‘ต่อให้มึงสลัดคราบทอม แล้วแต่งหญิงให้สวยกว่านี้ร้อยเท่า กูก็ไม่เหลือบตาแล เกลียดก็คือเกลียด…ชัดนะ!’
ปรเมศ จิรกุล หมอหนุ่มเนื้อหอม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เขาขึ้นชื่อเรื่องความฮอตฉ่า เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยน เทคแคร์ดีเยี่ยม และให้เกียรติผู้หญิงทุกคน ยกเว้นกับธารธารา อัศวนนท์
ปรเมศตั้งแง่รังเกียจธารธาราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า เพียงเพราะเธอแต่งตัวเหมือนผู้ชาย เขาเลยประณามว่าเธอเป็นพวกผิดเพศน่ารังเกียจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าหมอสาวมาดทอมหัวใจหญิงนั้นจะเฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เพราะเจียมตัวดีว่าอีกฝ่ายแสนจะรังเกียจ และดูเหมือนคำกล่าวที่ว่าเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นจะใช้ไม่ได้ผลสำหรับคนทั้งคู่
กระทั่งดวลเหล้ากันจนเมาแบบขาดสติสุดกู่ เขาจึงเผลอปล้ำแม่สาวทอมที่เขาประกาศว่าเกลียดเข้าไส้ หนำซ้ำยังโยนความผิดว่า ‘ความสัมพันธ์บัดซบ’ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยัยทอมตัวแสบยั่วเขา เมากับเมาเอากันแล้วไง น้ำแตกก็แยกทาง ทว่าพออีกฝ่ายหลบหน้าเขากลับร้อนรนกระวนกระวาย ครั้นทนไม่ไหวหมอหนุ่มจอมยโสก็ต้องคอยราวี และตามหึงหวงเมื่อมีใครคิดจะจีบ ‘เมียทอม’ ของเขา แต่กว่าจะรู้ตัวว่าขาดเธอไม่ได้ เธอก็หายไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว
“หนูดีไม่ใช่เมียกู มึงต่างหากที่เป็นเมียกู” คำพูดโต้งๆ ทำให้คนฟังทำหน้าไม่ถูก พวงแก้มใสแดงระเรื่อ
“กูไม่ใช่เมียมึง” เธอค้านอย่างไม่เต็มเสียงนัก
“แล้ว ‘คืนนั้น’ ไอ้หน้าไหนวะ ที่มันนอนแบให้กูเอาอย่างเมามัน อ้อ…แต่ก็อย่าเข้าใจผิดล่ะว่ากูพิศวาสมึง แบนราบแบบนี้ถ้าไม่เมาจนหน้ามืดเหมือนคืนนั้นกูคงเอาไม่ลง ชิบหาย! เอากับมึงเหมือนเอากับผู้ชายเลยว่ะ” วาจาดูแคลนพร้อมการแค่นยิ้มแบบเยาะๆ ทำให้คนฟังเจ็บลึกในอก หัวตาร้อนผ่าว ทว่ากลับต้องกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้
“มึงไม่ต้องห่วงหรอก กูรู้แก่ใจดีว่ามึงเกลียดกูมากแค่ไหน”
“รู้อย่างนั้นก็ดี แล้วก็อย่าไปบอกใครล่ะว่ากูเผลอจับมึงทำเมีย ขึ้นขี่ทอม…รู้ไปถึงไหนแม่งอายไปถึงนั่น”