คุณหมอธันวา

1387 Words
-เช้าของวันใหม่- น้ำอุ่นจากฝักบัวที่ไหลลงมารดร่างแกร่งกำยำมีซิกแพคเป็นร่องๆของชายหนุ่มอายุสามสิบสี่ปี บนตัวของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยฟองนุ่มของสบู่ที่ฟอกอยู่เต็มกาย พร้อมกับมือแกร่งแต่เรียวสวยดั่งสตรีของเขาลูบไล้ตามฟองสบู่ไปทั่วเรือนร่าง เขาหลับตาพริ้มอย่างผ่อนคลายสบายตัว ผ่านไปประมานเกือบชั่วโมงกับการใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำกับเช้าของวันใหม่ เขาก้าวออกมาพร้อมกับเปิดตู้เสื้อผ้าที่ถูกแขวนไว้อย่างดีเป็นระเบียบไล่ตามระดับของเฉดสี สีโปรดของเขาคือสีขาว เขาเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกับเกงเกงขากระบอกเล็กสีขาวเหมือนกันถูกสวมทับลงไปบนร่างแกร่งบดบังรูปร่างกำยำเอาไว้ภายใต้อาภรณ์ นาฬิกาสวยหรูราคาแพงถูกหยิบออกมาจากกล่องในลิ้นชักที่ใช้สำหรับเก็บนาฬิกาโดยเฉพาะ ทรงผมถูกเซทไว้อย่างดีทุกอย่างของเขาดูเป็นระเบียบและเรียบร้อยไปหมดดั่งถูกจับวางเอาไว้หมดแล้ว เพราะความเนี๊ยบมาทั้งแต่เกิดจึงทำให้อายุของเขาที่ย่างเข้าสู่วัยสามสิบสี่ปีตอนนี้ยังคงโสด หลังจากผู้หญิงที่เขาแอบรักได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว หลังจากนั้นหมอธันวาก็ปิดตายหัวใจของตัวเองทันทีและคิดว่าชาตินี้เขาคงไม่คิดจะมองใครอีกและไม่คิดจะเจอผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกแบบมินดาอีกแล้ว ร่างสูงโปร่งยืนกอดอกมองทอดสายตาออกไปข้างนอกกระจกจากตึกสูงของคอนโดหรูที่เขาพักอาศัยอยู่ในชั้นที่สามสิบ ในมือนั้นถือแก้วกาแฟมาจิบ ในสมองกำลังประมวลไตร่ตรองครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย ใบหน้าหล่อนั้นถึงจะมีกรอบแว่นตาทรงกลมสไตล์วินเทจประดับอยู่ ก็ไม่ได้ช่วยปิดบังความหล่อตี๋ราวกับว่าเป็นพระเอกที่หลุดออกมาจากซีรีส์จีนหรือเกาหลีก็ไม่ปาน ตาชั้นเดียวแต่คมกริบดั่งเหยี่ยว จมูกโด่งรับกับปากหยักอวบอิ่มผิวที่ขาวผ่องดูสะอาดสะอ้านยิ่งสวมชุดสีขาวเข้าไปอีกยิ่งขับผิวของเขาให้ขาวผ่องดูออร่าโดดเด่นไม่ต่างกับดาราในจอของทีวีเลยแม้แต่นิด กริ๊งๆๆ! เสียงที่ดังขึ้นจากมือถือราคาแพงยี่ห้อดังทำให้เขาตื่นจากภวังค์ "สวัสดีครับแม่ มีอะไรครับ?" ปลายสายคือคุณญาดาผู้เป็นมารดาของหมอธันวานั้นเอง "เย็นนี้กลับมากินข้าวที่บ้านนะ เพื่อนของแม่มาหาอยากจะเจอลูกด้วย" "ถ้าไม่ติดอะไรผมจะไปนะครับ" ตอบแบบตั้งใจอยู่แล้วว่าจะไม่ไป "ไม่ได้ลูกต้องมาเท่านั้น อย่าทำให้ผู้ใหญ่ต้องเสียหน้า" หมอธันวาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตอบออกไป "ครับๆ ก็ได้ครับ" หมอธันวาวางสายโทรศัพท์ลงและถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง เพราะกลับบ้านไปตามนัดทีไรก็โดนผู้เป็นมารดาของเขาพาคู่หรือลูกสาวของเพื่อนมาให้เขาเลือกทุกครั้งไป จนเขาหาเรื่องแยกออกมาอยู่คอนโดแล้วก็ยังไม่วายที่จะโดนท่านโทรตามทุกที หมอธันวา วัชรโชติ เป็นบุตรชายลำดับที่สองของตระกูลวัชรโชติ เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่เขาไม่ได้ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล ผู้เป็นพี่ชายของเขาเลยรับตำแหน่งผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแทนผู้เป็นบิดาของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว หมอนพคุณพี่ชายของเขาแต่งงานมีลูกแล้วหนึ่งคน เลยเหลือเพียงเขาที่ยังคงโสดและผู้เป็นมารดาก็วุ่นวายกับการจับคู่ให้เขาเหลือเกิน ใจของเขายังคงมีเพียงมินดาหญิงสาวที่เขารักทั้งแต่เธอมีอายุแค่เพียงสิบแปดปี เธอเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขายิ้มได้และเธอคือความสุขและสดใสในชีวิตเขา  เพียงแต่ว่าตอนนี้มินดาแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วและดูเหมือนว่าครอบครัวของมินดาก็มีความสุขและราบรื่นไปได้ด้วยดี หมอธันวาเลยทำได้เพียงเฝ้ามองดูเธออยู่ห่างๆ และยินดีกับชีวิตของเธอที่กำลังจะมีความสุขดีอยู่ในตอนนี้ หมอธันวามีคลินิกเสริมความงามเป็นของตัวเองหลายสาขาในทั่วประเทศ จริงๆเขาไม่จำเป็นต้องลงไปทำเองแล้วเพราะตอนนี้เขามีหน้าที่แค่บริหารเท่านั้น ในคลินิกของเขานั้นจ้างหมอที่จบด้านนี้มาโดยเฉพาะมาทำหน้าที่ด้วยเงินเดือนที่แพงลิบ จึงไม่แปลกที่คลินิกของเขาจะมีหมอดีๆเก่งๆมากมาย ลูกค้าของเขาส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา ส่วนบางเคสที่เขารับทำเองจะต้องเป็นเคสที่ลูกค้าระบุมาเท่านั้นว่าต้องเป็นหมอธันวา เขาเลยต้องลงมือเองแต่ลูกค้าก็ต้องแลกกับการจ่ายเงินในราคาแพงลิบอยู่เหมือนกัน และในบางวันเขาก็ต้องลงไปซัพพอร์ตในสาขาที่ขาดหมออยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงครั้งคราวเท่านั้น ส่วนมากนักศึกษาที่เป็นลูกค้าของหมอธันวานั้นจะมากรี๊ดหมอธันวาเสียมากกว่าตั้งใจมาทำจริงๆ เพราะหมอธันวานั้นทั้งโสดทั้งหล่อและดังมากในแวดวงของการตกแต่งศัลยกรรม สาวๆเลยมาหยิบบัตรคิวกันมากมาย แต่ถึงจะคิวยาวเท่าไหร่หัวแถวก็ยังไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิด เพราะนอกจากเรื่องงานแล้วหมอธันวาแทบจะเป็นผู้ชายที่นิ่งและเย็นชาไร้อารมณ์เกี่ยวกับเรื่องรักใคร่มานานมากเพราะว่าเขาได้ปิดตายหัวใจไปนานแล้ว แต่ถึงกระนั้นยิ่งเป็นเสน่ห์ที่ท้าทายอย่างหนึ่งของสาวๆที่จะมาพิชิตหัวใจหมอธันวาให้ได้ ส่วนมากเขาจะใช้เวลาอยู่ในออฟฟิศส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ ถ้าไม่มีงานในคลินิกเขาแทบจะไม่ลงไปเท่าไหร่นักเพราะตัดปัญหาเรื่องที่มีสาวๆต่างๆตามมากรี๊ดกันให้วุ่นวาย โลกโซเชียลเดี๋ยวนี้มันก็น่ากลัวเหมือนกันยิ่งมีรูปของเขาที่โดนแอบถ่ายลงไปในโซเชียลเยอะเท่าไหร่ ความเป็นส่วนตัวของเขาก็หมดลงไปเท่านั้น ยิ่งเขาไม่ใช่เป็นบุคคนสาธารณะ บางครั้งเลยรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคามทางความเป็นส่วนตัว ตี๊ด!ตี๊ด! เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง "ครับพี่นพ" "เออ พี่จะโทรมาถามว่าเรื่องเย็นนี้แม่โทรหายัง?" "โทรแล้วครับ" "โดนพาไปขึ้นเขียงอีกใช่มั้ย?" "ฮ่าๆผมก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะครับพี่" "ไปให้แม่หน่อยเถอะ จริงๆไม่ต้องให้แม่ดูตัวก็ได้หล่อๆอย่างนายผู้หญิงรอคิวไม่หวาดไม่ไหว" "บางทีก็รำคาญมากครับ ผมไม่ได้อยากเกิดมาหล่อมากซะหน่อย" "หืม..อย่างนั้นหรอกเหรอ..พี่ว่าแกน่าจะลาออกจากหมอแล้วไปเดบิวต์ที่เกาหลีแทนน่าจะรุ่งนะ" "อายุอานามไม่น่าจะได้แล้วครับพี่นพฮ่าๆ" หมอธันวาหัวเราะออกมาเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ "เออๆยังไงก็ไปให้ได้ล่ะกัน แม่ให้โทรมาย้ำ" "ผมก็ว่าแล้ว..ได้ครับไปก็ไป" หมอธันวาวางสายจากหมอนพคุณผู้เป็นพี่ชาย เหมือนผู้เป็นมารดาจะรู้ดีว่าเขาเชื่อฟังผู้เป็นพี่ชายมากเลยให้พี่ของเขาโทรมาย้ำเรื่องนี้อีกที เขาส่ายศีรษะไปมาพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อยในความพยายามของผู้เป็นมารดาของเขา จริงๆแล้วแม่ของเขาไม่ได้รังเกียจว่าลูกสะไภ้ต้องเป็นคนแบบไหนยากดีมีจนอย่างไรแต่ที่พยายามอย่างหนักอาจจะเป็นเพราะกลัวเขาจะโสดตลอดชีวิตแล้วจะไม่มีทายาทน่าจะเป็นเรื่องนี้ซะมากกว่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD