..ทางด้านสปาย..
ผมได้ยินชัดเจนทุกคำ เพราะน้องสาวตัวดีของผมมันป่าวประกาศลั่นโรงอาหาร ดีนะที่คนไม่ค่อยเยอะ แต่ก็นั่นแหละครับ ผมว่ายังไงไอ้เพจบ้าๆนั่นมันเอาไปลงอีกแน่
ผมได้แต่ยืนกำหมัดแน่น แล้วเดินไปหาน้องสาวตัวดี ที่บอกกี่ทีก็ไม่เคยฟังว่าไอ้นนท์มันไม่เคยรักไม่เคยชอบ
"สปอยมานี่เลยเป็นไงงามหน้ามั๊ยไปบอกรักผู้ชาย แล้วเป็นไงมันเคยเห็นหัวแกบ้างมั๊ยกี่ปีแล้วที่แกตามตื๊อมันห๊ะ"
ผมตะคอกน้องออกไปสุดเสียงด้วยความลืมตัว ทั้งที่รู้ว่าน้องเสียใจอยู่แต่มันอดไม่ได้เพราะผู้ชายที่เธอชอบดันเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับผมน่ะสิ
"ใช่สิคนอย่างพี่มันไม่เคยรักใครจะไปรู้อะไรล่ะ สักวันนึงเถอะถ้าพี่เกิดรักใครจริงขึ้นมา แล้วเขาปฏิเสธพี่แบบที่หนูโดน แล้วพี่จะเข้าใจความรู้สึกของหนูเอง" พูดจบเธอก็วิ่งออกไปจากตรงนั้น..
"สปอยๆ กลับมานี่นะ โธ่โว้ยยย...ทำไมต้องเป็นมึง เป็นมึงอีแล้ว"
"มึงใจเย็นดิวะ น้องมันเสียใจอยู่มึงควรปลอบไม่ใช่ซ้ำเติมไหมอีกอย่างเรื่องความรักมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ" เสียงของโปเต้
"ความรักห่าเหวอะไร กูว่ามันไร้สาระการเรียนก็แย่พอละยังจะมามีเรื่องผู้ชายอีกงามจริงน้องกู" สปายบ่นพึมพำ
"เอาน่ามึงก็ให้เวลาน้องมันหน่อย คงเหมือนที่น้องมึงพูดแหละถ้าวันใดมึงเกิดรู้สึกรักใครขึ้นมาจริงๆ มึงจะรู้เองว่าความรักมันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลยสักนิดที่มึงกินไปทั่วเพราะมึงยังไม่เจอคนที่ใช่ไง" เสียงของโปเต้
"เห้ยย..วันนี้มึงมีสาระจังวะไอ้ปีกาจู" เป็นเสียงของบีกันต์
"กูชื่อโปเต้ครับ ไอ้บีเกิ้ล" โปเต้ตอบกลับอย่างเซ็งๆที่มันชอบล้อชื่อเล่น
"กูก็ชื่อ บีกันต์ครับ บีเกิ้ลนั่นมันหมามั๊ย"
"อ้าวกูคิดว่ามึงเป็นหมา เห็นว่างไม่ได้ติดสัตว์ตลอด"
"ไอ้สันขวานนน" ทั้งสองปะทะฝีปากกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร
"กูถามจริงปีนี้พวกมึงอายุเท่าไหร่กันแล้ว" เสียงซีดี
"ยี่สิบสองแล้ว ทั้งสองตอบพร้อมกัน"
"ก็ยังดีที่พวกมึงจำอายุของตัวเองได้ กูคิดว่าสองขวบซะอีกเห็นชอบเถียงกันเป็นเด็กๆ "
"ไปเหอะขึ้นเรียนกัน คืนนี้ไปตื๊ดกันหน่อยมั๊ยวะ"
"ไป" ทั้งสามประสานเสียงตอบกลับสปายด้วยความพร้อมเพรียง
....................
เอาจริงๆ ฉันได้ยินนะที่ยัยสเปิร์มมันบอกชอบพี่นนท์ต่อหน้าคนทั้งโรงอาหาร แล้วก็หน้าแตกไปตามระเบียบแต่ตอนที่เขาตอบยัย สเปิร์มทำไมต้องมองมาทางฉันด้วยนะเหมือนจะบอกว่าที่พูดมาเป็นความจริง แล้วเขาจะบอกฉันทำไมกัน..
ติ้งไลน์..เสียงไลน์ดังขึ้นฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
แด๊ด : วันนี้พ่อนัดลุงชลที่ผับจะคุยเรื่องงานเลี้ยงประจำปีกัน เดี๋ยวหนูมากับพี่นนท์เลยนะ
ลูกสาว : พ่อคะหนูไปเองก็ได้หนูโตแล้วค่ะ
แด๊ด : อย่าดื้อ ตามนี้แหละ
ลูกสาว : ส่งสติ๊กเกอร์ไฟกลับไป
แด๊ด : ส่งสติ๊กเกอร์ ยิ้มหวานกลับมา
ลูกสาว : ส่งสติ๊กเกอร์นวม..มวย
แด๊ด : 5555 ชวนเพื่อนๆ มาด้วย เพราะว่าพ่อจะให้ชวนมางานเราด้วยอยู่แล้ว..
ลูกสาว : สติ๊กเกอร์นั่งเคาะโต๊ะ
แด๊ด : สติ๊เกอร์รูปหัวใจส่งจูบ
ฉันนี่ร้องกรี๊ดเลยยลืมตัวว่าไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะโดนขัดใจ
"เป็นไรยัยวี่ ทำหน้าเหมือนอยากจะไปออกรบ" เป็นเสียงของข้าวตังที่นั่งไกล้ที่สุด
"เปล๊าาา"
"มีพิรุธสุดๆ เลยนะยะ บอกมา" นางทำหน้าแบบอยากรู้สุดๆ ขนมจีนไง
"ก็คุณพ่อนะสิให้ฉันไปผับกับพี่นนท์ แล้วให้ชวนพวกแกไปด้วย"
"ว๊าย..ตอบตกลงให้ไวเลยค่ะเพื่อนสาวเออว่าแต่พ่อแกรู้จักพี่นนท์ด้วยหรอ" เป็นเสียงของน้ำเงี๊ยวไงจะใครล่ะ
"เออนั่นดิ แกไปรู้จักพี่นนท์ตอนไหน" เสียงขนมจีน
"สรุปฉันต้องเล่าให้พวกแกฟังใช่ไหม"
"ใช่ " ทั้งสามประสานเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน....
เล่ามาให้หมดห้ามกั๊ก แต่ถ้าคิด จะพักคิดถึงที่นอนนนะยู..คิคิ เป็นเสียงของขนมจีน
"เฮ่ออ..คืองี้นะ ซุบซิบ ซุบซิบ@#$%&"
"โห้ !! พรมลิขิตชัดๆ วี่เอ้ยแกทำบุญด้วยอะไรเนี่ยยยฉันละอยากจะกรี๊ดดังๆ..."
อ้าย...อุบบนางทำท่าจะกรี๊ดจริงๆน่ะสิ ฉันเลยเอามืออุดปากนางเอาไว้ได้ทัน ตอนนี้หมดคาบเรียนแล้วแต่เรามานั่งรวมตัวกันอยู่ ณ.ที่ประจำอันเป็นที่พักพิงของพวกเราค่าา
"ยัยบ้าแกจะกรี๊ดทำไมนังเงี้ยว"
"อู้อี้..อืออ..ออกก็ฉันจะโว้ยยย..เอามือออกเลยยัยหวี่ มือแกไปทำไรมาเนี่ย"
"อ๋อฉันไปเข้าห้องน้ำมาแล้วลืมล้างมือ"
"อี๋ยัยบ้าาาแล้วแกเอามาอุดปากฉันเนี่ยนะ แหวะๆ อุ๊บว่าละเค็มแปลกๆ "
"เว่อร์ให้น้อยๆ หน่อยแกนังเงี้ยวเล่น ใหญ่ปานรัชฎาลัยเธียเตอร์ไม่มี สปอนเซอร์จ่ายหรอกนะจ๊ะหึหึ..
"เออดูละเล่นใหญ่พอๆกันทั้งคู่ล่ะ" เป็นเสียงยัยแม่ชีประจำกลุ่ม
"แล้วสรุปแว่"
" ว่าาา " ทั้งสามประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมายเมื่อนังเงี้ยวยังไม่เลิกเล่น...
"แหมขำๆ ไหมวะพวกแกนี่จริงจังกันไปได้ สรุปไปนะไปพวกแกกลับกัน"
"ฉันจะไปจิกชุดสวยๆ ค่าาพ่อเพื่อนแสนดีขนาดนี้ต้องให้เกลียดสุดๆ"
"เกียรติค่ะเกียรติ ไม่ใช่เกลียด" เป็นเสียงขนมจีน
"เออ..ฉันพูดไม่ชัดนิดเดียวทำเป็นแย้งชิ" หล่อนทำปากยู่ใส่เพื่อนๆ
"ว้ายยย..พูดถึงไม่ทันไรว่าที่สามีของหล่อนก็เดินมาโน่นละอารมณ์เหมือนแบบเจ้าชายมารับเจ้าหญิง..โอ้ยยฉันล่ะฟินนนเลยค่าชีวิตแกล่ะมันน่าอิจฉาจริงๆนังวี่เอ้ย"
"แล้วดูแต่ละคนเดินมามาดอย่างกะบอยแบน ฉันละอยากเป็นแขนของเขาจัง" พูดจบก็ทำท่าเพ้อฝัน
"แขนอะไรล่ะนังเงี้ยว"
"ก็แขนเป็นฟอ ขอเป็นแฟนไงล่ะนังจีน"
" โห่ห่ห่ "
.เมื่อเงี้ยวพูดจบก็ได้รับเสียงโห่มาเป็นรางวัลปลอบจิตปลอบใจ
"เรื่องเพ้อเจ้อขอให้บอก ยัยลูกรอกถนัดนักแล"
"พูดใส่ตัวเองก็ได้วุ้ยย.."เป็นเสียงขนมจีน
"สาธุๆๆๆๆ..งวดนี้เลขอะไรคะเจ้าแม่ลูกกรอก.."
"เหอะๆๆ..เงี้ยวนั่งสั่นประดุจดังเจ้าแม่มาประทับร่าง..สะ..สอง..สะ..ศูนย์..โว้ยยยฉันไม่ใช่ลูกกรอก แต่ถ้าหวยออกก็อย่าลืมน้ำแดงด้วยละกัน"
"ฮ่าๆๆ..กลุ่มน้องเนี่ยฮานะครับ" เป็นเสียงของลีโอสายรั่วประจำกลุ่ม..
"โอ๊ะโออ..คือพี่ๆ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ คือมันไม่ใช่อย่างที่เห็นเลยนะคะคุณพี่สุดหล่อขา.. คือจริงๆ หนูเป็นคนเรียบร้อย กริยาชดช้อยมากๆ ค่ะ..
"ไม่ทันแล้ววว" ทั้งหมดประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมายอีกครั้ง..
"อุ้ยยย..แหะๆ เขิลลจุงงงง"
"พี่นนท์มารับวีวี่หรอคะ"ข้าวตังถาม
"ครับบ"
"เฮ่อออ..วี่ไปเองได้ค่ะไม่รบกวนพี่หรอก ถ้าพี่มาเพราะคำสะ" ฉันพูดยังไม่ทันจบพี่นนท์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"พี่มาด้วยใจครับ"
"วี๊ดดดดวิ้วววี๊ดดดวิ้วว..เอาละโว้ยหินของมหาลัยมันกำลังจะจีบสาววะ" เป็นเสียงของบาส
"กรี๊ดดดดๆๆ...เพื่อนวี่จะลงจากคานแล้วโว้ยยย"
ฉันนี่อิ้งไปเลยค่ะกับคำตอบของเขานี่พูดได้หลายคำด้วยนะคิดว่าพูดเป็นคำเดียวซะอีก เป็นบุญหูของฉันหรือเปล่าเนี่ยย..ฉันได้แต่คิดในใจ
"เฮ้ยๆๆ ไอ้นนท์มันพูดได้มากกว่าหนึ่งคำแล้วโว้ยยย" เป็นเสียงของบอล
"พระอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันตก ฝูงวิหกจะแตกรังแน่หนักหนา จากกลางคืนเป็นกลางวันเนิ่นนานมา ทั่วธาราปลาน้อยใหญ่ไม่หวนคืน" เป็นเสียงของลีโอ
"เป็นไปแล้วบักฝรั่งโอ้มายกอด ไอ้เพื่อนยอดสำนักกลอนแห่งวังหลวง โอ้ยอดรักแห่งตำหนักสะท้านทรวง ไร้คู่ควงช่างน่าขันเสียงจริงเอยย"
"ปรบมือดิครับรออะไร"เป็นเสียงของบอลอีกแหละ และทุกคนก็ปรบมือตาม
"โห..กูคิดว่าสุนทรภู่มาเองเลยนะ ว่าแต่มึงแต่งกลอนเป็นหรอว๊ะไอ้ลีโอ"
"อืมกูชอบอ่านประวัติของสุนทรภู่"..
เยสสสสเข้ อาปาเดเฮเดเฮเดเฮ"
"หยุดกันก่อนนะคะพวกพี่ๆ ว่าแต่พวกหนูตลก นี่พวกพี่เล่นพกกลอนแปดมาว่าพี่มีแต่กลอนหรอคะแล้วประตูมียังเอ่ยย เป็นเสียงของขนมจีน
"นี่เราสนิทกันขนาดนั้นเลยหรอครับ" เป็นเสียงของบาสคราวนี้ทุกคนเงียบกริบเหมือนไม่มีใครอยู่ณ.ที่แห่งนี้เลยเพราะบาสทำหน้านิ่งๆ เหมือนจริงจังแต่แล้วเจ้าตัวก็พูดต่อ
"พี่ล้อเล่นครับ"
"เฮ่อออ.."
ทุกคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"มัวแต่เล่นไร้สาระเสียเวลา" เสียงของชานนท์พูดจบก็เดินไปคว้าแขนของคนตัวเล็กให้เดินตามตนเองไปที่รถต่อหน้าต่อตาของทุกคน ที่ยังดูอิ้งๆ กับคำพูดของเพื่อนของตัวเองที่พูดเป็นประโยคยาวๆ ได้
"อะเอ่อ..พวกพี่ๆจะไปผับกันมั๊ยคะ พวกเราตามไปกัน" เป็นเสียงของขนมจีน
"ไปสิครับ"
"ไปค่ะงั้นแยกย้ายเจอกันที่ผับ" แล้วทั้งหมดก็สลายตัวกันไป..