ตอนที่ 8 ประลองดาบ

1461 Words
เจ็ดวันต่อมา กู้หลินหอบข้าวของพะรุงพะรังราวกับย้ายบ้านเพื่อจะได้เข้ามาอยู่ในเรือนพักของหน่วยราชองครักษ์ ข้าง ๆ มีโจวหยางอิงเดินตามมาติด ๆ “เจ้าอย่ารีบเดินนักสิ รอข้าด้วย” โจวหยางอิงตะโกนเรียกเพราะอีกฝ่ายอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เจอกับตงฟางฮุ่ยหลิง “ข้าก็บอกให้เจ้ารีบมาอยู่นี่ไงเล่า แล้วจะหอบของพวกนั้นมาทำไมกัน” กู้หลินพยายามบอกให้เขาขนมาเท่าที่จะไหวเพราะขาดเหลืออย่างไรค่อยให้บ่าวในจวนมาส่งเพิ่มภายหลัง “ของข้าที่ไหนกัน นี่มันของเจ้าทั้งนั้น” ถึงจะบ่นกระปอดกระแปด แต่นั่นก็เป็นของที่เขาเตรียมเอาไว้เผื่อกู้หลินจำเป็นต้องใช้ทั้งสิ้น เสียงตะโกนพูดคุยของทั้งสองดังมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงหน้าหน่วยราชองครักษ์ ผู้สอบผ่านในปีนี้มีแค่เพียงยี่สิบคนเท่านั้น แต่ละคนล้วนมีฝีมือดี ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งยังมีไหวพริบ นับว่าเป็นหน้าเป็นตาของหน่วยอย่างมาก “เจ้าตัวเล็กนี่ก็ผ่านอย่างนั้นหรือ” เสียงชาวบ้านคนหนึ่งดังขึ้นเมื่อเห็นกู้หลินยิ้มหน้าระรื่นเดินเข้าไปข้างใน ทั้งยังไม่เชื่อว่าเขาจะผ่านเข้าไปโดยง่าย ดูอย่างไรก็เหมือนตระกูลขุนนางที่เอาแต่หาความสำราญ “อย่าพูดอย่างนั้นเชียว รู้หรือไม่ว่าหัวหน้าหน่วยคัดคนด้วยตัวเอง ถ้าเห็นว่าเขามาวันนี้ แสดงว่าสอบผ่านนั่นแหละ” ชาวบ้านอีกคนกระซิบบอก ย้ำเตือนให้พูดคุยเล่าลือพอหอมปากหอมคอ “หัวหน้าตงฟางน่ะหรือ” เขาเลิกคิ้วแล้วพยักหน้ายอมรับ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าตัวเล็กคงจะเก่งจริง ๆ กระมัง” เฉินป๋อเห็นท่าทางเบิกบานใจของกู้หลินจึงเอ่ยปากสะกิดหัวหน้าตนเองที่นั่งรอองครักษ์ใหม่ในศาลา “พลังแห่งรักมาแล้วขอรับ” คำพูดของเขาทำให้ตงฟางฮุ่ยหลิงดึงดาบออกจากฝักมาครึ่งหนึ่ง “หัวหน้า ใจเย็นก่อน... ตัวป่วนหัวหน้ามาแล้วขอรับ” “พี่เฉิน เข้าข้างออกหน้าออกตาปานนี้ ตกลงอยู่ข้างผู้ใดหรือ” อาโปผู้เป็นน้องเล็กสุดถามเขา เจ้าตัวจึงแอบกระซิบไม่ให้หัวหน้าตนเองได้ยินว่า “ข้าเบื่อหน้าตายของหัวหน้า มีคนมากวนใจเขาแล้วรู้สึกสนุกดีออก” “จะอู้งานอีกนานหรือไม่” ตงฟางฮุ่ยหลิงเอ่ยปากเมื่อเห็นว่าลูกน้องทั้งสองยังคงไม่ไปไหน “เงินเดือนไม่เอาแล้วใช่หรือไม่” “ไปเดี๋ยวนี้แหละขอรับ” ทั้งคู่จึงรีบวิ่งไปสมทบกับชุนหมิงด้านล่างเพื่อนำทางองครักษ์ใหม่ไปที่เรือนพักและแนะนำสถานที่ข้างในอย่างเป็นทางการ กู้หลินหันมายิ้มให้ตงฟางฮุ่ยหลิงอย่างเคย ถึงแม้เขาจะไม่เคยปรายตามองก็ตาม ใจแข็งจริง ๆ ฮุ่ยหลิงนะฮุ่ยหลิง เมื่อเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ทุกคนจึงได้เห็นตารางการฝึกสุดโหด พวกเขาต้องฝึกฝนทั้งดาบ ธนู มีดสั้น ปืนยาวและยาพิษ การฝึกแต่ละวันแบ่งออกเป็นส่วน ๆ มีช่วงเวลาพักเที่ยงและวันหยุดทุกเจ็ดวัน แม้จะเหน็ดเหนื่อยไปบ้าง แต่พอได้เห็นหน้าใครบางคน กู้หลินกลับหายเหนื่อยไปได้ อีกทั้งยังมีสหายรู้ใจอย่างโจวหยางอิงอยู่เคียงข้าง กลายเป็นว่ามีความสุขไปเสียอย่างนั้น “การประลองวันนี้ ข้าจะเป็นคนฝึก” ตงฟางฮุ่ยหลิงพูดขึ้น สายตากวาดมองไปยังเหล่าองครักษ์ฝึกหัดที่ยืนอยู่ข้างหน้า ยามปกติแล้วจะมีใครสักคนเป็นตัวแทนมาประลองกับครูฝึก แต่หนใดที่ครูฝึกผู้นั้นเป็นตงฟางฮุ่ยหลิง ไม่มีใครกล้าก้าวขาออกมาสักคน ยกเว้น... “เจ้าอีกแล้วหรือ” เฉินป๋อเห็นโจวหยางอิงก้าวขาออกมาข้างหน้า พลันนึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ยามใดที่มีการประลองระหว่างตงฟางฮุ่ยหลิงและโจวหยางอิง พวกเขาจะต้องเข้ามาห้ามอยู่ร่ำไป ไม่อย่างนั้นคงได้มีใครถูกหามเข้าโรงหมอแน่นอน กู้หลินที่เห็นด้วยกับเฉินป๋อขยิบตาส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายจับตัวโจวหยางอิงเอาไว้ แล้วรีบฉวยโอกาสนั้นวิ่งไปประจันหน้ากับหัวหน้าหน่วยราชองครักษ์แทน “กู้หลิน ทำไมเจ้าดื้ออย่างนี้” โจวหยางอิงส่ายหน้า รู้ทั้งรู้ว่าเขาอยากอยู่ใกล้ชิดกับใครอีกคน แต่นี่คือการประลองและตงฟางฮุ่ยหลิงไม่เคยออมมือให้ผู้ใด ในใจคิดกังวลเป็นห่วงว่าจะได้รับบาดเจ็บ กระนั้น รอยยิ้มกว้างของกู้หลินก็ทำให้เขาใจอ่อนจนได้ พลางพูดกับครูฝึกสุดโหดว่า “ถ้าเจ้าทำให้เขาบาดเจ็บ ข้าจะเอาคืน” “เจ้านี่ มีที่ไหนการฝึกที่ไม่บาดเจ็บ” ชุนหลิงเอ่ยปาก “ฝึกเป็นองครักษ์นะ ไม่ใช่ฝึกร่ายรำแสงเทียน” เฉินป๋อรู้ทันกระซิบว่า “อย่าห่วงไปเลย หัวหน้าน่ะไม่กล้าทำอะไรเจ้าตัวเล็กหรอก” ถึงลูกน้องคนสนิทจะพูดกล่อมเขาเช่นนั้น แต่โจวหยางอิงก็ยังไม่วางใจ เพราะทุกครั้งที่ประลองกัน พวกเขาทั้งคู่ต้องพักรักษาร่างกายคราวละสามวันเป็นอย่างต่ำกว่าจะฟื้นตัว กู้หลินตั้งสมาธิ ใจจดจ่อกับคนตรงหน้า มือกระชับด้ามดาบเอาไว้แน่น ท่วงทำนองเพลงดาบประจำตัวของตงฟางฮุ่ยหลิงถูกนำออกมาใช้เป็นการพิเศษเพื่อกู้หลินโดยเฉพาะ “เอ่อ หัวหน้า...” เฉินป๋อกับชุนหมิงมองหน้ากันโดยปริยายแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สั่งอาโปนำเชือกมามัดโจวหยางอิงเอาไว้ ดูท่าแล้ววันนี้กู้หลินคงจะเลือดตกยางออกไม่น้อย หากแต่เจ้าตัวยังคงทำใจดีสู้เสืออยู่ พร้อมรับทุกอย่างที่จะถาโถมเข้ามา แม้จะเคยฝึกมาก่อนหน้านี้อยู่บ้าง แต่เพลงดาบนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตงฟางฮุ่ยหลิง เขาไม่มีทางรับได้ทุกกระบวนท่าจึงถูกคมดาบกรีดแขนกรีดขาจนมีเลือดซึมไปบ้างเล็กน้อย นั่นนับว่าเป็นความปรานีที่อีกฝ่ายมอบให้ “ไปฝึกมาอีก แต่หากไม่ไหว ลาออกไปเสีย” คำพูดของหัวหน้าหน่วยเป็นการย้ำเตือนกู้หลินให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะใช้วิธีนี้มาใกล้ชิดกับเขา เพราะหนทางข้างหน้า การฝึกจะยิ่งดุเดือดขึ้นมากกว่าเดิม และเขาจะไม่อ่อนข้อให้อีกต่อไป “อ้าว เฮ้ย!” เฉินป๋อตะโกนโวยวายเพราะทำโจวหยางอิงหลุดมือ อีกฝ่ายรีบวิ่งไปดูกู้หลินด้วยความร้อนรนใจ “เจ้า... รีบทำแผลก่อน” สีหน้าของโจวหยางอิงปิดไม่มิด “นิดหน่อยเอง เจ้ากังวลมากไปแล้ว ตอนเจ้าประลองกับเขาน่ะ ข้าหัวใจจะวายอยู่เรื่อย เลือดของเจ้าน่ะไหลจนข้าคิดว่าเป็นน้ำป่าไหลหลากเสียอีก” กู้หลินได้ทีระบายความในใจเวลาที่เห็นทั้งคู่ประลองดาบกัน ทั้งเป็นห่วง ทั้งกังวล ทายาให้โจวหยางอิงเสร็จก็เอายาไปให้ตงฟางฮุ่ยหลิงอยากจะช่วยทำแผล แม้อีกฝ่ายจะปฏิเสธไม่ออกมาให้เห็นหน้าก็ตาม หลังจากนั้น โจวหยางอิงจึงพากู้หลินไปทำแผล สายตามองไปที่คู่กรณีอย่างไม่วางตา คิดในใจว่าครั้งหน้าจะขอประลองแล้วสั่งสอนเสียให้หลาบ “ข้ารู้นะว่าเจ้าคิดอะไร” กู้หลินดักทางเอาไว้ก่อน “ข้าฝึกองครักษ์นี่นา เรื่องแค่นี้เล็กน้อย เจ้าคงยังไม่ลืมใช่หรือไม่ว่าข้าเจอเรื่องอื่นมาหนักหนากว่านี้มาก” “เวลานี้มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเป็นอะไรไปอีกแล้วกู้หลิน” โจวหยางอิงมักจะพูดความในใจของตัวเองออกมาตรง ๆ เช่นนี้ทุกครั้ง มีหรือกู้หลินจะไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับตนเอง ทว่า หัวใจดวงน้อยมีพื้นที่ว่างให้ได้แค่คนเดียวแม้ต้องใช้เวลารอคอยอีกแสนนานก็ตาม เขาจึงได้แต่พูดเปลี่ยนเรื่องไปทุกครา “ภรรยาเจ้าคงจะเป็นคนที่โชคดีมาก ๆ ที่ได้เจ้าเป็นคู่ครอง ทั้งดูแลดี เอาใจใส่ ไหนจะเก่งกาจ หน้าตาหล่อเหลาแถมร่ำรวยเงินทอง” “ข้าก็รอคนผู้นั้นมองข้าบ้างเหมือนกัน ไม่ว่าจะเงินทอง อำนาจ แผ่นดินหรือบัลลังก์ ข้าจะหามาประเคนให้ทุกอย่าง” เขากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง พูดออกไปอย่างที่คิดจริง ๆ และคน ๆ นั้นที่เขารอก็อยู่ตรงหน้านี้เอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD