ตอนที่ 09 เจ้ากรรมนายเวร

2495 Words
EP09 . . . แสงสว่างจากม่านนอกระเบียงสาดส่องเข้ามาในห้องกระทบร่างกายบอบชํ้าที่นอนซมอยู่บนเตียง เปลือกตาคู่สวยค่อยๆ เปิดขึ้นสมองมันหนักอึ้งไปหมด เธอพาร่างกายตัวเองลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว ก็พบโพสอิสเขียนข้อความเอาไว้ 'พี่ซื้อยาคุมพร้อมกับยาแก้ปวดมาให้กินข้าวแล้วก็นอนพักนะครับ เดี๋ยวเรียนเสร็จพี่รีบกลับไปหา' "น่ารักที่สุดเลย" หญิงสาวคลี่ยิ้มออกมาบางๆ แล้วเดินไปหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอาหาร เธอจัดการอุ่นข้าวต้มในหม้อแล้วนำมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะจัดการข้าวต้มกุ้งจนหมดชามแล้วตามด้วยยาที่พชรสั่ง ไม่นานร่างเล็กก็หมุนตัวเดินกลับไปในโซนห้องนอนแล้วหยิบหมอนขึ้นมากกกอดเอาไว้ด้วยความเบื่อหน่าย "น่าเบื่อจัง" คนตัวเล็กยู่ปากแล้วลุกขึ้นจากเตียงทดลองร่างกายตัวเองด้วยการเดินไปอาบนํ้า เมื่อพบว่าเดินได้ปกติกว่าเมื่อวานเป็นไหนๆ เธอก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของพชรแต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับชุดยูนิฟอร์มของเอ็มเอ็มยูของผู้หญิง ในสมองจึงคิดอะไรดีๆ ออก มือเล็กยื่นไปหยิบมันมาแล้วเดินมายังหน้ากระจกเพื่อเปลี่ยนชุดไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย เธอหมุนตัวรอบกระจกพร้อมกับผุดรอยยิ้มขึ้นมา.. "ขอไปสนุกในโลกมหาลัยสักวันก็แล้วกัน~" พึมพำกับตัวเองเสร็จ เธอก็หย่อนตัวนั่งลงแล้วหยิบเครื่องสำอางมาแต่งหน้าบางๆ พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็คว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดขึ้นมาคล้องบ่าแล้วเดินออกมาจากห้องพร้อมกับล็อกประตูเป็นที่เรียบร้อย @Mick Mission University (MMU) "ขอบคุณนะคะ" เชอรีนคลี่ยิ้มให้คุณลุงขับแท็กซี่แล้วเดินเข้ามาในมหาลัยสุดหรูในย่านเมืองหลวง เพียงแค่ด้านหน้าก็ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีตึกในมหาลัยเรียบหรูดูเเพงราวกับมหาลัยของต่างประเทศทำให้ทุกคนที่เข้ามาเรียนอยากจะเจอหน้าผู้ก่อตั้งที่แห่งนี้... เธอเดินเข้ามาเรื่อยๆ พลางกวาดสายตามองหาตึกบริหาร ที่พชรเรียนอยู่ แล้วตัวเธอก็ชาวาบเมื่อหลงเดินเข้ามาในเขตที่มีแต่ผู้ชายท่าทางเถื่อนๆ เต็มไปหมด ทุกสายตาล้วนมองมาที่เธอแววตาเปล่งประกายวิบวับ "คณะเราแม่งไม่มีผู้หญิงไม่ใช่หรอว่ะ...แล้วนี่ใครโผล่เข้ามาในสถาปัต?" "ใครกูก็ไม่รู้....รู้แค่ว่าสวยฉิบหาย" "หรือว่าเด็กใหม่คณะอื่นหลงเข้ามา" "กูรู้แค่ว่าอยากต้อนรับเด็กใหม่ฉิบหายเลยว่ะ" เสียงซุบซิบของชายหนุ่มสามสี่คนตัวลํ้าสูงใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากเธอนักแว่วเข้ามาในโซนประสาท เชอรีนกลืนนํ้าลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบากเธอกวาดสายตามองแถวๆ นี้ก็ไร้ซึ่งผู้คน เพราะเวลานี้ทุกคนต่างเข้าเรียนกันหมด ทำให้สัญชาตญาณบอกให้เธอรีบก้าวเดินหนี... หมับ! "ปล่อยนะ!" แต่ไม่ทันใด ข้อมือที่มีรอยชํ้าจากเชือกอยู่ก็ถูกคว้าหมับเข้าอย่างแรง จนร่างเธอเซไปกระทบอกแกร่งของหนึ่งในผู้ชายพวกนั้น เชอร์รีนพยายามดิ้นต่อต้านต่อก็กลับสู้แรงผู้ชายที่ลากร่างเธอมายังหลังตึกสถาปัตไม่ได้.. "พี่ปล่อยแน่...แต่ขอพวกพี่สนุกกับหนูก่อนนะจ๊ะ" "ไอ้พวกบ้า...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" "เดี๋ยวจะได้คนบ้าเป็นผัวแล้วนี่ไง หึๆ" "กูขอก่อน มึงค่อยเอาต่อ" หนึ่งในผู้ชายพวกนั้นพูดขึ้น "ได้ไงกูเป็นคนลากมันมากูต้องได้ก่อนดิ" เชอรีนได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธบทสนทนาหื่นกรามของกลุ่มผู้ชายตรงหน้า หัวใจดังน้อยสั่นระริกหวาดกลัวว่าจะได้รับการกระทำรุนแรงแบบเมื่อคืนอีก ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวเอ่อคลอด้วยม่านนํ้า... "เอาหน่า....เอาตอนไหนก็ได้อยู่ดี" คนที่เงียบมานานพูดขึ้นแล้วจับแขนเพื่อนอีกคนเดินถอยห่างออกมาเปิดทางให้อีกคนเป็นคนเริ่ม แควก! "อย่านะ....ฮึก...ช่วยดะ...อื้อ!!" ไม่ทันที่เธอจะได้ร้องขอความช่วยเหลือก็ถูกมือใหญ่ปิดปากเอาไว้จนเสียงกลืนหายลงไปในลำคอ เชอร์รีนหลับตาแน่นเสื้อนักศึกษาถูกฉีกขาดปรากฏบราเชียร์สีเนื้อโผล่พ้นออกมา เรียวแขนถูกกดเอาไว้กับผนังตึกเอาไว้แน่น... "แหกปากร้องไปก็ไม่มีประโยชน์...ไม่มีใครหน้าไหนมายุ่งเรื่องของเราหรอกคนสวย" ปึก! "อ๊ากกกก...!!" "กูนี้ไงยุ่ง" มีดเล่มเล็กลอยปักมือหนาอย่างแม่นยำ จนเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน ร่างของผู้ชายคนนั้นถอยออกมากะทันหันพร้อมกับเพื่อนที่วิ่งเข้ามาหวังจะทำร้ายแต่พอเห็นว่าเป็นใครร่างกายก็หยุดอยู่ตรงนั้นอย่างอัตโนมัติ หมับ! "ไหนมึงบอกมาดิ มึงกำลังจะทำอะไรยัยนี้?" แทนไทเดินไปหยิบมีดมาแล้วคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของผู้ชายคนนั้น ชายหนุ่มเช็ดคราบเลือดกับชายเสื้อของคนตรงหน้าที่เปื้อนออกแล้วใส่ปลอกเหน็บไว้เอว พร้อมกับเลิกคิ้วถาม "....อึก...มาช่วยกูดิว่ะ!!" ท่าทางหวาดกลัวของคนอื่นที่เหลือแสดงออกถึงคำตอบชัดเจน สามหนุ่มไม่มีใครเข้ามาช่วยต่างพากันวิ่งเผ่นหนี แทนไทจึงหันมาคาดคั้นคำตอบต่อ "กูจะทำอะไรแล้วมึงมายุ่งอะไรด้วย" "แล้วมึงคิดว่าเหตุผลอะไรกูถึงกล้าเข้ามายุ่ง?" ผลั๊วะ! ผลั๊วะ! ชายหนุ่มสวนหมัดเข้าที่ใบหน้าจนเลือดไหลกลบมุมปาก คนที่ถูกทำร้ายไม่มีแม้แต่แรงจะสู้เลือดบนหลังมือไหลออกเป็นทางยาวสยดสยอง เชอรีนได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยเอาการสั่นเทา เรียวแขนยกขึ้นกอดหน้าอกตัวเองเอาไว้ "กูให้โอกาสมึงหนี แล้วอย่ายุ่งกับยัยนี้อีก" ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น คนที่โดนทำร้ายก็พยุงร่างกายเจ็บปวดของตัวเองหนีด้วยความทุลักทุเล แล้วหลังตึกจึงเหลือเพียงเชอรีนที่กำลังจะพาตัวเองเดินหนีแทนไท... "รู้แบบนี้หน้าจะปล่อยให้โดนข่มขืน" ร่างเล็กหยุดชะงักเธอหันไปมองแทนไทที่ยืนทำสีหน้าเรียบนิ่งอยู่ไม่ไกล "จริงๆ แล้วนายก็ไม่ได้ต่างอะไรจากพวกนั้นหรอก อย่าทำเหมือนตัวเองดีเกินกว่าพวกมันเลย" "ปากดีแบบนี้ไม่น่าช่วย" "ต้องการอะไรอีก คำขอบคุณ?" "...." "ถ้างั้นฉันขอบคุณนะ ที่นายฝืนมาช่วยทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้ขอ" "เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นทำแบบเมื่อคืนดีไหม?" "พูดจาบ้าๆ" พรึบ! เชอร์รีนตอบปัดๆ แล้วรีบก้าวเดินหนีอีกครั้ง แต่เสื้อเเจ็คเก็ตตัวโตก็ถูกโยนคลุมหัว เธอจึงจับมันมาดูด้วยสีหน้างุนงง เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อยูนิฟอร์มของสถาปัตที่มีชื่อเจ้าของปักไว้อยู่ "อะไรของนาย?" เธอเลิกคิ้วถาม.. "ถ้าไม่อยากโดนพวกห่านั้นจับมาข่มขืนอีกก็ใส่ซะ หรือจริงๆ แล้วอยากอ่อยผู้ชายก็เชิญตามสบาย" "นี้..." ไม่ทันที่เธอจะได้พ่นคำด่าใส่ ร่างหนาก็เดินชนไหล่เธอออกมาแบบไม่สะทกสะท้าน ที่ชายหนุ่มมาช่วยเชอร์รีนไว้ทัน ไม่ใช่ความตั้งใจอะไรทั้งนั้น เขาแค่กำลังสูบบุหรี่อยู่มุมใกล้ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนโดนลากมาข่มขืน ตอนแรกกะจะไม่ยุ่ง แต่เขาแค่ไม่ต้องการให้ใครมาใช้ที่ตรงนั้นซํ้ารอยตัวเองก็เท่านั้นเอง . . . 21.00 AM. -เชอรีน- "กูนี้ไงยุ่ง" "ไหนมึงบอกมาดิ มึงกำลังจะทำอะไรยัยนี้?" "แล้วมึงคิดว่าเหตุผลอะไรกูถึงกล้าเข้ามายุ่ง?" "กูให้โอกาสมึงหนี แล้วอย่ายุ่งกับยัยนี้อีก" ทำไมคำพูดพวกนั้นมันถึงดูมีอะไรแอบแฝงจังนะ มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจฉันมาจนถึงตอนนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ไม่ได้อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลยสักนิด แต่ใจเจ้ากรรมมันก็ดันแอบรู้สึกดีที่เขาพูดเหมือนเป็นห่วงฉัน ให้ตายเถอะ ฉันเกลียดความรู้สึกแบบนี้ชะมัด "เป็นอะไรนั่งยิ้มอยู่คนเดียว" แล้วเสียงของพี่พาร์ทก็ทักขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องในช่วงดึกของวัน "รีนยิ้มหรอคะ?" ฉันถามออกไป ฉันไปยิ้มตั้งแต่ตอนไหนกันยังไม่รู้ตัวเลยสักนิด "ก็พี่เห็นรีนนั่งยิ้มอยู่นี้ไง" "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ รีนไปทำงานก่อนนะ" ฉันตอบปัดๆ แล้วหยิบกระเป๋าเป้ข้างกายที่มีชุดลำลองสำหรับเปลี่ยนกลับบ้านพร้อมกับเสื้อเเจ็คเก็ตของนายนั้นติดกระเป๋าไปด้วยขืนห้อยไว้ในห้องพี่พาร์ทรู้พอดี "ให้พี่ไปส่งดีกว่า" "ไม่เหนื่อยแย่หรอคะ พี่พาร์ทพึ่งเรียนเสร็จนิคะ" "พี่เป็นห่วงเรามากกว่า ไปรอที่รถนะเดี๋ยวพี่ตามลงไป" "ก็ได้ค่ะ" ฉันยื่นมือรับกุญแจจากพี่พาร์ทแล้วปลีกตัวลงมารอชั้นล่างที่โรงรถ ก่อนจะกดเปิดมันแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งรอ ส่วนเรื่องที่ฉันเเอบไปมหาลัยมาวันนี้พี่พาร์ทยังไม่รู้ หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาฉันก็มานอนซมในห้องต่อจนเลยมาถึงช่วงดึก "เฮ้อ...ทำไมในสมองฉันมันคิดแต่เรื่องนายนะ ใจคอจะจองล้างจองผลาญฉันแม้กระทั่งตอนไม่ได้อยู่ด้วยกันรึไง" ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วหยิบแจ็คเก็ตตัวโตออกมา ก่อนจะมีโพลาลอยหลุดออกมาจากกระเป๋าเสื้อมันคือรูปของผู้หญิงหน้าตาสวยน่ารักคนหนึ่ง ถ้าฉันเดาไม่ผิดคงเป็นคนที่เขารักแหละมั้ง แล้วทำไมความรู้สึกมันถึงเป็นหวิวๆ กันนะ...มันคงไม่ได้เกิดความรู้สึกแบบนั้นขึ้นใช่ไหม... "มาแล้ว....คิดอะไรอยู่คนเดียวเหม่อเชียว" "ไม่มีอะไรค่ะ...เรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวหนูไปทำงานสาย" ฉันตัดบทแล้วรีบยัดเเจ็คเก็ตใส่กระเป๋าเป้ทันที พี่พาร์ทจึงเริ่มออกรถแล้วเคลื่อนตัวมาที่สถานบันเทิงสุดหรูแห่งหนึ่งในเวลาไม่กี่นาทีถัดมา "เลิกงานกี่โมง" "คงช่วงตีสองมั้งคะ" "มีอะไรให้โทรหาพี่นะรู้มั้ย แล้วนี่ถ้าลูกค้าทำอะไรมากเกินไปก็อย่าไปยอม" "ค่า...ทราบแล้วค่ะพ่อ" "งั้นพี่กลับแล้ว ไว้เจอกัน" "บ๊ายบายค่ะ" ฉันโบกมือลาพี่พาร์ทแล้วเปิดประตูลงจากรถ ยืนรอให้รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกไปก็เดินเข้ามาข้างในของผับ มุ้งตรงไปหาคุณอิงเพรชผู้จัดการของที่นี้ "ขออนุญาตค่ะ" "มาตรงเวลาดีนิ" "ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ" "ฉันจะไม่พูดอะไรมาก เดี๋ยวจะมีรุ่นพี่พาเธอไปเปลี่ยนชุดและเริ่มแนะนำงาน เธอก็เริ่มทำได้เลย อิงโก๊ะพาพนักงานใหม่ไปดูงาน" คุณอิงเพรชที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมร่ายยาวแล้วพยักหน้าไปหารุ่นพี่ผู้หญิงหุ่นสวยที่ยืนอยู่ข้างการ์ดตรงมุมห้อง "ได้ค่ะคุณอิงเพชร ตามฉะนั้นมา" เธอตอบแล้วหันหน้ามาคุย ฉันจึงเดินตามหลังเธอไปติดๆ ก่อนที่เราจะหยุดตรงห้องแต่งแต่ที่มีผู้หญิงสวยๆ มากมายเต็มไปหมด "งานของเธอคือคอยเอาใจปรนนิบัติแขกวีไอพีของที่นี้ ถ้าอยากได้ติบหนักๆ ก็อยู่ที่ความพอใจของลูก ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับเธออีกที" "หนูทราบค่ะ" "ฉันอิงโก๊ะเป็นคนดูแลเด็กๆ ส่วนวันนี้ฉันจะทำหน้าที่ต้อนรับแขกกับเธอ เพราะคุณอิงเพรชยังหาเด็กไม่ได้" "ค่ะ...หนูชื่อเชอรีนนะคะ" "เอาล่ะ ลูกค้าเริ่มมากันแล้ว เธอไปเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของร้านแล้วรีบออกมาทำหน้าที่" "ค่ะ..." ฉันพยักหน้าตอบแล้วเดินไปหยิบชุดจากพี่ผู้หญิงคนหนึ่งมาแล้วเดินหายเข้าไปในห้องลองชุด พอเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยมันก็สั้นเอามากเลยแฮะ แต่ก็พอได้ ฉันไม่ซีเรียสอะไรกับการแต่งตัวอยู่แล้ว... "เสร็จแล้วค่ะพี่อิงโก๊ะ" ฉันบอกเธอจึงหันหน้ามามองฉันด้วยแววตาพอใจ "ตามมา" เธอพูดเพียงเท่านั้นฉันก็เดินตามพี่แกมายังโซนวีไอพี "แขกห้องนี้คือกลุ่มลูกค้าประจำของที่นี้ ปรนนิบัติให้ดีด้วยล่ะ" "ค่ะ....เอ่อ...พี่อิงโก๊ะคะ หนูขอไปเข้าห้องนํ้าก่อนได้ไหม" "ตามสบายแต่อย่าช้า" เธอพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ร่างกายสมบูรณ์แบบก็เดินหายไป ฉันจึงตัดสินใจเดินลงมาเข้าห้องนํ้าชั้นล่างแทนซึ่งวันนี้คนก็ดูเยอะแปลกๆ แต่ฉันก็ไม่สนใจมุ่งหน้าเข้าไปในห้องนํ้าทันที.. -End- ปึก! "ขอโทษค่ะ..." เชอร์รีนรีบขอโทษคนตรงหน้าทันทีเมื่อเธอชนเข้ากับร่างของใครบางคนเข้า หญิงสาวตรงหน้าชักสีหน้าไม่พอใจใส่เธอกลับ "ทีหลังก็ช่วยแหกตาดูด้วยนะ" "...." เชอรีนส่ายหัวเอือมระอาแล้วเดินเข้ามาในห้องนํ้าเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เธอสบตาเข้ากับแทนไทเข้า ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องนํ้าพร้อมกับรูดซิปกางเกง สายตาเรียบนิ่งไล่มองเรือนร่างเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเเสยะยิ้มมุมปาก "มีอะไร" "ผู้หญิงคนนี้เดินชนหนูค่ะพี่แทน.." "ถ้าขอโทษแล้วไม่ยอมจบก็ช่วยไม่ได้" "ออกไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป" "แต่.." "เดี๋ยวฉันจัดการเอง" "ก็ได้ค่ะ" หญิงสาวยอมเดินออกไปจากห้องนํ้าไร้ซึ่งผู้คนร่างหนาจึงเดินตามไปติดๆ พร้อมกับล็อกประตูแล้วเปลี่ยนจุดสนใจมาที่เธอแทน..ชายหนุ่มย่างกรายเดินต้อนคนตัวเล็กแล้วตวัดท่อนแขนอุ้มเธอขึ้นบนอ่างล้างมือหน้ากระจก "เดี๋ยวนี้มาทำงานแบบนี้แล้วหรอ" "ฉันจะทำงานอะไรมันเกี่ยวกับนายตรงไหน" "ก็เพราะร่างกายเธอมันเป็นของฉัน หรือจำไม่ได้?" "....." เชอรีนเค้นหัวเราะแล้วเบือนหน้าหนี.. "แล้วอย่าให้รู้ว่าเสอาะไปถ่างขาให้ใครเอาล่ะ เข้าใจที่พูดใช่มั้ย.." . . . อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร? Nest "งานอย่างอื่นไม่มีทำรึไง ถึงชอบทำงานเปลืองตัวแบบนี้"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD