ภายในห้องพักของโรงแรม ธนัทที่กำลังตกอยู่ในฤทธิ์ยากระตุ้นความใคร่กำลังจูบอย่างดูดดื่มกับหญิงสาวที่ตนคิดว่าถูกจัดหามาให้แก่ตน
พีรมนที่เมามายเล็กน้อยประกอบกับกำลังเสียใจก็ประชดตัวเองด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เธอกอดคล้องคอรับจูบของเขาโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพียงชายแปลกหน้า
ปลายลิ้นของทั้งสองเกี่ยวรัดไปมาอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นของคนตัวสูงต้นจูบอย่างดุเดือด จนหญิงสาวรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจมดิ่งลงสู่ผืนน้ำที่ลึกแต่อบอุ่น ถูกเขาช่วงชิงลมหายใจของเธอไปจนหายใจไม่ทั่วท้อง
“ผมขอหนักหน่อยนะ” เขากระซิบเสียงพร่า
ชุดเดรสสีขาวถูกถอดออกไปให้พ้นทาง ทรวงอกอวบที่ดีดเด้งออกมาตั้งยอดชูชันแสดงถึงอารมณ์ปรารถนาของหญิงสาวที่ถูกปลุกเร้า
เขาถอดเสื้อผ้าของตนเองออกไปขณะพาเธอถอยหลังไปที่เตียงนอนกลางห้อง ฝ่ามือร้อนจับไหล่ทั้งสองข้างแล้วดันตัวเธอนอนลงไปบนเตียง ก้มหน้าลงไปมอบจุมพิตที่แสนดูดดื่มให้แก่อีกฝ่าย พร้อมกับสองมือที่ลูบไล้สัมผัสเนื้อสาวจนเจ้าของร่างเพรียวบางอ่อนระทวยแล้วบิดตัวส่ายไปมาด้วยความเสียวซ่าน
ใบหน้าหล่อเหลาพรมจูบไปทั่วกรอบหน้า เลื่อนลงมาจูบที่ปลายคางแล้วซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอระหง มือทั้งสองบีบขยำทรวงอกอิ่มจนเนื้อล้นออกมาตามซอกนิ้ว จากนั้นก็เลื่อนริมฝีปากลงไปดูดดึงปลายจุกของทั้งสองเต้าสลับไปมา
พีรมนหายใจหอบถี่ด้วยความตื่นเต้นปนซ่านสยิว แขนทั้งสองข้างของหญิงสาววางที่แผ่นหลังของเขา แล้วลูบวนด้วยอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า ลำตัวบิดเลื้อยไปมาปรารถนาในสิ่งที่ดับความกระหายของตน
เข่าทั้งสองข้างสอดแยกเรียวขาของเธอออกอย่างชำนาญ มองดูรอยแยกที่ปิดสนิทนั้นด้วยแววตาที่ลุกวาว มือหนึ่งคว้าเครื่องป้องกันที่เตรียมไว้ใต้หมอนมาฉีกด้วยปากแล้วสวมใส่มันเข้าไป จับท่อนเนื้อถูไถตามรอยแยกยังไม่ได้เอาเข้าไปง่าย ๆ
ร่างกำยำที่แผ่ไออุ่นแนบทับลงมาพร้อมสะโพกสอบที่ถูไถจากภายนอก ตะโปมจูบที่เนินอกและซอกคอของเธออย่างหื่นกระหาย ริมฝีปากของเขาเลื่อนจากทรวงอกขึ้นไปหาที่ปลายคางแล้วพรมจูบลำคอระหง สูดดมกลิ่นสาบสาวด้วยความพึงพอใจ
นิ้วมือเลื่อนไปวางที่เนินอูบแล้ววางปลายนิ้วเคล้นคลึงที่เม็ดเกสรลับจนหญิงสาวครางลั่น ยิ่งเธอครางเสียงหลงเขาก็ยิ่งออกแรงกดปลายนิ้วขยี้มัน
“อ๊าส์...” พีรมนร้องเสียงหลงสะโพกเกร็งแล้วบีบรัดอยู่ภายใน ปลดปล่อยน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาเต็มกลีบร่องพร้อมกับเสียงหายใจที่ผ่อนลง
เขาหยัดตัวขึ้นคุกเข่าแล้วจับปลายหัวถูไถลากไล้ไปตามรอยแยกที่ฉ่ำน้ำ จากนั้นแก่นกายอุ่นที่ปวดหนึบจากฤทธิ์ยาก็ถูกกดเข้าไปผ่านความคับแคบนั้นสุดแรง
“กรี๊ด...ออกไป เจ็บ” เธอหวีดร้องเสียงหลง มือเล็ก ๆ พยายามดันที่นอนเพื่อกระถดหนีจากเขา
ตอนนั้นด้วยฤทธิ์ยาทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ ยิ่งเธอห้ามก็ยิ่งเกิดอารมณ์ที่ร้อนแรง เคลื่อนสะโพกสอบกดลงไปแล้วหมุนควงช้า ๆ ให้คลายความคับแน่น
สองมือจับข้อมือเรียวกดลงไปมองใบหน้าที่บิดเบ้ของเธอด้วยความกลัดมัน จากนั้นก็ออกแรงกระแทกกระทั้นลงไปหาหญิงสาวอย่างไม่ปรานี
พีรมนทั้งเจ็บทั้งอึดอัด รู้สึกทั้งแน่นและจุกไปทั่วท้องน้อย แต่สุดท้ายเธอก็เริ่มชอบใจกับลีลาสวาทที่เร่าร้อนนั้น เริ่มมีอารมณ์ร่วมแล้วลดการต่อต้านลง
มือที่กดเธอเอาไว้ค่อย ๆ คลายออก สอดมือใต้แผ่นหลังของเธอแล้วกอดเอาไว้แน่น ออกแรงสะโพกกระแทกเข้าไปรัว ๆ อย่างดุดัน หญิงสาวกอดแผ่นหลังกว้างของเขาแล้วจิกปลายเล็บลงไปที่เนื้อแผ่นหลัง ระบายความเสียวซ่านจากการกระทำที่ดุดันและเร่าร้อนนั้น
“คุณไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมให้คนหามาให้” เขากัดฟันพูดไปขณะที่ออกแรงไปด้วย
พีรมนไม่ตอบเธอกอดเขาแล้วแอ่นสะโพกรับแรงกระทำที่โถมลงมาอย่างหนักหน่วง เมื่อเห็นว่าเธอเงียบเขาก็ยิ่งออกแรงกระทำลงไปอย่างไม่สนว่าเขาเข้าใจผิดหรือไม่ เรื่องล่วงเลยมาจนถึงขั้นนี้แล้วอย่างไรก็หยุดไม่ได้
“อ๊าส์...แน่นฉิบ”
“อื้อ..อ๊าส์ เบา ๆ อื้อ...ซี้ด อ๊าส์”
เสียงครางกระเส่าทั้งคู่คลอเคลียด้วยกันความเพลิดเพลินและความหฤหรรษ์ที่เกิดขึ้น
แฮ่ก แฮ่ก! เสียงหายใจของคนทั้งสองเริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับธนัทที่ออกแรงโถมเข้าใส่อย่างถี่รัวจนร่างของพีรมนโยกคลอนไปตามแรงกระทำนั้น
“กรี๊ด...” หญิงสาวเกร็งสะโพกแน่นแล้วหวีดร้องออกมาเสียงแหลม ภายในเกร็งกระตุกเบา ๆ พร้อมกับน้ำหวานที่ไหลออกมาแฉะไปทั่วกลีบร่อง
ธนัทเพิ่มน้ำหนักของสะโพก แล้วตอกอัดลงไปอย่างเน้น ๆ กัดฟันจนกรามเป็นสันนูนเมื่อถูกภายในบีบรัดจนทนไม่ไหว
“อ๊าส์ ให้ตายสิ ซี้ด...” เขาร้องเสียงหลงแล้วสบถออกมา มองดูหญิงสาวนิรนามที่นอนหอบอยู่บนเตียงสีขาว พร้อมกับหยดเลือดหย่อมเล็ก ๆ นั้นก็รู้สึกหัวเสียอย่างบอกไม่ถูก
พีรมนรีบลุกขึ้นแล้วคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา รู้สึกอับอายที่ตัวเองขาดสติแล้วยินยอมหลับนอนกับคนแปลกหน้าแบบนั้น
“ต้องการอะไรก็ว่ามา” เขาถามเสียงเครียด
“ไม่ต้องการอะไรค่ะ และหวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก” เธอพูดจบก็รีบเดินออกจากห้องของเขาไปยืนที่หน้าห้องของตน
ธนัทไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่เข้าหาเขาจะไม่ต้องการอะไร เดินตามออกไปเพื่อที่จะเจรจาด้วย อย่างน้อยเงินก็สามารถซื้อได้ทุกอย่างสำหรับเขา
เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบว่ามีคนเดินมาหาเธอด้วยใบหน้าที่ร้อนใจ เขาจึงหลบอยู่หลังประตูไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังบทสนทนาที่เกิดขึ้น
“พลอย ไปไหนมา พ่อกับแม่ตามหาตั้งนาน”
“พลอยลืมคีย์การ์ดค่ะเลยว่าจะเดินลงไปเอา แต่หลงทางนิดหน่อย” เธอพูดเสียงเรียบ
“เรื่องงานแต่งงาน แม่อยากให้พลอยคิดดี ๆ นะลูก แม่ว่าเรื่องแค่นี้มันให้อภัยกันได้...”
“พลอยไม่ลดศักดิ์ไปคืนดีกับเจ้าบ่าวที่นอกใจในงานแต่งงานของตัวเองเหรอคะ พลอยไม่สนใจและจะไม่มีการจดทะเบียนสมรสใด ๆ ทั้งนั้น” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“แต่ว่า...”
“นี่แม่เป็นอะไรไปคะ เขาทำกับลูกแม่ขนาดนั้น แม่ยังจะพูดให้พลอยกลับไป ไม่ได้ยินที่เขาบอกเหรอคะว่าเขาเองอยากจะล่มงานแต่ง พลอยเป็นฝ่ายล่มให้แล้วไงคะ หากต้องแต่งงานกันโดยที่มีแต่ผลประโยชน์แต่ไม่มีความรัก พลอย ไม่ แต่ง!” เธอย้ำชัดทีละคำ
ผการู้สึกลำบากใจ ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บแค้นแทนลูกสาว แต่ว่าหากงานแต่งล่มลงพีรมนเองจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รวมถึงธุรกิจที่ทำร่วมกันก็ต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
“เพื่อผลประโยชน์ของธุรกิจ หนูอย่าเพิ่งเลิกกับตาอาร์ตตอนนี้ได้ไหม ไม่จดทะเบียนก็ได้แต่แม่อยากให้คงสถานะแต่งงานเอาไว้ก่อน” หญิงสาวมองมารดาอย่างไม่เชื่อหู สายตาของเธอมีแววผิดหวัง รับคีย์การ์ดจากบิดาแล้วกลับเข้าห้องพักไปโดยไม่พูดอะไร
“คุณต้องเลือกแล้วนะคุณผกา ความสุขของลูก หรือว่าผลประโยชน์ที่คุณไม่อยากเสีย” พีรพลพูดกับภรรยาที่ถูกครอบครัวอีกฝ่ายหว่านล้อมมา ทำให้ผกาได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก
ธนัทที่ได้ยินทุกอย่างก็มีแววตาที่ครุ่นคิด นี่เขาเพิ่งนอนกับเจ้าสาวของคนอื่นอย่างนั้นหรือ
************************