บุปผาบานฉ่ำ
เป็นอีกคืนที่แก่นกายอู๋หยางจีตื่นตัวตั้งแต่ได้กลิ่นหอมลอยเข้ามาทางช่องหน้าต่าง อันที่จริงเขาอยากลืมตาเพื่อจะได้ชมความงามของร่างเย้ายวน ทว่าหนังตาเขาหนังอึ้งเหลือเกิน หลายคืนแล้วที่เป็นเช่นนี้ เขามั่นใจว่าตนถูกวางยา แต่สิ่งที่ทำได้คือแสร้งหลับใหลต่อไป เพื่อให้หญิงสาวที่กำลังจะปรากฏในห้องนอนเล็กๆ กระทำสิ่งที่ชวนให้เขาซาบซ่านถึงใจ
อึดใจต่อมา เรือนร่างนุ่มนิ่มก็เคลื่อนมานั่งทับร่างเขา ตรงกึ่งกลางลำตัว และนางคงขัดเขินอยู่มาก การแสดงออกจึงเหมือนกล้าๆ กลัวๆ กระนั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้ อยากเห็น ต่อกายแกร่งของบุรุษ
บั้นท้ายงอนงามลอยเหนือร่างอู๋หยางจี และกลีบบุปผางามมีน้ำพรมอยู่จนชุ่มชื้น มันพร้อมตอบรับความแข็งแรงที่เขาจะสอดใส่เข้าสู่เนื้อนุ่มนิ่มด้านใน เมื่อเขาขยับสะโพกยกสูงขึ้น แล้วแสร้งส่งเสียงงัวเงียคล้ายคนละเมอเพื่อหลอกล่อนาง หญิงสาวต้องตกใจ นางส่งเสียงแสนน่ารักออกมาอย่างลืมตัว
“อ๊ะ อ๊า...อุ๊ย...คนลามก” นางร้องติดกันหลายครั้ง แต่ไม่ยอมถอยหนี คงเป็นเพราะติดใจการเล่นสนุกเช่นนี้กับอู๋หยางจี ที่สำคัญการอยู่ใกล้ชิดเขา มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ช่วยให้นางหายปวดเมื่อยร่างกาย อีกทั้งพิษที่พ่อลูกสกุลหลี่ที่ใช้กับนางนั้นค่อยๆ ถูกขจัดไปทีละส่วน
“อี๊ๆ ๆ คุณชายเจ้าขา อย่ารังแกข้า อ๊าย...ข้า เกรงว่ามันไม่ถูกต้องนัก”
นางร้องไม่เป็นภาษา ด้วยปลายหัวหยักสีแดงเข้มของเขาค่อยๆ แทรกเข้าสู่กลีบบุปผาที่พร่างพรมด้วยน้ำหวาน
ดูเหมือนนางคงไม่ทันเฉลียวใจสักนิดว่า เมื่อแท่งหยกพองขยายจนกลายเป็นมะเส็งที่แผ่แม่เบี้ย มันย่อมต้องการพื้นที่อบอุ่นฝังตัว และในยามที่แก่นกายซึ่งมีปลายหัวหยักบานใหญ่โผล่พ้นออกมาจากฝัก แล้วถลำกำลังลึกเข้าสู่จุดรัญจวนใจของนาง อู๋หยางจีหัวเราะหึๆ เขาชอบความรู้สึกนี้ สมยอมให้สตรีที่ปลอมตัววิญญาณเจ้าสาวลับลอบกินเนื้อตัวเขาทุกค่ำคืน มันคือความสิเน่หาที่เขาปรารถนาให้นางกระทำด้วยความย่ามใจ โดยหารู้ไม่ว่าคนที่ไม่ได้ลงทุนอันใด กับได้กำไรอันหอมหวานจากนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ หากแม่นางอยากเป็นเจ้าสาวของข้า เจ้าบ่าวผู้นี้ย่อมส่งเสริมอย่างถึงที่สุด อู๋หยางจีรำพึงรำพันในใจ
ร่างที่มีกลิ่นอ่อนๆ จากเครื่องหอมชวนให้เขาหลงใหล นางพยายามทำให้เขาเข้าใจว่าเป็นวิญญาณเจ้าสาวในหอแดงที่ถูกปล่อยร้าง ซึ่งเรื่องนี้หากเขายอมตามใจนางสักหน่อยคงไม่เกินความสามารถตน
กระนั้นเขาก็เป็นถึงบัณฑิตหนุ่มอนาคตไกล ถึงจะเดินทางมาจากบ้านนอก แต่มีความรู้ไม่น้อย จึงแยกแยะเรื่องผีกับคนได้ และคนที่มีเลือดเนื้อหอมหวาน แถมยังมอบความสุขให้แก่เขาหลายคืนติดๆ กันเช่นนี้ เขายิ่งอยากให้ทำนางอิ่มหนำกับรสสวาททั้งปากบนอันอิ่มสวย และปากล่างเนินเนื้อสาวที่กลีบด้านในมีน้ำหวานพร่างพรมให้ดูดเลีย
ผีสาวอยากกลืนกินเขาทั้งตัว อู่หยางจีจึงตอบสนองนางให้ถึงอกถึงใจ การลักลอกรุกรับบนเตียงเช่นนี้ อู๋หยางจีถนัดนัก เมื่อครั้งเป็นหนุ่มน้อยมักมีพี่สาวข้างบ้านมาชวนเล่นสนุกเช่นนี้เสมอ ผิดแต่ยามนั้นเขายังไม่ได้ใช้แท่งหยกบอกรักนาง เพียงแต่สนุกกันภายนอก และมันทำให้เขารู้ว่าสตรี ชอบให้ชายหนุ่มปรนเปรอความสุข ด้วยปาก มือ และแก่นกายแข็งแรง
“อ๊ะ...อ๊า!” วิญญาณสาวร้องเสียงสูง เมื่อเขาขยับสะโพกอีกหน แล้วส่งมะเส็งลำอวบที่มีเส้นเลือดปูดโปนถลำลึกเข้าสู่ส่วนคับแน่นของนาง
กลีบบุปผางามที่แฉะชื้นรอคอยเวลานี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ทางสวาทถูกถูไถเย้าหยอกหลายครั้งหลายหน จนนางร้องครางอย่างเป็นสุข กระทั่งเขาส่งความใหญ่โตเข้าไป หัวคิ้วนางก็ยู่ย่น ปากก็ห่อราวกับลิ้มอาหารรสจัดและเผ็ดร้อนเข้าไป
เมื่อท่อนลำอวบใหญ่จ่ออยู่ปากทาง แอ่งเนื้อแรกสาวสีชมพูสดก็เริ่มออกแรงดูดปลายหัวหยักมันวาวเข้าไป พอเขาขยับสะโพกสอบอีกครั้ง นางก็หวีดเสียงแหลมเล็กเพื่อปลดปล่อยความอึดอัดที่เสียดทางเนื้อนิ่ม
หัวใจสาวเต้นไหวรุนแรง ยอดหน้าอกชูชันพร้อมให้เขาดูดเม้ม และขยี้ยอดงามสีชมพูสดด้วยปาก ด้วยปลายลิ้น กับนิ้วใหญ่อย่างที่เขามอบความสนุกให้นางเสียวสยิวในค่ำคืนที่ผ่านมา ยามนี้พื้นที่แสนฉ่ำหวานถูกมะเส็งเขาแทรกลึกเข้าสู่ด้านใน อู๋หยางจีส่งความใหญ่โตจับจองส่วนที่นางหวงแหน เขาเด้งสะโพกสอบขึ้นลง จากเนิบช้าเป็นถี่รัว เดี๋ยวถลำลึก เดี๋ยวเคลื่อนออกมาอยู่ปากทาง... ตัวนางก็บีบรัด สลับคลายความตึงเครียดของเขาเป็นจังหวะที่สอดประสานอย่างเท่าเทียมกัน
อู๋หยางจี หลับจริงหรือ...
เตียวร่วนตั้งคำถามตนเองไม่รู้กี่ครั้งกี่หน แต่นางไม่อาจตอบคำถามนี้ให้กระจ่าง อีกทั้งจะถอยจากอุ่นเตียงกับบัณฑิตหนุ่มผู้นี้ ก็ให้เสียดายต่อสิ่งที่ลักลอบทำมา แน่ล่ะ...นางติดใจเขา และถวิลหารสชาติจากกายแกร่ง การเล่นซุกซนในช่วงเวลายามค่ำคืน มันอิ่มเอมใจยากจะหาสิ่งใดทดแทน
ริมฝีปากอิ่มสวยห่อเข้าหากัน นางอึดอัดเมื่อแท่งอวบอยู่ในร่างกาย ร่างกายนางร้อนรุ่ม แต่สุขสมสดชื่นราวกับได้อาบชำระร่างกาย
ยามนั้นสองมือนางอยู่ไม่เป็นสุข จึงเอื้อมไปบีบคออู๋หยางจี บีบเบาๆ เพื่อหวังให้ชายผู้นี้ ล่วงรู้ว่านางปริ่มจะขาดใจพร้อมเป็นสุขเพียงใดเมื่อกลีบบุปผางามถูกเขากระหน่ำทิ่มแทง และเย้าหยอกอย่างบ้าคลั่งด้วยมะเส็งที่ทั้งใหญ่โต และทั้งลื่นไหล