บทที่ 1 ก่อเกิดความสัมพันธ์
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
"พี่วินขาาา"
"ขอโทษค่ะคุณหมอ ดิฉันห้ามแล้วแต่ว่าเธอ.." คุณพยาบาลหน้าห้องพยายามอธิบายเพราะกลัวจะถูกคุณหมอหนุ่มว่าเอาให้
"ชั่งเถอะครับ คุณออกไปก่อนเถอะ"
"ค่ะ"
"พี่วินหลบหน้าพราวทำไมละคะ"
"ก็ไม่อยากเจอหน้า"
"โถว่ พี่วินรู้ไหมคะว่าสมัยเรียนพราวฮอตขนาดไหน"
"ไม่ได้อยากรู้
"ไม่อยากรู้พราวก็จะเล่าค่ะ"
"...."
"พราวทั้งเรียนดีกิจกรรมเด่นแน่นอนว่าเข้าตาหนุ่มๆหลายคนแต่พราวก็ยังชอบแค่พี่วินนะคะ"
"หยุดพูดแล้วออกจากห้องนี้ไปสักที รู้ไหมว่าเวลาของหมอมีค่าแค่ไหน คนไข้เขาต้องตื่นแต่เช้าเมื่อมารอพบหมอ หมออย่างฉันจะเสียเวลาเปล่าประโยชน์กับเธอได้ยังไงล่ะ" ชายหนุ่มพูดออกมาตรงๆไม่คิดจะไว้หน้าเธอสักนิด
"ฮึ่ย ฝากไว้ก่อนเถอะค่ะ เห็นแก่คุณป้าที่นั่งรออยู่ข้างนอกนู้น" หญิงสาวสะบัดหน้าเดินจากไปทันที ชายหนุ่มหาได้สนใจ เขาเรียกคนไข้คนถัดไปเข้ารับการตรวจรักษา
"เป็นไงละจ๊ะหน้าบูดเป็นตูดเชียว" เพื่อนของหญิงที่เป็นพยาบาลอีกแผนกเอ่ยทักเพื่อนสนิท
"พี่วินหลบหน้าฉันอีกแล้วอ่ะแก"
"แล้วทำไมแกไม่บอกเรื่องเด็กในท้องของแกให้คุณหมอเขาฟังล่ะ เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ"
"ฉันไม่อยากบังคับให้เขาต้องจนใจมารับผิดชอบนี่ ฉันอยากให้เขารักที่ฉันเป็นฉัน"
"ฮ่าๆ โทษทีที่ขำ เธอฝันหรือเปล่าเนี่ย"
"ฉันไม่ได้ฝัน ฉันจะพยายามอีกสักตั้ง"
"เห้อ ฉันล่ะนับถือใจแกจริงๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำแกท้องน่ะ"
"ฉันไม่อยากจะเอาลูกมาผูกมัดเขานี่ ถ้าจะโทษต้องโทษเพื่อนร้ายๆของพี่เขาตั้งหากที่มอมเหล้าพี่วิน แล้วก็โทษพวกยัย อลิซด้วย หาเรื่องให้ฉันได้ตลอด ฉันกลับบ้านก่อนดีกว่าเดี๋ยวคุณแม่เป็นห่วง ผิดเวลาแล้ว"
"อืม เดินทางปลอดภัยนะ"
"ขอบใจจ้ะ"
ย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน
งานเลี้ยงการจบการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อนๆที่เป็นศิษย์เชิญชวนให้อัศวินมาร่วมงานนี้ด้วยเพราะเผื่อว่าเพื่อนที่เหมือนมนุษย์น้ำแข็งคนนี้จะเกิดชอบพอกับสาวคนไหน จะได้สานต่อได้ทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ชายตามองสาวไหนเลยสักคน จนคนในงานมาสะดุดกับหญิงสาวที่โดดเด่นอย่างพริ้งพราว ชายหนุ่มแค่หันไปมองนิดนึงตามเสียงปรบมือ แล้วก็หันกลับมาที่โต๊ะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เฮ้ยๆ นั่นน้องพราวดาวคณะบริหาร สวยชะมัดเลย แกว่าสวยไหมไอ้หมอ"
"ก็งั้นๆ"
"งั้นๆพูดมาได้ไงเนี่ย คืนนี้ฉันคงต้องจัดสาวให้แกสักคนถึงจะได้รับรู้ว่าชีวิตโสดน่ะมันไม่สนุกเอาซะเลย สู้มีสาวๆข้างกายก็ไม่ได้ ฮ่าๆ" เพื่อนสนิทคนหนึ่งที่มีนิสัยเจ้าชู้เปลี่ยนสาวไปเรื่อยเอ่ยแซว
"พอๆอย่าได้คิดอะไรไม่เข้าเรื่อง"
"อลิซ เราไปหายัยพริ้งพราวกันเถอะ"
"จะไปทำไม ฉันไม่อยากเห็นหน้ามัน งานวันนี้มันก็แย่งความโดดเด่นไปจากฉัน"
"แกลืมไปแล้วเหรอว่าถ้าแกไม่รีบกำจัดยัยพริ้งพราวซะตั้งแต่วันนี้นางก็จะเด่นกว่าเธอในหลายๆด้าน เธอยอมได้เหรออลิซ"
"ฉันไม่ยอม"
"งั้นก็ทำตามแผนที่พวกเราวางเอาไว้"
"อืม" ชายหนุ่มเพลิดเพลินกับการนั่งชิลฟังดนตรีสด เพื่อนๆรินเหล้าให้อยู่ตลอดซึ่งเขาเองก็ยอมรับมาดื่มอย่างง่ายดาย ไม่นานก็เริ่มรู้สึกมึนๆแต่ยังรับรู้เรื่องราว แอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้น มันสูบฉีดเลือดจนเขาหน้าเริ่มขึ้นสีแดง เพื่อนๆเห็นว่าเขาไม่ไหวแล้วจึงจัดแจงพาเขาไปพักบนห้องสวีทของโรงแรม
"ไอ้วิน นอนอยู่ที่นี่ก่อนนะ แกนี่มันเมาง่ายจริงๆ ฮ่าๆ คออ่อนจริงๆ"
"ไม่เมาา"
"อย่างนี้น่ะเขาเรียกเมาแล้ว ขอให้คืนนี้มีความสุขนะเว้ย ฮ่าๆ พวกเราไปกันเถอะ" เพื่อนของชายหนุ่มหัวเราะอย่างสนุกสนาน พวกเขาอยากให้เพื่อนได้ปลดปล่อยตัวเองบ้าง
"เรียบร้อยไหมครับน้องอลิซสาวที่พี่ให้หามาให้เพื่อนพี่น่ะ"
"เรียบร้อยสิค่ะ ห้องไหนคะ อลิซจะได้พาน้องเขาไปส่งให้เพื่อนพี่ถูกห้อง"
"ห้อง 1101 ครับ ว่าแต่สาวคนนี้ไว้ใจได้ใช่ไหมจะไม่เกิดปัญหาภายหลังนะครับ"
"แน่นอนสิคะเชื่ออลิซสิ"
"โอเคครับ พี่เชื่อ"
"อื่ออ อลิซ ที่นี่ที่หน่ายย"
"ฉันเห็นแกเมาแล้วเลยพามาพักไง พักอยู่บนห้องนี้ก่อนละกันนะแก เตียงนุ่มๆแบบนี้นอนหลับสบายเลยแก"
"อืมมม นิ่มจริงๆ" หญิงสาวที่คอพับคออ่อนอยากนอนเต็มที่แล้ว ด้านอลิซไม่ทราบหรอกว่าผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงเป็นใครเพราะเขาเอาผ้าห่มปิดหน้าไว้
"ขอให้สนุกจนลืมไม่ลงเลยนะจ๊ะยัยพราว คิกๆ" อลิซหัวเราะอย่างมีความสุข เธอคิดว่าต่อจากนี้พราวก็คงไม่กล้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่แน่นอนว่าเหล้าที่ชายหนุ่มดื่มไม่ใช่เหล้าธรรมดาแต่ผสมยาลงไปด้วย
"อื่อออ ร้อนน" ชายหนุ่มห่มผ้ามิดชิดจนเริ่มร้อน จึงเปิดผ้าห่มออกพร้อมทั้งยกมือขึ้นแกะกระดุมทีละเม็ดออก จนสามารถถอดเสื้อของตนออกได้สำเร็จ จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนพลิกตัวควานหาหมอนข้าง อืม หมอนข้างที่นี่นิ่มจริงๆ ชายหนุ่มคิดในใจ
ด้านคนตัวเล็กรู้สึกตัวเมื่อมีอะไรบางอย่างมากอดรัดตัวเธอ หญิงสาวรู้สึกร้อนและอึดอัด เมื่อลืมตาขึ้นและพบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เธอตกใจกำลังจะร้องโวยวายแต่ชายหนุ่มที่เริ่มไม่ได้สติกับก้มลงมาจูบปิดริมฝีปากบางเธอเอาไว้ เธอจึงดิ้นขัดขืนแต่มีหรือที่แรงอันน้อยนิดของเธอจะสู้เขาได้ เสื้อผ้าของเธอถูกเขาปลดออกจนไม่เหลืออะไรสักชิ้น ชายหนุ่มตะลึงในความงามตรงหน้า สติที่มีน้อยนิดจึงถูกอารมณ์ที่กำลังโหมกระหน่ำร้อนแรงควบคุมแทน สุดท้ายเธอจึงต้องปล่อยเลยตามเลยไปตามแต่ที่เขาจะพาเธอไป หญิงสาวรับรู้สัมผัสทุกอย่าง แต่เขาจะรู้บ้างไหมนะ
"เราสองคนต้องแต่งงงานกัน"
"ผมไม่แต่ง"
"คุณปฎิเสธไม่ได้หรอกค่ะในเมื่อคุณข่มขืนฉัน"
"เหอะ เรียกว่าข่มขืนได้ยังไงในเมื่อคุณก็รับงานนี้มาโดยเฉพาะน่ะ"
"รับงาน? นี่คุณหมายความว่ายังไงกันแน่" คำพูดของชายหนุ่มเป็นการดูถูกเธอเธอยอมไม่ได้
"ใช่ ผมโทรถามเพื่อนผมแล้ว ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อนผมเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด คุณรับเงินไปแล้วก็อย่าโวยวายเลย"
"คุณอย่ามาตลกนะ เงินบ้าบออะไรฉันไม่เคยได้ ฉันไม่เคยรับงานอะไรแบบนี้นะ"
"เรื่องนั้นผมไม่ทราบหรอกว่าความจริงมันเป็นยังไง เอาเป็นว่าพวกเราแยกย้ายเถอะ" ใจร้าย เย็นชาที่สุด ผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้ใจร้ายเสียจริง เธอจะไม่ยอมให้เขาพรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอง่ายๆหรอกนะ
ในเมื่อเขากำลังจะตีตัวออกห่างเธอก็ต้องรีบหาช่องทางที่จะติดต่อเขาให้ได้และเบอร์โทรสัพท์เป็นอันดับแรกที่เธอนึกขึ้นได้ในตอนนี้
“เอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณมาค่ะ"
"ผมไม่ให้" ชายหนุ่มปฎิเสธทันทีเพราะเขาไม่เคยอยากจะสานต่อความสัมพันธ์กับเด็กที่เพื่อนหามาให้
"ไม่ให้ไม่ได้ หรือคุณอยากจะให้คนอื่นๆเขารู้เรื่องของเราคะ" หญิงสาวขู่ชายหนุ่มซึ่งมันก็ได้ผล สุดท้ายเขาก็ให้เบอร์ติดต่อกับหญิงสาวไป
"ว้าว เป็นคุณหมอเหรอคะเนี่ย คุณเป็นคุณหมอที่ดุเด็ดมากค่ะ" เธอตอบกลับยิ้มๆ
"นี่คุณจะพูดอะไรก็นึกก่อนนะว่าตัวเองน่ะเป็นผู้หญิง" เขาอดจะตำหนิเธอไม่ได้
"ฮ่าๆ เป็นห่วงฉันเหรอคะ"
"ใครเขาเป็นห่วง คิดไปเอง"
"ก็ได้ค่ะ คิดไปเองก็คิดไปเอง อะ อุ๊ย!" หญิงสาวขยับตัวจึงทำให้ผ้าห่มที่คลุมร่างลดระดับลงเห็นอกอวบ
"ตายจริง!" เธอแกล้งส่งเสียงตกใจ ส่วนคนที่เห็นอะไรต่อมิอะไรเต็มๆหน้าก็รีบหันหน้าหนี เนื้อตัวของเธอมีรอยแดงเต็มไปหมดซึ่งจะเป็นใครไปได้นอกจากฝีมือเขาทั้งนั้น
"รีบไปแต่งตัวด้วย ผมยังมีงานต้องทำอีก" ชายหนุ่มก้มลงหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ส่วนหญิงสาวรีบเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ หลังจากวันนั้นทั้งสองคนก็แยกย้ายกันไป แต่เรื่องราวในคืนนั้นชายหนุ่มกลับจำมันได้เป็นอย่างดี
หญิงสาวคิดว่าตัวเองนั้นตกหลุมรักชายหนุ่มอย่างจัง เธออยากจะคบหากับเขาให้เป็นเรื่องเป็นราวแต่ดูถ้าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย หญิงสาวเข้ามาทำงานที่บริษัทในเครือของครอบครัวที่มีสาขาทั้งในไทยและต่างประเทศ ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนแปลกหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าเธอคิดถึงเขาทุกวัน เธอรู้สึกว่าตัวเองแปลกไปจนกระทั่งเธอตัดสินใจซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ และก็พบว่าเป็นอย่างที่เธอคิด เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ งานนี้เธอจะต้องทำให้เขาอยากแต่งงานกับเธอให้ได้ เขาเป็นพ่อเขาก็ต้องรับผิดชอบ
ปัจจุบัน
เรื่องราวของเธอที่ถูกเล่าต่อกันมาว่าเธอโดนหิ้วขึ้นห้องผู้ชายเป็นกระแสไม่น้อยแต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจทั้งๆที่ในใจก็แอบกังวล งานเดินแบบของเธอเลยลดลงไปกว่าครึ่ง นั่นทำให้งานต่างๆตกไปเป็นของอลิซที่เป็นรองเธอมาเสมอ เธอคิดว่าอลิซเป็นเพื่อนแต่อลิซไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้น แต่จะว่าไปก็ถือว่าเป็นช่วงพักจากการทำงานของเธอบ้างก็ได้เพราะเธอรับงานหนักมากมาตลอด เอพอจะมีเงินเก็บอยู่ไม่น้อย
"พราวโทรหาทำไมไม่รับสายพราวเลยละคะ"
"ไม่ว่าง" เขาตอบกลับห้วนๆอย่างไม่สนใจใยดีเธอเลย
"พราวทำอาหารว่างมาให้พี่วินทานค่ะ น่าทานทั้งนั้นเลยนะคะนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วพักก่อนนะคะ" เป็นระยะเวลาอาทิตย์กว่าแล้วที่เธอมาตามตื้อเขาทุกวันแต่เขาก็ไม่ใจอ่อนให้เธอเลยสักนิด
"ยังไม่หิว จ๊อกก"
"ฮ่าๆอย่าโกหกกันสิคะ ท้องร้องเสียงดังขนาดนี้แปลว่าหิวแล้ว" เธออดจะหัวเราะให้กับคนที่ปากไม่ตรงกับใจไม่ได้
"คุณหมอคะ ไปทานข้าวกับวิวไหมคะ" พยาบาลสาวเปิดประตูห้องมาชวนคุณหมอหนุ่มไปทานข้าวด้วยกัน เธอมาชวนทุกวันเพื่อหวังว่าสักวันคุณหมอจะยอมไปด้วยกัน
"ได้ครับ" วิวตาโตในที่สุดเขาก็ยอมไปทานข้าวด้วยกันแล้ว โชคดีจริงๆ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินตามพยาบาลคนนั้นไปอย่างไม่ลังเล ทิ้งให้หญิงสาวหอบของกินกลับอย่างน่าสงสาร
"ใจร้าย ระวังพราวจะทนไม่ได้แล้วพราวจะหนีพี่ไปให้ไกลเลยคอยดู ฮึ"
"อ้าวน้องพราวมาทำอะไรครับ น้องพราวเป็นอะไรหรือเปล่าครับเนี่ย"
"สวัสดีค่ะพี่หมอปาล์ม มาหาคนรู้จักน่ะค่ะแต่เขาไม่อยู่"
"หว่า งั้นก็เสียเที่ยวแย่เลยสิครับ"
"ค่ะ พราวทำอาหารมาให้เขาด้วย" หญิงสาวชูกล่องอาหารน่ารักๆให้เขาเห็น
"ท่าทางจะน่าอร่อยนะครับ"
"พี่ปาล์มอยากทานไหมคะ พราวจะแบ่งให้"
"จริงเหรอครับ"
"ค่ะ ไหนๆก็มีคนทานพราวก็ดีใจแล้ว"
"ขอบคุณครับ มาทางนี้ดีกว่าครับ" คุณหมอหนุ่มชวนหญิงสาวไปนั่งทานอาหารบริเวณโถงกว้างของโรงพยาบาล ชายหนุ่มรับประทานอาหารที่เธอทำอย่างเอร็ดอร่อย แถมยังชมหญิงสาวไม่หยุด ด้านอัศวินเขาไม่ได้ออกไปทานอาหารกับพยาบาลคนนั้นจริงๆหรอก แต่เขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเธอจะเอาอาหารที่ตั้งใจทำมาให้เขาให้ผู้ชายคนอื่นทานแทน
"หมดแล้วครับ"
"อร่อยใช่ไหมคะ"
"แน่นอนสิครับ เปิดร้านอาหารได้เลยนะ" เขาเอ่ยชมเธออย่างจริงใจ
"จริงเหรอคะ" หญิงสาวยิ้มอย่างยินดีเมื่อมีคนชมว่าฝีมือการทำอาหารของเธอมันใช้ได้
"ครับ"
"พราวอยากเปิดร้านอาหารเหมือนกันค่ะ"
"เปิดเลยครับแล้วพี่จะไปเป็นลูกค้าประจำแน่นอน"
"ฮ่าๆ ขอบคุณนะคะ วันนี้พราวคงต้องขอตัวกลับก่อนแล้ว"
"ครับ แล้วเจอกันใหม่ครับ ขอบคุณสำหรับอาหารแสนอร่อยมื้อนี้อีกครั้งนะครับ"
"ค่ะ บ๊ายบายค่ะ"
ณ ผับหรู
"ไอ้วินเป็นไงบ้างว่ะ น้องเขายังตามแกอยู่ไหม"
"อืม"
"แกนี่มันโชคดีชะมัด ฉันล่ะอยากเป็นแกจริงๆ ถ้ารู้ว่าวันนั้นจะเป็นน้องพราวฉันไม่ยอมให้แกหรอกนะ ฉันจะจัดการเอง พุดไปก็ยิ่งเสียดาย"
"พูดให้มันดีๆหน่อย"
"ฮ่าๆ หวงน้องเขาอ่ะดิ หวงก็บอกหวงจะมาทำฟอร์มทำไมไม่ทราบห่ะ"
"ไม่ได้หวง"
"ไอ้คนปากแข็งระวังน้องเขาจะเบื่อแกแล้วเหอะ ตื้อยากตื้อเย็นไปตื้อคนอื่นยังง่ายกว่า" ยิ่งพอพุดถึงเรื่องการตื้อคนอื่นเขาก็ยิ่งนึกถึงเรื่องข้าวที่เอเอาไปให้ไอ้หมอนั่นทานแทน
"วันนี้กลับก่อนละกันเบื่อแล้ว"
"เอาสาวอีกสักคนไหมละ แก้เบื่อไง"
"แกคิดว่าแค่นี้ฉันยังปวดหัวไม่พอเหรอว่ะ"
"ฮ่าๆ ก็จริง ไปๆสาวๆฉันขอเอง"
"อร่อยไหมคะ"
"อร่อยมากเลยครับ" เสียงพูดคุยระหว่างชายหญิงยังติดอยู่ในหูเขาไม่หาย หญิงสาวยิ้มหน้าบานที่มีคนทานอาหารของตนอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนคนทานก็แทบจะกลืนกินคนทำเข้าไปด้วย มองด้วยสายตาแบบนั้นใครๆก็รู้ ชายหนุ่มคิดไม่ตกสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเรื่องราวของพริ้งพราววนเวียนในหัวเขาตลอดเวลา จากวันนั้นก็เป็นเวลาสองสามวันแล้วที่หญิงสาวหายเงียบไปเลย แม้กระทั่งไลน์ก็ไม่ส่งมาเหมือนเคย เขาคิดว่าเธอจะสามารถตัดใจจากเขาได้แล้วล่ะมั้ง
"คุณหมอคะ"
"มาอีกแล้วเหรอครับ"
"ปะ เปล่าค่ะ พอดีมีเคสด่วน"
"โอเคครับเดี๋ยวผมตามไป" ชายหนุ่มจัดการเคสของตัวเองเรียบร้อยก็ล้างไม้ล้างมือเตรียมกลับห้องพัก แต่ดันสะดุดกับสิ่งที่พยาบาลสองคนกำลังซุบซิบนินทา เขาจะไม่สนใจเลยถ้าหากว่าไม่มีชื่อของพริ้งพราว
"แกพูดจริงเหรอ"
"ใช่แกฉันเห็นนางไปที่แผนกสูติกับตาตัวเองเลยนะ"
"นางไปหาคนรู้จักหรือเปล่าล่ะ"
"ฉันว่าไม่นะ ไม่แน่นางอาจจะท้อง ฮึ ขนาดท้องยังจะตามตื้อคุณหมออัศวินอยู่ได้"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะแย่มากเลยนะ"
"ใช่น่ะสิ ฉันถึงได้อยากรู้หมือนกันว่าอะไรเป็นอะไร"
"ท้องเหรอ นี่แสดงว่ายัยนั่นไม่ได้กินยาป้องกันเหรอ" ชายหนุ่มคิดวนเวียนไปมาในหัวว่าความจริงคืออะไร จึงตัดสินใจต่อสายหาหญิงสาวทันที
"โอ้โห้ สงสัยวันนี้ฝนจะต้องตกหนักแน่ๆเลยค่ะพี่วินโทรหาพราวได้"
"ออกมาคุยกันหน่อย"
"พราวไม่สะดวกค่ะ พี่วินมีอะไรคุยมาเลยก็ได้นี่คะ"
"คุณท้องเหรอ"
"ทะ ท้องเหรอคะ" น้ำเสียงของหญิงสาวดูตกใจเล็กน้อย เอไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องแล้ว
"ใช่ ผมได้ยินเขาคุยกันในโรงพยาบาล"
"เรื่องของชาวบ้านนี่ชอบยุ่งกันจริงๆเลยนะคะพี่วินว่าไหม"
"บอกความจริงมาว่าคุณท้องหรือเปล่า"
"ทำไมคะถ้าท้องพี่วินจะรับผิดชอบพราวกับลูกในท้องเหรอคะ"
"ผมไม่ได้อยากมีลูกกับคุณ" คำพูดของชายหนุ่มมันบาดลึกลงจิตใจของหญิงสาวเป็นอย่างมาก ในใจเธอไม่คิดจะเอาเรื่องลูกมาผูกมัดกับเขาอยู่แล้ว แต่เขากับโหดร้ายมากกว่าที่เธอคิด ถ้าเธอบอกว่าท้องเขาอาจจะให้เธอไปทำแท้งก็ได้เธอจึงเลือกที่จะโกหกเขาแทน
"ตลกแล้วค่ะ พราวจะท้องได้ยังไงละคะ ถ้าจะโทรมาถามเรื่องนี้พราวว่าพี่อย่าโทรมาอีกดีกว่าค่ะ แค่นี้นะคะ พราวต้องวางสายแล้ว" หญิงสาวพูดเร็วๆและรีบวางสายไป เธอจะไม่บอกเรื่องลูกกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว และแน่นอนว่าช่วงเวลาที่เธอหายไปเธอมีอาการแพ้ท้องอย่างหนักจนออกไปไหนไม่สะดวกเหมือนแต่ก่อน ด้านชายหนุ่มโดนตัดสายไปอย่างงงๆแต่ก็รู้สึกโล่งใจที่หญิงสาวบอกว่าไม่ได้ท้องกับเขา
"พริ้งพราวลูก ทำไมหน้าหนูซีดอย่างนั้นละลูก" คนเป็นแม่เห็นลูกสาวหน้าซีดก้อดเป้นห่วงไม่ได้
"คุณแม่คะ ฮึกๆ พราวขอโทษค่ะ" พริ้งพราวเมื่อวางสายจากชายหนุ่มไปก็รู้สึกเครียดและเป็นกังวลไม่น้อย ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจของชายหนุ่มได้แต่เปล่าเลยเธอทำไม่ได้
"ขอโทษอะไรกันล่ะลูก" แม่ของหญิงสาวรู้สึกเป็นกังวลมากกว่าเดิมที่ลุกสาวร้องไห้เอ่ยปากขอโทษซ้ำๆ
"พราวมีเรื่องจะสารภาพค่ะ พราวกำลังท้อง พราวขอโทษที่เป็นเด็กไม่ดีค่ะ" เธอเลือกที่นะบอกความจริงกับผู้เป็นแม่
"ท้อง? ท้องกับใครลูก"
"พราวบอกคุณแม่ไม่ได้ค่ะ อีกอย่างนึงเขา..เขาบอกว่าไม่ได้อยากมีลูกกับพราว เขาไม่คิดจะรับผิดชอบพราวเลยยังไม่ได้บอกว่าพราวท้องกับเขา ฮือๆ"
"โถว่ลูกแม่ ใครมันกล้าทำร้ายดวงใจของแม่กันนะ แต่ชั่งไอ้ผู้ชายคนนั้นเถอะลูก ลูกอย่าไปสนใจผู้ชายคนนั้นอีกเลยนะลูกนะ หลานคนเดียวแม่เลี้ยงได้อยู่แล้ว แม่รักพราวนะลูก"
"ฮืออ ฮึกๆ คุณแม่ไม่โกรธพราวเหรอคะ" คนเป็นแม่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ
"แม่ต้องให้กำลังใจพราวสิถึงจะถูก สุดท้ายพอแก่ตัวไปแม่ก็ต้องการหลานสักคนจากลูกอยู่ดี ถูกต้องไหมจ้ะ"
"ค่ะ พราวรักคุณแม่ที่สุดในโลกเลย"
"แม่ก็รักลูกที่สุดเหมือนกัน" สองแม่ลูกกอดกันกลม วินาทีนี้คุณหญิงแพรพรรณต้องให้กำลังใจลูกสาวคนเดียวอย่างพริ้งพราวให้มากเท่าที่จะมากได้ หลังจากวันนั้นหญิงสาวก็หายเงียบไปเลย ไม่ติดต่อกับเขาไม่ว่าจะช่องทางไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังได้ยินเรื่องราวของเธออีกครั้งนึงก็ตรงที่ว่าเธอมาแผนกสูติอีกครั้งพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขาปักใจเชื่อสิ่งที่เธอบอกว่าเธอไม่ได้ท้อง
"เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง"
"จริงเหรอ ฉันนี่ไม่ทันได้เจออยู่เรื่อย"
"ไม่แปลกหรอกนะก็แผนกเธออยู่ตั้งไกล" พยาบาลซุบซิบพูดคุยเรื่องเธออย่างสนุกปาก วันนี้แพรพรรณพาลูกสาวมาโรงพยาบาลตามนัดพร้อมทั้งขอทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลโดยให้เหตุผลว่าโรงพยาบาลอีกแห่งใกล้ที่พักเดินทางสะดวกมากกว่าที่นี่ ซึ่งคุณหมอก็เห็นด้วยจึงให้เปลี่ยนโรงพยาบาลได้
"ต่อไปนี้แม่จะมากับพราวทุกครั้งเลยนะลูก"
"ถ้าวันไหนคุณแม่ไม่ว่างพราวมาคนเดียวก็ได้นะคะ พราวเกรงใจค่ะ"
"เกรงใจอะไรล่ะลูกพูดเหมือนเป็นคนอื่นไปได้เรานิ แต่อย่างน้อยๆก็ให้ป้าใจแกมาเป็นเพื่อนหนูเถอะลูก"
"อย่างนั้นก็ได้ค่ะคุณแม่"
"วันนี้กลับบ้านไปก็พักผ่อนให้เต็มที่นะลูก"
"ค่ะคุณแม่" เธอสวมกอดคนเป็นแม่เบาๆอย่างต้องการ่ายทอดความรักที่มีให้ท่านรับรู้
ณ ผับหรู
"เป็นไงไอ้หมอ ทำหน้าเหมือนหมดอะไรตายอยาก หรือเป็นเพราะน้องพราวเขาไม่สนใจแกแล้ว"
"ไม่เกี่ยวซะหน่อย แกก็รู้ว่าชีวิตฉันมีแต่งานแค่งานก้ไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว"
"เออๆ ว่าแต่เดี๋ยวไอ้แม็กซ์มันจะแต่งงานแล้วนะ"
"ห่ะ มันไปมีแฟนตอนไหน"
"ไม่รู้มันเหมือนกัน รู้อีกทีก็ประกาศจะแต่งงานแล้ว"
"ถูกบังคับแน่ๆ แต่งเมื่อไร"
"แหม่ ในหัวของคุณหมอนี่คิดแง่ดีไม่ได้เลยนะครับ น่าจะแต่งต้นปีหน้ามั้ง ก็อีกห้าหกเดือน"
"ก็หรือไม่จริง"
"ไม่รู้เว้ยย ดื่มๆไป เมาแล้วก็กลับไปนอนซะ"
"อืม"
ปีใหม่แล้วหญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นอีกขั้น อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะได้พบหน้าลูกน้อยที่เธอเฝ้าทะนุถนอมมาโดยตลอด เธอมีข่าวดีมากๆอยากจะบอกเพื่อนสนิทอย่างแขไข แขไขทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลเดียวกับอัศวิน ซึ่งเธอก็แอบเล่าข่าวคราวของชายหนุ่มให้เพื่อนสาวฟัง เมื่อได้รู้ว่าเขายังไม่เปิดใจให้ใครเธอก็ใจชื่นขึ้นมาหน่อย
"แข ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหวไปเช็คเพศเจ้าแฝดของฉันมาแล้ว"
"จริงเหรอเป็นไงบ้าง ฉันได้หลานสาวหรือหลานชาย หรือว่าสาวทั้งคู่"
"ฮ่าๆ ได้สมใจฉันเลย ได้ผู้หญิงหนึ่งคนผู้ชายหนึ่งคน"
"โอ้โห้แกนี่มันโชคดีสุดๆไปเลยท้องครั้งเดียวได้ตั้งสองคนแหนะเก่งจริงๆ"
"ฮ่าๆ ฉันคงทำบุญมาดีมั้ง"
"ก็คงงั้น เดือนหน้ายัยกิ่งก็จะแต่งงานแล้วแกก็ไปงานมันไม่ไหวแล้วน่ะสิ"
"คงจะอย่างนั้นอ่ะ ฉันเสียดายมากเลย ใจจริงอยากจะไปยินดีกับมันด้วยตัวเอง"
"โห้ย แกห่วงหลานๆก่อนเถอะเกิดไปคลอดในงานจะหาหมอมาช่วยไม่ทัน"
"ฮ่าๆ ก็ได้ๆฉันรออยู่บ้านดีที่สุด"
"จ้ะ เดี๋ยวฉันจะไปแสดงความยินดีแทนแกเอง" พริ้งพราวอายุครรภ์แปดเดือนแล้วทำให้เธอไปไหนมาไหนไม่สะดวกเหมือนเก่า แม้กระทั่งจะไปร่วมงานแต่งของเพื่อนยังดูจะลำบากซะมากกว่า
"นั่งซึมอะไรล่ะลูก หืม หลานของแม่ดิ้นดีไหม"
"ดิ้นเกินไปตั้งหากค่ะคุณแม่ พราวแค่รู้สึกเสียดายน่ะค่ะที่ไม่ได้ไปร่วมงานของยัยกิ่งน่ะค่ะ"
"ฝากความยินดีฝากหนูแขไปก็พอลูก หนูกิ่งเขาเข้าใจลูกอยู่แล้ว ลูกท้องแก่ขนาดนี้ไปไหนไม่สะดวกจริงๆลูกก็รู้ดีนี่"
"ค่ะ"
"ยินดีด้วยนะครับคุณกิ่ง"
"ขอบคุณนะคะพี่..."
"พี่ชื่ออัศวินครับ เรียกวินเฉยๆก็ได้ เป็นเพื่อนไอ้แม็กซ์ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วครับ"
"ค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่วิน เชิญตามสบายเลยนะคะ"
"นี่ๆยัยกิ่ง"
"ว่าไงแก มีเรื่องอะไร"
"แกรู้ไหมว่าเมื่อกี้แกคุยกับใคร"
"ใครเหรอ อ่อพี่ผู้ชายหล่อคนเมื่อกี้หรือเปล่าเขาชื่อพี่วินเป็นเพื่อนคุณสามีฉันเอง คิกๆ"
"แหม่ๆคุณสามี ฉันรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนพี่แม็กซ์แต่ที่แกไม่รู้คือเขาเป็นพ่อของเจ้าแฝดลูกยัยพราวไง"
"ห่ะ แกพูดจริงป่ะเนี่ย โลกกลมชะมัดเลย"
"จริงน่ะสิ"
"แล้วทำไมยัยพราวไม่บอกเขาไปล่ะ"
"เขาบอกว่าไม่อยากมีลูกกับยัยพราว เขาพูดขนาดนั้นฉันล่ะสงสารยัยพราว"
"อืมจริง ผู้ชายอะไรใจร้ายจัง ฉันจะแก้เผ็ดให้ยัยพราวเอง ไม่ต้องห่วง"
"แกจะทำอะไร"
"ไม่ร้ายแรงหรอกหน่า เชื่อฉันสิ"
"อาหารถูกปากไหมคะพี่ๆ" เจ้าสาวเอ่ยถามเสียงหวาน
"อร่อยทุกอย่างเลยครับ"
"ได้ยินมาว่าพี่วินชอบทานปลาราดพริก กิ่งสั่งให้เขาทำเป็นพิเศษเลยนะคะ ลองชิมดูสิคะ"
"น้องกิ่งนี่น่ารักจังเลยนะครับ หาของโปรดมาให้พวกเราทานครบทุกคนเลย"
"นี่เมียฉันให้มันน้อยๆหน่อย" เจ้าบ่าวรีบปามเพื่อนๆ
"ก็พวกพี่เป็นเพื่อนกับสามีกิ่งนี่คะ กิ่งก็ต้องดูแลพี่ๆอย่างดี จริงไหมคะพี่แม็กซ์"
"ครับ ขอบคุณครับ" แม็กซ์ยิ้มให้ภรรยาอย่างหวานซึ้ง
"ขอบคุณนะครับ" อัศวินตักปลาเข้าปาก แต่เขาก็แทบคายเพราะมันมีรสชาติเผ็ดมาก แต่ก็ไม่กล้าคายเพราะจะเสียน้ำใจของภรรยาเพื่อน เขาจึงต้องจำใจกลืนมันลงไป พร้อมกับสำลักหน้าดำหน้าแดง หญิงสาวแอบขำอยู่ในใจ
"ไหวไหมว่ะ" เพื่อนของเขาถามอย่างเป็นห่วง
"ไหวๆ ขอบใจมาก" ชายหนุ่มเมื่อพักสักครู่ก็รู้สึกดีขึ้น
"แกนี่มันร้ายจริงๆเลยยัยกิ่ง"
"แน่นอนสิเขามาทำให้ยัยพราวเสียใจได้ยังไงกัน" หญิงสาวเล่าเรื่องวันนี้ให้พริ้งพราวฟัง เธอยังหัวเราะตามเพื่อนเลย คงจะหน้าดำหน้าแดงเลยสินะคะพี่วิน
พริ้งพราวนอนหลับกลางวันอยู่ในห้องนอนส่วนตัว วันนี้คุณแม่ของเธอออกไปทำธุระด้านนอก ตอนนี้เลยเหลือเพียงแค่แม่นมของเธอและคนขับรถ หญิงสาวรู้สึกหิวนิดๆจึงพยายามลุกขึ้นไปหาอะไรมาทานเล่น แต่เมื่อเธอยื่นได้อย่างมั่นคงเธอก็รู้สึกปวดท้องเป็นอย่างมาก เธอปวดจนแทบจะร้องไม่ออก แต่เธอก็ต้องพยายามเรียกแม่นมของเธอให้ช่วยเหลือ
"อะ โอ๊ย ป้าใจคะ ป้าใจ"
"ว่าไงคะคุณหนู"
"พราวปวดท้องมากๆเลยค่ะ"
"ปวดจะคลอดใช่ไหมคะ"
"ค่ะ" ป้าใจรีบจัดแจงทุกอย่างให้หญิงสาวทันทีเมื่อทราบว่าใกล้คลอดเต็มที เมื่อมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็ดูแลแม่และลูกอย่างดีเยี่ยม พราวใช้เวลาหลายชั่วโมงถึงจะทำการผ่าคลอดลูกแฝดทั้งสองคนอย่างปลอดภัย
"ลูก" หญิงสาวเริ่มรู้สึกตัวหลังจากที่นอนพักไปเป็นเวลาสองชั่วโมง
"ดื่มน้ำก่อนลูก"
"แม่คะ ลูกหนูละคะ"
"นู้นไงจ้ะ ยังหลับกันอยู่เลย อุ้ยๆสงสัยจะรู้ว่าคุณแม่ตื่นแล้ว แม่ไปตามพยาบาลก่อนนะลูก"
"ค่ะ" คุณพยาบาลเข้ามาสอนหญิงสาวในเรื่องของการดูแลเด็กแรกเกิด รวมถึงเรื่องการให้น้ำนมจากอกด้วย เธอให้ลูกสาวที่ตัวเล็กกว่าได้ดื่มนมก่อน ซึ่งสาวน้อยก็ไม่ได้ออมแรงเลยสักนิดพอเข้าเต้าปุ๊บก็ดูดดึงจนหญิงสาวเจ็บจี๊ด
"อดทนหน่อยนะคะคุณแม่ ช่วงแรกน้องอาจจะยังไม่ชินเดี๋ยวอีกหน่อยก็จะเบากว่านี้ค่ะ"
"ขอบคุณค่ะคุณพยาบาล"
"ให้น้องผู้ชายต่อเลยนะคะ"
"ค่ะ" ไม่น่าเชื่อว่าลูกสาวลูกชายต่างกันริบลับ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะลูกชายของเธอดื่มนมอย่างเรียบร้อยค่อยเป็นค่อยไป ดูก็รู้ว่าเป็นคนใจเย็น อย่าบอกนะว่าจะเหมือนคนเป็นพ่อตั้งแต่แรกเกิดกันเลยทีเดียว
"คนนี้เรียบร้อยจังเลยนะคะ" คุณพยาบาลเอ่ยชม เพราะหนุ่มน้อยดูใจเย็นในอนาคตคงจะไม่ดื้อไม่ซน
"ค่ะ" เธอได้แต่ยิ้มบางๆตอบกลับไป เวลาต่อจากนี้เธอนะขอโฟกัสที่ลูกทั้งสองคน เธออยากให้เด็กๆเติบโตมาสมบูรณ์มีพ่อแม่พร้อมหน้าแต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ในเมื่อเขาบอกออกมาตรงๆแบบนั้นกับเธอแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเขาเข้ามาในชีวิตของเธอกับลูกอีก ลูกรักทั้งสองคนเธอเชื่อมั่นในตัวเองว่าเธอสามารถรู้แลเด็กๆได้ดีอย่างที่ใจคิดแน่นอน
2 ปีผ่านไป
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อเพราะทุกวันของเธอนั้นมีแต่ความสุขแม้จะต้องเหนื่อยล้ากายแต่สุขใจมากๆ เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจที่มีให้กับลูกน้อยทั้งสองคนแม่จะมีคนเป็นแม่และพี่ชายช่วยเลี้ยงแต่คนที่เป็นหลักก้ต้องเป็นเะอเพราะเะอคือแม่ผู้ให้กำเนิดลูกน้อย ตอนนี้ลูกสาวลูกชายของเธออายุสองขวบกว่าแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นวัยที่กำลังซุกซนและน่ารักที่สุด ลูกสาวของเธอชื่อน้องพั้นธ์ ส่วนลูกชายชื่อว่าน้องพีท คุณยายและคุณลุงหลงรักหลานๆตั้งแต่แรกเห็น คุณยายรักหลานทั้งสองมากๆแถมยังเลี้ยงดูพวกแกไม่ขาดตกบกพร่องสักนิด ทั้งคู่มีผิวขาวเนียนดูก็รู้ว่าลูกคุณหนูขนาดไหน หน้าตาเหมือนคนเป็นพ่อมากๆทำให้เวลาเธอมองเด็กๆก็มักจะทำให้นึกถึงคนเป็นพ่อของพวกแกด้วย
"รักคุงแม่รักคุงยาย รักๆมาก"
“หลานยายน่ารักที่สุดเลย”
“น่ายักเหมือนคุงยายค่า”
“ฮ่าๆชั่งเอาใจคนแกจริงๆนะลูก” คุณยายก้มลงไปหอมแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยว
“คิกๆ” สาวน้อยหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข สาวน้อยมักจะออดอ้อนคุณยายของเธอเสมอซึ่งแน่นอนว่าความอ่อนโยนที่มีนั้นมากกว่าคนเป็นพี่อย่างน้องพีทแน่นอน