อธิษฐาน

1302 Words
"พี่หมอ!" หมอธันวาถึงกับหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก เขาอุตส่าห์ใส่ทั้งแมสและหมวกแก๊ปแล้วยังจะมีคนจำได้อีกเหรอ "แฮ่!วาเองค่ะ" หมอธันวาหันมามองหญิงสาวตรงหน้าในชุดนักศึกษากระโปรงพลีสยาวเสื้อตัวโคร่งแต่ไม่ถึงกับใหญ่มาก เขามองสำรวจเธอทั้งแต่หัวจรดเท้าทึ่งในการแต่งตัวคล้ายสาวเซอร์ของวาทยา ต่างกับวันที่ไปเจอเขาที่บ้านริบลับ เพราะตอนนั้นเธอแต่งตัวเหมือนจะเป็นลุคคุณหนูๆ "อ้อ มากับใครน่ะ?" หมอธันวาเอ่ยถามขึ้นในขณะที่กำลังเข็นรถเข็นเดินเลือกซื้อของอยู่ในห้าง "ก็คุณแม่ถามถึงแต่พี่หมอ วาเลยต้องมาหาสักหน่อย" "แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่?" "จริงๆจะโทรไปถามคุณแม่พี่แล้วค่ะ แต่บังเอิญว่าวาเห็นพี่แวบๆเลยวิ่งมาหา บังเอิญมากๆ" "ทำไมไม่โทรมาถามก่อนล่ะ?" 'ขนาดไลน์ยังไม่ตอบแล้วโทรพี่จะรับเหรอคะ?' วาทยาได้แต่เถียงเขาอยู่ในใจ "เอ่อ วาก็คิดว่าพี่หมอไม่ว่างน่ะค่ะ เห็นไลน์ไปไม่ค่อยตอบ" "อ้อ อย่างนั้นหรอกเหรอ?" หมอธันวานึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้ตอบวาทยาจริงๆ ก็เธอชอบไลน์มาตอนที่เขายุ่งทุกที แต่ก็ไม่รู้จะตอบอะไร เพราะสติกเกอร์ที่วาทยาส่งมาแต่ล่ะตัวไม่แลบลิ้นปลิ้นตาก็เป็นสติกเกอร์ง่วงนอน "แล้วนี่พี่หมอมาซื้ออะไรคะ?" "มาซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารน่ะ แล้วมีอะไรอีกหรือเปล่า?" หมอธันวาเหมือนจะรำคาญที่วาทยามาวุ่นวายเลยรีบตัดบทเพราะเขาจะได้ไปคิดเงินที่แคชเชียร์แล้วก็กลับบ้าน "วาทยาจะไปคอนโดพี่หมอด้วย!" "เธอว่าอะไรน้ะ" "ไปด้วยค่ะ" "นี่เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน ถึงขอไปห้องผู้ชาย" หมอธันวาถึงกับเลิ่กลั่กเพราะเขาไม่อยากให้เธอไป "ไม่รู้ล่ะวันนี้วาจะไปให้ได้ วาต้องถ่ายรูปไปให้แม่ดูว่าอยู่กับพี่หมอจริงๆ" หมอธันวาถึงกับถอนหายใจที่ยัยตัวแสบต้องการไปห้องเขาให้ได้ "งั้น ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับนะ พี่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในที่ๆส่วนตัว" "โอเคค่ะ" วาทยารับปากทันที "งั้นก็ไปสิ" หมอธันวาเดินเข็นรถไปคิดเงินที่เครื่องแคชเชียร์ วาทยาก็เดินตามหลังเขาไปด้วย หญิงสาวรู้สึกหมั่นไส้เขามากกับท่าทางที่หมอธันวาทำอย่างกะรังเกียจเธอมากมาย แต่ทว่า! ก็แอบเสียใจนิดๆที่เขาไม่ชายตาแลมองเธอเลยแม้แต่นิดเดียว 'หึ!วาไม่ยอมแพ้หรอค่ะ วาจะเอาพี่หมอมาเป็นแฟนจริงๆให้ได้ อยากจะเห็นรอยยิ้มของพี่หมอบ้าง ไม่ใช่หน้าตาเย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนี้' 19:00 น. คอนโดหมอธันวา "ไหนล่ะเธอต้องการอะไรก็รีบทำๆจะได้กลับไปสักที"หมอธันวายังไม่หยุดความพยายามที่จะไล่วาทยากลับ "อืม..งั้นเรามาทำอาหารเย็นค่ะ คอนเทนต์วันนี้ทำอาหารให้แฟนกิน งุ้ยยยย!" วาทยาไปเกาะแขนหมอธันวาแล้วซบลงไปลงไหล่ เขาถึงกับรีบผละหนีอย่างไว "ทำบ้าอะไร พี่ไม่เล่นด้วยหรอกนะแบบนั้น" หมอธันวารีบปฏิเสธเสียงแข็งส่ายศีรษะไปมาสีหน้าของเขายังคงความคีฟลุคนิ่งๆเหมือนเดิม "จะได้เนียนๆไงคะ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?" "นั่นมันก็แค่แสดงละครเท่านั้น ไม่ได้บอกให้ทำจริงๆสักหน่อย" "เดี๋ยวค่ะ นั้นอะไรบนหน้าพี่หมอ" วาทยาจับแขนทั้งสองข้างของเขาไว้ แล้วเขย่งเท้าขึ้นจ้องเข้าไปในแววตาคมปราบนั้นนิ่ง หมอธันวาตะลึงที่เธอขยับเข้ามาใกล้ๆจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของหญิงสาวใจเขาถึงกับเต้น ตึกตักๆ เพราะคิดว่าวาทยาจะทำอะไร "นี่ค่ะ ได้แล้วขนตาพี่หมอหลุด อิอิ" เขาถึงกับโล่งอกเมื่อหญิงสาวปล่อยออกจากตัวเขา "อธิษฐานค่ะ" "อะไรของเธอ?" หมอธันวายังสาละวนกับการทำน้ำสลัดไม่ได้สนใจกับสิ่งที่วาทยาทำเลยแม้แต่นิด "ขนตาหลุดต้องอธิษฐานแล้วคำอธิษฐานจะเป็นจริง หลับตาเร็วค่ะ" "ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้" "ขอให้พี่หมอเจอกับรักแท้ไวๆด้วยค่ะ สาธุ!" วาทยาเป็นฝ่ายอธิษฐานแทนเสียเอง หมอธันวาถึงกับสั่นศีรษะไปมาให้กับความไร้สาระไม่ได้เรื่องได้ราวของวาทยา "พี่จะเจอรักแท้หรือไม่เจอไม่น่าจะเกี่ยวกับเธอ แล้วนี่ไม่ไปไหนกับแฟนเหรอ ถึงได้มาคลุกอยู่นี่อ่ะ วัยแบบเธอเค้าไปทำอะไรกันหลังเลิกเรียน?" "แฟนที่ไหนกันล่ะคะ? โสดมากก กำลังจีบอยู่นี่ไง อิอิ" วาทยาจิ้มไปที่หน้าอกของหมอธันวา ทำเอาเขาถึงกับนิ่งอึ้งหยุดชะงักไปเล็กน้อย ที่วาทยาพูดเล่นออกมาแบบนั้น เสียงถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่วาทยายังคงเล่นไม่เลิก "แฮ่! วาล้อเล่นค่ะ ไหนคะมีอะไรให้วาช่วยบ้าง วันนี้ขอกินข้าวด้วยคน" "ไปล้างผักสิ หมดนั่นเลย" หมอธันวาชี้ไปที่ตะกร้าใส่ผักที่วางอยู่บนโต๊ะ "โอเครับทราบค่าาาา" เมื่อหญิงสาวเอาผักไปล้าง หมอธันวาถึงกับยิ้มออกมาให้กับความแก่นแก้วของวาทยา วันนี้ห้องของเขาไม่ได้เงียบเหงาอย่างทุกวันเพราะเหมือนมีเด็กสาวคนนึงมาส่งเสียงดังเจื้อยแจ้วถามนั่นนี่ไม่หยุดจนเขารำคาญที่จะตอบ -ผ่านไป30นาที- "อ่ะนี่ของเธอ" วาทยาจ้องมองอาหารในจานที่มีแต่ผักและก็ธัญพืช ราดด้วยน้ำสลัดอีกทีนึง "พี่หมอธันวาขา คือว่าวาว่ามันมีแต่ผัก วาว่าเราควรจะกินอะไรที่มันหนักท้องกว่านี้มั้ยคะ?" "ทำไม ไม่ชอบกินผักล่ะสิ มีแต่สลัดนะมื้อนี้ไม่กินก็อด อีกอย่างมื้อเย็นจะกินหนักไม่ได้ด้วย" "กินก็ได้ค่ะ" วาทยาตักอาหารเข้าปากด้วยด้วยใบหน้าเครียด คิ้วของเธอถึงกับขมวดชนกันเมื่อต้องกินผักเยอะขนาดนี้ "อ่ะๆ เดี๋ยวก่อนค่ะ!" "อะไรของเธออีก" "ต้องเซลฟี่ก่อน" วาทยายกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดไปที่กล้อง "ยิ้มค่ะ" "นี่บอกไว้ก่อนเลยนะห้ามเอาลงโซเชียลเด็ดขาด" "สัญญาค่ะ" พูดเสร็จเธอก็ถ่ายรูปคู่ที่มีจานสลัดถืออยู่ในมือ ถึงแม้ว่าคนบางคนจะทำสีหน้าไม่พอใจหลังจากถ่ายทำเสร็จแล้วก็ตาม -มหาลัย- "ว้าย!รูปคู่" พราวรุ้งถึงกับกรี๊ดด้วยเสียงดังกังวานเมื่อเห็นรูปที่วาทยาเอามาอวด "กว่าจะได้มานะแก ชั้นต้องพลีชีพกินผักเป็นจานๆ โอ้ย!พูดถึงแล้วจะอ้วก เหม็นเขียวไปหมด" "แต่มันก็คุ้มอยู่นะ น่ารักกก จะว่าไปแกก็ดูเหมาะสมกับคุณหมอธันวาอยู่นะ ฟิวแฟน" "ชั้นจะเอาพี่หมอธันวามาเป็นแฟนให้ได้ แต่ว่า!...ยากจังเฮ้อ!" "เอาน่าา นี่ก็เรียนจบกันแล้วต่อไปแกก็น่าจะมีเวลาอยู่นะก่อนที่แกจะไปอเมริกา ภารกิจนี้ต้องสำเร็จ!" "โอเค!ไฟท์ติ้ง" สองสาวให้กำลังใจซึ่งกันและกันทั้งคู่คบหากันมานานมีอะไรมักจะช่วยเหลือกันเต็มที่อย่างเสมอมา ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเรื่องยากหรือง่ายอย่างไรก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD