มันเป็นมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ดูวุ่นวายแต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นครอบครัวใหญ่ที่รักใคร่กันได้อย่างชัดเจน มานพยิ้มให้กับภาพตรงหน้าพลางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ อาหารหลักบนโต๊ะยังคงเป็นฝีมือแม่เหมือนเคยและยังเน้นอาหารแบบชาวเหนือ ชายหนุ่มเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯและเชียงใหม่จนเคยชิน ผิดกับน้องสาวคนเล็กที่อยู่เมืองกรุงจนเคยตัว ดูไม่ค่อยคุ้นชินกับการอยู่บ้านเกิดนักหรือเพราะกำลังท้องกำลังไส้ได้สามเดือนแล้ว หากไม่เพราะว่าสามีของเธอไปดูงานที่ต่างประเทศร่วมเดือน มาริสาหรือใบเมี่ยงกลับไม่กลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่เช่นนี้
“บ้านเราไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้นานแล้วนะคะพี่หม่อน” มาริสาชวนคุยขณะหยิบมะม่วงชิ้นพอดีคำเข้าปาก ดูท่าทางสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุขคือผลไม้รสเปรี้ยว
“ฮืม” มานพพยักหน้ารับ “เจ้าหมอกพาหมอเนยมาเปิดตัวแบบนี้ อีกไม่นานได้จัดงานแต่งงานแน่ๆ”
ครอบครัว ‘ศตินันท์’ มีลูกทั้งหมดหกคน มาริสามองพี่ชายคนที่ห้าในครอบครัวของเธอมีมานพเป็นพี่ชายคนโตและมีน้องชายอีกสี่คนส่วนเธอเป็นลูกสาวคนเดียวคนสุดท้อง แต่ละคนก็ต่างมีครอบครัวกันไปเกือบหมด เหลือที่น่าเป็นห่วงคนเดียวก็คือพี่ชายคนโตของครอบครัวที่ทำแต่งานจนอายุล่วงเลยมาสามสิบเก้าแล้วก็ยังไม่เห็นแววจะมีใครเคียงข้าง
“ยัยหมวยเล็กก็หมั้นแล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงาน” มาริสาพูดพลางเคี้ยวมะม่วงไม่หยุดปาก “เมี่ยงกับหนูนาช่วยกันเลือกของชำร่วยงานแต่งงานอยู่ คิวต่อไปก็คงจะเป็นหนูนากับพี่นริศ ดูเหมือนใครๆ ก็พากันแต่งงานกันหมดแล้วนะคะ
มานพเลิกคิ้วปรายตามองน้องสาวคนเล็กนิดหนึ่งก่อนจะยักไหล่ไม่ใส่ใจ “แล้วไงล่ะ”
“ก็แล้วพี่หม่อนละคะ จะสี่สิบแล้วไม่แต่งงานแต่การเสียที ครอบครัวเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้วนี่ค่ะ”
“ป่านนี้แล้วจะยังให้พี่แต่งงานอีกเหรอ”
“มันไม่ใช่แค่งานแต่งงานแต่พี่หม่อนควรจะมีใครสักคนอยู่ข้างๆ”
“เฮ้ย! เดี๋ยวนี้เด็กน้อยกล้ามาสั่งสอนพี่ชายคนนี้แล้วเหรอ” มานพยื่นมือไปดีดหน้าผากน้องสาวเบาๆ เธออายุเพียงแค่ยี่สิบสี่เท่านั้น ห่างจากเขามากนักจนแทบจะเป็นพ่อเป็นลูกกันอยู่แล้ว
“แค่แนะนำในฐานะของผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน” มาริสาหัวเราะคิกคัก “ตอนที่หนูนาไม่มีใครก็ไม่รู้จักจีบ ตอนนี้เค้ามีแฟนจะแต่งงานแล้วค่อยมาตามดูแลหรือไง”
“พี่ไม่ได้คิดอะไรกับหนูนาแบบนั้นเลยนะ” มานพพูดความจริง กับช้องนางหรือหนูนาเขามองด้วยสายตาเอ็นดูเพราะเธอเป็นเพื่อนของน้องสาวของเขา มาริสามาเรียนที่กรุงเทพฯ เพียงลำพัง เขาเป็นห่วงและกังวลกลัวน้องสาวจะระเริงไปกับแสงสีจนเสียผู้เสียคน และเมื่อรู้ว่ามีเพื่อนสนิทก็ต้องสืบประวัติ แต่เพื่อนรักของน้องสาวคือเปมิกาหรือหมวยเล็กและช้องนางหรือหนู ก็เด็กนิสัยดีทำให้เขาวางใจพลอยทำให้เขารู้สึกสนิทสนมเอ็นดูไปด้วย
“ถ้าพี่หม่อนเป็นแฟนกับเพื่อนของเมี่ยงนะ เมี่ยงก็จะไม่บ่นเลยสักคำ แต่ถ้าพี่หม่อนจะเป็นแฟนกับแม่ช้างน้ำนั่นละก็… เมี่ยงก็คงได้แต่ทำใจ”
มานพหันไปมองตามสายตาของน้องสาว แล้วภาพตรงหน้าก็เฉลยคำพูดของเธอได้หมดเปลือก หญิงสาวรูปร่างอวบเกินพิกัดยิ้มหวานหยดย้อยตรงมาทางทั้งคู่ ผิวขาวซีดดวงตาหยีเล็กและผมที่หยิกฟูทั้งศีรษะทำให้ชายหนุ่มนึกชื่อเธอออกได้ทันที
“น้องลูกเกดมาด้วยหรือครับ” มานพทักทายตามมารยาทและมองข้ามไหล่ของหญิงสาวขาวหมวยอวบระยะสุดท้าย เขาเห็นมารดานั่งคุยกับหญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นมารดาของน้องลูกเกดอยู่ไม่ไกลนัก
“ลูกเกดมาพร้อมคุณแม่ตั้งนานแล้ว พี่มานพไม่เห็นเหรอคะ อ้อ! ลูกเกดผอมลงใช่ไหมละคะ ถึงไม่เห็นลูกเกด” หญิงสาวหัวเราะคิกคักอย่างเขินอาย
มาริสาพยายามกลั้นหัวเราะ เธอไม่ได้รังเกียจสาวอ้วนหรือจะคิดดูถูกแต่อดขำท่าทางปุเลี่ยนๆ ของพี่ชายตัวเองไม่ได้ ถึงจะยังไม่มีแฟนแต่ก็ใช่ว่าจะไร้เสน่ห์ เพราะเท่าที่จำได้ ‘ลูกเกด’ คนนี้พยายามตามจีบพี่ชายของเธอมาเกือบปีแล้ว ถ้าจำไม่ผิดคุณแม่เคยเล่าว่า ตั้งแต่ลูกเกดกลับมาจากเรียนจบจากเมืองนอก เธอมาทานอาหารที่บ้านพร้อมกับคุณแม่ของเธอซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแม่ วันนั้นมานพกลับมาจากทำงานพอดีก็เลยอยู่กินมื้อค่ำเป็นเพื่อน ความเป็นคนมารยาทดีของพี่ชายสร้างความประทับให้ลูกเกดจนเธอตกหลุมรักพี่ชายและเที่ยวแวะเวียนมาหาอยู่บ่อยๆ และมานพก็ไม่เคยดุหรือขับไล่เลยสักครั้งทำให้ลูกเกดเข้าใจว่ามานพก็มีใจให้เธอด้วย
“ได้ยินว่าไปเที่ยวฝรั่งเศสมาเป็นไงบ้างครับ” มานพถามตามมารยาท เขาเองก็แค่เอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ไม่เคยคิดเป็นอื่นไม่ใช่เพราะร่างอวบอ้วนหรอกที่ทำให้เขาปฏิเสธ แต่เพราะเขาคุ้นเคยกับการอยู่กับงาน ทำงานจนน่าจะเรียกว่าแต่งกับงานไปแล้วก็ได้
“ว้าว! ดีใจจังเลยที่พี่มานพสนใจเรื่องราวในชีวิตของลูกเกด” หญิงสาวตบมือดีใจออกนอกหน้า “นี่ค่ะลูกเกดมีของมาฝาก”
“ขอบคุณครับ ความจริงไม่ต้องลำบากก็ได้” มานพรับมาด้วยความเกรงใจกลัวหญิงสาวจะเสียน้ำใจเปล่าๆ
“เป็นเนคไทสวยมากเหมาะกับพี่มานพมากๆ ลูกเกดเห็นปุ๊ปคิดถึงพี่มานพทันทีเลยค่ะ” ลูกเกดยื่นถุงกระดาษส่งให้
“เนคไท?”
“มีอะไรเหรอคะ”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
‘อย่าเก็บเนคไทแบบนั้นซิคะ เสียของหมด’
เสียหวานใสดังขึ้นจากความทรงจำ จู่ๆ ชายหนุ่มกลับคิดถึงหญิงสาวอีกคนที่เขาไม่รู้จักชื่อ แต่เธอกลับสอนเขาเก็บเนคไทให้ถูกวิธี น่าแปลกที่ตั้งแต่นั้นมาเขาไม่เคยขดๆ สายเนคไทกองไว้รอแม่บ้านมาเก็บไปซักให้อีกเลย
“ถ้ารู้ว่าพี่มานพชอบละก็ ลูกเกดจะเหมาซื้อมาสักโหลสองโหลเลยล่ะค่ะ”
“เอ่อ แค่นี้ก็พอแล้วครับ ขอบคุณน้องลูกเกดมาก”
“ลูกเกดมีเรื่องอย่างรบกวนพี่มานพด้วยค่ะ คือลูกเกดอยากจะชวนดูละครเวทีการกุศลค่ะ เป็นคณะละครที่มาจากอิตาลี่เลยนะคะ”