BAD GUY :: CAHPTER 1 [30%]

1845 Words
หลังจากที่พี่ฟีนิกซ์กับเพื่อนของเขาออกไปจากร้าน และตัวฉันเองก็แอบมองใบหน้าหล่อตลอด เพราะดูเหมือนว่าเขาจะมองฉันด้วยสายตาที่สงสัย แต่ฉันก็หลบสายตาของเขา เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็จ้องดวงตาคมของเขามากๆ หัวใจของฉันมันก็ยิ่งเต้นรัวเข้าไปทุกทีน่ะสิ จะให้ทำยังไงล่ะ ฉันโดนพี่ไอติมเล่นงานอย่างหนัก หลังจากที่หายไปจากร้านนานเหลือเกิน เนื่องจากว่าฉันไม่กล้าแม้แต่จะยกของไปเสิร์ฟให้พี่เขา ผู้ชายคนที่ฉันตามหา เขาชื่อว่าฟีนิกซ์ ฉันรู้แล้วว่าเขาชื่ออะไร และจะจดจำไปตลอดชีวิตเลยด้วย “เนปรู้จักกับฟีนิกซ์ด้วยเหรอ?” “เอ๋? พี่ไอติมหมายถึง พี่ที่มาทานเค้กเมื่อกี้” “ใช่ ก็ฟีนิกซ์ที่เป็นเจ้าของผับชื่อดัง Bad guy ใครบ้างจะไม่รู้จัก อีกอย่างเขามากินเค้กร้านเราบ่อย พี่ถึงสงสัยไงว่าเนปรู้จักกับเขาด้วยเหรอ?” “เปล่านะคะ แค่... เคยเจอตอนเดินสวนกันไปมาเท่านั้นเอง” พี่ไอติมพยักหน้ารับและนับเงินในลิ้นชักอย่างไม่สนใจอะไรอีก แต่กลับเป็นฉันมากกว่าที่อยากจะรู้เรื่องราวของเขาให้มากกว่านี้ ก็เลยวางผ้าเช็ดโต๊ะ และลากเก้าอี้มานั่งที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าของพี่ไอติมที่ขมวดคิ้วมองฉัน “แหะๆ คือว่า พี่ไอติมพูดเหมือนว่ารู้จักกับพี่เขา” “ก็รู้จักนะ ผับของฟีนิกซ์อยู่ไม่ไกลจากร้านเรา ที่สำคัญไม่มีใครไม่รู้จักหมอนั่นหรอก” “...” “คืองี้ ฟีนิกซ์มีเพื่อนอยู่สองคน คนที่มาวันนี้ที่หน้าตาตี๋ๆ ผมรองทรงสีทองชื่อว่าริค และก็น็อคผู้ชายนิ่งๆ หน้าตาหล่อแต่ไม่ค่อยชอบพูดเท่าไหร่ สามคนนั้นเป็นเพื่อนกัน แต่ว่าฟีนิกซ์จะฮอตกว่า” ฉันตั้งใจฟังพี่ไอติมเล่าถึงเรื่องของพี่ฟีนิกซ์อย่างใจจดใจจ่อ อย่างน้อยก็อยากจะรู้ความเป็นไปนะว่าเขาเป็นยังไงก็เท่านั้น “ฟีนิกซ์เป็นผู้ชายแบดบอย หยิ่ง จองหอง ขี้โมโห ใครๆ ก็รู้ว่าถึงแม้จะดูเลว ดูแบด คบผู้หญิงไปเรื่อย แต่คนที่ได้ใจคือใบหม่อนแฟนของหมอนั่น” “ใบหม่อนเหรอคะ?” “ใช่ ใบหม่อนที่เป็นแฟนกันมานาน ก็ที่พามากินที่ร้านพี่บ่อยๆ ไง แต่ก่อนสี่คนนี้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แต่ฟีนิกซ์รักใบหม่อนมาก ก็เลยเลื่อนขั้นมาเป็นแฟน แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะถึงทำให้สองคนนั้นเลิกกัน แต่ถ้าให้พี่เดา... ใบหม่อนคงทนความเลวร้ายของฟีนิกซ์ไม่ไหวมากกว่า” “...” “ถึงจะดูหล่อ ดูดี แต่นิสัยหยาบคาย โผงผางเจ้าอารมณ์ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนได้หรอก แต่ฟีนิกซ์ก็พยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อใบหม่อนนะ แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้วล่ะ” พี่ไอติมยิ้มและก้มลงนับเงินต่อ ส่วนฉันที่ได้ฟังเรื่องราวของพี่ฟีนิกซ์ก็ถอนหายใจออกมา เขาในตอนนั้นกับตอนนี้มันแตกต่างกันขนาดนั้นเลยเหรอ? ผู้ชายที่ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนในตอนนั้นกับตอนนี้ ต่างกันขนาดนี้เชียว “ไง รู้แล้วยังจะชอบหมอนั่นลงหรือเปล่า?” “นะ เนปเปล่าชอบพี่เขานะคะ” “ฮ่าๆ พี่ล้อเล่น ถ้าเนปไม่สนใจหมอนั่นสิแปลก... นิยามของผู้หญิงเรามักชอบคนเลว สงสัยจะจริง” “แต่พี่ไอติมรู้เรื่องพี่เขาเยอะจังนะคะ” “โหยก่อนที่เนปจะมาทำที่ร้านพี่ ทำไมพี่จะไม่รู้ล่ะ หมอนั่นชอบมากินเค้กสตรอเบอร์รี่ร้านพี่ รู้จักกันดีถึงไส้ก็จริง ความดังและฮอตของหมอนั่น ถึงพี่ไม่อยากรู้ ข่าวหมอนั่นก็ลอยมาเข้าหูพี่อยู่ดีล่ะ” ฉันพยักหน้าให้กับพี่ไอติมและลุกไปเช็ดโต๊ะต่อตามเดิม พี่ฟีนิกซ์เป็นคนแบบนั้นจริงๆ เหรอ? ไม่หรอก ต่อให้เขาเป็นแบบไหน ฉันก็ไม่มีวันเลิกรักเขาหรอก ก็เพราะว่าเขาคือคนที่ให้ชีวิตกับฉันนี่นา ฉันจะไปเกลียดเขาได้ไงกัน จริงไหม? ท้องถนนยามค่ำคืนมาเยือนหลังจากที่ฉันปิดร้านกับพี่ไอติม ฉันเดินไปตามทางและเชื่อไหมว่าฉันมาหยุดอยู่ที่กำแพงตึกที่อยู่ติดกับผับของพี่ฟีนิกซ์ ผู้คนมากมายต่างพากันเดินเข้าไปในผับอย่างไม่ขาดสาย แสงสีจากตัวผับสีสวยจนฉันเผลอยิ้มออกมา แต่ทว่าคงไม่มีปัญญาเข้าไปในนั้นหรอก เพราะมีแต่คนมีระดับเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้ การ์ดที่ยืนคุมเชิงอยู่ก็คอยตรวจบัตรเข้าไปในนั้นอย่างนิ่งๆ และใช่มันน่ากลัวมากเลยสำหรับฉันที่ยืนพิงกำแพงมองอยู่ “รถยังอยู่ แสดงว่าพี่ฟีนิกซ์ยังไม่กลับสินะ” สายตาของฉันมองไปที่รถบิ๊กไบค์ของเขาที่จอดอยู่ในโซนวีไอพีหน้าร้าน เสียงเพลงก็ดังกระหึ่มออกมากลบเสียงสัญจรรถที่ผ่านไปมาจนหมดสิ้น สายตาของฉันมองไปที่ประตูเข้าออก พยายามภาวนาว่าให้คนที่เปิดประตูออกมาเป็นพี่ฟีนิกซ์ แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีวี่แวว ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย ฉันตัดสินใจเดินผ่านไปที่หน้าผับของเขาเพื่อกลับไปที่พักของตัวเอง แต่ทว่าจังหวะที่ฉันเดินไปประตูผับดันเปิดออกมาซะก่อน “พี่ฟีนิกซ์ วันนี้จะพาแอสลีย์ไปไหนเหรอ?” “ไปไหนน่ะเหรอ? ไปสวรรค์ดีไหมหืม วันนี้ฉันว่างเลยนะ...” ฉันหยุดมองร่างสูงของเขาที่กำลังก้มใบหน้าลงจูบไปที่ซอกคอของผู้หญิงสวยคนนี้ ใช่สวยมาก หุ่นดีและทรวงอกก็ใหญ่จนฉันก้มมองหน้าอกของตัวเองอย่างสมเพช พี่ฟีนิกซ์เดินผ่านฉันไปพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่กระโดดขึ้นไปนั่งบนรถ ใบหน้าหล่อคมของเขากระตุกยิ้มและเหลือบตาไปมองผู้หญิงคนนั้นราวกับว่าเธอคืออาหารอันโอชะ กระทั่งพี่ฟีนิกซ์หันมาจะหยิบหมวกกันน็อคสวมศีรษะของตัวเอง สายตาของเขาก็สบตากับฉันที่ยืนตกใจอยู่ เรายืนจ้องตากันสักพัก เป็นฉันที่หมุนตัวกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางอย่างเร่งรีบ กระชับกระเป๋าสะพายของตัวเอง และเลี้ยวไปในซอยที่คิดว่าจะหลบพ้นสายตาของเขา ฉันหอบหายใจเหนื่อยและชะโงกหน้าไปมองเขาอีกครั้ง พี่ฟีนิกซ์ก็ขับรถออกไปแล้วโดยไม่สงสัยอะไร รุ่งเช้าฉันก็ออกมาตามพี่ฟีนิกซ์ที่ผับตามเดิม แต่ทว่าวันนี้กลับไม่เห็นเขาจอดรถอยู่ที่หน้าผับเลย และที่สำคัญฉันจำได้ว่าเห็นเพื่อนเขาคนนั้นที่ชื่อริคกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ โดยที่ฉันแอบอยู่ที่ซอกตึกข้างผับของเขา “เออ มาแล้วเหรอ? มึงอยู่ไหนล่ะ ไอ้น็อคมาแล้วอยู่ที่ผับ... ได้ แล้วเจอกันเว้ย” เพื่อนของพี่ฟีนิกซ์วางสายไป แสดงว่าวันนี้ฉันก็อดเจอเขาอีกตามเคย สงสัยคงจะอยู่กับยัยนมโตนั่นจนตื่นมาไม่ไหวล่ะสิ เหอะ ฉันเบ้ปากอย่างหงุดหงิด และหมุนตัวเดินไปตามทางแต่ทว่า กลับเห็นร่างสูงที่คุ้นตาสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาเดฟรัดรูปสีดำขาดๆ มือหนากำลังยกบุหรี่สูบไปด้วย ใบหน้าของเขาหาวออกมา ราวกับว่าเมื่อคืนไม่ได้นอน ฉันรีบหลบไปที่แผ่นป้ายโฆษณาราวกับจิ้งจกที่กระโดดเกาะกำแพง ทำทีว่ายืนอ่านป้ายแต่สายตาก็เหลือบไปมองเขาที่เดินสวนฉันไปตามทาง ทำไมถึงไม่เอารถมาด้วยล่ะ? แต่อย่างว่าคอนโดของพี่เขาอยู่ไม่ไกลจากผับ อยากจะช่วยลดโลกร้อนหรือไงกัน? ฉันยิ้มออกมาและเดินตามหลังเขาไปโดยไม่ให้พี่ฟีนิกซ์รู้ตัว การได้มองแผ่นหลังของพี่เขา มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ สามเดือนที่ฉันเอาแต่เฝ้ามองแผ่นหลังของเขา โดยที่ไม่อยากให้เขารู้ “หาว ไมคนเยอะแบบนี้วะ” ฉันมองพี่ฟีนิกซ์ที่พ่นควันบุหรี่ออกมา และเดินเบียดเสียดกับคนที่เดินสวนไปมา จนตอนนี้ฉันเริ่มห่างจากเขาแล้ว ฉันพยายามชะโงกหน้าไปมองร่างหนาแต่ก็ไม่เห็นแล้ว “หายไปไหนของเขา... อ้ะ” หมับ “กรี๊ด... อุ๊บ” “เงียบ ถ้าไม่อยากโดนอะไรนอกจากมือฉันอุดปาก” ใบหน้าหล่อคมของพี่ฟีนิกซ์ทำให้ฉันที่คิดว่าถูกใครบางคนลากไปทำมิดีมิร้ายต้องเป็นอันหยุดร้องทันที มือหนาของเขาปิดปากฉันเอาไว้ เป็นครั้งแรกที่เราใกล้กันขนาดนี้ ใกล้กันจนฉันมองใบหน้าของเขาอย่างตื่นเต้น จนน้ำตามันคลอออกมาแล้ว ใบหน้าที่ฉันตามหามาตลอดห้าปีเต็ม เขาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว พี่ฟีนิกซ์ดึงฉันมาติดกับกำแพงโดยที่เขาก็ยึดไหล่ฉันไว้ ลมหายใจร้อนๆ ของเขามันรดมาที่จมูกของฉันจนได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ “ถ้าปล่อยมือ เธอจะหยุดแหกปากไหม?” “อือ” “ดี...” ฉันมองพี่ฟีนิกซ์ที่ค่อยๆ ผละมือออกจากปากของฉัน แต่ว่าร่างสูงก็ยังคงใช้มือกักกันฉันไม่ให้ไปไหน จนฉันเบียดตัวเองจนแผ่นหลังแนบชิดกับกำแพง เงยหน้าสบตากับเขาที่จ้องมองฉันอย่างไม่สบอารมณ์ ตุ้บ “ตามฉันมาทำไม?” “หนูเปล่าตามนะ แค่เดินไปทางเดียวกับพี่ต่างหาก” “อย่ามาโกหก ฉันไม่ชอบคนโกหก... เธอตามฉันมาหลายเดือนแล้ว” ฉันมองใบหน้าหล่อของพี่ฟีนิกซ์อย่างตกใจกับสิ่งที่เขาพูด ถ้ามันเป็นจริง ทำไมพี่เขาเพิ่งจะมาจับได้ล่ะ? ฉันมองรอยยิ้มของเขาที่ผุดขึ้นมา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ฉัน ในขณะที่มือหนาก็กันร่างฉันที่ติดกับผนังกำแพงไม่ให้หนีไปไหน ตายแน่เลยเนปจูน เธอตายแน่ๆ “พะ พี่พูดมั่ว” “มั่วเหรอ? เหอะ ตามฉันแบบนี้ อยากโดนจับทำเมียหรือไง” “...” “เธอตามฉันมาทำไม ไหนพูด... ไม่งั้นฉันจะปิดปากเธอ ด้วยปากของฉัน” คำพูดของเขาทำให้ฉันถึงกับไปไม่เป็นเลย จนใช้มือยันอกแกร่งของเขาไว้ สัมผัสที่แผงอกของเขามันทำให้ฉันใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าหล่อของเขาก็ก้มลงมาจนฉันเบือนหน้าหนี “ตามฉันมาทำไม? เธอเป็นใคร... ตอบ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD