ตอนที่ 6

1181 Words
“สร้อย... พูดแบบนี้ คุณอนลจะคิดว่าไล่หรอกลูก” มารดารีบแทรกขึ้นอย่างเกรงใจอนล ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ถือสาอะไร “ผมกำลังจะขอตัวกลับพอดีเลยครับ” เขาลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้มารดาของสร้อยมาลา จนหญิงวัยกลางคนแทบยกมือขึ้นรับไหว้ไม่ทัน “สวัสดีครับคุณน้า ไว้เจอกันใหม่นะครับ” “สวัสดีค่ะคุณอนล ที่นี่ยินดีตอนรับคุณอนลทุกเมื่อเลยนะคะ ขับรถปลอดภัยค่ะ” “ขอบคุณครับคุณน้า” อนลยิ้มให้กับหญิงวัยกลางคนอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำหน้าออกไปยังหน้าบ้าน “ออกไปส่งคุณอนลสิสร้อย” “จ้ะแม่” สร้อยมาลารีบเดินตามชายหนุ่มออกมายังนอกบ้าน และตามไปหยุดที่รถคันงาม “ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณอนลที่อุตส่าห์มาส่งสร้อยถึงบ้าน” “คุณขอบคุณผมด้วยกาแฟหนึ่งถ้วยแล้วไงครับ” เขายิ้มให้กับสาวแว่นที่ตอนนี้เนื้อตัวของหล่อนดูเย้ายวนตาขึ้นผิดหูผิดตา “กาแฟของคุณรสชาติดีมาก และก็หอมมากๆ ด้วย สงสัยผมคงต้องแวะมาดื่มบ่อยๆ เสียแล้ว” สร้อยมาลาชะงักกึกไปเล็กน้อย เมื่อสบตากับดวงตาคมกริบของอนล หัวใจของหล่อนเต้นระรัวขึ้นมาปัจจุบันทันด่วน ปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรงเพื่อซ่อนความรู้สึกแท้จริงเอาไว้ “เดี๋ยวสร้อยจะพากาแฟไปให้เลขาคุณอนลที่ออฟฟิศนะคะ สร้อยสั่งมาเยอะค่ะ” “ไม่ต้องครับ ผมอยากมาดื่มกาแฟที่บ้านของคุณมากกว่า” “...” “ผมชอบคุณกับคุณแม่ของคุณน่ะ ท่านคุยสนุกดี” เมื่อเห็นสร้อยมาลานิ่งงันไป เขาจึงอธิบายเพิ่มเติม “อ๋อ ค่ะ” “ผมไปล่ะ” “ขับรถปลอดภัยค่ะคุณอนล” เรือนร่างสูงใหญ่ก้าวหายขึ้นไปบนรถคันงาม และไม่ช้า ท้ายรถหรูก็หายเข้าไปในความมืด หล่อนยืนมองจนลับสายตา จึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน แม่ยังคงนั่งรอหล่อนอยู่ที่โซฟา “คุณอนลน่ารักดีนะสร้อย ดูไม่ถือเนื้อถือตัวเลย” แม่ของหล่อนเอ่ยชมอนลทันทีที่เห็นหน้าของหล่อน สร้อยมาลายิ้มบางๆ ไม่อยากจะพูดถึงอนลนัก เพราะเกรงว่าแม่จะจับความรู้สึกที่ตัวเองมีต่ออนลได้ “คุณอินทัชก็ไม่ถือตัวจ้ะแม่” หล่อนเลี่ยงไปพูดถึงเจ้านายสายตรงของตัวเอง “คุณอนลนี่เป็นพี่น้องคุณอินทัชหรือเปล่าสร้อย แม่ว่าหน้าคล้ายๆ กันนะคะ” แม่ของหล่อนเคยเจออินทัชสองสามครั้ง ในครั้งที่ต้องเดินทางไปประชุมต่างจังหวัด “ใช่จ้ะแม่ คุณอนลเป็นน้องชายบอสของสร้อยจ้ะ” “ว่าแล้วเชียวหน้าหล่อเหมือนกันมาก” แม่ของหล่อนอมยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะละสายตาจากโทรทัศน์มามองหล่อน “แล้วคุณอนลแต่งงานหรือยังล่ะสร้อย” แม่ของหล่อนรู้ว่าอินทัชแต่งงานไปแล้ว “ยังจ้ะแม่” “อ้าว ทำไมล่ะ หล่อขนาดนี้แม่คิดว่าไม่น่าโสดแล้วนะเนี่ย” “ถึงคุณอนลจะยังไม่แต่งงาน แต่เขาก็มีผู้หญิงรอบเอวจ้ะแม่ เยอะมากด้วย” หล่อนพยายามปั้นเสียงให้ท้ายประโยคไม่เศร้าหมอง แต่ก็ทำไมไม่สำเร็จจนมารดาจับสังเกตได้ “สร้อยพูดเหมือนรู้สึกไม่ดีที่คุณอนลมีผู้หญิงเยอะอย่างนั้นแหละ” “ปะ เปล่าจ้ะแม่ สร้อยจะไปรู้สึกไม่ดีได้ยังไงกันล่ะจ้ะ” หล่อนแสร้งหัวเราะขบขัน “เอ่อ... สร้อยขอตัวไปนอนก่อนนะแม่” “อืม ไปพักผ่อนเถอะ อ้อ แล้วอย่าลืมกินยาพาราดักไว้สักเม็ดล่ะลูก กันไข้ขึ้นน่ะ” “จ้ะแม่” หล่อนยิ้มอ่อนให้กับมารดาอีกครั้ง ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องพักของตัวเอง เมื่อเข้ามาภายในห้องนอนแล้ว ก็เดินไปทิ้งตัวบนเตียง นิ้วเรียวถึงแว่นหนาออกจากใบหน้าของตัวเอง เสียงถอนใจแรงๆ ดังเล็ดลอดออกมาจากกลีบปากอิ่ม ก่อนที่ร่างอวบอัดจะเอนตัวลงนอนหงาย ดวงตากลมโตจับจ้องที่ฝ้าเพดานห้องนิ่งนาน “เธอต้องซ่อนความรู้สึกให้มิดนะสร้อย... อย่าให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเธอแอบรักคุณอนล” หล่อนพึมพำบอกตัวเองเสียงแผ่วเบาแค่ในลำคอ แต่เสียงนั้นมันกลับดังก้องอยู่ในโสตประสาทราวกับเสียงระฆัง สำหรับสาวเฉิ่ม เชย อย่างหล่อน ทำได้แค่เพียงแอบรักอนลเท่านั้นแหละ เพราะผู้หญิงอย่างหล่อน ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลย แม้แต่วินาทีเดียว          อนลขับรถมาถึงบ้านในอีกชั่วโมงต่อมา ซึ่งทันทีที่เข้าเดินเข้ามายังห้องโถงกว้างก็พบมิรินดาพี่สะใภ้ของตัวเองนั่งนิ่งเงียบอยู่เพียงลำพัง          ชายหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้ จึงเดินเข้าไปหยุดข้างๆ และถามด้วยความเป็นห่วง          “ทำไมถึงมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะครับมิริน”          เขากับมิรินดา รวมถึงอินทัช และอติพัฒน์ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะสองครอบครัวเป็นเพื่อนสนิทกัน ไปมาหาสู่กันตลอด          มิรินดาอายุน้อยกว่าเขาห้าปี และก็อายุน้อยกว่าอินทัชผู้เป็นสามีถึงเจ็ดปีเลยทีเดียว          เมื่อหกเดือนก่อน มิรินดากับอินทัช เข้าพิธีมงคลสมรสกันอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย          เขาพอมองออกว่ามิรินดาเต็มใจแต่งงานกับอินทัชมาก แต่สำหรับอินทัชเขาไม่อาจจะเดาความรู้สึกได้เลยว่า แท้จริงแล้วพี่ชายเต็มใจแต่งงานกับมิรินดาหรือเปล่า          หลายครั้งที่เขาเห็นมิรินดาหน้าเศร้า และหลายครั้งที่เขาเห็นอินทัชแสดงความเย็นชาใส่ผู้เป็นภรรยาอย่างใจดำ          เขาเคยถามพี่ชายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่อินทัชไม่ตอบ และเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแทน          “เอ่อ... พี่สอง...” มิรินดาสะดุ้งตกใจ ก่อนจะฝืนยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นอนล          “พี่ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ”          “ได้ค่ะ”          มิรินดากะพริบตาซ้ำหลายครั้ง จนหยาดน้ำตาจางหายไป แต่ดวงตาที่แดงช้ำ ไม่อาจปกปิดความโศกเศร้าของหล่อนกับสายตาของอนลได้          อนลถอนใจออกมาเบาๆ ขณะทอดสายตามองมิรินดาที่ตัวเองรักเหมือนน้องสาวด้วยความเป็นห่วง          “ทะเลาะกับพี่หนึ่งมาหรือมิริน”          กลีบปากอิ่มสีแดงระเรื่อของมิรินดาเม้มแน่นเป็นเส้นตรงอยู่สักครู่ ก่อนที่เจ้าของปากนุ่มนั้นจะกลั้นใจฉีกยิ้มกลบเกลื่อนความเจ็บปวด          “เปล่าหรอกค่ะ”          “เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าพี่ดูไม่ออกหรือมิริน”          เมื่ออนลยืนกรานว่าเขาล่วงรู้ มิรินดาก็พาลน้ำตาซึมออกมา          หล่อนรีบก้มหน้าลงมองมือเล็กที่ประสานกันอยู่บนตักทันที          “ถึงพี่หนึ่งจะเย็นชา แต่พี่หนึ่งเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบครับ”          คนฟังยิ้มเศร้าหมอง          “พี่หนึ่ง... เป็นผู้ชายที่ดีมากค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD