นัดดูตัว

1442 Words
"อย่าทำหน้าบึ้งสิหนูวา" คุณนุชนารถผู้เป็นมารดาของวาทยาเอ่ยขึ้นมาในขณะที่นั่งอยู่ในรถเพื่อไปรับประทานอาหารบ้านของเพื่อนสนิทที่นัดกันไว้เย็นนี้ "ลูกไม่อยากมาคุณไม่น่าบังคับลูก" ผู้เป็นบิดากล่าวขึ้นด้วยความเห็นใจบุตรสาวคนเดียว "คุณภากรคะ เงียบๆไปเลยค่ะ มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ" ผู้เป็นสามีเงียบกริบไม่บอกก็พอจะเดาออกว่าครอบครัวนี้ใครใหญ่ที่สุด "หยุดค่ะ ทั้งคู่เลยวามาแล้วนี่ไงคะคุณแม่ อย่าว่าคุณพ่อเลย" วาทยาหญิงสาวอายุยี่สิบสองกำลังเรียนปริญญาตรีปีนี้ปีสุดท้ายและกำลังจะจบในไม่กี่วันนี้ "งั้นหนูก็ทำหน้าสวยๆหน่อยลูก เดี๋ยวเจอพี่เค้าจะได้ดูสวยๆ" "คุณแม่ไม่คิดหน่อยเหรอคะ ว่าเอาลูกสาวมาใส่พานให้เค้าถึงที่" "แต่บ้านนี้รวยมาก เหมาะสมกับลูกแม่ที่สุด" "บ้านเราก็ไม่จนนะคุณ ทำไมต้องมุ่งหาแต่คนรวยๆ" ผู้เป็นสามีอดที่จะพูดทักท้วงขึ้นมาอีกไม่ได้ถึงแม้จะโดนห้ามอย่างไรก็เถอะ "คุณไม่เข้าใจหรอกถ้าลูกไปคว้าคนไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาถึงตอนนั้นคุณจะเข้าใจ" ผู้เป็นสามีถอนหายใจออกมาพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ -ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงบนท้องถนน- รถเลี้ยวเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลวัชรโชติ คนขับรถมาจอดนิ่งหน้าประตูทางเข้าโดยมีหญิงสูงอายุหรือคุณญาดามารออยู่ก่อนแล้ว "สวัสดีค่ะคุณพี่" คุณนุชนารถทักทายรุ่นพี่สมัยเรียนของเธอทั้งคู่คบหากันมานมนานทั้งแต่วัยสาวจนถึงตอนนี้ที่ใบหน้าของทั้งสองเริ่มมีริ้วรอยนับว่านานมากทีเดียว "สวัสดีค่ะคุณน้อง ไม่เจอกันนานคิดถึงจังเลยค่ะ" คุณญาดาสวมกอดคุณนุชนารถหลวมๆทักทายกันตามมารยาท "สวัสดีค่ะคุณภากรเชิญข้างในกันค่ะ เจ้าธันวารออยู่แล้ว" "สวัสดีค่ะคุณป้า" วาทยายกมือไหว้บ้างเธอจำได้ว่าสมัยเด็กๆเธอเคยมาบ้านนี้บ่อยๆและเคยเล่นกับลูกชายของคุณป้าญาดาทั้งสองอยู่เสมอ "หนูวาโตเป็นสาวแล้ว มาป้ากอดหน่อย" วาทยายิ้มออกมาพร้อมสวมกอดหญิงสูงอายุอย่างถูกชะตาจำได้ว่าตอนเด็กๆท่านเอ็นดูเธอมากเพราะไม่มีลูกสาว "ไปกันจ่ะ เข้าไปข้างในกัน" ทั้งหมดเดินเข้ามาที่ห้องรับแขกห้องรับแขกสไตล์ลักชูรี่โทนสีน้ำตาลอ่อนดูหรูหราอลังการ ตอนนี้หมอธันวานั่งอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มลุกขึ้นต้อนรับทันทีที่แขกเดินมาถึง วาทยาที่ตอนนี้กวาดสายตาไปรอบๆบ้านอย่างคิดถึงสมัยวัยเด็กแต่ดูเหมือนข้างในจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเป็นทันสมัยมากขึ้น "สวัสดีครับคุณอาทั้งสอง" หมอธันวายกมือขึ้นไหว้แขกด้วยรอยยิ้มอย่างมีมารยาทถึงแม้ภายในใจจะไม่ค่อยอยากจะมาก็ตามแต่ แต่วาทยานั้นยืนหันหลังอยู่ไม่ทันที่จะหันมามอง "น้องวาคะ ไหว้พี่หมอธันวาสิ" วาทยาเอี้ยวตัวกลับมาที่ชายหนุ่มรูปหล่อ และยกมือขึ้นไหว้ ทว่าเมื่อตาประสานตาวาทยาถึงกับเบิกตาโพลงหน้าซีดเผือดแทบจะอยากดำดินหนี "คุณหมอ!" "เธอนั้นเอง!" "นี่รู้จักกันแล้วเหรอคะ" "อะ..เอ่อไม่ค่ะ ไม่ได้รู้จัก" วาทยาอึกอักทันทีเพราะว่าวันก่อนเธอไปพบคุณหมอธันวาที่คลินิกมาเพื่อจะทำหน้าอกแต่ว่าพอเขาจะตรวจวัดขนาดหน้าอกของเธอ เธอก็เกิดใจเซาะแล้ววิ่งออกมาจากคลินิกเลย หมอธันวารู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวสวยตรงหน้าที่จะไปทำหน้าอกกับเขาวันก่อนนั้นไม่อยากให้ครอบครัวรู้ "อ้อ!เอ่อครับ ผมคิดว่าผมน่าจะจำผิดคนครับ" วาทยาโล่งอกที่หมอธันวาไม่พูดอะไรออกมา "ไปที่ห้องรับประทานอาหารกันดีกว่านะคะทุกคน" คุณญาดาเดินนำทั้งหมดไป -1ชั่วโมงผ่านไปหลังรับประทานอาหารเสร็จ- "ธันวาพาน้องออกไปเดินเล่นสิจ้ะลูก" คุณญาดาสั่งบุตรชาย "ครับแม่" ธันวาหันไปมองยัยตัวแสบที่ทำเขาเสียเวลาในวันก่อน "ไปกันครับน้องวาทยา" "ค่ะ" วาทยาเดินตามร่างสูงโปร่งของหมอธันวาไป 'ดีเลย มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย' วาทยาพูดออกมาในใจเบาๆ หมอธันวาพาหญิงสาวมานั่งที่ศาลาข้างสระน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเป็นที่นั่งเล่นและพักผ่อนหย่อนใจ "คุณหมอคะ" "ว่าไงครับ" เสียงเย็นเชียบของเขาตอบกลับมา "เรื่องวันนั้นรบกวนคุณหมออย่าบอกคุณพ่อคุณแม่นะคะ" "เรื่องวันไหน?"หมอธันวาแสร้งทำเป็นไม่รู้เพราะยังนึกหมั่นไส้เธออยู่หน่อยๆ "ก็วันนั้นที่จะไปทำหน้าอก" "อ้อ!ที่ผมจะตรวจขนาดหน้าอกของคุณแล้วคุณก็วิ่งหายไปเลยอย่างนั้นเหรอ ผมเสียเวลามากๆเลยนะ" "เบาๆสิคะ..ก็ใครจะเปิดให้ดูกันง่ายๆล่ะคะ" วาทยาทำสัญลักษณ์ชุ๊ปากให้เขาเงียบเสียงลงและกระซิบบอกเขาเสียงเบา "เสริมหน้าอกไม่ต้องดูหน้าอกงั้นคุณจะไปเสริมทำไม อืม แต่ดูๆแล้วไม่เห็นจะต้องเสริมอะไรได้แล้วนะ ก็มีอยู่บ้างแล้วไม่ใช่เหรอนั่นน่ะ" พูดพรางจ้องมองไปที่หน้าอกของเธอในชุดเดรสยาวรัดรูปที่ผู้เป็นมารดาเลือกให้เธอใส่ "เอะ!มองอะไรคะ?" วาทยาเอามือขึ้นปิดหน้าอกทันทีที่สายตาคมภายใต้กรอบแว่นนั้นมองสำรวจมาที่หน้าอกของเธอ "จะตกใจทำไมผมก็เจอมาแล้วเป็นพันคน" "แต่วาไม่เคยเปิดหน้าอกให้ใครดูค่ะ" หน้าเธอเริ่มบึ้งตึงอย่างไม่พอใจ "นี่ คุณรู้ใช่มั้ยว่าพ่อแม่ของคุณกับแม่ผมนัดให้เรามาดูตัวกัน" หมอธันวาเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นว่าวาทยาเริ่มหน้าแดงเพราะความอับอาย "ก็รู้อยู่" "บอกไว้ก่อนเลยนะ ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้และก็ยังไม่คิดจะแต่งงานกับใครด้วย" วาทยาเงียบนิ่งคิดเธอจำได้ว่าเพื่อนๆของเธอต่างก็เมาส์มอยเรื่องนี้กันว่าหมอธันวานั้นอกหักมา เลยกลายเป็นคนเย็นชาปิดกั้นตัวเองและไม่เคยมองสาวๆคนไหน วาทยาก็ได้รับรู้ตอนนี้นี่เองว่าเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ "งั้นเอาแบบนี้ดีมั้ยคะ...เราแกล้งเป็นแฟนกันคุณพ่อคุณแม่จะได้ไม่นัดวาไปดูตัวที่ไหนอีกวาเองก็ไม่อยากไปดูตัวแล้วค่ะ" หมอธันว่าถึงกับอึ้งกับข้อเสนอของวาทยาแต่ก็แอบเห็นด้วยเหมือนกันทุกวันนี้เขาอึดอัดจากการโดนจับมาดูตัวเต็มที "เอาอย่างนั้นเหรอ?" วาทยาคิดแผนซ้อนแผนเพราะระหว่างนี้เธอจะเอาชนะหัวใจที่เย็นชืดของเขาให้ได้ "ค่ะ ตกลงตามนี้นะคะ" "อืม..ก็ได้" "งั้นลุกขึ้นมาค่ะ พวกเค้ากำลังแอบมองเราอยู่" หมอธันวามองไปทางที่หญิงสาวโบ้ยปากก็เห็นว่าแม่ของทั้งคู่กำลังยืนแอบมองผลงานของตัวเองอยู่ "พี่ธันวา วาจะเรียกแบบนี้นะคะ ส่วนพี่ธันวาต้องเรียกวาว่าน้องวาโอเคมั้ย?" "เอ่อ..อืม น้องวา" ไม่รู้อะไรดลใจทำให้เขาต้องเออออไปกับหญิงสาวตรงหน้าทุกเรื่อง เจ้าหล่อนเหมือนเด็กสาวกะโปโลไม่เหมาะกับเขาเลยสักนิด ถึงแม้ว่าหน้าตาของเธอจะดูสวยน่ารักมากก็ตามแต่นิสัยออกแก่นๆไปหน่อยนึง 'เหมือนมาเล่นกับเด็กๆ แต่ก็เอาเถอะอยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหน?' "เอามือมาค่ะ เราต้องจับมือกันเดินกลับไป จะได้เนียนๆ" วาทยาหัวเราะคิกๆอยู่ในใจเพราะเธอนั้นหลอกจับมือคุณหมอธันวาอยากรู้ว่าใจเขาจะตบะแตกมั้ย แต่วาทยาก็แอบใจสั่นอยู่บ้างเหมือนกัน 'เราก็สวยไม่เบานี่นาอยากรู้เหมือนกันว่าจะใจแข็งเย็นชาได้นานแค่ไหน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD