารมื้อสำคัญแก่ลูกชาย มาชวนกันนั่งทานบริเวณสวนข้างบ้าง
"ไม่ค่อยเท่าไหร่" ร่างสูงนั่งฝั่งตรงข้ามกับบิดา จับคอเสื้อปลดกระดุมเผยช่วงอกแข็งขึง
"หาเวลาพักบ้าง" ซิลค์เอ่ยบอกเสียงเรียบ วางท่าทีน่าเคารพตอนอยู่ในสายตาข้าบริวารรอบตัว หากท่านอยู่กับลูกชายสองคน จะมีความอ่อนโยนเพิ่มอีกนิดแทบจะไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
"ครับ"
"เอาแบบนี้ไหมเซนโซ่ อาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวดีไหม เฮียก็ไปด้วยนะ" มารดาบอกอย่างมีนัยนะแฝง พลางมองสายตาสามีมีความหมายซ่อนอยู่
"ผมไม่ว่าง" น้ำเสียงเข้มเอ่ยบอก ตัดความหวังของมารดาฉับพลัน เพราะครั้งนึงที่ท่านชวนกลับไปเที่ยวเมืองเกิด ดันเจอเรื่องให้หงุดหงิดใจ จนไม่อยากจะนึกถึงอีก
"ไม่เป็นไรก็ได้ แม่คงทำร้ายจิตใจลูกรักไม่ได้หรอก"
................................................
ให้นิยามแก่เซนโซ่กันเร็ว 555
###กดติดตาม กดไลค์แล้วอย่าลืมคอมเม้นท์มาคุยกันบ้างนะคะ