bc

ยามบุปผาหวนคืน เล่ม 2 (เล่มจบ) (วายจีนโบราณ)

book_age12+
23
FOLLOW
1K
READ
HE
friends to lovers
heir/heiress
drama
sweet
lighthearted
secrets
like
intro-logo
Blurb

เรื่องย่อ

หลังจากสร้างเรื่องในบุปผาเดียวดายจนเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปคนละทางกับต้นฉบับแล้ว กู้หลินก็ถูกดีดออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่แทนที่จะได้กลับบ้านดันมาโผล่อยู่ในนิยายเรื่องวิหคไร้ใจ งานนี้ถูกใจเจ้าตัวเป็นอย่างยิ่งเพราะได้กลับมาพบตงฟางฮุ่ยหลิง คนรักของตัวเองซึ่งเป็นพระรองในนิยายเรื่องนี้

ทว่า ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันกลับถูกรีเซ็ตใหม่ ความรักไม่หลงเหลือเพราะผลกระทบจากการแก้บัค แถมพระรองต้นฉบับยังไม่มองใครนอกจากนายเอกของเรื่อง ปฏิบัติการชิงพื้นที่หัวใจคืนมาจึงได้เริ่มต้นขึ้น

เขียนโดย : MACARONI

ภาพปก : Jinori-NJ

จัดอาร์ตชื่อเรื่อง : Alin Design

สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามมิให้คัดลอกเนื้อหา ดัดแปลง แก้ไข ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ด้วยรูปแบบและวิธีการอื่นใดก่อนได้รับอนุญาต

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 วิหคไร้ใจ
สายลมเย็นพัดมาเอื่อย ๆ พร้อมกับกลิ่นดอกไม้นานาชนิดในฤดูใบไม้ผลิทำให้คนที่หลับใหลอยู่เพียงลำพังนึกฝันไปว่ากำลังนอนเล่นอยู่ในทุ่งดอกไม้อันแสนกว้างใหญ่ที่ไหนสักแห่ง ดวงอาทิตย์กลมโตโผล่พ้นจากกลุ่มก้อนเมฆบางบนท้องฟ้า ลอยเคลื่อนจนแสงแดดส่องลงมายังพื้นดินเบื้องล่าง ฝากซ้ายได้ยินเสียงน้ำในลำธารไหลรินอยู่ไม่ไกล กู้หลินยักยิ้มมุมปากเพราะรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวสงบเงียบ สุดท้ายแล้วก็ได้กลับบ้านสักทีสินะ เขาคิดในใจพลางลืมตามองดูรอบข้าง พลันต้องคิดทบทวนใหม่ บ้านที่ไหนกันล่ะ นี่ข้าทะลุเข้ามาในนิยายเรื่องไหนอีกแล้ว เวลานี้กู้หลินนอนอยู่ที่พื้นหญ้าบนเนินเขาลูกหนึ่ง ภาพเบื้องหน้าคือภูเขาสูงชันเรียงราย ก้อนเมฆน้อยลอยต่ำแทบปกคลุมยอดเขา ใจกลางคล้ายกับเมืองโบราณในยุครุ่งเรือง ด้านนอกมีหมู่บ้านรายล้อมเต็มไปหมดไล่ระดับชั้นตามแนวพื้นดิน ดูจากที่ไกล ๆ ย่อมรู้แล้วว่าไม่ใช่โลกความจริงที่เขาจากมาอย่างแน่นอน เขาจึงตัดสินใจรีบวิ่งลงจากเขาเพื่อไปดูลาดเลาในเมืองด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้มาที่แห่งนี้แทนบ้านของตัวเอง หลังจากเร่งความเร็วฝีเท้าเพิ่มขึ้น ไม่นานนักกู้หลินจึงมาถึงเมืองโบราณที่มองเห็นตอนอยู่ไกลลิบ ผู้คนคลาคล่ำเดินเล่นขวักไขว่ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สายตาของกู้หลินมองดูพวกเขาเหล่านั้นอย่างพินิจพิจารณา รู้สึกเหมือนกับเคยเห็นมาก่อนเพียงแต่ความทรงจำที่มีอยู่นั้นเลือนรางเต็มที ปกติแล้วความจำของกู้หลินมักจะอยู่ไม่นานนักหรือจะเรียกว่าความจำสั้นก็ไม่ปาน ยกเว้นเรื่องที่อยากจดจำ เรื่องอื่นมักผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป ยิ่งใช้ชีวิตเป็นไป๋อวี่มานมนานหลายปียิ่งทำให้ความทรงจำอื่น ๆ เจือจางลงไปมากโข หญิงสาวในเมืองนี้แต่งแต้มสีชาดรูปกลีบดอกไม้ตรงกลางหน้าผาก ถักเปียเส้นเล็กประดับผมยาวสยาย ส่วนสตรีที่จูงมือเด็กน้อยอยู่ข้างหน้ากู้หลินกลับมวยผมแล้วปักปิ่นห้อยเครื่องเงินระย้า ไม่มีสีชาดแต้มบนใบหน้า คุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน กู้หลินคิดในใจ บุรุษสวมต่างหูพู่หรือไม่ก็ต่างหูเงิน บางคนใส่ข้างเดียว บางคนใส่สองข้าง เขาบรรยายลักษณะที่เห็นเผื่อจะนึกอะไรออกบ้างแล้วเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายเครื่องประดับจึงได้ส่องกระจกพลันดวงตาเบิกโต กู้หลินหรือ ข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยใบหน้าของตัวเองอย่างนั้นหรือ เขาตะโกนก้องในใจด้วยความตื่นเต้น หันซ้ายหันขวาส่องดูตัวเองอีกรอบเพราะไม่ได้เห็นใบหน้านี้มานานแล้ว กู้หลินผู้มีดวงตาสีดำ เรือนผมสีดำมัดเกล้าครึ่งศีรษะกับผ้าผูกผมสีน้ำเงิน หูข้างขวาสวมพู่ห้อยเล็ก ๆ ร่างสูงบางสวมชุดสีดำแถบเทา ใบหน้าดูสะอาดสะอ้านดึงดูดสายตาของหญิงสาวที่เดินผ่านไปมา “พี่ชายท่านนี้ มองหาสิ่งใดอยู่หรือ” สตรีนางหนึ่งถามขึ้นพลางขยิบตาแล้วยิ้มเขินอายยามพูดกับเขา สีหน้าของกู้หลินนึกสับสนเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบนางออกไปเช่นไรด้วยเห็นว่าท่าทางที่นางแสดงออกมาชัดเจนยิ่งนักว่าต้องการพูดคุยกับเขามากกว่าถามไถ่ประโยคเดียว คล้ายกับว่านางจะรู้ได้ในทันทีว่าเขาอ้ำอึ้งลังเลใจ จึงจับชายเสื้อของกู้หลินเอ่ยถามอีกครั้ง “พี่ชายมาจากเมืองอื่นหรือ ข้าพอจะช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่” “ข้าไม่รบกวนดีกว่า” เขาบอกปัดแล้วยิ้มให้นาง แต่สตรีนางนั้นคงจะดื้อดึงไม่ใช่น้อยจึงไม่ยอมปล่อยเขาไปแต่โดยดี “พี่ชาย ท่านพูดน้อยจริงเชียว ข้าจะไม่อ้อมค้อมก็แล้วกัน” สีหน้าของนางจริงจังยามที่ต้องการโน้มน้าวใจเขา “ข้าถูกใจท่านมาก สนใจแต่งงานกับข้าหรือไม่” อะไรนะ กู้หลินตะลึงงัน ไม่นึกว่านางจะใจกล้าขอเขาเช่นนี้ท่ามกลางผู้คนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมา ยิ่งเป็นสตรีสูงศักดิ์ยิ่งแล้วใหญ่ “ท่านยังไม่ได้แต่งงาน ส่วนบ้านข้าก็ร่ำรวย รูปร่างหน้าตานั้น... อืม...เราสองคนเหมาะสมยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกเสียอีก” นางไม่ย่อท้อบรรยายสรรพคุณอื่น ๆ เพิ่มเติม “แม่นางรู้ได้อย่างไรว่าข้ายังไม่แต่งงาน” เขานึกสงสัยแล้วมองบ่าวรับใช้ที่ยืนถือของอยู่ด้านหลังสตรีร่างเล็ก พวกนางกระซิบกระซาบปิดปากยิ้ม “โธ่ พี่ชายคงจะลืมไปแล้วใช่หรือไม่ ท่านสวมต่างหู นั่นมิใช่การประกาศให้ผู้อื่นรู้หรือว่า ท่านยังไม่แต่งงาน” นิ้วเรียวยาวของนางเอื้อมมาแตะที่ต่างหูพู่เล็ก ๆ ของกู้หลิน เขาเพิ่งจะได้สังเกตว่าหน้าผากของนางแต้มสีชาดอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อเป็นการให้นางได้ตัดใจจากเขาจึงบอกไปตามตรงว่า “ข้าต้องขออภัย แต่ว่าข้ามีคนที่คบหาดูใจอยู่แล้ว” “แล้วเหตุใดถึงยังสวมต่างหูพู่อยู่เล่า อย่าปฏิเสธให้ยากเลย” นางยักคิ้วให้บ่าวรับใช้ผู้ชายสองคนที่ติดตามมาจับตัวของกู้หลินเอาไว้ “เชิญท่านไปพบท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าเจ้าค่ะ” เอ่อ... สตรีบ้านเมืองนี้มีธรรมเนียมเช่นนี้หรือ กู้หลินอุทานในใจ อีกทั้งบ่าวชายสองคนยังร่างกายกำยำราวกับยักษ์ก็มิปาน ยกตัวเข้าขึ้นทีหนึ่งก็เท้าลอยจากพื้นแล้ว เขาสู้แรงไม่ได้แม้แต่น้อย หันซ้ายหันขวา ข้าจะทำอย่างไรดีเล่า “ช้าก่อน ๆ ข้าคงจะอธิบายแม่นางได้ไม่ถูกต้องนัก” เขาเว้นจังหวะครู่หนึ่ง แล้วบอกสตรีนางนั้นว่า “ข้าชอบบุรุษ” กู้หลินนึกว่าบอกไปเช่นนี้แล้วนางจะยอมถอยให้ ทว่าดูจากสีหน้าท่าทางและรอยยิ้มกว้างของคนตรงหน้าแล้ว กลับพบว่าไม่สะเทือนเลยสักนิด “พี่ชายช่างอารมณ์ขัน ข้าถูกใจยิ่งนัก” เสียงหัวเราะคิกคักทำให้เขาถอนหายใจ พยายามยืดเท้าสองข้างลงมาแตะพื้นดินข้างล่าง ขณะกำลังคิดหาทางหนีจาก มือข้างหนึ่งของใครบางคนยื่นเข้ามาเพื่อดึงตัวเขาออกไป “เขาไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าชมชอบบุรุษ” น้ำเสียงขี้เล่นอารมณ์ดีของคนที่ยืนจับมือกู้หลินอยู่เอ่ยกับสตรีนางนั้น “โจวหยางอิง อย่ามายุ่งเรื่องของข้าได้หรือไม่” นางไม่พอใจที่จู่ ๆ กู้หลินถูกเขาคว้าตัวไป “เจ้ามีคนให้คบหามากมาย แต่พี่ชายผู้นี้ ข้าจริงจัง” “เฮอะ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย” ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไหน ๆ ก็ได้พบหน้ากันแล้ว ข้าขอแนะนำให้รู้จักคู่หมั้นของข้า” เขาไม่พูดเปล่าแต่โอบกอดตัวกู้หลินเข้ามาหาแล้วหอมแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่ด้วยสีหน้าเบิกบานใจ มือข้างหนึ่งของกู้หลินกำลังจะเอื้อมมาดึงผมของโจวหยางอิง แต่ถูกอีกฝ่ายรู้ทันเสียก่อนจึงจับมือข้างนั้นของกู้หลินเอาไว้ จุมพิตอีกครั้งหนึ่งแล้วกระซิบเบา ๆ ว่า “ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่นะ สตรีตรงหน้าเจ้าน่ะ หากได้พบหน้าบิดาของนางเมื่อใด เจ้าต้องแต่งงานแล้วห้ามหย่าตลอดชีวิตเลยนะ” สายตาของกู้หลินมองคนที่พูดด้วยท่าทีไม่ไว้วางใจ แต่ดู ๆ แล้วคงจะหนีรอดได้ง่ายกว่าตอนอยู่กับบ่าวชายร่างใหญ่ของสตรีตรงหน้าจึงยอมนิ่งเงียบ “เจ้าอย่ามาโกหกพกลม ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่องนั้น” นางถามโจวหยางอิงเสียงดัง พลางหันหน้าไปมองบ่าวของตนถามข่าวคราวที่เล่าลือในช่วงนี้ “คนรักของข้า ไม่ชอบป่าวประกาศให้เป็นเรื่องใหญ่ วันนี้เจ้าได้รู้แล้วก็เลิกมายุ่งกับเขาเสียที มิเช่นนั้น อย่าหาว่าข้าไม่เตือน” จากน้ำเสียงสบาย ๆ กลายเป็นว่าตอนท้ายดูเย็นยะเยือกราวกับคนละคน จนทำให้สตรีผู้นั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่ “รู้แล้ว” นางพึมพำไม่พอใจแล้วเดินกระทืบเท้าหนีหน้าไปคนละทาง คล้อยหลังกลุ่มคนเหล่านั้น กู้หลินเอาศอกกระทุ้งร่างสูงที่ยืนกอดเขาไม่ปล่อย “ขอบคุณที่ช่วยเหลือ ข้าขอตัว” แล้วทำท่าจะเดินหนีทันทีแต่ถูกคนผู้นั้นมาขวางทางเอาไว้ “ข้าเต็มใจ ว่าแต่เจ้าชื่อแซ่อะไรหรือ” เขาเอียงคอรอคำตอบ สีหน้าทะเล้น ดูเป็นคุณชายเจ้าสำราญจากตระกูลขุนนางผู้ร่ำรวย คนตรงหน้าเขามีดวงตาและผมสีดำที่เกล้าไว้ครึ่งหัวขับผิวที่ขาวผ่อง ราวกับชีวิตนี้ไม่เคยตากแดดที่ใดมาก่อน ไหนจะกวานสีเงินและต่างหูเครื่องเงินที่ห้อยอยู่ตรงหูสองข้าง นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาดูแตกต่างจากชายหนุ่มชาวบ้านทั่วไป “ข้ามีนามว่ากู้หลิน” เขาตอบสั้น ๆ คิดจะเดินหนีอีกรอบ “โจวหยางอิง ยินดีที่ได้รู้จัก” เขาเอ่ยปาก รอยยิ้มกว้างบ่งบอกว่ายินดีอย่างมากที่ได้รู้จักคนตรงหน้า “ในที่สุดก็เจอเจ้า กู้หลิน”

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook